ผมอยู่ในโรงเรียนที่........
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีนักเรียน 2000 กวาชีวิต...แต่ไม่มีหอประชุม
ผมอยู่ในโรงเรียนที่เข้าแถวเคารพธงชาติ 7.45 ทุกวัน
ผมอยู่ในโรงเรียนที่คุณครูยืนมองนักเรียนตากแดดเป็นชั่วโมงๆ(ตอนเข้าแถว)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ไม่มีสนามบอล.....
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีตู้กดน้ำแต่ไม่มีแก้วน้ำให้นักเรียน ใช้ปากดื่มเลยก็ไม่ได้มีกรงติด(เพราะจะไปขัดผลประโยชน์กับมินิมาร์ทของโรงเรียน)....
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีห้องน้ำอยู่ทุกอาคารแต่ปิดไม่ให้นักเรียนใช้
ผมอยู่ในโรงเรียนที่เข้าห้องน้ำได้ที่เดียวคือหลังสุดของโรงเรียน
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีโรงอาหารน้อยกว่าครึ่งสนามฟุตบอล(คิดดูตอนทานข้าว)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ให้นักเรียน เรียน 15-17 วิชา ต่อเทอม
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีน็อคดาวน์เป็นห้องเรียน 20 กว่าหลัง
ผมอยู่ในโรงเรียนที่โรงเรียนห้ามใช้โน้ตบุ๊ค-โทรศัพท์ ภายในโรงเรียน..(ห้ามยาก)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ มีป้ายติดว่า Wi-Fi ความเร็วสูง แต่ใช้ไม่ได้สักอัน
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีค่าเทอมแพงที่สุดในอำเภอ...แต่ไม่ได้ต่างจากโรงเรียนทั่วๆไปเลย หรืออาจแย่กว่า
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ทุกเช้าจะมีครูไม่ต่ำกว่า 5-6 คน ยืนตรวจการแต่งกายของนักเรียน
(พร้อมกรรไกร&แบตเตอเลี่ยนไร้สาย)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ ส่งงานครบ,แต่สอบตกและแก้ข้อสอบครบ แต่ติด 0
ผมอยู่ในโรงเรียนที่การคัดข้อสอบ 1000-2000 ข้อเป็นเรื่องปกติ เพื่อนคนนึงโดนคัดข้อสอบ 50 ข้อ 50 จบ..... อื้อหือออออ
ผมอยู่ในโรงเรียนที่เหตุผลของนักเรียนไม่มีความหมายกับครู เพราะครูถูกทุกอย่าง(บางคน)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่คณะผู้บริหารภูมิใจว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำเภอ...แต่สำหรับผม ไม่เลย...
ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นปัญหาระดับใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น แต่ประเด็นสำคัญคือ วิชาเรียน
ทำไมต้องมีวิชาเรียนให้กับเด็กเยอะขนาดนั้น ยกตัวอย่างผมเรียนศิลป์คำนวณ แต่มีวิชาเรียน 17 วิชา เรียนตั้งแต่ 8.30 ถึง 4.10
17 วิชา คิดดูแต่ละอาทิตย์ วันละ 8 คาบ คาบละ 50 นาที อาทิตย์นึงต้องเรียน 56 คาบ คิดเป็น 2800 นาที หรือ 46.6 ช.ม
อย่าให้พูดถึงงานที่คุณครูสั่งเลย........... 17 วิชา วิชาละ 1 งานก็จะตายแล้ว
ซึ่งในโรงเรียนก็จะมีครูคนนึง แอนตี้เรื่องพวกนี้มาก เรื่อง การเรียน 16-17 วิชา ทรงผม
(จำมาบางส่วนจำที่ครูพูดทั้งหมดไม่ได้) ครูคนนี้จะไม่สอนจากในหนังสือที่..แจกมา ครูเขามีเหตุผลว่า จะให้ครูสอน การพับใบตอง การเย็บผ้าอย่างนั้นหรอ ? ไม่ ครูไม่สอนหรอก หรือจะให้ครูสอน ? ทุกคนในห้องก็ say no เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือ (ครูเขาสอน ก.อ.ท)
ครูเขาคิดว่าจะเรียนไปทำไมเยอะ
ขนาดครูเรียนมาเยอะยังไม่เคยใช้วิชาพวกนั้นทั้งหมดเลย ตัดผมทำไม ถ้าตัดแล้วนักเรียนตั้งใจเรียนก็ว่าไปอย่าง.......
แล้วมหาลัยก็ไม่มีการเข้าแถว มาโรงเรียนก็เข้าห้องเรียนเตรียมตัวอย่างเดียว ไม่ปล่อยให้นักเรียนยืนตากแดด เป็นชั่วโมงๆหรอก การที่หัวตากแดดนานๆ
มันจะทำให้นักเรียนเพลีย แล้วเวลาเรียนก็จะไม่ค่อยเต็มที่..
แล้วครูก็ถามนักเรียนในห้องว่า ลองพูดมาดิ ว่าอาทิตย์นึงเรียนกี่วิชา อะไรบ้าง จำไม่ได้หรอก หรือเธอจำได้ ?
การเรียนเยอะๆมันไม่ได้ทำให้นักเรียนเก่งขึ้นเลย มันจะยิ่งทำให้นักเรียนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ชอบอะไร อยากทำอะไร
.
.
.
.
.
ครูทำให้นักเรียนให้ความสำคัญกับคำว่า"เกรด"มากกว่าการ"เรียนรู้"
ผมแค่อยากระบาย..แต่รู้อยู่แล้วว่าการเอามาตั้งกระทู้แบบนี้ จะต้องโดนด่าแน่ ผมก็แค่ เด็กนักเรียนคนหนึ่ง.. ที่มีความคิดตื้นๆ #
ผมอยู่ในโรงเรียนที่........
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีนักเรียน 2000 กวาชีวิต...แต่ไม่มีหอประชุม
ผมอยู่ในโรงเรียนที่เข้าแถวเคารพธงชาติ 7.45 ทุกวัน
ผมอยู่ในโรงเรียนที่คุณครูยืนมองนักเรียนตากแดดเป็นชั่วโมงๆ(ตอนเข้าแถว)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ไม่มีสนามบอล.....
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีตู้กดน้ำแต่ไม่มีแก้วน้ำให้นักเรียน ใช้ปากดื่มเลยก็ไม่ได้มีกรงติด(เพราะจะไปขัดผลประโยชน์กับมินิมาร์ทของโรงเรียน)....
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีห้องน้ำอยู่ทุกอาคารแต่ปิดไม่ให้นักเรียนใช้
ผมอยู่ในโรงเรียนที่เข้าห้องน้ำได้ที่เดียวคือหลังสุดของโรงเรียน
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีโรงอาหารน้อยกว่าครึ่งสนามฟุตบอล(คิดดูตอนทานข้าว)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ให้นักเรียน เรียน 15-17 วิชา ต่อเทอม
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีน็อคดาวน์เป็นห้องเรียน 20 กว่าหลัง
ผมอยู่ในโรงเรียนที่โรงเรียนห้ามใช้โน้ตบุ๊ค-โทรศัพท์ ภายในโรงเรียน..(ห้ามยาก)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ มีป้ายติดว่า Wi-Fi ความเร็วสูง แต่ใช้ไม่ได้สักอัน
ผมอยู่ในโรงเรียนที่มีค่าเทอมแพงที่สุดในอำเภอ...แต่ไม่ได้ต่างจากโรงเรียนทั่วๆไปเลย หรืออาจแย่กว่า
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ทุกเช้าจะมีครูไม่ต่ำกว่า 5-6 คน ยืนตรวจการแต่งกายของนักเรียน
(พร้อมกรรไกร&แบตเตอเลี่ยนไร้สาย)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่ ส่งงานครบ,แต่สอบตกและแก้ข้อสอบครบ แต่ติด 0
ผมอยู่ในโรงเรียนที่การคัดข้อสอบ 1000-2000 ข้อเป็นเรื่องปกติ เพื่อนคนนึงโดนคัดข้อสอบ 50 ข้อ 50 จบ..... อื้อหือออออ
ผมอยู่ในโรงเรียนที่เหตุผลของนักเรียนไม่มีความหมายกับครู เพราะครูถูกทุกอย่าง(บางคน)
ผมอยู่ในโรงเรียนที่คณะผู้บริหารภูมิใจว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำเภอ...แต่สำหรับผม ไม่เลย...
ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นปัญหาระดับใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น แต่ประเด็นสำคัญคือ วิชาเรียน
ทำไมต้องมีวิชาเรียนให้กับเด็กเยอะขนาดนั้น ยกตัวอย่างผมเรียนศิลป์คำนวณ แต่มีวิชาเรียน 17 วิชา เรียนตั้งแต่ 8.30 ถึง 4.10
17 วิชา คิดดูแต่ละอาทิตย์ วันละ 8 คาบ คาบละ 50 นาที อาทิตย์นึงต้องเรียน 56 คาบ คิดเป็น 2800 นาที หรือ 46.6 ช.ม
อย่าให้พูดถึงงานที่คุณครูสั่งเลย........... 17 วิชา วิชาละ 1 งานก็จะตายแล้ว
ซึ่งในโรงเรียนก็จะมีครูคนนึง แอนตี้เรื่องพวกนี้มาก เรื่อง การเรียน 16-17 วิชา ทรงผม
(จำมาบางส่วนจำที่ครูพูดทั้งหมดไม่ได้) ครูคนนี้จะไม่สอนจากในหนังสือที่..แจกมา ครูเขามีเหตุผลว่า จะให้ครูสอน การพับใบตอง การเย็บผ้าอย่างนั้นหรอ ? ไม่ ครูไม่สอนหรอก หรือจะให้ครูสอน ? ทุกคนในห้องก็ say no เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือ (ครูเขาสอน ก.อ.ท)
ครูเขาคิดว่าจะเรียนไปทำไมเยอะ
ขนาดครูเรียนมาเยอะยังไม่เคยใช้วิชาพวกนั้นทั้งหมดเลย ตัดผมทำไม ถ้าตัดแล้วนักเรียนตั้งใจเรียนก็ว่าไปอย่าง.......
แล้วมหาลัยก็ไม่มีการเข้าแถว มาโรงเรียนก็เข้าห้องเรียนเตรียมตัวอย่างเดียว ไม่ปล่อยให้นักเรียนยืนตากแดด เป็นชั่วโมงๆหรอก การที่หัวตากแดดนานๆ
มันจะทำให้นักเรียนเพลีย แล้วเวลาเรียนก็จะไม่ค่อยเต็มที่..
แล้วครูก็ถามนักเรียนในห้องว่า ลองพูดมาดิ ว่าอาทิตย์นึงเรียนกี่วิชา อะไรบ้าง จำไม่ได้หรอก หรือเธอจำได้ ?
การเรียนเยอะๆมันไม่ได้ทำให้นักเรียนเก่งขึ้นเลย มันจะยิ่งทำให้นักเรียนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ชอบอะไร อยากทำอะไร
.
.
.
.
.
ผมแค่อยากระบาย..แต่รู้อยู่แล้วว่าการเอามาตั้งกระทู้แบบนี้ จะต้องโดนด่าแน่ ผมก็แค่ เด็กนักเรียนคนหนึ่ง.. ที่มีความคิดตื้นๆ #