“ต๋อย ไตรภพ” ยอมตายเพื่อนาย ดี๊ด๊าช่อง 3 สั่งทำรายการเสียบเวิร์คพอยท์ โวเป็นช่วงเวลาทองคำ ฟันค่าโฆษณานาทีละ 4 แสน ปัดทูไนท์โชว์เด้งหลุดผัง ย้ำแค่คืนเวลาสถานี บอกทำวาไรตี้พร้อมกันสองรายการไม่ไหว มั่นใจสู้ชิงร้อยชิงล้านได้ ฐานคนดูแน่น เน้นตลกสะอาดไม่หยาบคาย ข่มคู่แข่งแค่ราคาคุย เผยเรตติ้ง 10 ยังไม่เคยโม้! ไม่รังแกก็บุญแล้ว
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารายการที่จะมาแทนที่ “ชิงร้อยชิงล้าน” ของ “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” ซึ่งถูกช่อง 3 ขอเวลาช่วงดังกล่าวคืนเป็นรายการใหม่ของ “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” โดยช่อง 3 ให้เหตุผลกับทางเสี่ยตาว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา อยากให้เห็นใจเพราะยังไงช่อง 3 ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันจากพิธีกรดังที่มาอัดรายการ "ทูเดย์โชว์" ว่าตนผุดวาไรตี้โชว์มาแทนที่ชิงร้อยชิงล้าน และได้ปิดฉากรายการ “ทูไนท์โชว์” ก่อนย้ำเสียงหนักแน่นรายการทูไนท์โชว์ไม่ได้ถูกถอดหลุดผัง แต่ตนเป็นคนขอคืนเวลากับทางสถานีเอง อ้างทำวาไรตี้โชว์พร้อมกัน 2 รายการไม่ไหว มั่นใจได้เวลาช่วงทองคำ ไม่กดดันที่มาเสียบแทน
“ต้องทำความเข้าใจว่าบ่ายวันอาทิตย์ยิ่งกว่าไพร์มไทม์อีก มันเป็นทองคำเลยล่ะ เป็นคำสั่งนายเลยครับ เราเป็นคนทำงานเขาให้เราทำอะไรก็ต้องทำ ไม่มีอะไรกดดันเลยครับ ไม่มีความรู้สึกเลย รายการคนละประเภท เขาเป็นเกมส์โชว์ เราเป็นวาไรตี้โชว์ ถ้าคุณทำงานอะไรก็ตามให้กดดัน เช่นเราไปแข่งพายเรือด้วยกัน เขาก็พายเรือ เรากดดันแน่นอน เพราะว่าอยู่ในกฎกติกาเดียวกัน แต่ถ้าสมมุติเขาเป็นนักกีฬาพายเรือ เราเป็นนักกีฬายิงธนู ตรงไหนจะเอาไปกดดันล่ะครับ มันงานคนละประเภทเลย ผมเป็นวาไรตี้โชว์เขาเป็นเกมส์โชว์ ทำจนตายไงก็ไม่กดดัน กีฬาคนละประเภท มันแข่งกันไม่ได้อยู่แล้ว เวลา 2 ชม.น้อยไปครับ ต้องมากกว่านี้อีกสักนิด เดี๋ยวต่อไปก็ต้องเพิ่ม”
“ความแตกต่างจากทูไนท์โชว์ไม่มี เป็นวาไรตี้โชว์เหมือนกันแต่ถ้าจะแตกต่างคือรูปแบบนำเสนอ แตกต่างแน่นอน เพราะเมื่อเวลาเราทำงานอะไรก็ตาม เหมือนคนทำแฟชั่น เสื้อกลางวันใส่ยังไง เสื้อกลางคืนใส่ยังไง มันเป็นแบบนั้น เป็นความแตกต่างตรงนั้น แต่อย่างอื่นเหมือนกันหมด แค่ต่างกันแค่ว่าเดรสกลางวันเดรสกลางคืนเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเวลามาทำวาไรตี้โชว์กลางวันก็ต้องเป็นเดรสกลางวัน เพราะฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายคนดูก็แตกต่างกันออกไปแต่ยังเป็นวาไรตี้โชว์ มีทั้งทอล์กโชว์ สเปเชียลโชว์ มีปกิณกะ แล้วมีของคุณณวัฒน์(ณวัฒน์ อิสรไกรศีล) ที่พาไปเที่ยวทั่วโลก”
“คำว่าวาไรตี้โชว์เราก็ครบ เราเป็นรายการเดียวด้วยนะครับที่ครบอย่างนี้ ไม่มีวาไรตี้โชว์สมบูรณ์แบบนะครับในทีวี เราเป็น ผมไม่ทราบว่าจะทำความเข้าใจได้ยังไงกับทุกคน แต่อยากให้เข้าใจว่าวาไรตี้โชว์รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ถ้าคุณจะเรียกมันว่าวาไรตี้โชว์ มันต้องมีความหลากหลายรูปแบบอย่างนี้ครบถ้วน ถ้าคุณทำรายการทอล์กโชว์ก็ทอล์กอย่างเดียว ถ้าคุณทำรายการปกิณกะ ก็ปกิกะอย่างเดียว ถ้าเพลงก็เพลงอย่างเดียว แต่วาไรตี้โชว์ไม่ได้ต้องมีครบหมดราเป็นวาไรตี้โชว์ แต่เรามีวิธีการนำเสนอ เดรสกลางคืนกับเดรสกลางวันแต่งตัวไม่เหมือนกัน อันนี้ชัดเจน แล้วเวลาเราย้ายมาลงกลางวัน คุณจะเห็นว่าเราทำละครอยู่แล้ว เราก็ทำเรื่องราวที่เป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์อยู่แล้ว แต่พอมาอยู่กลางวันมันทำละครเฉพาะเจาะจงแบบกลางคืนไม่ได้ กลางคืนสมมติละครหนึ่งในทรวงดัง เราจะเชิญพระเอก หรือพระเอกนางเอกก็จบ แต่พอมาอยู่กลางวัน มา 6 ตัวนะครับ เมื่อวานเราอัดผู้กองยอดรัก มา 8 ตัวนะครับ เพราะฉะนั้นสโคปมันใหญ่กว่ากันมาก เพราะคนดูกลางวันมันอายุตั้งแต่ 7 ขวบยัน 90 แต่คนที่ดูกลางคืนเป็นคนนอนดึก และเฉพาะเจาะจงจะดูจริงๆ เด็ก 7 ขวบ 10 ขวบนอนเกลี้ยงแล้ว แต่แฟนญาญ่า(อุรัสยา เสปอร์บันด์) แฟนเจมส์(จิรายุ ตั้งศรีสุข) มีตั้งแต่ 7 ขวบถึง 90 แฟนละครก็เหมือนกัน แต่พอกลางคืนจะเป็นอีกแบบ”
“ต๋อย ไตรภพ” ดี๊ด๊าเสียบเวลาทอง “เวิร์คพอยท์” ปั้น ทูเดย์โชว์ ขายนาทีละ 4 แสน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารายการที่จะมาแทนที่ “ชิงร้อยชิงล้าน” ของ “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” ซึ่งถูกช่อง 3 ขอเวลาช่วงดังกล่าวคืนเป็นรายการใหม่ของ “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” โดยช่อง 3 ให้เหตุผลกับทางเสี่ยตาว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา อยากให้เห็นใจเพราะยังไงช่อง 3 ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันจากพิธีกรดังที่มาอัดรายการ "ทูเดย์โชว์" ว่าตนผุดวาไรตี้โชว์มาแทนที่ชิงร้อยชิงล้าน และได้ปิดฉากรายการ “ทูไนท์โชว์” ก่อนย้ำเสียงหนักแน่นรายการทูไนท์โชว์ไม่ได้ถูกถอดหลุดผัง แต่ตนเป็นคนขอคืนเวลากับทางสถานีเอง อ้างทำวาไรตี้โชว์พร้อมกัน 2 รายการไม่ไหว มั่นใจได้เวลาช่วงทองคำ ไม่กดดันที่มาเสียบแทน
“ต้องทำความเข้าใจว่าบ่ายวันอาทิตย์ยิ่งกว่าไพร์มไทม์อีก มันเป็นทองคำเลยล่ะ เป็นคำสั่งนายเลยครับ เราเป็นคนทำงานเขาให้เราทำอะไรก็ต้องทำ ไม่มีอะไรกดดันเลยครับ ไม่มีความรู้สึกเลย รายการคนละประเภท เขาเป็นเกมส์โชว์ เราเป็นวาไรตี้โชว์ ถ้าคุณทำงานอะไรก็ตามให้กดดัน เช่นเราไปแข่งพายเรือด้วยกัน เขาก็พายเรือ เรากดดันแน่นอน เพราะว่าอยู่ในกฎกติกาเดียวกัน แต่ถ้าสมมุติเขาเป็นนักกีฬาพายเรือ เราเป็นนักกีฬายิงธนู ตรงไหนจะเอาไปกดดันล่ะครับ มันงานคนละประเภทเลย ผมเป็นวาไรตี้โชว์เขาเป็นเกมส์โชว์ ทำจนตายไงก็ไม่กดดัน กีฬาคนละประเภท มันแข่งกันไม่ได้อยู่แล้ว เวลา 2 ชม.น้อยไปครับ ต้องมากกว่านี้อีกสักนิด เดี๋ยวต่อไปก็ต้องเพิ่ม”
“ความแตกต่างจากทูไนท์โชว์ไม่มี เป็นวาไรตี้โชว์เหมือนกันแต่ถ้าจะแตกต่างคือรูปแบบนำเสนอ แตกต่างแน่นอน เพราะเมื่อเวลาเราทำงานอะไรก็ตาม เหมือนคนทำแฟชั่น เสื้อกลางวันใส่ยังไง เสื้อกลางคืนใส่ยังไง มันเป็นแบบนั้น เป็นความแตกต่างตรงนั้น แต่อย่างอื่นเหมือนกันหมด แค่ต่างกันแค่ว่าเดรสกลางวันเดรสกลางคืนเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเวลามาทำวาไรตี้โชว์กลางวันก็ต้องเป็นเดรสกลางวัน เพราะฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายคนดูก็แตกต่างกันออกไปแต่ยังเป็นวาไรตี้โชว์ มีทั้งทอล์กโชว์ สเปเชียลโชว์ มีปกิณกะ แล้วมีของคุณณวัฒน์(ณวัฒน์ อิสรไกรศีล) ที่พาไปเที่ยวทั่วโลก”
“คำว่าวาไรตี้โชว์เราก็ครบ เราเป็นรายการเดียวด้วยนะครับที่ครบอย่างนี้ ไม่มีวาไรตี้โชว์สมบูรณ์แบบนะครับในทีวี เราเป็น ผมไม่ทราบว่าจะทำความเข้าใจได้ยังไงกับทุกคน แต่อยากให้เข้าใจว่าวาไรตี้โชว์รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ถ้าคุณจะเรียกมันว่าวาไรตี้โชว์ มันต้องมีความหลากหลายรูปแบบอย่างนี้ครบถ้วน ถ้าคุณทำรายการทอล์กโชว์ก็ทอล์กอย่างเดียว ถ้าคุณทำรายการปกิณกะ ก็ปกิกะอย่างเดียว ถ้าเพลงก็เพลงอย่างเดียว แต่วาไรตี้โชว์ไม่ได้ต้องมีครบหมดราเป็นวาไรตี้โชว์ แต่เรามีวิธีการนำเสนอ เดรสกลางคืนกับเดรสกลางวันแต่งตัวไม่เหมือนกัน อันนี้ชัดเจน แล้วเวลาเราย้ายมาลงกลางวัน คุณจะเห็นว่าเราทำละครอยู่แล้ว เราก็ทำเรื่องราวที่เป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์อยู่แล้ว แต่พอมาอยู่กลางวันมันทำละครเฉพาะเจาะจงแบบกลางคืนไม่ได้ กลางคืนสมมติละครหนึ่งในทรวงดัง เราจะเชิญพระเอก หรือพระเอกนางเอกก็จบ แต่พอมาอยู่กลางวัน มา 6 ตัวนะครับ เมื่อวานเราอัดผู้กองยอดรัก มา 8 ตัวนะครับ เพราะฉะนั้นสโคปมันใหญ่กว่ากันมาก เพราะคนดูกลางวันมันอายุตั้งแต่ 7 ขวบยัน 90 แต่คนที่ดูกลางคืนเป็นคนนอนดึก และเฉพาะเจาะจงจะดูจริงๆ เด็ก 7 ขวบ 10 ขวบนอนเกลี้ยงแล้ว แต่แฟนญาญ่า(อุรัสยา เสปอร์บันด์) แฟนเจมส์(จิรายุ ตั้งศรีสุข) มีตั้งแต่ 7 ขวบถึง 90 แฟนละครก็เหมือนกัน แต่พอกลางคืนจะเป็นอีกแบบ”