เมื่อฉันตกหลุมรักหนุ่มเยอรมัน ใน 1 สัปดาห์

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เห็นกระทู้หนุ่มต่างชาติเยอะมาก เราก็อยากจะมาแชร์ประสบการ์ความรักของเรากับหนุ่มตาน้ำข้าวกันบ้าง เราจะข้ามช่วง 18+ ไปนะคะ กลัวมีคนหาว่าเราแก่แดด 55555 เรื่องราวมันเกิดขึ้นแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงยังคิดถึงและผูกพันกับเค้าอยู่ เราว่ามันเป็นความทรงจำดีๆเลยอยากจะเขียนเหมือนเป็นบันทึกของเราไปในตัวด้วย
หนุ่มที่ว่านี้มาจากเยอรมันค่ะ ไอเราก็เคยอ่านกระทู้หนุ่มเยอรมันนะ อันนั้นฟินส์จริง ชอบมากกกกก แบบจิกหมอนไปอีก แต่แหม...พอได้เจอกับตัว ไม่คิดว่าจะดี มีความสุข และฟินส์ขนาดนี้

เริ่มแรกเลยคือ เราเล่นแอพๆนึงที่ไว้คุยกับชาวต่างชาติ ตอนแรกก็อยากจะฝึกภาษาเฉยๆ เพราะภาษาเรานี่งูๆปลาๆมาก ไปๆมาๆก็เป็นการนัดเดทไปโดยปริยาย เราก็เดทมาไม่กี่คน จนมาเจอหนุ่มเยอรมันคนนี้นี่แหละ เค้าอายุ 19 ส่วนเรา 20 เราเห็นเค้าในรูปนี่เค้าไม่ใช่สเปคเราเลยนะ จริงๆเราชอบแบบเข้มๆ มีเครา มีหนวด กล้ามบึ้กๆ ผิวแทนๆ อารมณ์ประมานสเปน ส่วนเค้าผมบลอน ตาฟ้า ขาว ผอมๆหน่อยถ้าเทียบกับหุ่นชายในฝันของเรา แต่เค้าก็หุ่นแบบวัยรุ่นฝรั่งที่เราเห็นในหนังเลย สูงประมาน 180 นิดๆได้ แต่อย่างว่าเราก็ไม่ได้หน้าตาดีอะไร จะให้เลือกมากก็ไม่ได้ 5555 ก็แบบอะ คุยๆดูละกันนน (หลงตัวเองขั้นสุด) ตอนแรกเค้าก็ทักเรามานะ ก็ชวนคุยปกติ แล้วก็แลก WhatsApp กัน คุยๆกันก็สรุปได้ว่าเค้ามาเที่ยวไทยประมาน 1-2 เดือน เป็นช่วงปิดเทอมไฮสคูล 7 เดือน แล้วเค้ากำลังขึ้นมหาวิทยาลัยปี 1 ตอนนั้นเราคิดว่า โหยยย เด็กอะ แล้ววันที่เราคุยกันเค้าก็เพิ่งมาถึงไทยได้ไม่กี่วัน เค้าชวนเราไปข้าวสาร เพื่อไปนั่งดื่มเบียร์กัน แต่วันนั้นเราไม่ว่าง เราเลยเลื่อนนัดเค้าเป็นวันถัดไป ตอนแรกเค้าก็บอกว่า ไปวันนี้เหอะนะๆๆๆ เราก็บอกไม่ได้จริงๆๆๆ เค้าก็ โอเค งั้นวันนี้เค้าจะไม่ออกไปไหน เค้าจะรอเพื่อไปเที่ยวกับเราพรุ่งนี้ ตอนนั้นเราก็แบบ เหยยยย อะไรจะขนาดนั้นอ้ะ แล้วพอวันถัดมาเราก็ดันมีธุระด่วน เบี้ยวนัดเค้าอีก ตอนนั้นเรารู้สึกผิดอะ แบบเค้าอุตส่าห์รอเรา แล้วพรุ่งนี้เค้าจะต้องนั่งรถไฟไปภูเก็ตแล้ว สรุปว่าเราก็ไม่ได้เจอเค้า เราก็ขอโทษเค้าใหญ่เลย ตอนนั้นแบบ เฮ้ยเค้าจะเกลียดเรามั้ยเนี่ย เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก เค้าทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว.. เศร้าไปอีกกกก

ตัดภาพมาที่ 2 อาทิตย์ต่อมา เค้าทัก WhatsApp เรามาอีก เพราะระหว่างที่เค้าไปเที่ยวทางใต้ เราไม่ได้คุยกันเลย ตอนแรกเราก็ไม่ได้อะไรนะ เพราะเค้าแค่มาเที่ยวเฉยๆ เค้าทักมาว่า 'เฮ้ ฉันกลับมากรุงเทพแล้วนะ เราไปเที่ยวกันมั้ย' ไอเราก็แบบ อ้าว นึกว่าลืมกันไปแล้วนะเนี่ย แล้วเราก็นัดเจอกันวันศุกร์ ตอนที่นัดกันครั้งแรกเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก ปกติเราไม่ได้ไปเที่ยวบ่อย ก็มันร้อนขนาดนี้ ไปก็แต่ตามห้าง เพราะมันมีแอร์แค่นั้นจริงๆ 55555 เค้าให้เราคิดว่าจะไปเที่ยวไหน เราก็ถามว่าแล้วชอบไปที่แบบไหน เค้าบอกว่าชอบไปสวนสาธารณะ เวลาอยู่ที่บ้านเค้าชอบปั่นจักรยานไปนอนเล่นที่สวนสาธาณะแล้วนอนฟังเพลง ตอนนั้นเราคิดว่า เอ้ย อารมณ์พระเอกในหนังที่เคยดูเลยอ้ะ แต่...สวนสาธาณะในไทย เราว่ามันคงร้อนเกินไปที่จะทำแบบนั้นได้ เราเลยถามว่ามีที่อื่นที่อยากไปมั้ย เค้าก็บอกว่าให้เราคิดมาเลย เค้าไม่ได้รู้จักกรุงเทพดีขนาดนั้น เราก็คิดไม่ออก เลยถามเค้าอีกว่า อยากไปที่แบบไหน เค้าก็ร่ายมายาวมากประมานว่า 'อะไรเนี่ยยยย ผมไม่ได้คุยกับคุณมา 2 อาทิตย์ ตลอดที่ผมไปเที่ยวผมนึกถึงคุณและหวังว่าพอกลับมาจะได้เที่ยวกัน แต่คุณกลับดันไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ถ้าคุณไปเที่ยวเยอรมัน ผมสามารถบอกคุณได้เลยอย่างน้อย 5 สถานที่ที่ดีที่สุด ที่เราสามารถไปเดทกันได้' เรานี่แบบอึ้งงงงง ก็คนมันไม่รู้อ้ะว่าจะไปที่ไหนนนน เราเลยเสนอเค้าไปเลยว่า 'Paragon?, Jatujak market? บลาๆ' ในใจเราก็หวังว่าจะให้เค้าเลือกมาซักที่ แต่เค้าดันตอบมาว่า 'ผมบอกคุณไป 12345678 ล้านครั้งแล้วว่า ผมไม่ได้รู้จักกรุงเทพดี คุณเลือกมาเลย' เรานี่แบบ อะไรรรรร กวนทีนทำไมมมมม หมั่นไส้อะ ตอบดีๆก็ได้มั้ยอะ 55555555 แต่ก็ขำนะ ไม่เคยเจอฝรั่งเล่นมุขงี้ แล้วเราก็ได้สถานที่ละ เราส่งลิ้งค์รีวิวท่ามหาราชไปให้เค้าดู เราคิดว่าเค้าจะชอบ ตอนส่งไปก็หวังให้เค้าดูรูปรีวิวเฉยๆ และก็นึกว่าเค้าจะเข้าใจว่าเราตั้งใจให้เค้าดูรูปแค่นั้น แต่เค้าก็ตอบมาว่า (ตรงนี้ขอใช้ภาษาอังกฤษนะคะ เราว่ามันตลกกว่า 5555) 'Whaaaaat? I can't read thai' เรานี่แบบ เอ้ออออออ รู้แล้วโว้ย สรุปแล้วเราก็นัดกันว่าจะไปเจอกันที่ไหน ตอนแรกเราจะให้เค้ามาลงป้ายรถเมล์หน้าบ้านเราเพราะไปจากบ้านเราแล้วใกล้กว่า hostel ที่เค้าอยู่ เค้าก็โอเค ให้เราส่งที่อยู่เราไปให้ด้วย เค้าจะให้แท็กซี่ดู เราก็ตกลงกันเสร็จละ แต่สักพักเรานึกขึ้นได้ว่า ถ้าแท็กซี่มาไม่ถูกล่ะ เราจะติดต่อเค้ายังไง เพราะถ้าเค้าออกมาข้างนอกเค้าไม่มีอินเตอร์เน็ทและโทรไม่ได้ด้วย เราเลยทักเค้าไปขอเปลี่ยนสถานที่นัดเจอกันใหม่เป็นบีทีเอสใกล้ hostel ของเค้า เค้าก็ด่าเราอีกละ 5555555 ว่า คุณนี่เป็นผู้หญิงที่ซับซ้อนที่สุดในชีวิตที่ผมเคยเจอเลยนะ เราก็แบบไรว้าาาา นี่อุตส่าห์หวังดีอะ กลัวหลงหรอกนะหู้วววว

และแล้ววันนี้ก็มาถึง ... Day 1 เราไปรอเค้าที่บีทีเอส สักพักนึงเค้าก็มา ตอนนั้นเราทำเป็นมองไม่เห็น ก้มหน้ากดโทรศัพท์ ไม่รู้ทำไปเพื่ออะไรอะ งงตัวเอง 5555555 เค้าเข้ามาทักเราข้างหล้งว่า เฮ้ หวัดดี เป็นไงบ้าง ตามสเต็พ บลาๆๆ แวบแรกเลยที่เราเห็นเค้านี่คือเค้าดูวัยรุ่นอะ แบบวัยรุ่นจริงๆ ไม่ได้ดูเป็นคนมีอายุรึอะไร ก็แน่สิ 19 เองงงง เรานั่งแท็กซี่เพื่อไปวังหลัง แล้วไปขึ้นเรือตรงนั้น ระหว่างนั่งบนแท็กซี่เค้าชวนเราคุยตลอดเลย ถามว่าเรียนอะไร ที่ไหน ปิดเทอมทำอะไรบ้าง ซึ่งคำถามพวกนั้นเค้าเคยถามเราใน WhatsApp ไปแล้ว แต่เราคิดว่าเค้าคงไม่อยากให้บรรยากาศดูเงียบๆละมั้ง เราก็มีถามเค้าบ้างว่าไปภูเก็ตเป็นไงมั่ง เค้าก็บอกว่า เค้าไปเกาะพีพี เกาะช้างมาด้วย แล้วเค้าก็หยิบรูปในโทรศัพท์มาอวดเรา เราก็เอ้อออ สวยเนอะๆอยากไปบ้างจัง เค้าก็บอกว่านี่เป็นคนไทยจริงอะ ทำไมไม่เคยไป เราก็โม้ว่าเราไม่มีเวลา จริงๆแล้วเพราะมันไกล ถ้าเราจะไปเราต้องขอพ่อแม่ เค้าบอก ก็นี่ไง ปิดเทอมอยู่ ไม่มีเวลาตรงไหนเนี่ย เราก็ไม่รู้จะตอบว่าไรละ นึกภาษาอังกฤษไม่ออก เลยขำๆไป 55555555 เค้าบอกว่า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลาผมถามคุณว่าทำอะไรอยู่ คุณมักจะตอบว่า ฮึ ไม่ได้ทำไรอะ นอนเล่น แค่เนี้ย แล้วเค้าก็โม้ว่า ผมนะพอปิดเทอมปุ๊ปก็บอกพ่อแม่เลยว่า จะไปเที่ยว see you in next 7 months บายยยปาป๊า มาม๊า เราก็แบบ แหม...ง่ายจังเว้ยเฮ้ย แต่นี่เรามันคนไทยไง แล้วผู้หญิงด้วย จะไปไหนก็ลำบาก ฮึกกกก

พอเรา 2 คนมาถึงวังหลัง เราก็พาเค้าข้ามเรือ เค้าก็บ่นว่า ทำไมป้ายมีแต่ภาษาไทย เค้าอ่านไม่ออก แล้วเค้าก็ใช้เท้าชี้ป้ายนึงที่ตั้งอยู่ที่พื้น ละบอกว่า อ้อออ นี่ไงอ่านออกตัวนึง เขียนว่า 3 Baht เราก็จิ๊ปากไปทีนึงบอกทำไมใช้เท้าชี้อ้ะะะ จริงๆเราก็ไม่ได้ถืออะไรหรอก พูดไปงั้น 55555 เค้าก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พร้อมยักไหล่หนึ่งที พอเราไปถึงท่ามหาราช ปรากฏว่าตอนนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลย เรากับเค้าเดินเคว้ง ไม่รู้จะไปไหนดี เลยไปซื้อไอติมกินกัน สักพักเค้าบอกมีที่อื่นที่จะไปมั้ย เค้ายืนนานๆไม่ได้ อ้อ เราลืมบอกไป เค้าเล่าให้เราฟังว่าตอนเค้าไปภูเก็ต เค้าไปกระโดดลงจากเรือแล้วหลังกระแทก เลยบาดเจ็บ เข้ารพ.เสียไป 15,000 ค่าเอกซเรย์ เราก็ไม่รู้ว่ามันแพงแบบนี้อยู่แล้ว หรือเป็นเพราะเค้าเป็นชาวต่างชาติก็ไม่รู้ เค้าบอกว่าตังเค้าหมดไปกับค่าหมอ ตอนนี้เค้าต้องยืมตังเพื่อนชาวอเมริกันที่ไปรู้จักกันที่ภูเก็ต ตอนนั้นเราคิดว่า ทำไมให้ยืมกันง่ายจังวะ 555555 แต่เรื่องที่น่าเศร้าคือ เค้าบอกว่าเค้าต้องกลับบ้านในอีกไม่กี่วัน เพื่อไปหาหมอที่นู่น เพราะตังเค้าจะหมดด้วย โอเคกลับมาที่เรากับเค้าหาที่ไปเที่ยวใหม่ สรุปคือ พารากอน ค่าาาา

พอไปถึงเรากับเค้าก็เดินเล่นกัน พอเดินผ่านร้านต่างๆ จะมีรูปพรีเซนเตอร์คนนู้นคนนี้อยู่ เค้าก็บอกว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่สวยเลยอะ คนนี้หน้าตลกจัง คนนี้สวยเนอะ ดาราคนนี้เค้าชอบนะ บลาๆๆ เราเลยทำมั่ง ชี้ไปที่รูป Hugh Jackman แล้วบอกคนนี้เราชอบมาก เท่สุดดดด เค้าก็บอกว่า ไม่จริงอะ เค้าเท่กว่าอีก ดูกล้ามสิ แล้วพี่แกก็เบ่งกล้ามใหญ่ เราก็ทำหน้ากวนทีนใส่แบบ เออไรของมึ้งงง แล้วเค้าเลยเขิน พอเขินแล้วเค้าก็มายีๆหัวเรา ตอนนั้นเราสะดุดเลยอะ สะดุดรักกกก แบบชอบมากให้คนมายีๆหัว เหมือนเค้าแบบทะนุถนอมเราอะไรประมานเนี้ย ไม่รู้คิดไปเองรึป่าวนะ แต่ชอบบบบอะ 555555 ตอนหลังเราเดินกันเบื่อละ เราเลยชวนเค้าดูหนัง คงไม่พ้น Jurassic World เค้าทำหน้าแหยเลยอะ บอกไม่ชอบไดโนเสาร์ เราก็ เฮ้ยยย ได้ไงใครๆก็ชอบกันนะเว่ย เค้าบอกว่าชอบหนังดราม่า ไม่ก็หนังตลก คือเราไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนชอบหนังแนวนี้มาก่อนในชีวิตเลยจริงๆ เรารู้สึกว่าทำไมเค้าแตกต่างจากคนอื่นจัง ดูมีอะไรน่าค้นหา กรี๊ดดดอะ >< แต่เราก็ตื๊อเค้าว่าดูจูราสสิคเหอะนะๆๆๆๆ สุดท้ายเค้าก็ยอม ระหว่างรอเวลารอบหนัง เราก็เดินเล่นกันอีก เราเจอโปสเตอร์หนังการ์ตูน เราเลยแกล้งเค้าไปว่า อ๋ออออ รู้ละๆที่ไม่อยากดูเพราะกลัวไดโนเสาร์ใช่ปะ ที่จริงอยากดูการ์ตูนก็บอก เค้าก็หัวเราะละบอก f**k you พร้อมชูนิ้วกลางให้ บวกกับรอยยิ้มหวานๆ เรานี่สตั๊นไป 0.5 วิ คือไม่ใช่รับไม่ได้นะ เราก็ไม่ใช่คนเรียบร้อยอะไร แต่แค่ไม่เคยมีฝรั่งคนไหน พูดงี้กะเรา 55555555 แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เจอกันด้วย คือแบบมาฟงมาฟัคไรเนี่ยยย แต่ดีอะ เราว่าสนิทกันเร็วมาก เหมือนรู้จักกันมานานแล้วเลย เรา 2 คนก็เดินไปเรื่อยๆ เวลาเราเห็นอะไรเราจะชี้ๆไปละก็พูดๆให้เค้าฟัง เค้าบอกว่า ทำไมเหมือนเด็กเลย ชี้นู่นชี้นี่ ก็เราไม่รู้จะพูดยังไง ภาษาเราไม่แข็ง เราก็ใช้ภาษามือสิ ชิชะ แล้วเค้าก็ล้อเลียนท่าทางเรา ล้อสำเนียงเราเวลาพูด แล้วก็ชอบทำหน้าทะเล้นๆเวลาล้อ แหม...สำเนียงเอ็งก็ไม่ได้ดีนักมั้ยอะ แต่ก็ดีกว่าเราอยู่ดี 55555 และแล้วเวลาหนังก็มาถึง แล้วเราก็...จับมือกัน แอ๊ยยยย ตอนนั้นเหมือนโดนไฟช็อต คือไม่ได้แบบไม่ไเคยจับมือผู้ชายนะ แต่ไม่รู้ทำไมคนนี้มันเขินๆแปลกๆ ตอนก่อนจะจับมือ เค้าค่อยๆขยับมือเค้าเข้ามาแบบนุ่มๆนิ่มๆ อธิบายไม่ถูก 55555 แต่ก็เหมือนว่าเค้าเขินๆที่จะเอื้อมมาคว้ามาเราไปจับเหมือนกัน เราชอบเวลาเค้าเขินๆอ้ะ น่ารักกกก หยิกแก้มที พอหนังจบเราก็ไปเดินสยาม พาเค้าไปกินร้านตามสั่งทั่วไป เค้าไม่ชอบกินร้านอาหารในห้าง ซึ่งเราว่าเราชอบอะ ไม่สิ้นเปลืองดี อาจจะเป็นเพราะเค้าเป็นชาวต่างชาติรึป่าวถึงชอบอะไรทำนองนี้ เลิฟฟฟฟอะ 5555555 ตอนกินข้าวกันเค้าชอบเอามือถือเราไปเล่น เราว่าบางมุมนิสัยเค้าคล้ายๆชายไทยเลยอะ ชอบเล่นหัว จับต้นคอเวลาเดิน เอามือถือเราไปเล่น กวนทีน แล้วเราจะใส่ยางรัดผมที่ข้อมือตลอด ยางรัดผมแบบที่คล้ายๆสายเคบิลโทรศัพท์อะค่ะ นึกออกมั้ย 5555 เราหลอกเค้าไปว่านี่อะเป็น telephone cable เอามาทำเป็นเครื่องประดับแบบใหม่ ตอนแรกเค้าก็เชื่อนะ พอเราเฉลยว่า นี่มันยางรัดผม เค้าก็บอกฟัคยูอีกละ 5555555 ตลกดี นั่นล่ะเค้าชอบเอายางรัดผมเราไปเล่น ไม่รู้ติดใจอะไรนัก สุดท้ายของวันเราก็จะแยกกัน เค้าชวนเราไปเที่ยววัดพระแก้วด้วยกันพรุ่งนี้ มีเพื่อนชาวอเมริกันของเค้าไปด้วย 2 คน ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยอยากไป คือเราอยากเจอเค้านะ แต่เราเป็นโรคแพ้อากาศร้อน เค้าก็พูดประชดประมานว่า ทำไมหรอ จะมีธุระด่วนอีกรึไงฮะ โหพูดดักมาขนาดนี้ละ เราเลย โอเค้ ไปก็ด้ายยยย

พิมพ์มาถึงตรงนี้เพิ่งรู้ตัวว่าผ่านไปแค่วันแรก ทำไมมันเยอะขนาดนี้ มันมือไปหน่อย อยากจะเล่าทุกฉากทุกตอนเล้ย 5555 แปะก่อนนะอาบน้ำแปป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่