สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้ที่จะพูดในลักษณะตำหนิติเตียนและรีวิว กระทู้แรกของผม ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือทำให้เกิดความไม่พอใจอันใด ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ขอเกริ่นนำว่า..
ผมและแฟนเราเป็นคนกรุงเทพนี่แหละครับ แฟนผมมีอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิสบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนตัวผมเป็นพ่อค้าครับ รับของราคาส่งไปตระเวนขาย ออกต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน สัปดาห์นึงจะกลับมากรุงเทพสักหนสองหน เวลาที่ผมกลับมานั้น ผมก็จะชวนแฟนไปหาที่พัก เพื่อจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน(เรายังไม่ได้แต่งงานกัน และยังไม่มีบ้านที่จะใช้อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างอยู่กับครอบครัวครับ) บางทีแฟนได้หยุด ก็จะพาไปพักไปเที่ยวต่างจังหวัด ครั้งไหนไม่ได้หยุด ก็จะหาที่พักในกรุงเทพนี่แหละครับ ส่วนใหญ่ก็จะเซิสหาในอโกด้า ขอรีวิวให้อ่านก่อนนะครับ..
บังเอิญว่าเราอยากกินของอร่อยที่เยาวราช เลยเซิสหาที่พักแถวนั้น ดูที่ราคา ความสะอาด และรีวิวจากคนอื่น ก็มาสนใจที่ Check inn Chinatown นี่แหละครับ เลยลองโทรเข้ามาสอบถาม ซึ่งพนักงานรับสายก็พูดจาดีมากครับ(ไม่ใช่คนที่ผมจะตำหนินะครับ) อธิบายเส้นทาง อธิบายรายละเอียดของห้องพักได้ดี สุภาพและใจเย็น(ผมถามซ่อกแซ่กครับ เพราะไม่เคยไป เลยกลัว ต้องถามให้ละเอียด) และอีกอย่างที่นี่รับจองแบบไม่ต้องโอนเงินก่อน ซึ่งมันสะดวกมากเวลาที่เราจะไปพักที่ไหนโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน ตัวโรงแรมนั้น อยู่ในกลางซอยเจริญกรุง 14 ซึ่งสามารถเดินทะลุไปถนนเยาวราชได้ แต่ถ้าเดินตอนกลางคืนก็ต้องระวังนิดนึงครับ เพราะเป็นซอยเล็ก ค่อนข้างเงียบและเปลี่ยว เป็นย่านชุมชนเก่า ไม่ค่อยสะอาดมากนัก แต่พอเดินเข้าไปถึงโรงแรม ผมก็พอใจมากเลยครับ
ตัวโรงแรมนั้นดูสะอาดและเป็นส่วนตัว เพราะเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ห้องพักก็ครบถ้วนไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เครื่องครัว กาน้ำร้อน ไมโครเวฟ แก้ว จาน ชาม ซ้อนส้อม เตาทำอาหาร กระทะ ตะหลิว น้ำยาล้างจาน ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ให้ครบถ้วนครับ
อ้อ แต่ในห้องพักไม่มีไดร์เป่าผมให้ แฟนผมเค้าสระผมจึงต้องใช้ ผมเลยโทรไปที่ฟร้อนท์ ถามว่ามีไดร์เป่าผมมั้ย พนักงานก็ตอบว่ามี และเอาขึ้นมาให้ถึงห้อง โอ้ ผมประทับใจเลย พูดจาดี และบริการดี จนลืมไปเลยว่าเป็นเป็นโรงแรมขนาดเล็ก เป็นครั้งแรกที่ประทับใจ และคิดว่าจะกลับมาใหม่แน่นอน..
ขอเข้าเรื่อง Complain นะครับ..
เป็นอีกครั้งที่ผมกลับมากรุงเทพ และแน่นอนผมก็คิดถึง Check inn Chinatown ผมปรึกษาแฟนว่าจะไปพักที่นี่อีก แฟนก็โอเค ผมรีบโทรไปจะจองครับ เจอพนักงานคนที่มีกรณีคนนี้รับสาย เป็นผู้ชาย ผิวคล้ำ และก็เป็นเพศที่ 3(ผมไม่ทราบว่าโรงแรมนี้มีพนักงานกี่คน และเป็นเพศที่ 3 กี่คน ถ้าผมพาดพิงผิด ก็ขออภัยอย่างสูงเลยนะครับ)
ผม : "มีห้องว่างไหมครับ?"
พนง : "มีเหลือแต่ห้องข้างล่างครับ" (ชั้น 1 ชั้นฟร้อนท์เลย)
ผม : "เอ่อ ชั้นล่างเลยหรอครับ?" (ผมกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะคงมีคนเดินผ่านไปมา และเรื่องความสะอาด เพราะแถวนั้นเป็นชุมชนเก่า ชั้นล่างมันเสี่ยงที่จะเจอปีเตอร์น่ะครับ)
ผม : "อืมม เอาไงดีนะ ผมไม่อยากได้ชั้นล่าง" (อารมณ์แบบพึมพำเบาๆ ไม่ถึง 5 วินาที)
พนง : "ตกลงจะจองมั้ยครับ?" (อ้าวเห้ย!ใจเย็นดิ คือรู้ว่าไม่มีทางเลือก แต่ให้เวลากูชั่งใจนิดส์นึงสิ)
ผม : "จะจะจองครับ" (ทำกูลนเลย)
พนง : "ขอชื่อ/เบอร์ติดต่อกลับด้วยครับ"
ผม : "xxx xxxxxx ครับ"
พนง : "แค่นี้นะครับ" (เออ เคๆ เห้ย!ไม่ใช่ ปกติเค้าสวัสดีครับกันไม่ใช่หรอ เอาซะกูคิดว่าคุยกับเพื่อนเล่นอยู่เลย)
ผม งงกับการคุยโทสับกับ พนง ครั้งนี้มาก ไม่เหมือนเดิมเลย แปลกๆ
ไคลแมกซ์แล้วครับ..
เมื่อมาถึง กลางดึกนะครับ ประมาณ 4 ทุ่ม มาถึงโรงแรม ห้องชั้นล่างมีประมาณ 5-6 ห้อง ตอนนั้นมีที่ไม่ว่างห้องนึง ที่เหลือว่างหมด ผมจึงบอก พนง คนนี้ว่าขอเดินเลือกก่อนได้ไหม พนง ก็ตอบว่าได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่มีที่อยากได้เลย เพราะเป็นชั้นล่าง แต่ก็ต้องตัดสินใจเลือกเพราะต้องการที่จะพักแล้ว จังหวะโชคดีหรือร้ายไม่รู้ ที่มีแขกอีกกลุ่มมา Walk in พอดี จังหวะพอดีกับตอนผมเดินไปบอก พนง ว่าตกลงเอาห้องนี้ พนง คนนี้ก็ปล่อยให้ผมรอ คือไม่พูดด้วยนะ ว่า "สักครู่นะครับ" คือเหมือนเราเป็นอากาศธาตุ เลือกคุยกับแขกที่มาใหม่ก่อน จังหวะที่แขกหันไปคุยตัดสินใจกัน พนง คนนี้ก็

ก้มหน้ากดมือถือเล่นเกมส์ (แทนที่จะหันมารับเรื่องผมก่อน อีกอย่างผมก็มาก่อน ควรให้ผมเลือกและเข้าห้องพักก่อน) รอจนแขกมาใหม่กำลังจะเอ่ยเลือกห้องแล้ว ผมก็เลยรีบโพล่งเสียงดังออกไปก่อนเลย
ผม : "ผมเอาห้อง xxx ครับ!!"
คือเรากลัวไง ว่าเค้าจะเลือกห้องที่เราเลือก และเริ่มไม่พอใจว่า ทำไมไม่ให้เราตัดสินใจก่อนวะ เรามายืนรอแล้วนะ

เล่นเกมส์ต่อหน้าเลย(เกมส์ไพ่อะไรสักอย่าง ผมจำได้ เป็นหลักฐานว่าผมไม่ได้กล่าวหาลอยๆ หากมีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเข้ามาอ่านเจอ) แขกที่มาใหม่เห็นผมเสียงดังขึ้นมา เค้าเลยหยุด เหมือนเค้ารู้ว่าผมมาก่อน(ขอบคุณสำหรับความมีมารยาทของพวกคุณนะครับ ทำให้ผมรู้ถึงเนื้อแท้ของการบริการของ พนง คนนี้) ก็โอเคครับ พนง คนนี้จึงทำเรื่องให้ผมก่อน หยิบกุญแจ ผมกับแฟนก็เดินเข้าห้องพัก จังหวะยังไม่ปิดประตู เราก็ได้ยินเสียงลอยมา..
พนง : "งั้นก็เป็นข้างบนห้องนึงนะ"
แขกใหม่ : "ก็ได้"
คือแขกกลุ่มนี้เค้ามากัน 3 คน จึงต้องการ 2 ห้อง ซึ่งข้างล่างเหลือแค่ 2 ห้อง(อีก 2 ห้องเห็นเค้าบอก เอาไว้เก็บของ ตอนผมเดินเลือก เห็นกระเป๋าเดินทางวางไว้อยู่ นี่งงเหมือนกัน คือไรอะ จองไว้หรอ?) ซึ่งข้างล่างก็มีผมเอาแล้วห้องนึง เค้าเลยต้องพักชั้นบนอีกห้องนึง แต่..! เดี๋ยวนะ!!? เดี๋ยว!?!? ข้างบน??
ยืนงงกับแฟนอยู่ มีห้องข้างบนด้วยหรอ ไหนบอกเต็ม ?? งง หรือฟังผิด ? แฟนผมเลยเดินออกไปถาม เพื่อความชัวร์ ว่ามีห้องข้างบนเหลือด้วยหรอ ?
พนง : "มีครับ"
เท่านั้นแหละ ผมฟิวส์ขาดเลย เลยเดินตามแฟนมา..
ผม : "ไหนคุณบอกว่าเต็มหมด เหลือแต่ด้านล่าง"
พนง : "พอดี ลค พึ่งแคนเซิล"

เริ่มไม่มีหางเสียง)
ผม : "แคนเซิลตอนไหน?"
พนง : "ก็ก่อนน้องมา" (น้องพ่อง หน้ากูแก่กว่าอีก)
ผม : "อ้าวแล้วทำไม ไม่โทรแจ้ง หรือไม่บอกผมเมื่อกี้ ผมไม่อยากพักชั้นล่าง ผมก็แจ้งแล้วนี่"
พนง : "ให้แขกคนมะกี้ไปแล้วอะ"
ผม : "รู้แล้วว่าให้ไปแล้ว คืออยากรู้ว่าทำไมไม่บอกผม คุณก็รู้ว่าผมอยากพักชั้นบน"
พนง : "นี่ห้อง น้องก็เดินเลือกเองนะ" (เริ่มขึ้นเสียง)
ผม : "เอ้า ก็เลือกเพราะคิดว่าห้องชั้นบนเต็มหมดแล้วไง"
พนง : "นี่น้องก็เลือกของน้องเองนะ"

จบโอเคครับสัส)
ผม : "เอาเงินคืน ไม่พักละ จัดการได้มั้ย?"
และผมกับแฟน ก็เดินไปเรียกรถ เซิสหาที่พักอีกตอนเกือบห้าทุ่ม ริมถนนมืดๆ ผมสงสารแฟนมาก
คือผมก็เกือบจะพักได้แล้วนะ ชั้นล่างก็ได้ ยอม แต่มันทนไม่ได้ที่มาถูกทำให้เสียความรู้สึกแบบนี้ อยากกลับมา อยากมาอีกบ่อยๆ แต่นี่หรือสิ่งตอบแทนที่เราได้รับ แลกกับเงินเสียไป แลกกับความประทับใจที่มีให้ที่นี่
มาถึงตรงนี้ผม เสียความรู้สึกมาก คือ
1.ไม่แจ้งลูกค้าเมื่อมีห้องที่ลูกค้าต้องการว่างขึ้นมา
2.ทั้งที่ลูกค้ายืนรอ แต่มือจับแต่มือถือเล่นเกม
3.การตอบการแก้ปัญหาทำให้รู้เลยว่าคุณไม่เหมาะกับสายงานนี้เลยสักนิดเดียว
พนักงานที่มีปัญหาเป็นผู้ชายเพศที่ 3 ผิวดำ ท้วม ใบหน้ามีริ้วรอย กระสิว เด่นชัด
ผมเชียร์นะครับหากเพื่อนๆ คิดจะไปพักที่นี่ ที่พักเค้าน่าพัก แต่ก็เตรียมรับมือกับเหตุการณ์เช่นนี้ไว้บ้างก็ดีครับ การพาแฟนมายืนหิ้วกระเป๋ารอเรียกรถ ไปตระเวนหาที่พักตอนห้าทุ่ม แทนที่จะได้พักเหนื่อยจากการทำงานทั้งวันมา มันเป็นอะไรที่แย่มากๆครับ และการแก้ไขความรู้สึกที่เสียไปให้เราก็ห่วยแตก และไม่จะมางานแบบนี้ได้เลยครับ
ขอรีวิวและตำหนิพนักงานบางคนที่ Check inn Chinatown
ขอเกริ่นนำว่า..
ผมและแฟนเราเป็นคนกรุงเทพนี่แหละครับ แฟนผมมีอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิสบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนตัวผมเป็นพ่อค้าครับ รับของราคาส่งไปตระเวนขาย ออกต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน สัปดาห์นึงจะกลับมากรุงเทพสักหนสองหน เวลาที่ผมกลับมานั้น ผมก็จะชวนแฟนไปหาที่พัก เพื่อจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน(เรายังไม่ได้แต่งงานกัน และยังไม่มีบ้านที่จะใช้อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างอยู่กับครอบครัวครับ) บางทีแฟนได้หยุด ก็จะพาไปพักไปเที่ยวต่างจังหวัด ครั้งไหนไม่ได้หยุด ก็จะหาที่พักในกรุงเทพนี่แหละครับ ส่วนใหญ่ก็จะเซิสหาในอโกด้า ขอรีวิวให้อ่านก่อนนะครับ..
บังเอิญว่าเราอยากกินของอร่อยที่เยาวราช เลยเซิสหาที่พักแถวนั้น ดูที่ราคา ความสะอาด และรีวิวจากคนอื่น ก็มาสนใจที่ Check inn Chinatown นี่แหละครับ เลยลองโทรเข้ามาสอบถาม ซึ่งพนักงานรับสายก็พูดจาดีมากครับ(ไม่ใช่คนที่ผมจะตำหนินะครับ) อธิบายเส้นทาง อธิบายรายละเอียดของห้องพักได้ดี สุภาพและใจเย็น(ผมถามซ่อกแซ่กครับ เพราะไม่เคยไป เลยกลัว ต้องถามให้ละเอียด) และอีกอย่างที่นี่รับจองแบบไม่ต้องโอนเงินก่อน ซึ่งมันสะดวกมากเวลาที่เราจะไปพักที่ไหนโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน ตัวโรงแรมนั้น อยู่ในกลางซอยเจริญกรุง 14 ซึ่งสามารถเดินทะลุไปถนนเยาวราชได้ แต่ถ้าเดินตอนกลางคืนก็ต้องระวังนิดนึงครับ เพราะเป็นซอยเล็ก ค่อนข้างเงียบและเปลี่ยว เป็นย่านชุมชนเก่า ไม่ค่อยสะอาดมากนัก แต่พอเดินเข้าไปถึงโรงแรม ผมก็พอใจมากเลยครับ
ตัวโรงแรมนั้นดูสะอาดและเป็นส่วนตัว เพราะเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ห้องพักก็ครบถ้วนไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เครื่องครัว กาน้ำร้อน ไมโครเวฟ แก้ว จาน ชาม ซ้อนส้อม เตาทำอาหาร กระทะ ตะหลิว น้ำยาล้างจาน ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ให้ครบถ้วนครับ
อ้อ แต่ในห้องพักไม่มีไดร์เป่าผมให้ แฟนผมเค้าสระผมจึงต้องใช้ ผมเลยโทรไปที่ฟร้อนท์ ถามว่ามีไดร์เป่าผมมั้ย พนักงานก็ตอบว่ามี และเอาขึ้นมาให้ถึงห้อง โอ้ ผมประทับใจเลย พูดจาดี และบริการดี จนลืมไปเลยว่าเป็นเป็นโรงแรมขนาดเล็ก เป็นครั้งแรกที่ประทับใจ และคิดว่าจะกลับมาใหม่แน่นอน..
ขอเข้าเรื่อง Complain นะครับ..
เป็นอีกครั้งที่ผมกลับมากรุงเทพ และแน่นอนผมก็คิดถึง Check inn Chinatown ผมปรึกษาแฟนว่าจะไปพักที่นี่อีก แฟนก็โอเค ผมรีบโทรไปจะจองครับ เจอพนักงานคนที่มีกรณีคนนี้รับสาย เป็นผู้ชาย ผิวคล้ำ และก็เป็นเพศที่ 3(ผมไม่ทราบว่าโรงแรมนี้มีพนักงานกี่คน และเป็นเพศที่ 3 กี่คน ถ้าผมพาดพิงผิด ก็ขออภัยอย่างสูงเลยนะครับ)
ผม : "มีห้องว่างไหมครับ?"
พนง : "มีเหลือแต่ห้องข้างล่างครับ" (ชั้น 1 ชั้นฟร้อนท์เลย)
ผม : "เอ่อ ชั้นล่างเลยหรอครับ?" (ผมกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะคงมีคนเดินผ่านไปมา และเรื่องความสะอาด เพราะแถวนั้นเป็นชุมชนเก่า ชั้นล่างมันเสี่ยงที่จะเจอปีเตอร์น่ะครับ)
ผม : "อืมม เอาไงดีนะ ผมไม่อยากได้ชั้นล่าง" (อารมณ์แบบพึมพำเบาๆ ไม่ถึง 5 วินาที)
พนง : "ตกลงจะจองมั้ยครับ?" (อ้าวเห้ย!ใจเย็นดิ คือรู้ว่าไม่มีทางเลือก แต่ให้เวลากูชั่งใจนิดส์นึงสิ)
ผม : "จะจะจองครับ" (ทำกูลนเลย)
พนง : "ขอชื่อ/เบอร์ติดต่อกลับด้วยครับ"
ผม : "xxx xxxxxx ครับ"
พนง : "แค่นี้นะครับ" (เออ เคๆ เห้ย!ไม่ใช่ ปกติเค้าสวัสดีครับกันไม่ใช่หรอ เอาซะกูคิดว่าคุยกับเพื่อนเล่นอยู่เลย)
ผม งงกับการคุยโทสับกับ พนง ครั้งนี้มาก ไม่เหมือนเดิมเลย แปลกๆ
ไคลแมกซ์แล้วครับ..
เมื่อมาถึง กลางดึกนะครับ ประมาณ 4 ทุ่ม มาถึงโรงแรม ห้องชั้นล่างมีประมาณ 5-6 ห้อง ตอนนั้นมีที่ไม่ว่างห้องนึง ที่เหลือว่างหมด ผมจึงบอก พนง คนนี้ว่าขอเดินเลือกก่อนได้ไหม พนง ก็ตอบว่าได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่มีที่อยากได้เลย เพราะเป็นชั้นล่าง แต่ก็ต้องตัดสินใจเลือกเพราะต้องการที่จะพักแล้ว จังหวะโชคดีหรือร้ายไม่รู้ ที่มีแขกอีกกลุ่มมา Walk in พอดี จังหวะพอดีกับตอนผมเดินไปบอก พนง ว่าตกลงเอาห้องนี้ พนง คนนี้ก็ปล่อยให้ผมรอ คือไม่พูดด้วยนะ ว่า "สักครู่นะครับ" คือเหมือนเราเป็นอากาศธาตุ เลือกคุยกับแขกที่มาใหม่ก่อน จังหวะที่แขกหันไปคุยตัดสินใจกัน พนง คนนี้ก็
ผม : "ผมเอาห้อง xxx ครับ!!"
คือเรากลัวไง ว่าเค้าจะเลือกห้องที่เราเลือก และเริ่มไม่พอใจว่า ทำไมไม่ให้เราตัดสินใจก่อนวะ เรามายืนรอแล้วนะ
พนง : "งั้นก็เป็นข้างบนห้องนึงนะ"
แขกใหม่ : "ก็ได้"
คือแขกกลุ่มนี้เค้ามากัน 3 คน จึงต้องการ 2 ห้อง ซึ่งข้างล่างเหลือแค่ 2 ห้อง(อีก 2 ห้องเห็นเค้าบอก เอาไว้เก็บของ ตอนผมเดินเลือก เห็นกระเป๋าเดินทางวางไว้อยู่ นี่งงเหมือนกัน คือไรอะ จองไว้หรอ?) ซึ่งข้างล่างก็มีผมเอาแล้วห้องนึง เค้าเลยต้องพักชั้นบนอีกห้องนึง แต่..! เดี๋ยวนะ!!? เดี๋ยว!?!? ข้างบน??
ยืนงงกับแฟนอยู่ มีห้องข้างบนด้วยหรอ ไหนบอกเต็ม ?? งง หรือฟังผิด ? แฟนผมเลยเดินออกไปถาม เพื่อความชัวร์ ว่ามีห้องข้างบนเหลือด้วยหรอ ?
พนง : "มีครับ"
เท่านั้นแหละ ผมฟิวส์ขาดเลย เลยเดินตามแฟนมา..
ผม : "ไหนคุณบอกว่าเต็มหมด เหลือแต่ด้านล่าง"
พนง : "พอดี ลค พึ่งแคนเซิล"
ผม : "แคนเซิลตอนไหน?"
พนง : "ก็ก่อนน้องมา" (น้องพ่อง หน้ากูแก่กว่าอีก)
ผม : "อ้าวแล้วทำไม ไม่โทรแจ้ง หรือไม่บอกผมเมื่อกี้ ผมไม่อยากพักชั้นล่าง ผมก็แจ้งแล้วนี่"
พนง : "ให้แขกคนมะกี้ไปแล้วอะ"
ผม : "รู้แล้วว่าให้ไปแล้ว คืออยากรู้ว่าทำไมไม่บอกผม คุณก็รู้ว่าผมอยากพักชั้นบน"
พนง : "นี่ห้อง น้องก็เดินเลือกเองนะ" (เริ่มขึ้นเสียง)
ผม : "เอ้า ก็เลือกเพราะคิดว่าห้องชั้นบนเต็มหมดแล้วไง"
พนง : "นี่น้องก็เลือกของน้องเองนะ"
ผม : "เอาเงินคืน ไม่พักละ จัดการได้มั้ย?"
และผมกับแฟน ก็เดินไปเรียกรถ เซิสหาที่พักอีกตอนเกือบห้าทุ่ม ริมถนนมืดๆ ผมสงสารแฟนมาก
คือผมก็เกือบจะพักได้แล้วนะ ชั้นล่างก็ได้ ยอม แต่มันทนไม่ได้ที่มาถูกทำให้เสียความรู้สึกแบบนี้ อยากกลับมา อยากมาอีกบ่อยๆ แต่นี่หรือสิ่งตอบแทนที่เราได้รับ แลกกับเงินเสียไป แลกกับความประทับใจที่มีให้ที่นี่
มาถึงตรงนี้ผม เสียความรู้สึกมาก คือ
1.ไม่แจ้งลูกค้าเมื่อมีห้องที่ลูกค้าต้องการว่างขึ้นมา
2.ทั้งที่ลูกค้ายืนรอ แต่มือจับแต่มือถือเล่นเกม
3.การตอบการแก้ปัญหาทำให้รู้เลยว่าคุณไม่เหมาะกับสายงานนี้เลยสักนิดเดียว
พนักงานที่มีปัญหาเป็นผู้ชายเพศที่ 3 ผิวดำ ท้วม ใบหน้ามีริ้วรอย กระสิว เด่นชัด
ผมเชียร์นะครับหากเพื่อนๆ คิดจะไปพักที่นี่ ที่พักเค้าน่าพัก แต่ก็เตรียมรับมือกับเหตุการณ์เช่นนี้ไว้บ้างก็ดีครับ การพาแฟนมายืนหิ้วกระเป๋ารอเรียกรถ ไปตระเวนหาที่พักตอนห้าทุ่ม แทนที่จะได้พักเหนื่อยจากการทำงานทั้งวันมา มันเป็นอะไรที่แย่มากๆครับ และการแก้ไขความรู้สึกที่เสียไปให้เราก็ห่วยแตก และไม่จะมางานแบบนี้ได้เลยครับ