สวัสดีเพื่อนๆ ผมเคยตั้งเล่าเรื่องผีไปแล้ว
2 กระทู้ แต่เป็นล็อคอินเก่าซึ่งมันยืนยันตัวตนไม่ได้ ผมเลยสมัครล็อคอินใหม่เพื่อยืนยันตัวตน เรียบร้อยครับ
เอาเลยนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาน 8 ปีที่แล้วครับ ตอนเราอายุ 18-19 เราไปอยู่บ้านป้า เป็นทาวเฮ้าส์ติดๆกันสองชั้น บ้านตามหมู่บ้านทั่วไป ซึ่งที่บ้านป้าทำขนมไข่ ทำขายส่งตามตลาด เริ่มทำบ่ายเสร็จดึกๆขี่รถมอเตอไซค์ส่ง เสร็จประมานตี 2-3 บ้านป้าจะอยู่กัน ป้าแล้วก็ลูกสาวป้าอายุมากกว่าเรา2-3ปี รวมเราเป็น3คน
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
ล้อเล่นครับ 555555 ต่อๆๆ(ขออธิบายแบบบ้านให้เห็นภาพตามชัดขึ้นนะครับ)
ชั้นบนจะเป็นห้อง3ห้อง ห้องนอนใหญ่ติดระเบียงหน้าบ้าน ห้องนอนกลางอยู่ส่วนหลังบ้าน ห้องนอนเล็กทำเป็นห้องพระตรงข้ามกลับห้องใหญ่ ตอนแรกไปมีกินมีใช้เฮฮา มีเงินซื้อเสื้อผ้า คือไปใหนมีเงินติดตัวตลอด ป้าให้ไว้ป้าใจดีมากครับ แต่เรานอนที่นอนใหญ่ข้างล่างกับป้าเอาตู้มากั้นให้เป็นเฉพาะที่นอน ข้างล่างเย็นมากนอนสบาย ส่วนพี่สาวนอนข้างบนคนเดียว ตอนแรกพี่สาวนอนห้องกลางครับ แต่พี่สาวบอกเวลาขึ้นนอน ชอบมีผู้หญิงมายืนร้องไห้ตรงหน้าต่าง ปลายเท้าตลอด (มันไม่มีระเบียง) มาทุกคืน พี่แกเลยเปลี่ยนห้องไปนอนห้องใหญ่ ก็เห็นเงาคนเดินผ่านจากประตูห้อง ออกไปประตูระเบียงบ่อยๆ เวลานอน ซึ่งจะขึ้นนอนจริงๆ ตี3-4 ลงมาไม่เกิน 10 โมงแล้วจะไม่มีใครขึ้นไปข้างบนอีก แกก็เออนอนก็นอน เราไม่เคยรู้สึกหรือเจออะไรนะ เป็นคนบาปไม่ค่อยทำบุญ ถ้าไม่มีใครพาไป ไม่เคยสวดมนต์ชีวิตนี้ท่องได้แค่ นะโม3จบ
แต่ไม่ค่อยมีเซ้นส์ เจอกับตัวในชีวิต แค่3-4 ครั้ง เราก็ฟังๆแต่ไม่สนใจ เพราะเราไม่ค่อยขึ้นไปข้างบน เคยพาผญขึ้นไปแต่พอจะมีไรกัน มันร้อนๆแสบหน้าไปหมด เลยไม่ได้มี 555555 ไม่รู้เกี่ยวมั้ย
ตอนนั้นเราเจ้าชู้จะมี ผญ มาค้างบ่อย แต่นอนข้างล่างนะ ที่นอนเดียวกับป้านั่นแหละ ผญที่มาจะถามว่าใครอยู่ข้างบนรึป่าว คือเขาจะเห็นแบบมีคนเดินขึ้นไป แบบเห็นหลังไวๆ เข้าห้องน้ำเขาจะได้ยินเสียง คนเดินบันได เพราะห้องน้ำติดกะบันได บันไดเป็นไม้ปาเก้ จะได้ยินเสียงเดิน เราก็บอกไม่รู้ พี่สาวขึ้นไปเอาของมั้ง
คือตอนนั้นสมองเราไม่มีผีเลยในหัว แต่บ้านป้าเราญาติพี่น้องเยอะ และญาติพี่น้องส่วนมากมีองค์เกือบทุกคน นานๆทีเราจะเห็น ญาติป้ามา แล้วมีทำพิธีเข้าทรงกัน เป็นพระแม่อุมาบ้าง เฮ้งเจียบ้าง ทำนองนี้แต่เราไม่ค่อยเชื่อนะ ทั้งๆที่เราสักของแต่เราดันไม่เชื่อร่างทรง เราเชื่อของที่สักเพราะเคยของขึ้นบ่อยๆ แล้วมีช่วงนึงที่ อยู่ๆการเงินทางบ้านเริ่มทรุดทั้งๆที่ยอดทำขนมก็เหมือนเดิม
จุดเริ่มเรื่องคือคืนนั้นฝนตกหนักมาก แรงจนทำให้เสาอากาศพังใส่หลังคาบ้าน ทำให้เสียค่าซ่อมหลังคาเป็นหมื่น ทำให้การเงินเริ่มสะดุด ช่วงนั้นปิดเทอมทำให้ญาติๆมาเยอะ ก็มีหลานมาพักด้วย หลานผญ อายุ15-16 เขาก็เชิญ เจตตะคุก เรียกแบบนี้รึป่าวไม่แน่ใจ มาทำพิธี เป็นพ่อปู่ฤาษี เขาก็ทำพิธีกัน เราคนต้มน้ำชา พ่อปู่บอกไม่ร้อนทั้งๆที่น้ำเดือดแบบปุดๆเลยนะเราถือยังลวกมือเรา พ่อปู่ซดทีเดียวแล้วก็บ่นไม่ร้อนๆ เขาดูว่า บ้านหลังนี้เป็นลานประหารเก่าในช่วง ท่านพ่อพระนเรศวร มีดวงวิญญาณเป็นร้อยดวง ต้านไม่อยู่หรอก แข็งไม่พอก็เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ทำนองนี้ ที่เรารู้มา ตอนนั้นเราไม่นั่งฟังเพราะอยู่ในนั้นแล้วปวดหัว เลยลงมานั่งเล่นข้างล่าง เสร็จพิธี ป้าเราก็ไปบวชชีที่วัดแห่งนึง เพื่ออุทิศบุญ สรุปบ้านเราอยู่กัน 3 คน พี่สาวลูกป้า หลานสาว และก็เรา ก็ทำขนมส่งกันปกติ พี่สาวก็ลงมานอนข้างล่างด้วยกัน ทั้งหมดวัยรุ่นอยู่ก็ทำไปคุยไปเสียงดังนิดหน่อย และคืนนั้นกลับมา ตีสองกำลังจะนอน ได้ยินเสียงของหล่นของแตก ตึงตังคล้ายเสียงทะเลาะกันมาจากข้างบน ดังมาก ได้บินทั้งสามคน มองหน้ากัน พี่สาวแกไม่กลัวแกจะขึ้นไปดู เราดึงแขนและบอกว่าไม่เอาพี่กลัว อันตรายถ้าเป็นโจรล่ะ เลยนั่งรอดูกันข้างล่าง เสียงเงียบไป แล้วเราก็นอนหลับกันพอเช้ามา ตื่นมา9โมง พากันไปดู ห้องนอนไม่มีอะไร พอเปิดห้องพระไป ตกใจคือ ทุกสิ่งกระจัดกระจายแจกันใส่ดอกไม้แตก รูปพระใส่กรอบแตก พระบูชาคอหักแตกกระจาย คือเละมาก เรามองหน้ากัน
พี่สาวยิ้มเจื่อนๆ แล้วบอกว่าแมวมั้ง เราบอกไม่ใช่อ่ะพี่ บานเกล็ดก็ไม่ได้เปิด บอกก่อนลูกบิดประตูโดนถอดออกเพราะพังเลยใช้เชือกหนาๆมัดไว้กับร่องประตู คือก่อนเข้าต้องแก้เชือกที่ผูกไว้หลายปมมาก มันยากที่จะเป็นแมว พี่ก็บอกไม่มีอะไรๆ กลัวน้องกลัว ก็ช่วยกันเก็บห้องพระ สักพักพี่สาวนิ่งไปเหมือนชนอะไร และพี่ก็หันมาบอกว่า น้อง(กุมาร) มาบอกว่าหนูต้องไปแล้วนะหนูอยู่ไม่ได้ หนูสู้พวกเขาไม่ไหว เขาไม่ให้หนูอยู่หนูขอโทษนะ ...
พอเก็บเสร็จก็รีบไปหาป้าที่วัด ไปนอนค้างวัดกัน กลัวมากๆจากนั้นพวกเราทำขนมเสร็จส่งเสร็จนั่งเล่นกันข้างนอกรอเช้าขี่รถไปนอนวัด ไม่นอนบ้านกันเลย ไม่นานหลานก็กลับไปเรียน ป้าก็สึกจากชีมาอยู่บ้าน เราก็กลัวเลยไปอยู่กับแม่ที่กทม. จะกลับไปอยู่กับพ่อก็ไม่ได้ หนีบ้านผีที่พ่อไปเช่ามาก็มาเจอที่บ้านป้าอีก ขึ้นกทม. ดีกว่า
ล่าสุดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ป้าเสียไปแล้ว ด้วยอะไรไม่ทราบเราไม่ได้ไปงาน ส่วนพี่สาวย้ายมาเช่าบ้านอยู่ บ้านหลังนั้นก็ให้ญาติมาอยู่แทน คือทุกเรื่องที่เราเจอยืนยันว่าจริง แต่บางอย่างที่คนอื่นบอกมาเราไม่ขอยืนยัน ว่าจริงมั้ย แล้วแต่ความเชื่อของทุกคนกันนะครับ โปรดใช้จักรยานในการอ่านนะครับ ไว้จะมาเล่าอีกนะครัช
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบ
ปล.ขอโทษในการเว้นวรรคและคำผิดถ้ามี เพราะผมพยายามตรวจแล้วแต่มันยาวจริงๆอาจผิดพลาดอาจไม่น่ากลัว อภัยให้ด้วยนะครับบบ
อะไร....ที่พังห้องพระ ?
2 กระทู้ แต่เป็นล็อคอินเก่าซึ่งมันยืนยันตัวตนไม่ได้ ผมเลยสมัครล็อคอินใหม่เพื่อยืนยันตัวตน เรียบร้อยครับ
เอาเลยนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาน 8 ปีที่แล้วครับ ตอนเราอายุ 18-19 เราไปอยู่บ้านป้า เป็นทาวเฮ้าส์ติดๆกันสองชั้น บ้านตามหมู่บ้านทั่วไป ซึ่งที่บ้านป้าทำขนมไข่ ทำขายส่งตามตลาด เริ่มทำบ่ายเสร็จดึกๆขี่รถมอเตอไซค์ส่ง เสร็จประมานตี 2-3 บ้านป้าจะอยู่กัน ป้าแล้วก็ลูกสาวป้าอายุมากกว่าเรา2-3ปี รวมเราเป็น3คน
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
ล้อเล่นครับ 555555 ต่อๆๆ(ขออธิบายแบบบ้านให้เห็นภาพตามชัดขึ้นนะครับ)
ชั้นบนจะเป็นห้อง3ห้อง ห้องนอนใหญ่ติดระเบียงหน้าบ้าน ห้องนอนกลางอยู่ส่วนหลังบ้าน ห้องนอนเล็กทำเป็นห้องพระตรงข้ามกลับห้องใหญ่ ตอนแรกไปมีกินมีใช้เฮฮา มีเงินซื้อเสื้อผ้า คือไปใหนมีเงินติดตัวตลอด ป้าให้ไว้ป้าใจดีมากครับ แต่เรานอนที่นอนใหญ่ข้างล่างกับป้าเอาตู้มากั้นให้เป็นเฉพาะที่นอน ข้างล่างเย็นมากนอนสบาย ส่วนพี่สาวนอนข้างบนคนเดียว ตอนแรกพี่สาวนอนห้องกลางครับ แต่พี่สาวบอกเวลาขึ้นนอน ชอบมีผู้หญิงมายืนร้องไห้ตรงหน้าต่าง ปลายเท้าตลอด (มันไม่มีระเบียง) มาทุกคืน พี่แกเลยเปลี่ยนห้องไปนอนห้องใหญ่ ก็เห็นเงาคนเดินผ่านจากประตูห้อง ออกไปประตูระเบียงบ่อยๆ เวลานอน ซึ่งจะขึ้นนอนจริงๆ ตี3-4 ลงมาไม่เกิน 10 โมงแล้วจะไม่มีใครขึ้นไปข้างบนอีก แกก็เออนอนก็นอน เราไม่เคยรู้สึกหรือเจออะไรนะ เป็นคนบาปไม่ค่อยทำบุญ ถ้าไม่มีใครพาไป ไม่เคยสวดมนต์ชีวิตนี้ท่องได้แค่ นะโม3จบ
แต่ไม่ค่อยมีเซ้นส์ เจอกับตัวในชีวิต แค่3-4 ครั้ง เราก็ฟังๆแต่ไม่สนใจ เพราะเราไม่ค่อยขึ้นไปข้างบน เคยพาผญขึ้นไปแต่พอจะมีไรกัน มันร้อนๆแสบหน้าไปหมด เลยไม่ได้มี 555555 ไม่รู้เกี่ยวมั้ย
ตอนนั้นเราเจ้าชู้จะมี ผญ มาค้างบ่อย แต่นอนข้างล่างนะ ที่นอนเดียวกับป้านั่นแหละ ผญที่มาจะถามว่าใครอยู่ข้างบนรึป่าว คือเขาจะเห็นแบบมีคนเดินขึ้นไป แบบเห็นหลังไวๆ เข้าห้องน้ำเขาจะได้ยินเสียง คนเดินบันได เพราะห้องน้ำติดกะบันได บันไดเป็นไม้ปาเก้ จะได้ยินเสียงเดิน เราก็บอกไม่รู้ พี่สาวขึ้นไปเอาของมั้ง
คือตอนนั้นสมองเราไม่มีผีเลยในหัว แต่บ้านป้าเราญาติพี่น้องเยอะ และญาติพี่น้องส่วนมากมีองค์เกือบทุกคน นานๆทีเราจะเห็น ญาติป้ามา แล้วมีทำพิธีเข้าทรงกัน เป็นพระแม่อุมาบ้าง เฮ้งเจียบ้าง ทำนองนี้แต่เราไม่ค่อยเชื่อนะ ทั้งๆที่เราสักของแต่เราดันไม่เชื่อร่างทรง เราเชื่อของที่สักเพราะเคยของขึ้นบ่อยๆ แล้วมีช่วงนึงที่ อยู่ๆการเงินทางบ้านเริ่มทรุดทั้งๆที่ยอดทำขนมก็เหมือนเดิม
จุดเริ่มเรื่องคือคืนนั้นฝนตกหนักมาก แรงจนทำให้เสาอากาศพังใส่หลังคาบ้าน ทำให้เสียค่าซ่อมหลังคาเป็นหมื่น ทำให้การเงินเริ่มสะดุด ช่วงนั้นปิดเทอมทำให้ญาติๆมาเยอะ ก็มีหลานมาพักด้วย หลานผญ อายุ15-16 เขาก็เชิญ เจตตะคุก เรียกแบบนี้รึป่าวไม่แน่ใจ มาทำพิธี เป็นพ่อปู่ฤาษี เขาก็ทำพิธีกัน เราคนต้มน้ำชา พ่อปู่บอกไม่ร้อนทั้งๆที่น้ำเดือดแบบปุดๆเลยนะเราถือยังลวกมือเรา พ่อปู่ซดทีเดียวแล้วก็บ่นไม่ร้อนๆ เขาดูว่า บ้านหลังนี้เป็นลานประหารเก่าในช่วง ท่านพ่อพระนเรศวร มีดวงวิญญาณเป็นร้อยดวง ต้านไม่อยู่หรอก แข็งไม่พอก็เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ทำนองนี้ ที่เรารู้มา ตอนนั้นเราไม่นั่งฟังเพราะอยู่ในนั้นแล้วปวดหัว เลยลงมานั่งเล่นข้างล่าง เสร็จพิธี ป้าเราก็ไปบวชชีที่วัดแห่งนึง เพื่ออุทิศบุญ สรุปบ้านเราอยู่กัน 3 คน พี่สาวลูกป้า หลานสาว และก็เรา ก็ทำขนมส่งกันปกติ พี่สาวก็ลงมานอนข้างล่างด้วยกัน ทั้งหมดวัยรุ่นอยู่ก็ทำไปคุยไปเสียงดังนิดหน่อย และคืนนั้นกลับมา ตีสองกำลังจะนอน ได้ยินเสียงของหล่นของแตก ตึงตังคล้ายเสียงทะเลาะกันมาจากข้างบน ดังมาก ได้บินทั้งสามคน มองหน้ากัน พี่สาวแกไม่กลัวแกจะขึ้นไปดู เราดึงแขนและบอกว่าไม่เอาพี่กลัว อันตรายถ้าเป็นโจรล่ะ เลยนั่งรอดูกันข้างล่าง เสียงเงียบไป แล้วเราก็นอนหลับกันพอเช้ามา ตื่นมา9โมง พากันไปดู ห้องนอนไม่มีอะไร พอเปิดห้องพระไป ตกใจคือ ทุกสิ่งกระจัดกระจายแจกันใส่ดอกไม้แตก รูปพระใส่กรอบแตก พระบูชาคอหักแตกกระจาย คือเละมาก เรามองหน้ากัน
พี่สาวยิ้มเจื่อนๆ แล้วบอกว่าแมวมั้ง เราบอกไม่ใช่อ่ะพี่ บานเกล็ดก็ไม่ได้เปิด บอกก่อนลูกบิดประตูโดนถอดออกเพราะพังเลยใช้เชือกหนาๆมัดไว้กับร่องประตู คือก่อนเข้าต้องแก้เชือกที่ผูกไว้หลายปมมาก มันยากที่จะเป็นแมว พี่ก็บอกไม่มีอะไรๆ กลัวน้องกลัว ก็ช่วยกันเก็บห้องพระ สักพักพี่สาวนิ่งไปเหมือนชนอะไร และพี่ก็หันมาบอกว่า น้อง(กุมาร) มาบอกว่าหนูต้องไปแล้วนะหนูอยู่ไม่ได้ หนูสู้พวกเขาไม่ไหว เขาไม่ให้หนูอยู่หนูขอโทษนะ ...
พอเก็บเสร็จก็รีบไปหาป้าที่วัด ไปนอนค้างวัดกัน กลัวมากๆจากนั้นพวกเราทำขนมเสร็จส่งเสร็จนั่งเล่นกันข้างนอกรอเช้าขี่รถไปนอนวัด ไม่นอนบ้านกันเลย ไม่นานหลานก็กลับไปเรียน ป้าก็สึกจากชีมาอยู่บ้าน เราก็กลัวเลยไปอยู่กับแม่ที่กทม. จะกลับไปอยู่กับพ่อก็ไม่ได้ หนีบ้านผีที่พ่อไปเช่ามาก็มาเจอที่บ้านป้าอีก ขึ้นกทม. ดีกว่า
ล่าสุดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ป้าเสียไปแล้ว ด้วยอะไรไม่ทราบเราไม่ได้ไปงาน ส่วนพี่สาวย้ายมาเช่าบ้านอยู่ บ้านหลังนั้นก็ให้ญาติมาอยู่แทน คือทุกเรื่องที่เราเจอยืนยันว่าจริง แต่บางอย่างที่คนอื่นบอกมาเราไม่ขอยืนยัน ว่าจริงมั้ย แล้วแต่ความเชื่อของทุกคนกันนะครับ โปรดใช้จักรยานในการอ่านนะครับ ไว้จะมาเล่าอีกนะครัช
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบ
ปล.ขอโทษในการเว้นวรรคและคำผิดถ้ามี เพราะผมพยายามตรวจแล้วแต่มันยาวจริงๆอาจผิดพลาดอาจไม่น่ากลัว อภัยให้ด้วยนะครับบบ