ขอเริ่มเรื่องเลยนะครับผมพักหอกับเพื่อน 2 คน เพื่อนชื่อ "โมท" วันนั้นช่วง 6 โมงเย็นได้นั่งกินเหล้ากัน พอเมาได้ที่ก็เล่าเรื่องต่างๆ นาๆ ไปเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่องผีนี่ล่ะ ก็พากันเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอผีให้กันฟัง เพื่อนผมนี่เล่าน่ากลัวมากแทบขนลุก แต่ละเรื่องที่มันเล่านี่เจอแต่แบบตัวเป็นๆ ไม่ว่าจะเป็นผีเปรด ผีคนตายโหง อะไรงี้ ผมนี่กลัวแทบนอนไม่ได้
พอ 2 ทุ่มก็รู้สึกว่าเมามากจนเผลอหลับไป ผมไม่รู้เลยว่าไอ้ โมท เผลอหลับไปตอนไหน
...จนมาถึงตอนประมาณ ตี 1 ในระหว่างที่ผมนอนอยู่และหลับสนิทมากเพราะจากอาการเมามาย ผมก็รู้สึกว่ามีใครมาสกิดที่เท้าผม หลายครั้งมาก กว่าจะรู้สึกตัว
"เฮ้ยๆๆ..ผีมันลูบขากุ" เสียงสั่นๆ เพื่อนสะกิดผมเบาๆ แบบเนิบๆ และแบบหวิวๆ ผมกำลังสลึมสลือทั้งเมา ทั้งง่วง แต่ก็พอได้ยินเสียงแว่วๆ มาตามสายลมของเพื่อน
ผมหันมองไปที่เพื่อนไอ้ โมท ที่นอนอยู่ตรงปลายเท้าผม ท่าทางจะเมามากเลยนอนเกะกะตรงปลายเท้าผมเยื้องๆ ตัวผม หัวของเพื่อนมันอยู่ตรงปลายเท้าพอดี ผมยังไม่ได้ยินชัดเท่าไรเลยถามมัน "มี....อะไรหรอ" ถามแบบเคลิ้มๆ ง่วงๆ แบบงัวเงีย
"ผี...ลูบขากุ" เพื่อนผมบอกอีกครั้งเบาๆ แผ่วๆ ให้ผมรู้แต่ ไม่ให้ผีได้ยิน
ผมเหลือบหันไปดูปลายเท้าเพื่อนผมอย่างช้าๆ เพราะความง่วง ผมมองเห็นเต็มลูกกะตา 2 ลูกตาเลย "เป็นผีรูปร่างผอมๆ ผมยาวๆ ตกถึงก้นแต่ดูผมยุ่งเหยิงไปหน่อย ใบหน้านี่ขาววอก และขลุขละ มีหลุมมีบ่อ และสีหน้ายิ้มแย้มปนสยอง เหมือนกำลังยิ้มอย่างเยือกเย็น และกำลังลูบขาเพื่อนผมและหวีผมอย่างช้าๆ เนิบๆ ประหนึ่งกำลังมีความสุขแต่ปนไปด้วยความสยองขนพอง ซึ่งได้นั่งติดประตูทางออกของห้อง ในขณะที่ผมมองไปเห็นนั้น ผีก็ได้หันกลับมามองที่ผมช้าๆ " ในขณะ ที่ผมกำลังสะลึม สลืออยู่นั้น ภาพที่ปรากฏเต็มสองลูกตาผมทำให้ผมนี่ตกใจแทบจะช็อค และตัวของผมดีดตัวขึ้นจากที่นอนติดฝาผนังห้องด้วยความกลัวสุดขีด ดีดตัวได้สูงมากสุดชีวิต (คิดดูละกัน จากที่นอนอยู่ปลายเตียง ดีดตัวไปถึงบนเพดานสุดหัวเตียงเลย ซึ่ง จากที่ผมนอนเด้งไปถึงเพดานนี่ นับได้ว่าสูงมากทีเดียว
"คิดถึงภาพตอนที่ดูหนังผีสมัยก่อนเลย เพื่อนๆ เคยดูหนังผีสมัยก่อนไหมครับ ที่เวลาเจอผีแล้วจะตกใจกระโดดขึ้นต้นมะพร้าวได้น่ะ ผมนี่เชื่อเลยครับว่าเอามาจากเรื่องจริง เวลาเรากลัวอะไรนี่ทำอะไรได้แบบไม่น่าเชื่อจริงๆ"
พอตกลงมาจากเพดาน ผมก็ตัวสั่นๆ แล้วตะโกนด้วยความกลัว "โอ้ยกูเจอผีจริงๆ หรอวะ ตัวเป็นๆ เลยหรอเนี่ยไม่น่าเชื่อสายตาตัวเองเลย เคยเห็นแต่ในหนัง หรือไม่ก็เจอแต่เสียง ไม่คิดว่าจะเจอตัวผีตัวเป็นๆเช่นนี้ จะบ้าตายจะทำยังไงเนี่ย และขาผมเริ่มสั่น แล้วก็สั่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความกลัว และก็กระโดดโหยงๆ อยู่ในห้องไปมาเพราะความกลัว ได้แต่คิดและผวากับสิ่งที่เจอนี้ ในหัวผมคิดว่า เจอผีจริงๆ หรอเนี่ยไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย
“ที่แน่ๆ ผียังนั่งอยู่ทีเดิม ยิ้มให้ผมเหมือนเดิม ไม่หายตัวไปไหนเลย เห็นจะๆ ว่ายังอยู่อย่างนั้น ครุ่นคิดแบบสั่นๆ ว่าทำไมผีไม่หายตัวไปซะที ปกติแค่ปรากฏให้เจอแล้วก็หายตัวไปไม่ใช่หรอ ในความคิดของผม หรือผีที่มีอยู่ในหนัง ผมทำอะไรไม่ถูกเลย นาทีนั้นผมตัดสินใจที่จะหนีออกจากห้องนี้ให้ได้โดยเร็ว โดยที่ไม่ได้สนใจเพื่อนผมที่ยังตกที่นั่งลำบาก ขณะนั้น เลย
แต่ “บระเจ้า” จะหนีได้ไงเนี่ย ในเมื่อผียังอยู่นั่งติดประตูอยู่เลย
“เวรละ....แล้วจะทำยังไง กูจะหนีมันได้ยังไงวะ ผีอยู่ตรงนั้นติดกับประตู ผมพยายามที่จะดิ้นรน กระโดดโหยงๆ เพื่อหนีเอาตัวรอดจากห้องนี้ ผมสั่นอยู่ตลอดเวลา ผมทั้งร้องตะโกน “ผี ผี ผี แบบเสียงสั่นๆ กระโดดไปมาในห้องอยู่พักหนึ่ง.
จึงตัดสินใจไม่คิดชีวิต กระโดดข้ามหัวผีที่นั่งอยู่ แล้วกระโดดถีบประตูจนพัง แล้วก็วิ่งออกจากไปหน้าระเบียง
(ทั้งวิ่ง ทั้งสั่น ทั้งกระโดด โหยง ๆ ด้วยความกลัวสุดขีด แทบจะวิ่งกระโจนโดดตึก ดีที่ไม่กระโดดตึกถ้างั้น ตายแน่ เพราะอยู่ชั้น 4
ตะโกนขอความช่วยเหลือ
"ผี..หลอก ผี...หลอก ช่วยด้วย เจอผี ช่วยด้วย" ตะโกนอยู่อย่างนั้นอยู่ระเบียง
ช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาล ไม่ค่อยมีคนอยู่ห้อง ห้องอื่นกลับต่างจังหวัดหมดแล้ว เลยไม่มีห้องไหนตกใจออกมาดู ผมนี่วิ่งกลับไป กลับมาอยู่ระเบียงแบบขาสั่น ไม่กล้าลงบันไดไปข้างล่างเพราะกลัวเหมือนกัน ในใจคิดว่าถ้าลงไปข้างล่างก็กลัวผีจะรออยู่ข้างล่าง เพราะ มันมืดด้วย
พร้อมตะโกนให้เพื่อนออกมาจากห้อง
ทันใดนั้นเพื่อนผมก็ได้เปิดไฟและเดินออกมาจากห้องบอกว่า
"เฮ้ยที่เห็นนั้น มันไม่ใช่ผีว่ะ......แต่เป็นกระเทยยยยย..." โอ้แม่เจ้า
“”เฮ้ย จริงหรอวะ เฮ้ยเป็นไปได้ไง หลอกกรูได้ไง”
ณ เวลานั้น ผมนี่ขำไม่ออกเลยจริงๆ ที่แน่ๆ รู้สึโกรธและโมโห มากที่ทำผมตกใจแทบใจขาดตาย แต่ก็ยังทำอะไรไม่ถูกเหมือนเดิม จึงเดินเข้าไปข้างในหาเพื่อน (ผมรู้สึกอยากจะเตะพี่กระเทยคนนั้นจริงๆ เลย ทั้งๆ ที่ขาผมก็ยังสั่นอยู่ กระเทยคนนั้นแอบขำ และอมยิ้ม ที่ผมกลัวแทบช๊อค คงคิด “อะไรจะกลัวขนาดนั้น” เชื่อว่าเป็นใครเจอจังๆ อย่างนี้ก็คงจะกลัวสุดขีดเหมือนผม
แล้วพี่เขาก็ขอโทษพวกผม บอกว่าไม่ได้ตั้งใจให้ตกใจ แตกตื่นแค่ต้องการมาหาผู้ชายไปเรื่อยตามห้อง เผื่อโชคดีเจอผู้ชาย
ผมก็งงว่า “แล้วเข้ามาห้องนี้ได้ยังไงหว่า” คิดอีกทีน่าจะเกิดจากที่ผม เมาแล้วออกมาสูบบุหรี่ข้างนอกพอเข้าไปไม่ได้ปิดประตู ห้อง ทำให้ กระเทยคนนี้เข้ามาที่ห้องได้ อาจจะตระเวนหาเปิดประตูหอไปเรื่อยๆ จนมาเจอห้องของผมกับเพื่อนนี่ละที่ไม่ได้ปิดประตู แล้วเข้ามาทำอะไรพวกผม
"จะไม่ให้กลัวได้ไงล่ะ พ่อ...คูณ ตัวผอม สูง ผมยาวเฟื้อยเชีย แถมพอกหน้าซะขาวยิ่งกว่าผีตายโหง แต่หน้าตาดูไม่ได้เบย และยังลูบขาเพื่อนผมพร้อมหวีผมไปด้วยอย่างเยือกเย็น ช่างมีความสุขอะไรขนาดนั้น"
**เชื่อไหมครับผมนี่กลัวแทบขี้แตก กระโดดจนตัวชนเพดานห้อง ขาสั่นยันเช้าเลยครับยังไม่หาย เพื่อนพยายามมากดขา มันก็ยังสั่นไม่หายเลย
ฮือๆๆๆๆ ทำกันได้น้อ เจ้เอ้ยยยยยย..........
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับผมและเพื่อนๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นเลย 555++++
ทุกวันนี้เจอหน้าเพื่อน โมท ยังคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นอยู่เลยในวงเหล้า เป็นเรื่องตลก ขำๆ กันเลย ในกลุ่มเพื่อนๆ ครับ
++เมื่อคิดถึงตอนนั้น ยังผวาไม่หาย เมื่อครั้งนอนกับเพื่อนแล้วเจอสิ่งนี้ !!
พอ 2 ทุ่มก็รู้สึกว่าเมามากจนเผลอหลับไป ผมไม่รู้เลยว่าไอ้ โมท เผลอหลับไปตอนไหน
...จนมาถึงตอนประมาณ ตี 1 ในระหว่างที่ผมนอนอยู่และหลับสนิทมากเพราะจากอาการเมามาย ผมก็รู้สึกว่ามีใครมาสกิดที่เท้าผม หลายครั้งมาก กว่าจะรู้สึกตัว
"เฮ้ยๆๆ..ผีมันลูบขากุ" เสียงสั่นๆ เพื่อนสะกิดผมเบาๆ แบบเนิบๆ และแบบหวิวๆ ผมกำลังสลึมสลือทั้งเมา ทั้งง่วง แต่ก็พอได้ยินเสียงแว่วๆ มาตามสายลมของเพื่อน
ผมหันมองไปที่เพื่อนไอ้ โมท ที่นอนอยู่ตรงปลายเท้าผม ท่าทางจะเมามากเลยนอนเกะกะตรงปลายเท้าผมเยื้องๆ ตัวผม หัวของเพื่อนมันอยู่ตรงปลายเท้าพอดี ผมยังไม่ได้ยินชัดเท่าไรเลยถามมัน "มี....อะไรหรอ" ถามแบบเคลิ้มๆ ง่วงๆ แบบงัวเงีย
"ผี...ลูบขากุ" เพื่อนผมบอกอีกครั้งเบาๆ แผ่วๆ ให้ผมรู้แต่ ไม่ให้ผีได้ยิน
ผมเหลือบหันไปดูปลายเท้าเพื่อนผมอย่างช้าๆ เพราะความง่วง ผมมองเห็นเต็มลูกกะตา 2 ลูกตาเลย "เป็นผีรูปร่างผอมๆ ผมยาวๆ ตกถึงก้นแต่ดูผมยุ่งเหยิงไปหน่อย ใบหน้านี่ขาววอก และขลุขละ มีหลุมมีบ่อ และสีหน้ายิ้มแย้มปนสยอง เหมือนกำลังยิ้มอย่างเยือกเย็น และกำลังลูบขาเพื่อนผมและหวีผมอย่างช้าๆ เนิบๆ ประหนึ่งกำลังมีความสุขแต่ปนไปด้วยความสยองขนพอง ซึ่งได้นั่งติดประตูทางออกของห้อง ในขณะที่ผมมองไปเห็นนั้น ผีก็ได้หันกลับมามองที่ผมช้าๆ " ในขณะ ที่ผมกำลังสะลึม สลืออยู่นั้น ภาพที่ปรากฏเต็มสองลูกตาผมทำให้ผมนี่ตกใจแทบจะช็อค และตัวของผมดีดตัวขึ้นจากที่นอนติดฝาผนังห้องด้วยความกลัวสุดขีด ดีดตัวได้สูงมากสุดชีวิต (คิดดูละกัน จากที่นอนอยู่ปลายเตียง ดีดตัวไปถึงบนเพดานสุดหัวเตียงเลย ซึ่ง จากที่ผมนอนเด้งไปถึงเพดานนี่ นับได้ว่าสูงมากทีเดียว
"คิดถึงภาพตอนที่ดูหนังผีสมัยก่อนเลย เพื่อนๆ เคยดูหนังผีสมัยก่อนไหมครับ ที่เวลาเจอผีแล้วจะตกใจกระโดดขึ้นต้นมะพร้าวได้น่ะ ผมนี่เชื่อเลยครับว่าเอามาจากเรื่องจริง เวลาเรากลัวอะไรนี่ทำอะไรได้แบบไม่น่าเชื่อจริงๆ"
พอตกลงมาจากเพดาน ผมก็ตัวสั่นๆ แล้วตะโกนด้วยความกลัว "โอ้ยกูเจอผีจริงๆ หรอวะ ตัวเป็นๆ เลยหรอเนี่ยไม่น่าเชื่อสายตาตัวเองเลย เคยเห็นแต่ในหนัง หรือไม่ก็เจอแต่เสียง ไม่คิดว่าจะเจอตัวผีตัวเป็นๆเช่นนี้ จะบ้าตายจะทำยังไงเนี่ย และขาผมเริ่มสั่น แล้วก็สั่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความกลัว และก็กระโดดโหยงๆ อยู่ในห้องไปมาเพราะความกลัว ได้แต่คิดและผวากับสิ่งที่เจอนี้ ในหัวผมคิดว่า เจอผีจริงๆ หรอเนี่ยไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย
“ที่แน่ๆ ผียังนั่งอยู่ทีเดิม ยิ้มให้ผมเหมือนเดิม ไม่หายตัวไปไหนเลย เห็นจะๆ ว่ายังอยู่อย่างนั้น ครุ่นคิดแบบสั่นๆ ว่าทำไมผีไม่หายตัวไปซะที ปกติแค่ปรากฏให้เจอแล้วก็หายตัวไปไม่ใช่หรอ ในความคิดของผม หรือผีที่มีอยู่ในหนัง ผมทำอะไรไม่ถูกเลย นาทีนั้นผมตัดสินใจที่จะหนีออกจากห้องนี้ให้ได้โดยเร็ว โดยที่ไม่ได้สนใจเพื่อนผมที่ยังตกที่นั่งลำบาก ขณะนั้น เลย
แต่ “บระเจ้า” จะหนีได้ไงเนี่ย ในเมื่อผียังอยู่นั่งติดประตูอยู่เลย
“เวรละ....แล้วจะทำยังไง กูจะหนีมันได้ยังไงวะ ผีอยู่ตรงนั้นติดกับประตู ผมพยายามที่จะดิ้นรน กระโดดโหยงๆ เพื่อหนีเอาตัวรอดจากห้องนี้ ผมสั่นอยู่ตลอดเวลา ผมทั้งร้องตะโกน “ผี ผี ผี แบบเสียงสั่นๆ กระโดดไปมาในห้องอยู่พักหนึ่ง.
จึงตัดสินใจไม่คิดชีวิต กระโดดข้ามหัวผีที่นั่งอยู่ แล้วกระโดดถีบประตูจนพัง แล้วก็วิ่งออกจากไปหน้าระเบียง
(ทั้งวิ่ง ทั้งสั่น ทั้งกระโดด โหยง ๆ ด้วยความกลัวสุดขีด แทบจะวิ่งกระโจนโดดตึก ดีที่ไม่กระโดดตึกถ้างั้น ตายแน่ เพราะอยู่ชั้น 4
ตะโกนขอความช่วยเหลือ
"ผี..หลอก ผี...หลอก ช่วยด้วย เจอผี ช่วยด้วย" ตะโกนอยู่อย่างนั้นอยู่ระเบียง
ช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาล ไม่ค่อยมีคนอยู่ห้อง ห้องอื่นกลับต่างจังหวัดหมดแล้ว เลยไม่มีห้องไหนตกใจออกมาดู ผมนี่วิ่งกลับไป กลับมาอยู่ระเบียงแบบขาสั่น ไม่กล้าลงบันไดไปข้างล่างเพราะกลัวเหมือนกัน ในใจคิดว่าถ้าลงไปข้างล่างก็กลัวผีจะรออยู่ข้างล่าง เพราะ มันมืดด้วย
พร้อมตะโกนให้เพื่อนออกมาจากห้อง
ทันใดนั้นเพื่อนผมก็ได้เปิดไฟและเดินออกมาจากห้องบอกว่า
"เฮ้ยที่เห็นนั้น มันไม่ใช่ผีว่ะ......แต่เป็นกระเทยยยยย..." โอ้แม่เจ้า
“”เฮ้ย จริงหรอวะ เฮ้ยเป็นไปได้ไง หลอกกรูได้ไง”
ณ เวลานั้น ผมนี่ขำไม่ออกเลยจริงๆ ที่แน่ๆ รู้สึโกรธและโมโห มากที่ทำผมตกใจแทบใจขาดตาย แต่ก็ยังทำอะไรไม่ถูกเหมือนเดิม จึงเดินเข้าไปข้างในหาเพื่อน (ผมรู้สึกอยากจะเตะพี่กระเทยคนนั้นจริงๆ เลย ทั้งๆ ที่ขาผมก็ยังสั่นอยู่ กระเทยคนนั้นแอบขำ และอมยิ้ม ที่ผมกลัวแทบช๊อค คงคิด “อะไรจะกลัวขนาดนั้น” เชื่อว่าเป็นใครเจอจังๆ อย่างนี้ก็คงจะกลัวสุดขีดเหมือนผม
แล้วพี่เขาก็ขอโทษพวกผม บอกว่าไม่ได้ตั้งใจให้ตกใจ แตกตื่นแค่ต้องการมาหาผู้ชายไปเรื่อยตามห้อง เผื่อโชคดีเจอผู้ชาย
ผมก็งงว่า “แล้วเข้ามาห้องนี้ได้ยังไงหว่า” คิดอีกทีน่าจะเกิดจากที่ผม เมาแล้วออกมาสูบบุหรี่ข้างนอกพอเข้าไปไม่ได้ปิดประตู ห้อง ทำให้ กระเทยคนนี้เข้ามาที่ห้องได้ อาจจะตระเวนหาเปิดประตูหอไปเรื่อยๆ จนมาเจอห้องของผมกับเพื่อนนี่ละที่ไม่ได้ปิดประตู แล้วเข้ามาทำอะไรพวกผม
"จะไม่ให้กลัวได้ไงล่ะ พ่อ...คูณ ตัวผอม สูง ผมยาวเฟื้อยเชีย แถมพอกหน้าซะขาวยิ่งกว่าผีตายโหง แต่หน้าตาดูไม่ได้เบย และยังลูบขาเพื่อนผมพร้อมหวีผมไปด้วยอย่างเยือกเย็น ช่างมีความสุขอะไรขนาดนั้น"
**เชื่อไหมครับผมนี่กลัวแทบขี้แตก กระโดดจนตัวชนเพดานห้อง ขาสั่นยันเช้าเลยครับยังไม่หาย เพื่อนพยายามมากดขา มันก็ยังสั่นไม่หายเลย
ฮือๆๆๆๆ ทำกันได้น้อ เจ้เอ้ยยยยยย..........
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับผมและเพื่อนๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นเลย 555++++
ทุกวันนี้เจอหน้าเพื่อน โมท ยังคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นอยู่เลยในวงเหล้า เป็นเรื่องตลก ขำๆ กันเลย ในกลุ่มเพื่อนๆ ครับ