ก่อนอื่นต้องขอบอกจุดประสงค์ที่ไปก่อนนะคะ จริงๆแล้วเราจะไปดูคอนเสิร์ต Taylor Swift ที่ญี่ปุ่นค่ะ เลยถือโอกาสได้ไปเที่ยวครั้งแรกเลย
และการทำกระทู้นี้เพื่อเก็บความประทับใจต่างๆและอาจเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังคิดที่จะไปญี่ปุ่นค่ะ
(หากใครอยากติดต่อซื้อบัตรต่างๆที่ญี่ปุ่น สามารถติดต่อได้ที่นี่เลยค่ะ order@fdjp.com)
ความจริงเรามีพี่ๆที่ไปด้วยค่ะ แต่พี่ๆเค้าบินล่วงหน้าไปก่อน และไปเที่ยวแถวชานๆเมือง เราไม่เคยเที่ยวที่ญี่ปุ่นเลย ก็เลยอยากเที่ยวในตัวเมืองก่อน เลยถือโอกาสได้ไปเที่ยวคนเดียวชิวๆเลยค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณอู๊ดและเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็แฟนคลับ Taylor เหมือนกันที่คอยช่วยเหลือในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ
*** แนะนำการเตรียมตัวไปญี่ปุ่น***
1. แนะนำคนที่จะไปเที่ยวที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ควรเตรียม Plan แบบคร่าวๆหรือศึกษาข้อมูลก่อนไปดีๆค่ะ ปริ้นสายรถไฟของเค้าเป็นภาษาอังกฤษติดกระเป๋าไว้จะดีมาก สอบถามคนที่คุ้นเคยกับการไปญี่ปุ่นบ้างก็ดีค่ะ และนี่คือ Plan เราแบบคร่าวๆค่ะ (คร่าวๆจริงๆ 555)**
4. การจองตั๋ว เราไปช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2558 ค่ะ ไปสายการบิน Delta ซึ่งถ้าจองดีๆเราว่าถูกกว่าการบินไทยด้วยนะ (แถมบริการดีกว่าด้วย) ซึ่งถ้าจองล่วงหน้านานๆอาจได้ราคา 18000+ เหมือนพี่ของเราค่ะ แต่เราจองล่วงหน้าไม่ถึง 2 อาทิตย์ เลยได้ตั๋วในราคาประมาณ 23000+ ค่ะ (ขออภัย เราอาจบอกราคาโดยประมาณค่ะ เพราะเราจำไม่ได้จริงๆ แง่วว) ซึ่งไฟล์ทเช้ามากกก 7 โมงตรง แล้วต้องไปสนามบินก่อน 2-3 ชม. ก็เลยไม่ได้นอนทั้งคืน แล้วไปถึงสนามบินตั้งแต่ตี 4 ค่ะ (ได้งีบหลับก่อนขึ้นเครื่องแปปนึง)
3. ลองหาข้อมูลดูว่ามีอะไรน่าซื้อที่ญี่ปุ่นบ้าง เพราะของดีๆ ถูกๆ น่ากลับซื้อมาไว้ใช้ค่ะ และขอเตือนเพื่อนๆที่จะไปญี่ปุ่น ให้นำของไปให้น้อยที่สุด และเตรียมพื้นที่ขนของกลับเยอะๆ ขนาดเราตั้งใจจะไม่ชอปอะไรมาก ยังต้องซื้อกระเป๋าเพิ่มเลยค่ะ 555
4. เนตมือถือ เราเช่า Wifi Pocket ไปเพื่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตค่ะ โดยสามารถเช่าได้ทางเวบนี้ >>
http://japan-wireless.com/
เราเช่าไป 6 วันราคาประมาณพันนิดๆค่ะ ซึ่งการเช่าก็สะดวกมากๆ เข้าไปในเวบเพื่อเลือกแบบและระยะเวลาที่เราต้องการใช้ จ่ายตังค์ทางเครดิตการ์ด บินไปญี่ปุ่น รับเครื่องที่สนามบินหรือโรงแรมที่เรากรอกรายะเอียดไว้ พอจะกลับก็แค่ใส่ของทั้งหมดกลับคืนในกล่องแล้วหย่อนที่ตู้ไปรษณีย์ไหนก็ได้ค่ะ (ซึ่งเราก็หย่อนคืนที่ตู้ในสนามบินนั่นแล่ะ) แล้วใช้งานได้เลยค่ะ ดีมากกว่าการใช้ซิม เพราะเนตแรงมาก ขนาดดูคอนเสิร์ตคนกว่า 50,000 คน ยังเล่นเนตได้สบายๆค่ะ อีกอย่างจะทำให้ประหยัดแบตมือถือเราทางอ้อมเพราะได้เปิดโหมดเครื่องบินและไม่ต้องเปิดใช้ 3g ค่ะ (แต่ต้องพกแบตสำรองเผื่อทั้งโทรศัพท์ทั้ง Pocket wifi ด้วยนะคะ)
5. ศึกษาอากาศช่วงที่เราจะไปดีๆค่ะ ว่าช่วงไหนอากาศเป็นไง ควรแต่งตัวแบบไหน เราไปช่วงต้น พค. อากาศกำลังดีเลย เย็นสบายๆ แต่กลางคืนจะแอบหนาวนะ ควรพกเสื้อแขนยาวติดตัวไว้
6. จองโรงแรมที่พัก และหาข้อมูลการเดินทางไปโรงแรมดีๆค่ะ และค่ารถไฟแพงกว่าโรงแรมแน่นอน ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะนิยมซื้อ JR Pass นะ JR Pass คือตั๋วที่สามารถนั่งรถไฟสาย JR Pass ต่างๆได้ฟรีแบบไม่จำกัดรอบ ยิ่งถ้านั่งชิงกันเซนยิ่งคุ้มค่ะ แต่เราเช็คราคา 7 วัน เกือน 8 พันแน่ะ เราเลยคิดว่าไม่น่าคุ้ม เพราะที่ที่เราจะไปมีสายอื่นด้วย เลยไม่ได้ซื้อไปค่ะ
7. คนญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยและใจดีมากค่ะ เค้าจะเป็นระเบียบมาก ต่อแถว ไม่เสียงดีงแอะอะโวยวาย ส่วนมากเค้าไม่พูดอังกฤษค่ะ แต่เค้าจะพยายามช่วยเหลือเราอย่างถึงที่สุด ถ้าเค้าเห็นเราเหมือนจะหลงๆ เค้าจะมาให้ความช่วยเหลือโดยไม่ต้องขอเลยค่ะ
*** เริ่มการเดินทางกันเลยค่ะ ***
ต้องบอกก่อนว่าการมาญี่ปุ่นครั้งนี้ เราจะเน้นที่จะไปชิมอาหารต่างๆและสถานที่ธรรมชาติสวยๆเพื่อเก็บภาพค่ะ
เริ่มจากการขึ้นเครื่องค่ะ ไฟล์ท Delta นี้เป็นไฟล์ทบินไปอเมริกาค่ะ แต่แวะจอดญี่ปุ่น เลยค่อนข้างจะเข้มงวดในการตรวจสัมภาระนิดนึง แอร์ค่อนข้างมีอายุ ส่วนมากเป็นคนไทย แต่บริการระดับ Professional มากค่ะ รู้สึกได้เลย
เดินทาง 6 ชั่วโมง เสิร์ฟอาหารเช้า 1 มื้อ และแซนวิชตอนช่วงกลางวันอีก 1 มื้อค่ะ และที่ทำเราค่อนข้างเซอร์ไพร์สคือ เค้าเสิร์ฟ Starbuck และ Evian ด้วย ซึ่งเราไม่เคยเห็นสายการบินไหนลงทุนขนาดนี้นะ (หรือเป็นเรื่องปกติเราก็ไม่รู้นะ 555)
ถึงสนามนาริตะประมาณ 3 โมงนิดๆค่ะ เราไปเอา Pocket Wifi ที่ไปรษณีย์ในสนามบินก่อนเลย เพราะถ้าไม่มีเน็ต เราไปไหนไม่ได้จริงๆ 555
จากนั้นซื้อตั๋วรถลีมูซีนเพื่อไปสนามินฮานาเดะเพื่อนั่งรถไฟต่อไปโรงแรมค่ะ ซึ่งรถลีมูซีนคือรถบัสนี่แล่ะค่ะ แต่เป็นรถบัสที่ดีและสะอาด สะดวกสบายมาก ซึ่งใครที่เอากระเป๋าใบใหญ่ไปแนะนำให้นั่งรถลีมูซีนไปโรงแรมดีกว่าค่ะ ราคาพอกะรถไฟฟ้า แต่สะดวกกว่ามาก ราคาประมาณ 800 กว่าบาท ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆไปถึงสนามบินฮานาเดะ
พอถึงสนามบินฮานาเดะเราก็นั่งรถไฟต่อไปที่โรงแรม แล้วเปิด Google Map เพื่อเดินต่อไปโรงแรมค่ะ ซึ่งโรงแรมที่เราไปพักครั้งนี้คือ Toyoko Inn Kawasaki Ekimae Isago ค่ะ เป็นโรงแรมในเครือ Tokyoinn ที่เป็นที่นิยมมาก ราคาไม่แพง สะดวก สะอาดค่ะ ซึ่งสามารถหาโรงแรมของ Tokyoinn ในสถานที่ต่างๆได้ที่นี่เลย
http://www.toyoko-inn.com/eng/index.html
ใน Lobby ค่ะ
อ่อๆ เค้ามีชุดนอนให้นะ สามารถหยิบได้ที่ Lobby ค่ะ ไม่ต้องเตรียมไป จะได้ไม่เปลืองที่กระเป๋า (แต่เราก็ใช้ชุดเราอยู่ดี เพราะเราไม่รู้ 555)
ในห้องถือว่าโอเลยค่ะ ราคาคืนละประมาณ 1500 บาท แต่สะอาดและดีมาก แต่ก็เล็กมากด้วยเช่นกัน 555
มีสบู่และแชมพูพร้อม ไม่ต้องเตรียมไปนะคะ
พอถึงห้องพักเราก็พักแปปนึง จัดข้าวของแล้วออกไปเดินเล่น หาอะไรทานด้านนอกค่ะ
เมืองคาวาซากิ คนเดินพลุกพล่าน ครึกครื้นดีค่ะ อากาศกำลังดีค่ะ สบายๆ
จากนั้นก็หาอะไรทาน มีคนบอกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อยทุกร้าน เราก็เลยเดินสุ่มๆเข้าไปแถวนั้นๆ
มื้อแรกที่ญี่ปุ่น
จากนั้นก็เดินเล่นแถวนั้นๆ ของน่าซื้อเต็มไปหมดเลย โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ 555 ซึ่งร้านขายเครื่องสำอางค์ หรือที่เราเรียกว่า Drugstore มีอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ยังกะ 7-11 บ้านเรา อาจจะมีถี่กว่าด้วยนะ อิอิ
อันนี้ดีใจที่ซื้อมาค่ะ จะเป็นเหมือนทิชชู่แอลกอฮอลทั่วไป แต่รู้สึกสดชื่นมาก ตอนร้อนๆที่บ้านเราแล้วใช้นี่สดชื่นมากค่ะ แต่กลิ่นแอลกอฮอลแรงนิดนึงนะ
ของยอดฮิต
จากนั้นก็กลับห้องพักผ่อนเตรียมเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ......
[CR] แบกกระเป๋าเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกและคนเดียวค่ะ
และการทำกระทู้นี้เพื่อเก็บความประทับใจต่างๆและอาจเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังคิดที่จะไปญี่ปุ่นค่ะ
(หากใครอยากติดต่อซื้อบัตรต่างๆที่ญี่ปุ่น สามารถติดต่อได้ที่นี่เลยค่ะ order@fdjp.com)
ความจริงเรามีพี่ๆที่ไปด้วยค่ะ แต่พี่ๆเค้าบินล่วงหน้าไปก่อน และไปเที่ยวแถวชานๆเมือง เราไม่เคยเที่ยวที่ญี่ปุ่นเลย ก็เลยอยากเที่ยวในตัวเมืองก่อน เลยถือโอกาสได้ไปเที่ยวคนเดียวชิวๆเลยค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณอู๊ดและเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็แฟนคลับ Taylor เหมือนกันที่คอยช่วยเหลือในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ
*** แนะนำการเตรียมตัวไปญี่ปุ่น***
1. แนะนำคนที่จะไปเที่ยวที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ควรเตรียม Plan แบบคร่าวๆหรือศึกษาข้อมูลก่อนไปดีๆค่ะ ปริ้นสายรถไฟของเค้าเป็นภาษาอังกฤษติดกระเป๋าไว้จะดีมาก สอบถามคนที่คุ้นเคยกับการไปญี่ปุ่นบ้างก็ดีค่ะ และนี่คือ Plan เราแบบคร่าวๆค่ะ (คร่าวๆจริงๆ 555)**
4. การจองตั๋ว เราไปช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2558 ค่ะ ไปสายการบิน Delta ซึ่งถ้าจองดีๆเราว่าถูกกว่าการบินไทยด้วยนะ (แถมบริการดีกว่าด้วย) ซึ่งถ้าจองล่วงหน้านานๆอาจได้ราคา 18000+ เหมือนพี่ของเราค่ะ แต่เราจองล่วงหน้าไม่ถึง 2 อาทิตย์ เลยได้ตั๋วในราคาประมาณ 23000+ ค่ะ (ขออภัย เราอาจบอกราคาโดยประมาณค่ะ เพราะเราจำไม่ได้จริงๆ แง่วว) ซึ่งไฟล์ทเช้ามากกก 7 โมงตรง แล้วต้องไปสนามบินก่อน 2-3 ชม. ก็เลยไม่ได้นอนทั้งคืน แล้วไปถึงสนามบินตั้งแต่ตี 4 ค่ะ (ได้งีบหลับก่อนขึ้นเครื่องแปปนึง)
3. ลองหาข้อมูลดูว่ามีอะไรน่าซื้อที่ญี่ปุ่นบ้าง เพราะของดีๆ ถูกๆ น่ากลับซื้อมาไว้ใช้ค่ะ และขอเตือนเพื่อนๆที่จะไปญี่ปุ่น ให้นำของไปให้น้อยที่สุด และเตรียมพื้นที่ขนของกลับเยอะๆ ขนาดเราตั้งใจจะไม่ชอปอะไรมาก ยังต้องซื้อกระเป๋าเพิ่มเลยค่ะ 555
4. เนตมือถือ เราเช่า Wifi Pocket ไปเพื่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตค่ะ โดยสามารถเช่าได้ทางเวบนี้ >> http://japan-wireless.com/
เราเช่าไป 6 วันราคาประมาณพันนิดๆค่ะ ซึ่งการเช่าก็สะดวกมากๆ เข้าไปในเวบเพื่อเลือกแบบและระยะเวลาที่เราต้องการใช้ จ่ายตังค์ทางเครดิตการ์ด บินไปญี่ปุ่น รับเครื่องที่สนามบินหรือโรงแรมที่เรากรอกรายะเอียดไว้ พอจะกลับก็แค่ใส่ของทั้งหมดกลับคืนในกล่องแล้วหย่อนที่ตู้ไปรษณีย์ไหนก็ได้ค่ะ (ซึ่งเราก็หย่อนคืนที่ตู้ในสนามบินนั่นแล่ะ) แล้วใช้งานได้เลยค่ะ ดีมากกว่าการใช้ซิม เพราะเนตแรงมาก ขนาดดูคอนเสิร์ตคนกว่า 50,000 คน ยังเล่นเนตได้สบายๆค่ะ อีกอย่างจะทำให้ประหยัดแบตมือถือเราทางอ้อมเพราะได้เปิดโหมดเครื่องบินและไม่ต้องเปิดใช้ 3g ค่ะ (แต่ต้องพกแบตสำรองเผื่อทั้งโทรศัพท์ทั้ง Pocket wifi ด้วยนะคะ)
5. ศึกษาอากาศช่วงที่เราจะไปดีๆค่ะ ว่าช่วงไหนอากาศเป็นไง ควรแต่งตัวแบบไหน เราไปช่วงต้น พค. อากาศกำลังดีเลย เย็นสบายๆ แต่กลางคืนจะแอบหนาวนะ ควรพกเสื้อแขนยาวติดตัวไว้
6. จองโรงแรมที่พัก และหาข้อมูลการเดินทางไปโรงแรมดีๆค่ะ และค่ารถไฟแพงกว่าโรงแรมแน่นอน ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะนิยมซื้อ JR Pass นะ JR Pass คือตั๋วที่สามารถนั่งรถไฟสาย JR Pass ต่างๆได้ฟรีแบบไม่จำกัดรอบ ยิ่งถ้านั่งชิงกันเซนยิ่งคุ้มค่ะ แต่เราเช็คราคา 7 วัน เกือน 8 พันแน่ะ เราเลยคิดว่าไม่น่าคุ้ม เพราะที่ที่เราจะไปมีสายอื่นด้วย เลยไม่ได้ซื้อไปค่ะ
7. คนญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยและใจดีมากค่ะ เค้าจะเป็นระเบียบมาก ต่อแถว ไม่เสียงดีงแอะอะโวยวาย ส่วนมากเค้าไม่พูดอังกฤษค่ะ แต่เค้าจะพยายามช่วยเหลือเราอย่างถึงที่สุด ถ้าเค้าเห็นเราเหมือนจะหลงๆ เค้าจะมาให้ความช่วยเหลือโดยไม่ต้องขอเลยค่ะ
*** เริ่มการเดินทางกันเลยค่ะ ***
ต้องบอกก่อนว่าการมาญี่ปุ่นครั้งนี้ เราจะเน้นที่จะไปชิมอาหารต่างๆและสถานที่ธรรมชาติสวยๆเพื่อเก็บภาพค่ะ
เริ่มจากการขึ้นเครื่องค่ะ ไฟล์ท Delta นี้เป็นไฟล์ทบินไปอเมริกาค่ะ แต่แวะจอดญี่ปุ่น เลยค่อนข้างจะเข้มงวดในการตรวจสัมภาระนิดนึง แอร์ค่อนข้างมีอายุ ส่วนมากเป็นคนไทย แต่บริการระดับ Professional มากค่ะ รู้สึกได้เลย
เดินทาง 6 ชั่วโมง เสิร์ฟอาหารเช้า 1 มื้อ และแซนวิชตอนช่วงกลางวันอีก 1 มื้อค่ะ และที่ทำเราค่อนข้างเซอร์ไพร์สคือ เค้าเสิร์ฟ Starbuck และ Evian ด้วย ซึ่งเราไม่เคยเห็นสายการบินไหนลงทุนขนาดนี้นะ (หรือเป็นเรื่องปกติเราก็ไม่รู้นะ 555)
ถึงสนามนาริตะประมาณ 3 โมงนิดๆค่ะ เราไปเอา Pocket Wifi ที่ไปรษณีย์ในสนามบินก่อนเลย เพราะถ้าไม่มีเน็ต เราไปไหนไม่ได้จริงๆ 555
จากนั้นซื้อตั๋วรถลีมูซีนเพื่อไปสนามินฮานาเดะเพื่อนั่งรถไฟต่อไปโรงแรมค่ะ ซึ่งรถลีมูซีนคือรถบัสนี่แล่ะค่ะ แต่เป็นรถบัสที่ดีและสะอาด สะดวกสบายมาก ซึ่งใครที่เอากระเป๋าใบใหญ่ไปแนะนำให้นั่งรถลีมูซีนไปโรงแรมดีกว่าค่ะ ราคาพอกะรถไฟฟ้า แต่สะดวกกว่ามาก ราคาประมาณ 800 กว่าบาท ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆไปถึงสนามบินฮานาเดะ
พอถึงสนามบินฮานาเดะเราก็นั่งรถไฟต่อไปที่โรงแรม แล้วเปิด Google Map เพื่อเดินต่อไปโรงแรมค่ะ ซึ่งโรงแรมที่เราไปพักครั้งนี้คือ Toyoko Inn Kawasaki Ekimae Isago ค่ะ เป็นโรงแรมในเครือ Tokyoinn ที่เป็นที่นิยมมาก ราคาไม่แพง สะดวก สะอาดค่ะ ซึ่งสามารถหาโรงแรมของ Tokyoinn ในสถานที่ต่างๆได้ที่นี่เลย http://www.toyoko-inn.com/eng/index.html
ใน Lobby ค่ะ
อ่อๆ เค้ามีชุดนอนให้นะ สามารถหยิบได้ที่ Lobby ค่ะ ไม่ต้องเตรียมไป จะได้ไม่เปลืองที่กระเป๋า (แต่เราก็ใช้ชุดเราอยู่ดี เพราะเราไม่รู้ 555)
ในห้องถือว่าโอเลยค่ะ ราคาคืนละประมาณ 1500 บาท แต่สะอาดและดีมาก แต่ก็เล็กมากด้วยเช่นกัน 555
มีสบู่และแชมพูพร้อม ไม่ต้องเตรียมไปนะคะ
พอถึงห้องพักเราก็พักแปปนึง จัดข้าวของแล้วออกไปเดินเล่น หาอะไรทานด้านนอกค่ะ
เมืองคาวาซากิ คนเดินพลุกพล่าน ครึกครื้นดีค่ะ อากาศกำลังดีค่ะ สบายๆ
จากนั้นก็หาอะไรทาน มีคนบอกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อยทุกร้าน เราก็เลยเดินสุ่มๆเข้าไปแถวนั้นๆ
มื้อแรกที่ญี่ปุ่น
จากนั้นก็เดินเล่นแถวนั้นๆ ของน่าซื้อเต็มไปหมดเลย โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ 555 ซึ่งร้านขายเครื่องสำอางค์ หรือที่เราเรียกว่า Drugstore มีอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ยังกะ 7-11 บ้านเรา อาจจะมีถี่กว่าด้วยนะ อิอิ
อันนี้ดีใจที่ซื้อมาค่ะ จะเป็นเหมือนทิชชู่แอลกอฮอลทั่วไป แต่รู้สึกสดชื่นมาก ตอนร้อนๆที่บ้านเราแล้วใช้นี่สดชื่นมากค่ะ แต่กลิ่นแอลกอฮอลแรงนิดนึงนะ
ของยอดฮิต
จากนั้นก็กลับห้องพักผ่อนเตรียมเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ......