ทริปนี้คือไม่ได้มีการเตรียมตัวใดๆทั้งสิ้น เตรียมแต่ใจกับเงินในกระเป๋าเล็กน้อย และเพื่อนที่รู้ใจไป
อยากจะให้ภาพเป็นตัวเล่าเรื่องราวนะคะ และจะให้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่อยากไป
ถึงใครก็ตามที่กำลังคิดอยากจะไปวังเวียง แต่ยังลังเลอยู่ว่า จะไปดีมั๊ยย ตอบให้เลยคะ....อย่า!!!! อย่าช้า อย่ารอ มาเลย
Start slow life !!!
DAY 1
เริ่มขึ้นรถจาก บขส.เก่าอุดรธานี รถมีเที่ยวเดียว ล้อหมุน 8:30น. ใช้เวลาในการเดินทาง 7 ชม. ราคาค่าตั๋วจะเป็น อุดร-หนองคาย-วังเวียง 320บาท
โชคดีที่วันไปไม่ค่อยมีคน คนน้อยมาก คือนอนกันแบบเยียดยาวได้สบายบรือออออ
ขับไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจะถึง บขส. หนองคาย จอดประมาณ 10นาที มีคนขึ้นเล็กน้อย คนลาว และโอปป้า สองคน
ขับไปเรื่อยๆจะถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง ก่อนถึงพนักงานบนรถจะมีใบ ตม. มาให้กรอก กรอกให้หมดไปเลย แล้วเดี๋ยวเค้าคืนใบขาเข้าให้เราเก็บใว้โชว์ก่อนกลับ
จุดตรวจคนเข้าเมือง
ผ่านไปซักพักถึงด่านของลาว ลงไปซื้อการ์ดผ่านทาง ราคาประมาณ45บาท เสียบบัตรเหมือนขึ้น BTS อะ จากนั้นก็ไปต่อได้เล๊ยยยย จุดนี้มีที่ให้แลกเงินนะ จะแลกที่นี่หรือที่วังเวียงก็ได้ ราคาไม่ต่างกันมาก 1บาท = 240 กีบ โดยประมาณ
ขับไปประมาณ 4ชม.จะจอดให้ทานข้าว ร้านนี้จะเป็นจุดที่รถทั้งขาไปและขากลับจอดให้พักและทานข้าว อาหารก็จะเป็นพวก ก๋วยเตี๋ยว เฝอ ข้าวผัด ปาเต ไอติม 40บาททุกแท่ง
เพื่อนสาวเราทานเฝอคะ ราคา 60-70บาท พอตัวอยู่
ไปต่อคะ อีกสามชั่วโมงถึงวังเวียง หลังจากนี้ใครเมารถกินยาเลยนะ เพราะทางคดเคี้ยวมากพอดู ส่วนเราและเพื่อนๆหลับคะ นอนเหยียดยาว สบายใจ
ระหว่างนั้น make friends กับโอปป้า โอปป้าให้ลูกอมมากินกัน แลกกับกล้วยปิ้งแสนอร่อยของพวกเรา ฮ่าๆๆ
ถึงละคะ บขส.วังเวียง ดูวังเวงดีเหมือนกัน
จากนั้นจะมีรถตู้เก่าๆไปส่งในเมือง ไม่ไกลกันมากคะ พอถึงปุ๊ปก็เดินหาที่พักกันเลย ที่พักมีหลากหลายให้เลือก ราคาเป็นมิตรมาก
คืนแรกเราได้ที่พักในราคา 600บาท หารกันสามคน คนละ 200บาท ก็ถือว่าโอเคร ห้องแอร์ สองเตียงใหญ่ๆ ห้องน้ำเตะบอลได้ ด้านหลังติดแม่น้ำ วิวสวย
โรงแรมของเราค้าาา
หลังจากทำภาระกิจเสร็จแล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราก็หาร้านข้าวทันทีคะ หิวกันมาก เดินไม่ไกลก็มาหยุดที่ร้านนี้ ร้านครัวเจริญ
มื้อหลักของเราคือ
สั่งอาหารไปสามอย่าง ส้มตำ ต้ำยำทะเล ลาบหมู อาหารเค้าให้เยอะมาก อิ่มหนำสำราญ
ค่าเสียหาย ตกคนละ170บาท เบาๆ
เมื่ออิ่มแล้วเราก็เดินชิลๆกัน

ก่อนหน้านี้ฝนตก ตอนนี้ฝ้าหลังฝน มันสวยงามมาก

ถ่ายติดพระอาทิตย์ทรงกรดพอดี
เดินไปเรื่อยนึกขึ้นได้ว่าต้องซื้อซิม เลยไปหาร้านขายซิม เดินหากันอยู่นาน สุดท้ายมาจอดร้านนี้ Vangvieng mobile phone เป็นร้านขายมือถือ แนะนำร้านนี้เพราะแม่ค้าเป็นกันเองมากกกก มาถึงปุ๊ปยังไม่ได้พูดจาทักทายเลย ก็เลอใส่หน้าแล้ว เสียงดังจนเรากับเพื่อนสะดุ้งเลย ฮ่าๆ ยัง ยัง ไม่พอ มาอีกสองก้อนในคอ ฮืมมมม กลิ่นแบบติดจมูก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พวกเราซื้อกันแพคเกจ 7 วัน ค่าเสียหายก็คนละ 120 [รวม ซิม และ แพคเกจ] ถือว่าคุ้มนะ ซื้อไปเหอะ ที่อื่นแพงกว่านี้ ถามแล้ว 200บาท
หลังจากหาซื้อซิมเสร็จแล้ว เราก็ตรงมาที่ร้านนี้เลย SAKURA BAR

บาร์นี้ถือว่าเป็นสีสันของวังเวียงยามค่ำคืนเลยละ ฟรีดริ๊ง ตั้งแต่ 2-3ทุ่ม เราก็มาตรงเวลากันเป๊ะๆๆๆๆๆๆๆ ร้านนี้ชิล เจ้าของร้านหล่อและสวย เป็นฝรั่ง ดึกๆนี่โยกกันหัวหมุนเลยละ เอออ เราลืมบอกไปว่าที่นี่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นเกาหลี เพราะฉนั้นแล้วที่นี่ก็จะมีแต่โอปป้า และออนนี่ เพียบ แต่!!งานดีเกรดพรีเมี่ยมนะฮ้าาาา
ฝรั่งก็มีให้หอมปากหอมคอ
นี่ถ่ายติดโอปป้านะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ 555555555
ร้านปิดประมาณเที่ยงคืน กลับห้องนอนคะ ค่าเสียหายค่ำคืนนี้เบาๆคนละร้อย แต่ก้อเสียสติเอาควรอยู่นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
DAY 2
เนื่องจากเราใช้ชีวิตแบบ Slow life ดังนั้นช่วงเช้าเราเลยไม่ได้ไปทำกิจกรรมอะไร นอกจากเดินชิลๆ แต่ก่อนหน้านี้เราเช็คเอ๊า ออกจากโรงแรงและหาที่พักไหม่ คราวนี้ได้ที่พักแบบถูกใจสบายกระเป๋า ห้องอยู่ได้สามคน แอร์ คืนละ 400บาท ตกคนละร้อนนิดๆ เราอยู่ที่นี่กันยาว ยันวันกลับเลย
เอาละเดินเล่นชิลๆ ชมนกชมไม้

วิวดีมาก
หลังจากชิลๆเสร็จแล้วเราก็ไปซื้อทัวร์ไปบูลากูล เล่นน้ำกัน ทัวร์ที่ซื้อก็อยู่ไม่ไกล หน้าที่พักเลย ทัวร์นี้ดีนะเราว่า เค้าแนะนำและดูแลดี เราปจอยทริปกับเพื่อนๆคนอื่น ตกคนละ 200บาท รวมค่าเข้าเล่นน้ำค่ารถทั้งหมดเลย
ซื้อทัวร์ที่นี่เลย ชื่อบริศัท อยู่หลังภาพ เห็นมั้ย เราจำชื่อไม่ได้
การเดินทางคือนั่งรถสกายแลปไป เราไปจอยกับเพื่อนๆคนไทย น่ารักๆทุกคนเลย
ระยะทางประมาณ9กิโลเมตร ใครคิดว่าใกล้ๆ จะปั่นจักรยานหรือขี่แมงกะไซไป เราขอเตือนนะ เครื่องในและช่วงล่างพังแน่ๆ ทางเป็นหลุมตลอดทาง
ถึงแล้วววววว มันสวยเหมือนอย่างที่คิดแหละ
มีให้โดดเล่นน้ำ 2 level เราก็ลองให้หมดเลย เห็นข้างบนมั๊ย เหมือนไม่สูง แต่สูงมากนะ
น้ำใสไหลเย็น
เล่นเสร็จแล้วเราก็ไปปีนถ้ำ ชื่อถ้ำปูอะไรซักอย่าง อยู่ใกล้ๆกัน บางคนอาจไม่รู้ว่ามีเพราะเพื่อนคนไทยเราเค้าไม่รู้ว่ามี เค้าเลยไม่ได้ไป แต่เราแนะนำให้ไปนะ
ถึงแม้จะสูง เหนื่อยหน่อย แต่คุ้ม ปีนๆไปประมาณ5นาทีถึง
ปีนขึ้นก็ปีนลง ถึงเวลากลับ บ่ายสอง
ระหว่างสองข้างทางเด็กๆขายสับปะรด เด็กเผ่าม้ง น่าตาน่ารัก
ถึงที่พัก หาไรกินรองท้องแล้วอาบน้ำ ไปเช่าจักรยานปั่นเล่นกัน
ตรงไหนวิวดีก็ลงไปถ่ายรูปเล่น
เบียร์ลาว กับสาวสวยๆ 5555
จากนั้นก็หาข้าวกิน
กินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยผับเดิม ฮ่าๆ คราวนี้มีเพื่อนเพื่อน คือเพื่อนคนไทยที่จอยทริปกันตอนกลางวัน เจอกันที่ร้านโดยบังเอิญ รอไรละคะ รวมโต๊ะคะรวมโต๊ะ!!!! 55555
เพื่อนน่ารักๆ
โอปป้าก็มาแจมนะ น่ารักซะ
จากนั้นผับปิดละเที่ยงคืน เราก็ต่ออีกผับนึง อันนี้ปิดตีสอง ชื่อผับ Vivan รึ Viva นี่ละ อยู่ไม่ไกล อันนี้ะเป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่
กับตึบๆดี อยู่แปปเดียวก็กลับห้องละ
DAY 3
วันนี้ทำกิจกรรมกันเต็มวัน ซื้อทัวร์จากที่เดิม คนละ 400บาท เราสามคนไปจอยกับเค้า Start 9 โมง
เพื่อนที่ไปจอยด้วยกันทั้งหมด 12คน ไทยคือเรา 3คน คนจีน1คน นอกนั้นโอปป้า มีหน้าหน้าทัวร์2คน คนลาว
นั่งรถชิลๆไปเรื่อยๆ หัวหน้าทัวร์บอกว่าเราหน้าเหมือนนางเอกช่อง 3 เราและเพื่อนพากันขำกร๊ากเลย ฮ๋าๆๆๆ
นั่งรถไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางที่เราจะไปนั่งห่วงยางล่องไปในถ้ำละ
ถึงตอนนี้คงไม่ต้องบรรยายละนะ อยากให้ลองไปดู มันสนุก มากเลยละ
ภาพก่อนเข้าถ้ำ เอาไฟฉายติดหัวไปด้วย ในถ้ำมันมืด ถ้ามาเที่ยวหน้าฝน เข้าถ้ำไม่ได้นะ น้ำเยอะ ล้นถ้ำ
เสร็จแล้วพักทานข้าว ข้าวฟรี มีขนมปัง ข้าวผัด บาบีคิว
นั่งรถต่อไปพายเรือคะยัก
จุด start
ไปเลยค๊าาาา สนุกสนาน เรานั่งกับเพื่อนหนึ่งคน และหัวหน้าทัวร์
ส่วนเพื่อนเราเค้าได้หนุ่มจีน สัญชาติเมกันพายให้ ฟินไปดิ 555555555
พายไปก็แกล้งกันไป สนุกสนาน
ผ่านไปครึ่งทาง เค้าพาเทียบท่า จอดพัก นั่งชิล เล่นวอลเล่ หรือเล่นปิงปองดื่มเหล้า ก็ว่าไปตามใจชอบ พัก 40นาที
[CR] Unplanned 3คืน 4วัน ตะลุย"วังเวียง" กับงบ 3,500บาท เอาอยู่!!!!!
อยากจะให้ภาพเป็นตัวเล่าเรื่องราวนะคะ และจะให้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่อยากไป
ถึงใครก็ตามที่กำลังคิดอยากจะไปวังเวียง แต่ยังลังเลอยู่ว่า จะไปดีมั๊ยย ตอบให้เลยคะ....อย่า!!!! อย่าช้า อย่ารอ มาเลย
Start slow life !!!
DAY 1
เริ่มขึ้นรถจาก บขส.เก่าอุดรธานี รถมีเที่ยวเดียว ล้อหมุน 8:30น. ใช้เวลาในการเดินทาง 7 ชม. ราคาค่าตั๋วจะเป็น อุดร-หนองคาย-วังเวียง 320บาท
โชคดีที่วันไปไม่ค่อยมีคน คนน้อยมาก คือนอนกันแบบเยียดยาวได้สบายบรือออออ
ขับไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจะถึง บขส. หนองคาย จอดประมาณ 10นาที มีคนขึ้นเล็กน้อย คนลาว และโอปป้า สองคน
ขับไปเรื่อยๆจะถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง ก่อนถึงพนักงานบนรถจะมีใบ ตม. มาให้กรอก กรอกให้หมดไปเลย แล้วเดี๋ยวเค้าคืนใบขาเข้าให้เราเก็บใว้โชว์ก่อนกลับ
จุดตรวจคนเข้าเมือง
ผ่านไปซักพักถึงด่านของลาว ลงไปซื้อการ์ดผ่านทาง ราคาประมาณ45บาท เสียบบัตรเหมือนขึ้น BTS อะ จากนั้นก็ไปต่อได้เล๊ยยยย จุดนี้มีที่ให้แลกเงินนะ จะแลกที่นี่หรือที่วังเวียงก็ได้ ราคาไม่ต่างกันมาก 1บาท = 240 กีบ โดยประมาณ
ขับไปประมาณ 4ชม.จะจอดให้ทานข้าว ร้านนี้จะเป็นจุดที่รถทั้งขาไปและขากลับจอดให้พักและทานข้าว อาหารก็จะเป็นพวก ก๋วยเตี๋ยว เฝอ ข้าวผัด ปาเต ไอติม 40บาททุกแท่ง
เพื่อนสาวเราทานเฝอคะ ราคา 60-70บาท พอตัวอยู่
ไปต่อคะ อีกสามชั่วโมงถึงวังเวียง หลังจากนี้ใครเมารถกินยาเลยนะ เพราะทางคดเคี้ยวมากพอดู ส่วนเราและเพื่อนๆหลับคะ นอนเหยียดยาว สบายใจ
ระหว่างนั้น make friends กับโอปป้า โอปป้าให้ลูกอมมากินกัน แลกกับกล้วยปิ้งแสนอร่อยของพวกเรา ฮ่าๆๆ
ถึงละคะ บขส.วังเวียง ดูวังเวงดีเหมือนกัน
จากนั้นจะมีรถตู้เก่าๆไปส่งในเมือง ไม่ไกลกันมากคะ พอถึงปุ๊ปก็เดินหาที่พักกันเลย ที่พักมีหลากหลายให้เลือก ราคาเป็นมิตรมาก
คืนแรกเราได้ที่พักในราคา 600บาท หารกันสามคน คนละ 200บาท ก็ถือว่าโอเคร ห้องแอร์ สองเตียงใหญ่ๆ ห้องน้ำเตะบอลได้ ด้านหลังติดแม่น้ำ วิวสวย
โรงแรมของเราค้าาา
หลังจากทำภาระกิจเสร็จแล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราก็หาร้านข้าวทันทีคะ หิวกันมาก เดินไม่ไกลก็มาหยุดที่ร้านนี้ ร้านครัวเจริญ
มื้อหลักของเราคือ
สั่งอาหารไปสามอย่าง ส้มตำ ต้ำยำทะเล ลาบหมู อาหารเค้าให้เยอะมาก อิ่มหนำสำราญ
ค่าเสียหาย ตกคนละ170บาท เบาๆ
เมื่ออิ่มแล้วเราก็เดินชิลๆกัน
ก่อนหน้านี้ฝนตก ตอนนี้ฝ้าหลังฝน มันสวยงามมาก
ถ่ายติดพระอาทิตย์ทรงกรดพอดี
เดินไปเรื่อยนึกขึ้นได้ว่าต้องซื้อซิม เลยไปหาร้านขายซิม เดินหากันอยู่นาน สุดท้ายมาจอดร้านนี้ Vangvieng mobile phone เป็นร้านขายมือถือ แนะนำร้านนี้เพราะแม่ค้าเป็นกันเองมากกกก มาถึงปุ๊ปยังไม่ได้พูดจาทักทายเลย ก็เลอใส่หน้าแล้ว เสียงดังจนเรากับเพื่อนสะดุ้งเลย ฮ่าๆ ยัง ยัง ไม่พอ มาอีกสองก้อนในคอ ฮืมมมม กลิ่นแบบติดจมูก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พวกเราซื้อกันแพคเกจ 7 วัน ค่าเสียหายก็คนละ 120 [รวม ซิม และ แพคเกจ] ถือว่าคุ้มนะ ซื้อไปเหอะ ที่อื่นแพงกว่านี้ ถามแล้ว 200บาท
หลังจากหาซื้อซิมเสร็จแล้ว เราก็ตรงมาที่ร้านนี้เลย SAKURA BAR
บาร์นี้ถือว่าเป็นสีสันของวังเวียงยามค่ำคืนเลยละ ฟรีดริ๊ง ตั้งแต่ 2-3ทุ่ม เราก็มาตรงเวลากันเป๊ะๆๆๆๆๆๆๆ ร้านนี้ชิล เจ้าของร้านหล่อและสวย เป็นฝรั่ง ดึกๆนี่โยกกันหัวหมุนเลยละ เอออ เราลืมบอกไปว่าที่นี่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นเกาหลี เพราะฉนั้นแล้วที่นี่ก็จะมีแต่โอปป้า และออนนี่ เพียบ แต่!!งานดีเกรดพรีเมี่ยมนะฮ้าาาา
ฝรั่งก็มีให้หอมปากหอมคอ
นี่ถ่ายติดโอปป้านะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ 555555555
ร้านปิดประมาณเที่ยงคืน กลับห้องนอนคะ ค่าเสียหายค่ำคืนนี้เบาๆคนละร้อย แต่ก้อเสียสติเอาควรอยู่นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
DAY 2
เนื่องจากเราใช้ชีวิตแบบ Slow life ดังนั้นช่วงเช้าเราเลยไม่ได้ไปทำกิจกรรมอะไร นอกจากเดินชิลๆ แต่ก่อนหน้านี้เราเช็คเอ๊า ออกจากโรงแรงและหาที่พักไหม่ คราวนี้ได้ที่พักแบบถูกใจสบายกระเป๋า ห้องอยู่ได้สามคน แอร์ คืนละ 400บาท ตกคนละร้อนนิดๆ เราอยู่ที่นี่กันยาว ยันวันกลับเลย
เอาละเดินเล่นชิลๆ ชมนกชมไม้
วิวดีมาก
หลังจากชิลๆเสร็จแล้วเราก็ไปซื้อทัวร์ไปบูลากูล เล่นน้ำกัน ทัวร์ที่ซื้อก็อยู่ไม่ไกล หน้าที่พักเลย ทัวร์นี้ดีนะเราว่า เค้าแนะนำและดูแลดี เราปจอยทริปกับเพื่อนๆคนอื่น ตกคนละ 200บาท รวมค่าเข้าเล่นน้ำค่ารถทั้งหมดเลย
ซื้อทัวร์ที่นี่เลย ชื่อบริศัท อยู่หลังภาพ เห็นมั้ย เราจำชื่อไม่ได้
การเดินทางคือนั่งรถสกายแลปไป เราไปจอยกับเพื่อนๆคนไทย น่ารักๆทุกคนเลย
ระยะทางประมาณ9กิโลเมตร ใครคิดว่าใกล้ๆ จะปั่นจักรยานหรือขี่แมงกะไซไป เราขอเตือนนะ เครื่องในและช่วงล่างพังแน่ๆ ทางเป็นหลุมตลอดทาง
ถึงแล้วววววว มันสวยเหมือนอย่างที่คิดแหละ
มีให้โดดเล่นน้ำ 2 level เราก็ลองให้หมดเลย เห็นข้างบนมั๊ย เหมือนไม่สูง แต่สูงมากนะ
น้ำใสไหลเย็น
เล่นเสร็จแล้วเราก็ไปปีนถ้ำ ชื่อถ้ำปูอะไรซักอย่าง อยู่ใกล้ๆกัน บางคนอาจไม่รู้ว่ามีเพราะเพื่อนคนไทยเราเค้าไม่รู้ว่ามี เค้าเลยไม่ได้ไป แต่เราแนะนำให้ไปนะ
ถึงแม้จะสูง เหนื่อยหน่อย แต่คุ้ม ปีนๆไปประมาณ5นาทีถึง
ปีนขึ้นก็ปีนลง ถึงเวลากลับ บ่ายสอง
ระหว่างสองข้างทางเด็กๆขายสับปะรด เด็กเผ่าม้ง น่าตาน่ารัก
ถึงที่พัก หาไรกินรองท้องแล้วอาบน้ำ ไปเช่าจักรยานปั่นเล่นกัน
ตรงไหนวิวดีก็ลงไปถ่ายรูปเล่น
เบียร์ลาว กับสาวสวยๆ 5555
จากนั้นก็หาข้าวกิน
กินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยผับเดิม ฮ่าๆ คราวนี้มีเพื่อนเพื่อน คือเพื่อนคนไทยที่จอยทริปกันตอนกลางวัน เจอกันที่ร้านโดยบังเอิญ รอไรละคะ รวมโต๊ะคะรวมโต๊ะ!!!! 55555
เพื่อนน่ารักๆ
โอปป้าก็มาแจมนะ น่ารักซะ
จากนั้นผับปิดละเที่ยงคืน เราก็ต่ออีกผับนึง อันนี้ปิดตีสอง ชื่อผับ Vivan รึ Viva นี่ละ อยู่ไม่ไกล อันนี้ะเป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่
กับตึบๆดี อยู่แปปเดียวก็กลับห้องละ
DAY 3
วันนี้ทำกิจกรรมกันเต็มวัน ซื้อทัวร์จากที่เดิม คนละ 400บาท เราสามคนไปจอยกับเค้า Start 9 โมง
เพื่อนที่ไปจอยด้วยกันทั้งหมด 12คน ไทยคือเรา 3คน คนจีน1คน นอกนั้นโอปป้า มีหน้าหน้าทัวร์2คน คนลาว
นั่งรถชิลๆไปเรื่อยๆ หัวหน้าทัวร์บอกว่าเราหน้าเหมือนนางเอกช่อง 3 เราและเพื่อนพากันขำกร๊ากเลย ฮ๋าๆๆๆ
นั่งรถไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางที่เราจะไปนั่งห่วงยางล่องไปในถ้ำละ
ถึงตอนนี้คงไม่ต้องบรรยายละนะ อยากให้ลองไปดู มันสนุก มากเลยละ
ภาพก่อนเข้าถ้ำ เอาไฟฉายติดหัวไปด้วย ในถ้ำมันมืด ถ้ามาเที่ยวหน้าฝน เข้าถ้ำไม่ได้นะ น้ำเยอะ ล้นถ้ำ
เสร็จแล้วพักทานข้าว ข้าวฟรี มีขนมปัง ข้าวผัด บาบีคิว
นั่งรถต่อไปพายเรือคะยัก
จุด start
ไปเลยค๊าาาา สนุกสนาน เรานั่งกับเพื่อนหนึ่งคน และหัวหน้าทัวร์
ส่วนเพื่อนเราเค้าได้หนุ่มจีน สัญชาติเมกันพายให้ ฟินไปดิ 555555555
พายไปก็แกล้งกันไป สนุกสนาน
ผ่านไปครึ่งทาง เค้าพาเทียบท่า จอดพัก นั่งชิล เล่นวอลเล่ หรือเล่นปิงปองดื่มเหล้า ก็ว่าไปตามใจชอบ พัก 40นาที
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น