ผมก็เป็นคนนึงที่จบ1ใน14สถาบันนั้นและเกลียดการแบ่งแยกแบบดูถูกดูแคลนคนอื่น ย้ำนะครับว่าประเภทแบบดูถูกคน ในความเป็นจริงการแบ่งกลุ่มสถาบันของบริษัทต่างๆนั้นมีมานานแล้วผมมีเพื่อนทำอยู่บริษัทใหญ่ๆเกือบทุกบริษัทและเกือบทุกแบงค์และจำนวนนึงอยู่HRเคยเล่าให้ฟัง
จริงๆแล้วบริษัทเหล่านี้เค้ารับหมดทุกสถาบันหละครับ เพียงแต่บางสายงานเค้าต้องการรับเฉพาะเจาะจงบางประเภทเค้าเลยสกรีนออกก่อนสำหรับคนที่ไม่ค่อยตรง นอกจากนี้เค้าใช้ประสบการณ์จากการรับสมัครคนมานานมาเป็นข้อมูลเพื่อที่ว่าจะไม่เสียเวลาในการคัดเลือกผู้สมัครจำนวนมากว่าสถาบันไหนเป็นยังไง
ผมเคยมีประสบการณ์เคยฝึกงานกับบริษัทเงินทุนที่ใหญ่และดังที่สุดแห่งนึงซึ่งตอนนี้กลายเป็นแบงค์ไปแล้ว ซึ่งคนที่ไปฝึกนั้นมีหลายสถาบันมาก ทั้งราชภัฏและราชมงคล รวมถึงมอท๊อป5ของไทย ทุกคนเรียนสายคล้ายๆกัน อยู่ปีสี่เหมือนๆกัน ตอนเข้าไปที่แรกเค้าให้ทำงานเหมือนๆกัน ต่อมาเค้าจะค่อยๆแยกแบ่งตามความสามารถของแต่ละคน เพื่อนๆที่เรียนราชมงคลพวกนี้จะเก่งคอมมาก เขียนโปรแกรมอะไรต่างๆได้ พิมพ์ดีดเก่ง ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเขียนโปรแกรมไรเลย แต่เพื่อนกลุ่มนี้เค้าจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ อ่านอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วสรุปวิเคราะห์ไม่ค่อยได้ คร่าวๆก็จะได้งานกันประมาณนี้
ทุกคนก็จะน่ารักช่วยเหลือกันดีไม่เคยแบ่งแยกสถาบันนะ พวกนั้นเค้าก็จะมาพูดกันประมาณว่าพวกผมเก่งเอนติด ผมก็จะบอกเค้าว่าไม่จริงหรอก พวกผมทำงานไม่เก่งเหมือนอย่างพวกเค้าเลย พวกผมอ่านหนังสือเก่งมากกว่า จนฝึกงานเสร็จก็ยังไปเที่ยวทะเลด้วยกันเลย
เมื่อเรียนจบ บริษัทเงินทุนนั้นเค้าก็รับเพื่อนๆกลุ่มนั้นบางคนเข้าทำงานเลย ถือว่างานเข้าตาตอนฝึกงาน ส่วนมหาลัยดังทั้งหลายเท่าที่รู้ก็ไม่ได้รับใครนะ อาจเพราะตำแหน่งไม่ตรง ส่วนใหญ่ก็ไปต่อโทกันก่อนแล้วค่อยกลับมาทำ
เรื่องนี้ผมไม่ได้ว่าไทยพาณิชย์ผิดนะ แต่พลาดที่ทำให้คนนอกรู้แบบเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งๆที่เค้าก็ทำกันเยอะแยะ ผมรู้จักหลายคนที่ไม่ได้อยู่14มอนี่ก็ทำอยู่ที่แบงค์นี้นะ เลยไม่แน่ใจว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ100%
อย่าว่าแต่มหาลัยเลย มอเดียวกันยังแบ่งคณะแบ่งแผนกเลย
แต่ที่รู้สึกผิดหวังมากคือที่อธิการบดีจะแสดงออกด้วยการแบนไม่ฝากเงินกับแบงค์เค้าแถมยังหาพวกชักชวนกันไปอีก อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วย น่าจะมีวิธีการพูดคุยหรือแสดงออกให้เห็นวิธีอื่นในแบบองสถาบันการศึกษามากกว่า
ผมว่าเรื่องไทยพาณิชย์รับ14สถาบันนี่ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะครับ
จริงๆแล้วบริษัทเหล่านี้เค้ารับหมดทุกสถาบันหละครับ เพียงแต่บางสายงานเค้าต้องการรับเฉพาะเจาะจงบางประเภทเค้าเลยสกรีนออกก่อนสำหรับคนที่ไม่ค่อยตรง นอกจากนี้เค้าใช้ประสบการณ์จากการรับสมัครคนมานานมาเป็นข้อมูลเพื่อที่ว่าจะไม่เสียเวลาในการคัดเลือกผู้สมัครจำนวนมากว่าสถาบันไหนเป็นยังไง
ผมเคยมีประสบการณ์เคยฝึกงานกับบริษัทเงินทุนที่ใหญ่และดังที่สุดแห่งนึงซึ่งตอนนี้กลายเป็นแบงค์ไปแล้ว ซึ่งคนที่ไปฝึกนั้นมีหลายสถาบันมาก ทั้งราชภัฏและราชมงคล รวมถึงมอท๊อป5ของไทย ทุกคนเรียนสายคล้ายๆกัน อยู่ปีสี่เหมือนๆกัน ตอนเข้าไปที่แรกเค้าให้ทำงานเหมือนๆกัน ต่อมาเค้าจะค่อยๆแยกแบ่งตามความสามารถของแต่ละคน เพื่อนๆที่เรียนราชมงคลพวกนี้จะเก่งคอมมาก เขียนโปรแกรมอะไรต่างๆได้ พิมพ์ดีดเก่ง ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเขียนโปรแกรมไรเลย แต่เพื่อนกลุ่มนี้เค้าจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ อ่านอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วสรุปวิเคราะห์ไม่ค่อยได้ คร่าวๆก็จะได้งานกันประมาณนี้
ทุกคนก็จะน่ารักช่วยเหลือกันดีไม่เคยแบ่งแยกสถาบันนะ พวกนั้นเค้าก็จะมาพูดกันประมาณว่าพวกผมเก่งเอนติด ผมก็จะบอกเค้าว่าไม่จริงหรอก พวกผมทำงานไม่เก่งเหมือนอย่างพวกเค้าเลย พวกผมอ่านหนังสือเก่งมากกว่า จนฝึกงานเสร็จก็ยังไปเที่ยวทะเลด้วยกันเลย
เมื่อเรียนจบ บริษัทเงินทุนนั้นเค้าก็รับเพื่อนๆกลุ่มนั้นบางคนเข้าทำงานเลย ถือว่างานเข้าตาตอนฝึกงาน ส่วนมหาลัยดังทั้งหลายเท่าที่รู้ก็ไม่ได้รับใครนะ อาจเพราะตำแหน่งไม่ตรง ส่วนใหญ่ก็ไปต่อโทกันก่อนแล้วค่อยกลับมาทำ
เรื่องนี้ผมไม่ได้ว่าไทยพาณิชย์ผิดนะ แต่พลาดที่ทำให้คนนอกรู้แบบเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งๆที่เค้าก็ทำกันเยอะแยะ ผมรู้จักหลายคนที่ไม่ได้อยู่14มอนี่ก็ทำอยู่ที่แบงค์นี้นะ เลยไม่แน่ใจว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ100%
อย่าว่าแต่มหาลัยเลย มอเดียวกันยังแบ่งคณะแบ่งแผนกเลย
แต่ที่รู้สึกผิดหวังมากคือที่อธิการบดีจะแสดงออกด้วยการแบนไม่ฝากเงินกับแบงค์เค้าแถมยังหาพวกชักชวนกันไปอีก อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วย น่าจะมีวิธีการพูดคุยหรือแสดงออกให้เห็นวิธีอื่นในแบบองสถาบันการศึกษามากกว่า