ทำไมต้องมหาลัยรัฐบาลเท่านั้นคะผู้ใหญ่ประเทศไทย ???

น้องสงสัยมากค่ะ ว่าประเทศไทยนี่เป็นอะไรกันมากป่ะคะ ทำไมชอบมองคนที่สถาบันมากกว่าความสามารถของตัวบุคคล อีฝ่าย HR ก็ชอบพูดทำนองว่า ต่างมหาลัยค่านิยมก็ไม้หมือนกัน เคยเห็นมาเยอะ ทำงานร่วมกันลำบาก แล้วก็มาใช้เหตุผลนี้ตัดสินว่าถ้าไม่จบจากที่นี่ ที่นั่น ก็ทำงานร่วมกันไม่ได้  คือไร จบจากจุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร มหิดล แล้วร่อนลมได้เหมือนว่าว??

อีพวกที่เรียนเอกชนนี่ถ้าไม่ใช่เอแบคนี่ไร้ความสามารถ ไม่มีปัญญาสอบแข่งขันฟันไฝว้กะชาวบ้านหรือยังไง ??

ถ้าพวกคุณคิดแบบนั้นขอบอกว่าผิดค่ะ ส่วนตัวน้องนะคะ น้องสอบรับตรงติดอีมหาลัยรัฐดังๆหลายที่ค่ะ ขอบอกว่าสอบรับตรงนะคะ ^^ ธรรมศาสตร์  ลาดกระบัง มหิดล ทุนเรียนฟรีราชภัฏ บางมด น้องไม่ติดคณะหงุมหงิมนะคะ ติดวิศวะเคมี  ติดทุนเรียนครู ติดสหเวช นะคะ


แล้วทำไมไม่เอา อยากบอกว่าที่บ้านไม่มีตังส่ง ส่งตัวเองเรียนมาตั้งแต่มอปลายค่ะ ถามว่าอยากเรียนมั้ยที่ดังๆ บอกเลยมีปัญญาสอบได้คุณอยากสละสิทธิ์มั้ยล่ะ??

  อย่าพูดว่ากู้ได้ ตังแค่ไม่กี่หมื่นออกก่อนไปเดะก้อได้คืนตอน กยศ ออก สำหรับบางคนคุณมีทางเลือก แต่บางคนอย่าใช้คำว่าแค่ ไม่มีคือไม่มีค่ะ จบ

ตกลงเรียนที่ไหน?? ได้ทุนเรียนวิทยาลัยนานาชาติที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ ไม่เสียแม้แต่ค่าแรกเข้า โอเคมากสำหรับมนุษย์ที่ไม่มีทางเลือก

แล้วมาเวิ่นเว้ออะไรในพันทิป คือไม่เข้าใจค่ะว่าประเทศไทยเปนอะไรกันไปหมดคะ อีมองชื่อสถาบัน คุณรู้มั้ยคะว่าค่านิยมปัญญาอ่อนแบบนี้มันติดเข้าไปในสันดานเยาวชนให้ดูถูกกันเองเพียงเพราะสถาบันมากค่ะ

ล่าสุดเจอกับตัว ใส่ชุดนักศึกษาไปเดินห้าง เจอนักศึกษามหาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งที่เวลาแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์มนุษย์มอปลายหลายหมื่นชอบแห่ไปอ่ะค่ะ นางมองตรามหาลัย แล้วทำหน้าเหม็นปลาเค็มใส่  คือไรคะ ??

เรียนรัฐบาลดังแล้วไงถ้าไร้มารยาท  หรือสังคมของพวกนางนี่แข่งขันถีบหัวกันสนุกสนานจนดูถูกชาวบ้านเค้าเป็นกิจวัตร

น้องเรียนเอกชน ถึงไม่แข่งขันกันสูงมากเหมือนในมหาลัยรัฐบาล แต่น้องเชื่อค่ะว่าน้องมีความสามรถไม่เเพ้รัฐบาลดังๆแน่นอน

อยากฝากถึงผู้ใหญ่ทุกคนที่ได้อ่านกระทู้นี้นะคะ  ถึงเราจะเรียนเอกชน ถึงพวกคุณจะคิดว่าเราไม่ได้ผ่านสนามการแข่งขันมาอย่างโชกโชนตลอดสี่ปี ถึงคุณจะมองว่าเด็กเอกชนที่ไม่ใช่เอแบคคือเด็กที่ไม่มีทางเลือกเรียนไปวันๆ คุณอย่าเอามุมมองของคุณมาตัดสินเราเลยค่ะ ทุกคนมันไม่ใช่แบบนั้น  
เพราะน้องเป็นเด็กที่ไม่มีเงินจะเรียน สิ่งที่คิดในหัวคือเรียนรามแน่นอน แต่โชคดีทุนที่มหาลัยเอกชนแห่งนี้ให้โอกาสได้มาเรียนต่อในวิทยาลัยนานาชาติ ที่ชาตินี้ไม่มีปัญญาหาเงินมาเรียนเองแน่นอน

น้องไม่รู้ว่าคุณเคยเจออะไรมา ฝ่ายHR เคยเจออะไรมา แต่อยากบอกว่า โอกาสคือสิ่งที่ทุกคนอยากได้ อย่าตัดสินคนเพียงสถาบัน สิ่งที่ทำประโยชน์ให้คุณคือศักยภาพ คือความสามารถของเรา ไม่ใช่ชื่อสถาบันของเรา

สำหรับบางคนเค้าอาจมีเพียบพร้อมในการเลือกเรียน แต่สำหรับบางคนเค้าไม่มีอะไรเลย แค่มีหนทางให้เรามีโอกาสเรียน เราไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นมหาลัยรัฐหรือเอกชน เราสนแค่ว่า เรามีโอกาสเรียน มีโอกาสหาความรู้ มีโอกาสพัฒนาความสามารถ และเราแค่หวังว่าเราจะมีโอกาสในการทำงานเช่นกัน.

ปล. กระทู้แรกผิดพลาดขออภัยด้วยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
การวัดผลแต่ละแห่งไม่เท่ากันอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะ ม.รัฐกับเอกชน หรือระหว่างม.รัฐด้วยกันเอง
การที่ บรัษัทเลือกจากมหาวิทยาลัยก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศก็ตาม

บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นให้โควต้าสมัครงานแบบ recommendation แก่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นภาควิชาเดียวกันโควต้าแต่ละแห่งไม่เท่ากันเลยครับ

- มหาวิทยาลัยรัฐอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นในโตเกียว ได้ 5 คน
- มหาวิทยาลัยรัฐอันดับหนึ่งในโอซาก้า ได้ 1 คน
- มหาวิทยาลัยรัฐอันดับหนึ่งในเกียวโต ได้ 1 คน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่