ทริปคันไซทริปนี้เป็นทริปกระทันหันจากโปร Big ของ Taax จริงๆเราเห็นโปรนี้มาสักพักแล้ว ก็พยายามทำใจนิ่งๆไว้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ด้วยอาการอุปทานหมู่ เนื่องจากคนรอบๆตัวเราจองกัน แล้วก็มาชวนเราคุยนู้นนี่ สุดท้ายเราก็ทนไม่ไหวจนได้ หลังจากรวบรวมสมาชิกได้ ก็กดจองรัวๆเลยค่าาาาา โดยมีเวลาทำแผนประมาณ 2 สัปดาห์
แผนเที่ยวคร่าวๆของเรา
วันที่ 1 : Wakayama
วันที่ 2 : Osaka
วันที่ 3 : Kyoto บ่ายๆเย็นๆ กลับมาช้อปปิ้งที่ umeda
วันที่ 4 : Nara บ่ายๆ กลับมาเดินเล่นที่ Osaka เย็นไปสนามบิน
โปร Big นี้ ทำให้เราซื้อตั๋วไปลง Kix ได้ในราคา 5XXX บาท (รวมค่าธรรมเนียมและค่า add on ต่างๆด้วย) ทำให้ทริปคันไซทริปนี้ของเราอยู่ในงบประมาณ 15,000 บาท เดินทางวันที่ 20 มิย. กลับเที่ยงคืนวันที่ 25 มิย. รวมเวลาเที่ยวเต็มๆทั้งหมด 4 วัน จองโรงแรม 3 คืน (คืนแรกสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตด้วยการนอนสนามบินครั้งแรก >__<)
หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋า ก็ผ่านศุลกากร รอบนี้เราไม่โดนถามอะไรเลย แค่ถามว่ามาด้วยกันกี่คนแค่นั้น แล้วก็ปล่อยไป แต่เรานั่งท้ายๆเครื่อง ทำให้ออกมาท้ายๆพอสมควร ทำเลนอนดีๆ ก็ถูกจับจองไปเยอะแล้ว สุดท้ายเราได้ตรงหน้าประตูที่จะออกไปส่วนของ domestic ค่ะ แล้วก็เดินไปหาอะไรกินที่ Family mart เลยไปเจอทำเลน่านอนตรงด้านซ้ายของแฟมิลี่ ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน แต่ด้วยความที่ขี้เกียจย้ายของแล้วเราเลยตัดสินใจนอนที่เดิม ซึ่งเป็นการที่ตัดสินใจผิด T_T เพราะตรงนั้นมีเสียงสัญญาณตลอดคืนเลยค่ะ ดัง ตุ่ง ตุ้ง ตุ่ง ตุ้ง กว่าเราจะหลับได้นี่เกือบตีสอง ตอนแรกเรานึกว่าเสียงนี่จะปิดไปพร้อมๆกับประตูฝั่ง Domestic แต่เปล่าเลย ใครนอนหลับยากๆ ไม่แนะนำตรงนี้นะค้าาาา
21-6-2015
ประมาณตีสีครึ่ง สนามบินก็เปิดไฟสว่างโล่ง แถมไม่ได้เปิดไฟอย่างเดียว เปิดทีวีด้วย หนุกหนาน แต่เรายังไม่อยากลุกก็พยายามนอนต่อ สุดท้ายทนได้ถึงประมาณตีห้านิดๆ เลยลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวเข้าเมืองดีกว่า
เราซื้อ Kansai Thru Pass (KTP) ที่สถานีรถไฟของ Nankai เลยค่ะ เนื่องจาก Travel Desk เปิด 7.00 น. เราใช้พาสนี้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ เพราะมีโปรแกรมจะไป Wakayama ซึ่งพาสนี้ครอบคลุมรถบัสใน Wakayama ด้วยคุ้มเลย
มาถึงสถานี Wakayamashi (เป็นสถานีของ Nankai แต่ถ้า ของ JR จะชื่อว่า Wakayama เฉยๆ) เราก็ต่อรถเมล์ไปลง สถานี Jr Wakayama ค่ะ เพราะเราจอง รร. ไว้แถวสถานีนั้น เอากระเป๋าเดินทางไปฝาก รร.ไว้ก่อน จะได้เที่ยวแบบสบายๆ
หลังจากทานมื้อเช้าง่ายๆแถวสถานีรถไฟ เราก็มีนัดกับนายสถานีคนดังของจังหวัดนี้ค่ะ เราจะไปเยี่ยมนายสถานีนิทามะกันค่ะ (วันที่เราไปทามะจัง นายสถานีรุ่นต้นตำรับหยุด เลยได้เจอกับนิทามะ ซึ่งเป็นรุ่นสองแทน โดยวันไหนที่ทามะหยุด นิทามะก็จะมาประจำการแทนที่สถานีหลักคือสถานี Kishi ค่ะ แต่หลังจากนั้นแค่ 2 วัน เราก็ได้รับข่าวการจากไปของทามะจัง ด้วยวัย 16 ปีค่ะ ถือว่าเป็นน้องแมวที่อายุยืนมากเลยเนอะ มีการจัดงานศพให้อย่างยิ่งใหญ่ มีคนไปร่วมงานกันเป็นจำนวนมากเลยค่ะ T__T)
นอกจากรถไฟสายนี้จะมีน้องเหมียวเป็นนายสถานีอวดความน่ารักแล้ว รถไฟที่ใช้เดินทางก็น่ารักไม่แพ้กัน การขึ้นรถไฟสายนี้ให้ไปที่สถานี Jr wakayama ค่ะ บอกนายสถานีว่าเราจะไปขึ้น Tama densha นายสถานีก็จะให้เราเข้าไป เสร็จแล้วก็เดินตามรอยเท้าแมวไป ชานชาลาที่ 9 แล้วจัดการซื้อ one day pass ได้เลยค่าาา
นั่งรอสักพัก รถไฟของเล่นก็มาจ้า คนเยอะนิดนึง เพราะเป็นวันอาทิตย์ประกอบกับทัวร์จีนลง เรานั่งยาวๆไปลงสถานี Kishi เลยค่ะ
ที่สถานี Kishi จะมีพิพิธภัณฑ์ ค่าเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกของทามะจัง
นางเอกของงาน "นิทามะ" แอบหยิ่งนิดหน่อย ไม่ค่อยสบตา แล้วเราก็ยอมง้ออ่ะน้าาาา
ขากลับเรานั่งรถไฟทามะ มาลงที่สถานี idakiso ซึ่งเป็นสถานีที่ นิทามะประจำการอยู่เป็นหลัก (แต่วันนี้น้องไปอยู่ที่ Kishi แทนทามะ) เลยมีแต่ตู้โชว์ของเกี่ยวกับนิทามะะ และเรื่องราวของรถไฟสายนี้ คุณลุงที่ขายขนมอยู่เลยแนะนำให้เราเดินไปศาลเจ้าแถวนั้น แต่เรามีเวลาน้อย เลยเดินไปแค่หน้าๆของศาลเจ้า เพราะต้องกลับมาขึ้นรถไฟสตรอเบอรี่กลับไปสถานี wakayama
ใครมีเวลา แนะนำให้เช่าจักรยานน้องทามะ ปั่นแถวๆนี้ ดูจากแผนที่ที่คุณลุงให้มามีที่เที่ยวเยอะพอสมควรเลยค่ะ หรือจะแค่ปั่นชมเมืองแถวนี้ก็ชิวแล้ว เมืองสงบน่าปั่นดีค่ะ แถมค่าเช่าจักรยานก็ราคาถูกมากนะคะ 100 เยน จักรยานน่ารัก ราคาเป็นมิตร ให้เต็ม 10 ไปเลยค่าาา
SummeR in JapaN : ร้อนนี้ที่คันไซ (づ ̄ ³ ̄)づ
แผนเที่ยวคร่าวๆของเรา
วันที่ 1 : Wakayama
วันที่ 2 : Osaka
วันที่ 3 : Kyoto บ่ายๆเย็นๆ กลับมาช้อปปิ้งที่ umeda
วันที่ 4 : Nara บ่ายๆ กลับมาเดินเล่นที่ Osaka เย็นไปสนามบิน
โปร Big นี้ ทำให้เราซื้อตั๋วไปลง Kix ได้ในราคา 5XXX บาท (รวมค่าธรรมเนียมและค่า add on ต่างๆด้วย) ทำให้ทริปคันไซทริปนี้ของเราอยู่ในงบประมาณ 15,000 บาท เดินทางวันที่ 20 มิย. กลับเที่ยงคืนวันที่ 25 มิย. รวมเวลาเที่ยวเต็มๆทั้งหมด 4 วัน จองโรงแรม 3 คืน (คืนแรกสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตด้วยการนอนสนามบินครั้งแรก >__<)
หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋า ก็ผ่านศุลกากร รอบนี้เราไม่โดนถามอะไรเลย แค่ถามว่ามาด้วยกันกี่คนแค่นั้น แล้วก็ปล่อยไป แต่เรานั่งท้ายๆเครื่อง ทำให้ออกมาท้ายๆพอสมควร ทำเลนอนดีๆ ก็ถูกจับจองไปเยอะแล้ว สุดท้ายเราได้ตรงหน้าประตูที่จะออกไปส่วนของ domestic ค่ะ แล้วก็เดินไปหาอะไรกินที่ Family mart เลยไปเจอทำเลน่านอนตรงด้านซ้ายของแฟมิลี่ ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน แต่ด้วยความที่ขี้เกียจย้ายของแล้วเราเลยตัดสินใจนอนที่เดิม ซึ่งเป็นการที่ตัดสินใจผิด T_T เพราะตรงนั้นมีเสียงสัญญาณตลอดคืนเลยค่ะ ดัง ตุ่ง ตุ้ง ตุ่ง ตุ้ง กว่าเราจะหลับได้นี่เกือบตีสอง ตอนแรกเรานึกว่าเสียงนี่จะปิดไปพร้อมๆกับประตูฝั่ง Domestic แต่เปล่าเลย ใครนอนหลับยากๆ ไม่แนะนำตรงนี้นะค้าาาา
21-6-2015
ประมาณตีสีครึ่ง สนามบินก็เปิดไฟสว่างโล่ง แถมไม่ได้เปิดไฟอย่างเดียว เปิดทีวีด้วย หนุกหนาน แต่เรายังไม่อยากลุกก็พยายามนอนต่อ สุดท้ายทนได้ถึงประมาณตีห้านิดๆ เลยลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวเข้าเมืองดีกว่า
เราซื้อ Kansai Thru Pass (KTP) ที่สถานีรถไฟของ Nankai เลยค่ะ เนื่องจาก Travel Desk เปิด 7.00 น. เราใช้พาสนี้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ เพราะมีโปรแกรมจะไป Wakayama ซึ่งพาสนี้ครอบคลุมรถบัสใน Wakayama ด้วยคุ้มเลย
มาถึงสถานี Wakayamashi (เป็นสถานีของ Nankai แต่ถ้า ของ JR จะชื่อว่า Wakayama เฉยๆ) เราก็ต่อรถเมล์ไปลง สถานี Jr Wakayama ค่ะ เพราะเราจอง รร. ไว้แถวสถานีนั้น เอากระเป๋าเดินทางไปฝาก รร.ไว้ก่อน จะได้เที่ยวแบบสบายๆ
หลังจากทานมื้อเช้าง่ายๆแถวสถานีรถไฟ เราก็มีนัดกับนายสถานีคนดังของจังหวัดนี้ค่ะ เราจะไปเยี่ยมนายสถานีนิทามะกันค่ะ (วันที่เราไปทามะจัง นายสถานีรุ่นต้นตำรับหยุด เลยได้เจอกับนิทามะ ซึ่งเป็นรุ่นสองแทน โดยวันไหนที่ทามะหยุด นิทามะก็จะมาประจำการแทนที่สถานีหลักคือสถานี Kishi ค่ะ แต่หลังจากนั้นแค่ 2 วัน เราก็ได้รับข่าวการจากไปของทามะจัง ด้วยวัย 16 ปีค่ะ ถือว่าเป็นน้องแมวที่อายุยืนมากเลยเนอะ มีการจัดงานศพให้อย่างยิ่งใหญ่ มีคนไปร่วมงานกันเป็นจำนวนมากเลยค่ะ T__T)
นอกจากรถไฟสายนี้จะมีน้องเหมียวเป็นนายสถานีอวดความน่ารักแล้ว รถไฟที่ใช้เดินทางก็น่ารักไม่แพ้กัน การขึ้นรถไฟสายนี้ให้ไปที่สถานี Jr wakayama ค่ะ บอกนายสถานีว่าเราจะไปขึ้น Tama densha นายสถานีก็จะให้เราเข้าไป เสร็จแล้วก็เดินตามรอยเท้าแมวไป ชานชาลาที่ 9 แล้วจัดการซื้อ one day pass ได้เลยค่าาา
นั่งรอสักพัก รถไฟของเล่นก็มาจ้า คนเยอะนิดนึง เพราะเป็นวันอาทิตย์ประกอบกับทัวร์จีนลง เรานั่งยาวๆไปลงสถานี Kishi เลยค่ะ
ที่สถานี Kishi จะมีพิพิธภัณฑ์ ค่าเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกของทามะจัง
นางเอกของงาน "นิทามะ" แอบหยิ่งนิดหน่อย ไม่ค่อยสบตา แล้วเราก็ยอมง้ออ่ะน้าาาา
ขากลับเรานั่งรถไฟทามะ มาลงที่สถานี idakiso ซึ่งเป็นสถานีที่ นิทามะประจำการอยู่เป็นหลัก (แต่วันนี้น้องไปอยู่ที่ Kishi แทนทามะ) เลยมีแต่ตู้โชว์ของเกี่ยวกับนิทามะะ และเรื่องราวของรถไฟสายนี้ คุณลุงที่ขายขนมอยู่เลยแนะนำให้เราเดินไปศาลเจ้าแถวนั้น แต่เรามีเวลาน้อย เลยเดินไปแค่หน้าๆของศาลเจ้า เพราะต้องกลับมาขึ้นรถไฟสตรอเบอรี่กลับไปสถานี wakayama
ใครมีเวลา แนะนำให้เช่าจักรยานน้องทามะ ปั่นแถวๆนี้ ดูจากแผนที่ที่คุณลุงให้มามีที่เที่ยวเยอะพอสมควรเลยค่ะ หรือจะแค่ปั่นชมเมืองแถวนี้ก็ชิวแล้ว เมืองสงบน่าปั่นดีค่ะ แถมค่าเช่าจักรยานก็ราคาถูกมากนะคะ 100 เยน จักรยานน่ารัก ราคาเป็นมิตร ให้เต็ม 10 ไปเลยค่าาา