นาทีนี้ ข้าบดินทร์ คงเป็นละครที่ไม่มีใครไม่รู้จักแล้วล่ะค่ะ ไหนจะประวัติศาสตร์ฟาดขึ้นกระทู้แนะนำเรียบ ไหนจะกระแสทั้งในและนอกพันทิป เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีว่าละครเรื่องนี้ "มีดี"
เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึงแล้วค่ะ เพราะกระทู้อื่น คนอื่นก็พูดไปหมดแล้ว
แต่อย่างนึงค่ะ ที จขกท. ถูกอกถูกใจ ชอบมากถึงมากที่สุดในละครเรื่องนี้นับตั้งแต่ออนแอร์วันแรก ก็คือ "ภาษาไทย" ค่ะ
มันก็เป็นภาษาไทยแบบเก่าๆที่เราได้ยินกันบ่อยๆในละครเนี่ยแหละค่ะ แต่เรื่องนี้เขาร้อยคำพูดได้สวยกว่า ได้ความหมายกว่า
หาจุดกึ่งกลางระหว่างสมัยก่อนกับปัจจุบันได้อย่างลงตัว คือ หนึ่งประโยคของเรื่องนี้ คำจะเป็นภาษาไทยเก่าๆทั้งหมด
แต่ความหมาย นัยยะ วิธีสื่ออาจจะมีแบบสมัยใหม่บ้าง โครงสร้างประโยค ฟังแล้วจะรู้เลยว่าเป็นวิธีพูดของคนปัจจุบัน
แต่สามารถเลือกใช้ "คำ" แบบสมัยเก่ามาร้อยใหม่ได้อย่างสวยงาม เช่น "กลัวคนไม่รู้ดอกหรือเจ้าคะ ว่าเรารู้จักกัน" คือรูปประโยคแบบนี้มันเป็นประโยคแบบสมัยปัจจุบัน ที่เชื่อว่าไม่มีในสมัยก่อนแน่ๆ แต่คือเรื่องนี้คนเขียนเอามาประยุกต์ได้สร้างสรรค์และได้ผลมาก
คือทำให้คนใหม่ๆฟังคำเก่าๆได้เข้าใจ เจ๋งมากค่ะ
คือละครเรื่องก่อนๆหนึ่งประโยค ก็จะมี รึ, ดอก,หาไม่ บลาๆ ว่าไป แต่คือมันก็ฟังแล้วแบบ ไม่สุดอะ
แต่เรื่องนี้คือ ฟังแล้ว เฮ้ย ฟังแล้วสะดุด คือไม่ได้สะดุดเพราะมันแปร่ง แต่มันร้อยคำได้สวยจนต้องหยุดฟังจนจบประโยค
นักแสดงเองก็เก่งมากค่ะ ที่พูดประโยคแบบนั้นได้คล่อง เว้นวรรคตอนเหมาะสม มันเลยทำให้ "ภาษาไทย" ในเรื่องนี้ต่างจากละครพีเรียดอื่นๆ
อิฉันนี่ปรบมือแรงๆให้กับ ผกก. คนเขียนบท แล้วก็นักแสดงด้วยเลยจ้าค่ะ T[]T
นอกจากภาษาจะสวยไม่พอ มันยังสามารถใช้คำแบบนั้นมาสื่อได้หลากหลายอารมณ์มากค่ะ
อย่างฉากที่เชื่อว่าโดนใจคนไทยค่อนประเทศอย่างแรง (อิฉันด้วย) คือฉากที่พี่ทับทิมมาต่อว่าเจ้าบัวได้ถึงเครื่องมาก
คือภาษาไทยสมัยเก่านี่ ถ้าใช้ดีๆนี่น่ากลัวและดุเด็ดเผ็ดกว่าที่คิดนะคะ T^T อิฉันฟังไปก็หน้ายู่ไป ปากจู๋ไป คือเจ็บแทนแม่บัวอะค่ะ
โดยเฉพาะประโยค "เจ้ามันทะยานอยากไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่สมควรเกิดเป็นพี่น้องท้องเดียวกันเลย !"
จบประโยคอันฉันซี๊ดปากลั่นบ้าน แม่นี่หันมาจิกตาใส่เชียวค่ะ
มันไร้คำหยาบ มันเป็นคำธรรมดาๆ แต่วิธีเรียบเรียงกับความหมาย มันไม่ธรรมดาเลยค่ะ พูดไปจุกอกแทนแม่บัวไป เจ็บไปถึงไส้ติ่ง อะเหื้ออออ
นอกจากประโยคยาวๆ ประโยคสั้นๆก็ยังหาคำมาพ้องทั้งเสียงทั้งความหมาย อย่างเช่น "ทำผิดไม่สำนึก ยังดื้อดึงถือทิฐิอีก"
คือฟังแล้วแบบ เหยยยยยย จะกลอนก็ไม่กลอน แต่จะธรรมดารึ ก็ไม่ ปรบมือสิคะ เอ้าาา

ยังไม่หมดนะคะ ฉากต่อว่าก็ถึงเครื่อง พอฉากรักละพ่อคู๊ณณณณณณณณณ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่ประโยคนี้สำหรับอิฉันมัน EROTIC มากกก
มันคือประโยคตอนที่พ่อเหมจะแอ๊วหอมแก้มแม่ลำดวนนั่นแหละค่ะ พอแม่ลำดวนเอียงอายเข้าหน่อย พ่อก็หยอดเข้าให้
"พี่ปล่อยเจ้าไปก็ได้ แต่รอให้ถึงคืนนี้ก่อนเถิด พี่จะมิคลายจากตัวเจ้าเลย"




ตายสนิทไปเลยค้าาาา T[]T
อิตอนเมานี่ก็กรุ้มกริ่มเชียวนะคะ "ลำดวนของพี่ พี่จับเจ้าได้แล้ววว" หวายยยย ไท๊ย ไทย
พื้นบ้านมาก แต่คือ น่ารักมากกก
พ่อเหมนี่นอกจากปากหวานแล้วยังปากจัดอีกนะเจ้าคะ อิฉากที่ต่อว่าแม่บัวนี่ก็ไม่ธรรมดา ถึงประโยคจะไม่มีอะไรมาก แต่อารมณ์พ่อเต็มมากค่ะ
แถมตอนตัดพ้อนี่ก็ใช่ย่อยนะคะ ฉากที่ตัดพ้อแม่บัวที่วัด พ่อก็เต็มทั้งอารมณ์ เต็มทั้งวาทะ
"แต่ยามที่แม่บัวทิ้งฉัน ฉันถึงได้เสียใจราวกับถูกควักหัวใจมาโยนใส่กองไฟ"
"จากที่รักเสมือนน้อง ก็กลายเป็นซาบซึ้งในน้ำใจ แล้วก็เปลี่ยนเป็นรักปักใจ"
คือ แบบ ว่าาาาาาาาาาาาาาาา ไม่ได้เกรงใจชะนีตาดำๆที่นั่งฟังพ่ออยู่หน้าตู้สี่เหลี่ยมส่องแสงได้นี้เลยนะเจ้าคะ !!! แหม่
คือด้วยภาษาไทยมันสวยมาก มันเลยเป็นอีกจุดที่สรรสร้างให้ตัวละครมีอารมณ์หลากหลาย เพราะคนเราสื่อสารผ่านคำพูด
ตอนนี้ จขกท. อายุยี่สิบกว่าๆ ไม่ได้อยากเรียนภาษาจีนให้ทันอาเซียน หรือภาษาอังกฤษให้คุยโวกับใคร (เรียนพอเอาตัวรอดก็เอาแล้ววว)
แต่กลับอยากมาเรียน "ภาษาไทย" ให้มันแตกฉาน แล้วเอามาร้อยคำสวยๆแบบนี้ใช้บ้าง จขกท. รักและศรัทธาภาษาไทยมาตลอด
วันนี้ต้องขอบคุณละครเรื่องนี้ที่ทำให้เห็นว่า ภาษาไทย เมื่อใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูกต้อง ใช้อย่างสร้างสรรค์ มันสวยงามมากจริงๆ
เพื่อนๆชาวพันทิปคิดว่ายังไงกันบ้างคะ ???
ปล1.เพิ่มเติมเนื้อหานิดหน่อยค่ะ พึ่งนึกออก
ปล2.ไม่รู้ใครคิดเอาเจมส์ มาร์ เป็นพรีเซนเตอร์อาหารแมว มีโอ ฉากตอนเมาแล้วไปง้อแม่ลำดวนคือ เหมือนแมวเลยอะ แก้มป่องๆ คลอเคลียๆ หวายยย

ปรบมือดังๆให้กับ "ภาษาไทย" ของ ข้าบดินทร์
เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึงแล้วค่ะ เพราะกระทู้อื่น คนอื่นก็พูดไปหมดแล้ว
แต่อย่างนึงค่ะ ที จขกท. ถูกอกถูกใจ ชอบมากถึงมากที่สุดในละครเรื่องนี้นับตั้งแต่ออนแอร์วันแรก ก็คือ "ภาษาไทย" ค่ะ
มันก็เป็นภาษาไทยแบบเก่าๆที่เราได้ยินกันบ่อยๆในละครเนี่ยแหละค่ะ แต่เรื่องนี้เขาร้อยคำพูดได้สวยกว่า ได้ความหมายกว่า
หาจุดกึ่งกลางระหว่างสมัยก่อนกับปัจจุบันได้อย่างลงตัว คือ หนึ่งประโยคของเรื่องนี้ คำจะเป็นภาษาไทยเก่าๆทั้งหมด
แต่ความหมาย นัยยะ วิธีสื่ออาจจะมีแบบสมัยใหม่บ้าง โครงสร้างประโยค ฟังแล้วจะรู้เลยว่าเป็นวิธีพูดของคนปัจจุบัน
แต่สามารถเลือกใช้ "คำ" แบบสมัยเก่ามาร้อยใหม่ได้อย่างสวยงาม เช่น "กลัวคนไม่รู้ดอกหรือเจ้าคะ ว่าเรารู้จักกัน" คือรูปประโยคแบบนี้มันเป็นประโยคแบบสมัยปัจจุบัน ที่เชื่อว่าไม่มีในสมัยก่อนแน่ๆ แต่คือเรื่องนี้คนเขียนเอามาประยุกต์ได้สร้างสรรค์และได้ผลมาก
คือทำให้คนใหม่ๆฟังคำเก่าๆได้เข้าใจ เจ๋งมากค่ะ
คือละครเรื่องก่อนๆหนึ่งประโยค ก็จะมี รึ, ดอก,หาไม่ บลาๆ ว่าไป แต่คือมันก็ฟังแล้วแบบ ไม่สุดอะ
แต่เรื่องนี้คือ ฟังแล้ว เฮ้ย ฟังแล้วสะดุด คือไม่ได้สะดุดเพราะมันแปร่ง แต่มันร้อยคำได้สวยจนต้องหยุดฟังจนจบประโยค
นักแสดงเองก็เก่งมากค่ะ ที่พูดประโยคแบบนั้นได้คล่อง เว้นวรรคตอนเหมาะสม มันเลยทำให้ "ภาษาไทย" ในเรื่องนี้ต่างจากละครพีเรียดอื่นๆ
อิฉันนี่ปรบมือแรงๆให้กับ ผกก. คนเขียนบท แล้วก็นักแสดงด้วยเลยจ้าค่ะ T[]T
นอกจากภาษาจะสวยไม่พอ มันยังสามารถใช้คำแบบนั้นมาสื่อได้หลากหลายอารมณ์มากค่ะ
อย่างฉากที่เชื่อว่าโดนใจคนไทยค่อนประเทศอย่างแรง (อิฉันด้วย) คือฉากที่พี่ทับทิมมาต่อว่าเจ้าบัวได้ถึงเครื่องมาก
คือภาษาไทยสมัยเก่านี่ ถ้าใช้ดีๆนี่น่ากลัวและดุเด็ดเผ็ดกว่าที่คิดนะคะ T^T อิฉันฟังไปก็หน้ายู่ไป ปากจู๋ไป คือเจ็บแทนแม่บัวอะค่ะ
โดยเฉพาะประโยค "เจ้ามันทะยานอยากไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่สมควรเกิดเป็นพี่น้องท้องเดียวกันเลย !"
จบประโยคอันฉันซี๊ดปากลั่นบ้าน แม่นี่หันมาจิกตาใส่เชียวค่ะ
มันไร้คำหยาบ มันเป็นคำธรรมดาๆ แต่วิธีเรียบเรียงกับความหมาย มันไม่ธรรมดาเลยค่ะ พูดไปจุกอกแทนแม่บัวไป เจ็บไปถึงไส้ติ่ง อะเหื้ออออ
นอกจากประโยคยาวๆ ประโยคสั้นๆก็ยังหาคำมาพ้องทั้งเสียงทั้งความหมาย อย่างเช่น "ทำผิดไม่สำนึก ยังดื้อดึงถือทิฐิอีก"
คือฟังแล้วแบบ เหยยยยยย จะกลอนก็ไม่กลอน แต่จะธรรมดารึ ก็ไม่ ปรบมือสิคะ เอ้าาา
ยังไม่หมดนะคะ ฉากต่อว่าก็ถึงเครื่อง พอฉากรักละพ่อคู๊ณณณณณณณณณ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่ประโยคนี้สำหรับอิฉันมัน EROTIC มากกก
มันคือประโยคตอนที่พ่อเหมจะแอ๊วหอมแก้มแม่ลำดวนนั่นแหละค่ะ พอแม่ลำดวนเอียงอายเข้าหน่อย พ่อก็หยอดเข้าให้
"พี่ปล่อยเจ้าไปก็ได้ แต่รอให้ถึงคืนนี้ก่อนเถิด พี่จะมิคลายจากตัวเจ้าเลย"
อิตอนเมานี่ก็กรุ้มกริ่มเชียวนะคะ "ลำดวนของพี่ พี่จับเจ้าได้แล้ววว" หวายยยย ไท๊ย ไทย
พื้นบ้านมาก แต่คือ น่ารักมากกก
พ่อเหมนี่นอกจากปากหวานแล้วยังปากจัดอีกนะเจ้าคะ อิฉากที่ต่อว่าแม่บัวนี่ก็ไม่ธรรมดา ถึงประโยคจะไม่มีอะไรมาก แต่อารมณ์พ่อเต็มมากค่ะ
แถมตอนตัดพ้อนี่ก็ใช่ย่อยนะคะ ฉากที่ตัดพ้อแม่บัวที่วัด พ่อก็เต็มทั้งอารมณ์ เต็มทั้งวาทะ
"แต่ยามที่แม่บัวทิ้งฉัน ฉันถึงได้เสียใจราวกับถูกควักหัวใจมาโยนใส่กองไฟ"
"จากที่รักเสมือนน้อง ก็กลายเป็นซาบซึ้งในน้ำใจ แล้วก็เปลี่ยนเป็นรักปักใจ"
คือ แบบ ว่าาาาาาาาาาาาาาาา ไม่ได้เกรงใจชะนีตาดำๆที่นั่งฟังพ่ออยู่หน้าตู้สี่เหลี่ยมส่องแสงได้นี้เลยนะเจ้าคะ !!! แหม่
คือด้วยภาษาไทยมันสวยมาก มันเลยเป็นอีกจุดที่สรรสร้างให้ตัวละครมีอารมณ์หลากหลาย เพราะคนเราสื่อสารผ่านคำพูด
ตอนนี้ จขกท. อายุยี่สิบกว่าๆ ไม่ได้อยากเรียนภาษาจีนให้ทันอาเซียน หรือภาษาอังกฤษให้คุยโวกับใคร (เรียนพอเอาตัวรอดก็เอาแล้ววว)
แต่กลับอยากมาเรียน "ภาษาไทย" ให้มันแตกฉาน แล้วเอามาร้อยคำสวยๆแบบนี้ใช้บ้าง จขกท. รักและศรัทธาภาษาไทยมาตลอด
วันนี้ต้องขอบคุณละครเรื่องนี้ที่ทำให้เห็นว่า ภาษาไทย เมื่อใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูกต้อง ใช้อย่างสร้างสรรค์ มันสวยงามมากจริงๆ
เพื่อนๆชาวพันทิปคิดว่ายังไงกันบ้างคะ ???
ปล1.เพิ่มเติมเนื้อหานิดหน่อยค่ะ พึ่งนึกออก
ปล2.ไม่รู้ใครคิดเอาเจมส์ มาร์ เป็นพรีเซนเตอร์อาหารแมว มีโอ ฉากตอนเมาแล้วไปง้อแม่ลำดวนคือ เหมือนแมวเลยอะ แก้มป่องๆ คลอเคลียๆ หวายยย