ที่ญี่ปุ่น ทุนเรียนดีเเต่ยากจนของรัฐบาลไม่ค่อยมีให้ขอ ส่วนใหญ่จะมีเเต่ของมูลนิธิบริษัทเอกชนเเต่ก็ไม่มีเงื่อนไขข้อผูกมัด(ตอนสมัครถามทางมหา'ลัยเเล้ว
มหา'ลัยบอกทุนที่เลือกมาเป็นทุนที่ไม่มีเงื่อนไขข้อผูกมัดใดๆ สบายใจได้) ดูคุณสมบัติเเล้ว ลูกเข้าข่ายสมัครขอได้ ก็ลองยื่นขอไป
เอกสารที่จำเป็นในการขอทุน
-ต้องเขียนถึงเหตุผลว่ามีความจำเป็นอะไรถึงต้องมาขอทุน 800คำ ก็เขียนถึงฐานะทางบ้าน พ่อใกล้วัยเกษียณกลัวว่าถ้าพ่อเกษียณเเล้ว เฉพาะเงินบำนาญจากรัฐอาจจะไม่พอต่อการเรียนในระดับมหา'ลัย เเม่เป็นชาวต่างชาติทำงานพาร์ทไทม์ ถ้าตกงานการหางานใหม่จะหาได้ยาก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็ต้องทำงาน เเต่ว่าเรียนคณะนี้ถ้าต้องทำงานด้วย อาจจะทำให้เรียนได้ไม่ดี เรียนไม่จบจามกำหนด จึงมาขอทุนเพื่อที่จะสามารถเรียนได้โดยไม่ติดขัด ลูกเขียนได้เยอะ คงกลัวจะได้ไปทำพาร์ทไทม์
-เอกสารรับรองรายได้+การเสียภาษีของพ่อเเละเเม่ (ขอจากเขตที่อยู่อาศัย) เอกสารชิ้นนี้สำคัญมาก เงินที่ทำงานทุกบาททุกสตางค์เป๊ะมาก ทึ่งในการจัดเก็บข้อมูลของประเทศญี่ปุ่นจริงๆ
-ใบรับรองผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(เนื่องจากลูกเพิ่งอยู่ปี.1ผลการเรียนในระดับมหา'ลัยยังไม่ออก ก็ต้องอ้างอิงจากระดับม.ปลายเเทน) ใบรับรองนี้ จนลูกจบเเล้ว ขอไปหลายครั้ง ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าทางโรงเรียนเขียนว่าอย่างไร เจ้าตัวไม่สามารถเปิดอ่านได้(เป็นซองประทับตราโรงเรียน ปิดผนึก ถ้าเปิดอ่านถือว่าเป็นโมฆะ ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้) รู้เเต่ว่าเกรดเฉลี่ยตลอด3ปีได้เกินที่ทางทุนกำหนดไว้
ตอนยื่นก็กลัวว่าจะไม่ได้เหมือนกัน เพราะลูกคนเดียว ทางผู้ให้ทุนจะคิดไหมว่าลูกเเค่คนเดียวทำไมยังไม่มีเงินส่งเรียน เเฮ่ๆ
เมื่อวานรู้ผลเเล้วว่าได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุน เป็นทุนจากร้านขายยาจากย่านโทโฮกุ(Tohoku)เเจกให้นักศึกษาคณะเภสัชทั่วประเทศญี่ปุ่น32ทุน
ดีใจ ช่วยลดความกดดันในการทำงานของเเม่ไปด้วย
เล่าเรื่องประสบการณ์ขอทุนฟรีจากมูลนิธิร้านขายยาของญี่ปุ่น
มหา'ลัยบอกทุนที่เลือกมาเป็นทุนที่ไม่มีเงื่อนไขข้อผูกมัดใดๆ สบายใจได้) ดูคุณสมบัติเเล้ว ลูกเข้าข่ายสมัครขอได้ ก็ลองยื่นขอไป
เอกสารที่จำเป็นในการขอทุน
-ต้องเขียนถึงเหตุผลว่ามีความจำเป็นอะไรถึงต้องมาขอทุน 800คำ ก็เขียนถึงฐานะทางบ้าน พ่อใกล้วัยเกษียณกลัวว่าถ้าพ่อเกษียณเเล้ว เฉพาะเงินบำนาญจากรัฐอาจจะไม่พอต่อการเรียนในระดับมหา'ลัย เเม่เป็นชาวต่างชาติทำงานพาร์ทไทม์ ถ้าตกงานการหางานใหม่จะหาได้ยาก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็ต้องทำงาน เเต่ว่าเรียนคณะนี้ถ้าต้องทำงานด้วย อาจจะทำให้เรียนได้ไม่ดี เรียนไม่จบจามกำหนด จึงมาขอทุนเพื่อที่จะสามารถเรียนได้โดยไม่ติดขัด ลูกเขียนได้เยอะ คงกลัวจะได้ไปทำพาร์ทไทม์
-เอกสารรับรองรายได้+การเสียภาษีของพ่อเเละเเม่ (ขอจากเขตที่อยู่อาศัย) เอกสารชิ้นนี้สำคัญมาก เงินที่ทำงานทุกบาททุกสตางค์เป๊ะมาก ทึ่งในการจัดเก็บข้อมูลของประเทศญี่ปุ่นจริงๆ
-ใบรับรองผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(เนื่องจากลูกเพิ่งอยู่ปี.1ผลการเรียนในระดับมหา'ลัยยังไม่ออก ก็ต้องอ้างอิงจากระดับม.ปลายเเทน) ใบรับรองนี้ จนลูกจบเเล้ว ขอไปหลายครั้ง ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าทางโรงเรียนเขียนว่าอย่างไร เจ้าตัวไม่สามารถเปิดอ่านได้(เป็นซองประทับตราโรงเรียน ปิดผนึก ถ้าเปิดอ่านถือว่าเป็นโมฆะ ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้) รู้เเต่ว่าเกรดเฉลี่ยตลอด3ปีได้เกินที่ทางทุนกำหนดไว้
ตอนยื่นก็กลัวว่าจะไม่ได้เหมือนกัน เพราะลูกคนเดียว ทางผู้ให้ทุนจะคิดไหมว่าลูกเเค่คนเดียวทำไมยังไม่มีเงินส่งเรียน เเฮ่ๆ
เมื่อวานรู้ผลเเล้วว่าได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุน เป็นทุนจากร้านขายยาจากย่านโทโฮกุ(Tohoku)เเจกให้นักศึกษาคณะเภสัชทั่วประเทศญี่ปุ่น32ทุน
ดีใจ ช่วยลดความกดดันในการทำงานของเเม่ไปด้วย