หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Backpack เที่ยวสังขละบุรี 2วัน 1คืน ก็เที่ยวได้
กระทู้รีวิว
Backpack
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
สังขละบุรี
“สังขละบุรี” จริงๆแล้วเราเองก็อยากไปเที่ยวที่นี่นานแล้วครับ หลังจากที่พนักงานออฟฟิศเวลาน้อยอย่างเราออกไปเที่ยวที่ใกล้มาหลายที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นทะเล เลยอยากเปลี่ยนแนวเปลี่ยนบรรยากาศบ้างและสังขละบุรีก็เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของเรา
แต่จากที่เพื่อนๆและคนรอบตัวที่เคยไปมาแล้วบอกประมาณว่า ”ค่อนข้างไกล แค่2คงวันไม่พอหรอก” แต่ไหนๆตั้งใจจะไปแล้ว “ เอาวะ!! 2วันก็ได้ ไปก็ไป” แล้วเราก็หาข้อมูลการเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยวแบบคร่าวๆแล้วก็ไปกันเลย แต่ ต้องบอกก่อนเลยนะว่าเที่ยวสังขละบุรี 2วัน 1คืน แบบเราต้องใช้พลังกายพอสมควรเลยล่ะ ส่วนเรื่องพลังใจในการเที่ยวคงไปต้องเป็นห่วงอยู่แล้วเนอะ กระทู้จะรีวิวคร่าวๆเผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้ใครที่อยากเที่ยวในแบบเราได้ลองอ่านดูนะครับ
เริ่มจากเช้าวันเสาร์ เราไปกัน 2 คน เดินทางโดยรถโดยสาร 999 กรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ จากสถานีขนส่งหมอชิต รถเที่ยวแรกออกประมาณ 6.30น. ตีตั๋วไปลงสังขละบุรีได้เลย (ช่องขายตั๋วที่21 ค่าโดยสารคนละ 306บ.)
หลังจากรถเริ่มออกเดินทางรถจะแวะพัก และแวะให้รับประทานอาหารตอนเที่ยง หลังจากนั้นจะวิ่งยาวๆถึงสังขละบุรี ถ้าใครไม่หลับบนรถขอบอกว่าวิวระหว่างทางสวยมาก เรานี่สิ มึนๆ หลับๆตื่นๆ เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย ตาสว่างอีกทีถึงสังขละบุรีแล้ว ประมาณ 13.30น. รถมาจอดส่งเราที่ตลาดสังขละบุรี มาถึงฝนก็ต้อนรับกันอย่างชุ่มช่ำเลยทีเดียวโชคดีนะครับที่ตกไม่นาน
หลังจากลงรถแล้วยืนงงๆกันอยู่พักนึง ก็คิดว่าคงต้องหาที่พักก่อนพอดีมีวินมอเตอร์ไซต์ขับมาถามว่าจะไปไหนกันเราก็ตอบ ” ชื่นใจเฮ้าส์” จากที่หาข้อมูลที่พักมาที่นี่สะกิดใจแบบบอกไม่ถูกเหมือนกันก็เลยไปแบบไม่ค่อยได้คิดเยอะครับ
ที่ชื่นใจเฮาส์ไม่รับจองนะ ต้องวอร์คอินอย่างเดียว โชคดีที่ตอนเราไปห้องว่างพอดี เราเช็คอินก็แล้วขอเดินสำรวจนิดนึง
ที่นี่จะเป็นเกสเฮาส์แบบบ้านๆไม่เน้นหรูหรา ตกแต่งแบบคลาสสิค วินเทจ ดูมีเสน่ห์มากๆ
บ้านพักของชื่นใจเฮาส์ มีทั้งหมด 5 หลัง ราคาเดียว 450 บ. หน้าตาที่พักก็ประมาณนี้
ภายในห้องพักมีพัดลม ที่นอน หมอน มุ้ง ให้เรียบร้อย ห้องน้ำในตัว แต่ข้อเสียอย่างนึงคือ ยุงเยอะไปหน่อย ใครตั้งใจจะไปพักที่นี่ก็อย่าลืมติดโลชั่นกันยุงไปด้วยนะครับ
หลังจากเข้าห้องพัก เก็บของเรียบร้อยแล้วก็เตรียมออกลุยกันเลย ลองสอบถามเรื่องเส้นทาง ที่เที่ยวกับทางที่พักอีกทีแล้วก็ซื้อแผนที่วางแผนเที่ยวพร้อมลุย พี่ที่ชื่นใจเฮ้าส์บอกให้เราไปเช่ามอเตอไซต์ที่ พีเกสเฮาส์ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก พอไปถึงพีเกสเฮาส์ปรากฏว่า มอเตอไซต์มีคนเช่าเต็มหมดเลย คราวนี้ถึงกับต้องรื้อแผนเที่ยวใหม่เลยครับ เรายืนงงกันอยู่พักใหญ่ก็ได้แผนใหม่ เป้าหมายแรกเราคือสะพานมอญ ซึ่งดูจากแผนที่แล้วคงอยู่ไม่ไกล เราเลยตัดสินใจเดินไป พิสูจน์ความตั้งใจในการเที่ยวกัน (ระยะทางบวกกับอากาศร้อนทำเอาเหนื่อยเหมือนกันแฮะ)
เส้นทางที่เราเดินมา ก่อนจะถึงสะพานมอญ ต้องผ่านสะพานแดงก่อน จากตรงนี้จะเห็นสะพานมอญอยู่ไกลๆ เราเลยแวะพักเหนื่อยแล้วก็ถ่ายรูปกันตรงนี้ก่อนครับ
เราเดินจากสะพานแดงมาจนถึงสะพานมอญ คือสะพานไม้เค้าสวยจริงๆ ขอถ่ายรูปเซทแรกเอาไว้ก่อนละกันครับ
เดินเล่นแถวนี้ได้สักพักก็มีพี่ชายคนนึงมาถามเราว่าสนใจนั่งเรือชมวัดรึเปล่า ตอนนั้นประมาณบ่ายสามครึ่ง ถ้าไปก็คง 5โมงเย็น มาเดินเล่นที่สะพานต่อพอดี เราเองก็สนใจอยู่แล้วเลยตกลงไปกับพี่เค้าเลยครับ โปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำ ราคาอยู่ที่ 300/ 1วัด และ 500/3วัด ไหนๆมาแล้วก็เอาให้ครบ3วัดเลยก็แล้วกัน ระหว่างนั่งเรือรับลมเย็นๆก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศเอาเยอะล่ะเลยครับ
ระหว่างที่นั่งเรือไปเราจะมองเห็นยอดเจดีย์พุทธคยาด้วยล่ะครับ อีกหนึ่งจุดหมายของเราที่จะต้องไปให้ได้
ระหว่างนั่งเรือก่อนจะถึงวัดก็นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ วิวมันสวยสะดุดตาตรงที่มีตอไม้โผล่พ้นน้ำขึ้นมานี่แหละ ดูแล้วมีเสน่ห์ดี ถ่ายรูปมาซะเยอะเลย
มาถึงวัดแรกของโปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำ 3วัด วัดนี้ชื่อว่า “ศรีสุวรรณ” เป็นวัดเดียวในโปรแกรม 3วัด ที่เราไม่สามารถขึ้นบกไปชมใกล้ๆได้ เพราะตอไม้เยอะมากขนาดนี้จนเอาเรือเข้าไปไม่ได้ เป็นเราก็คงไม่เสี่ยงขับเรือเข้าไปนะ
หลังจากนั่งอยู่บนเรือชมวัดศรีสุวรรณอยู่ไกลๆแล้ว สารถีก็ขับเรือพาเรามาที่วัดต่อมา คือ "วัดวังก์วิเวการาม (เก่า)" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" วัดนี้เป็นวัดที่เป็นไฮไลท์ของโปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำเลยก็ว่าได้ พอเรือมาถึงปุ๊บ ก็จะมีเด็กๆชาวมอญ มารอต้อนรับแถมยัง
เป็นไกด์นำเที่ยวให้พร้อมดอกไม้ธูปเทียนไว้ไปไหว้พระด้วย เด็กๆเค้าจะคิดเงินแค่ค่าดอกไม้ธูปเทียนชุดละ 10บาท ที่เหลือก็แล้วแต่น้ำใจเราละนะ
ช่วงที่น้ำแห้งเราจะได้เดินขึ้นมาชมวัดในจุดต่างๆได้ เช่น หอระฆัง วิหาร ซุ้มกำแพงและโบสถ์ แต่หากเป็นหน้าน้ำจะได้แค่ชมอยู่บนเรือเท่านั้นนะครับ
จากที่ไกด์มอญตัวน้อยของเราเล่าให้ฟัง วัดนี้รวมทั้งอำเภอสังขละบุรีเก่าถูกปล่อยให้จมน้ำตั้งแต่ปี 2527 ที่มีการสร้างเขื่อนเขาแหลมและอำเภอสังขละบุรีก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ในปัจจุบันนี้ และก็ได้มีการสร้างวัดวังก์วิเวการามขึ้นใหม่ด้วย
โบสถ์เก่าของวัดวังก์วิเวการาม สวยงามและดูศักดิ์สิทธิ์ดีครับ
อย่างนึงที่เราได้รู้จากไกด์ตัวน้อยๆของเราคือการเดินเข้าชมโบสถ์ต้องเดินเข้าตามทางเข้าห้ามเดินลัดทางกำแพงถึงแม้กำแพงจะพังไปแล้วเพราะนั่นมันจะเหมือนกับเราปีนกำแพงวัด อีกอย่างคือการจะเข้าโบสถ์ต้องเข้าจากด้านหน้าและออกทางด้านหลัง จะไม่เดินย้อนกลับทางประตูหน้า เพราะฉะนั้นถ้าจะถ่ายรูปหน้าโบสถ์ต้องถ่ายก่อนเข้าโบสถ์เลย
ช่วงน้ำแห้งแบบนี้จะมีการเชิญพระพุทธรูปและรูปของหลวงพ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการามมาไว้ในโบสถ์ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้กันด้วยครับ
ออกจากวัดวังก์ฯ พี่คนขับเรือก็พาเรามาที่ “วัดสมเด็จเก่า”สุดท้ายของโปรแกรมนั่งเรือชมวัด มาถึงแล้วขึ้นจากเรือปุ๊บเดินขึ้นมาทางที่จะไปวัดแล้วอยากให้ลองหันหลังกลับไปมองก่อนครับ วิวตรงนี้สวยมาก
ชมวิวกันแปบนึงเราเดินขึ้นมาที่จุดที่ตั้งของวัดสมเด็จเก่า ต้องเดินเข้าไปพอสมควรแถมยังต้องเดินขึ้นบันไดอีก (เล่นเอาหมดแรงเหมือนกันนะเนี่ยะ ) มาถึงแล้วก็จะเห็นวัดอยู่ในป่าดูขลังมาก เหมือนฉากในหนังเลย
ชื่อสินค้า:
สังขละบุรี, กาญจนบุรี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
พาชมวัดชมภูเวก วัดสมัยพระนารายณ์มหาราช จ.นนทบุรี มีโบสถ์โบราณ พระโบราณศักดิ์สิทธิ์ และพระแม่ธรณีที่สวยงามมาก
วัดชมภูเวก สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี วัดโบราณสร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดย ชาวมอญ(พ่อปู่ศรีชมภู) ขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานของชาติ เมื่อ 14 พ.ค. พ.ศ. 2517 .มีจิตรกรรมฝาผนังยุคอยุธยาตอนกลาง มีภา
chattering box
สังขละบุรี (สะพานมอญ) จังหวัดกาญจนบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมสะพานมอญ สักการะหลวงพ่ออุตตมะ ชมวัดจมน้ำและตามลอยอารยธรรมชาวไทยมอญ เวลาเช้า 6.30 อากาศกำลังเย็นสบาย ร่วมทำบุญตักบาตรฝั่งมอญ อิ่มบุญกันไปถ้วนหน้า ก่อนเที่ยงต่อด้วยวัดวังก์วิเ
เที่ยววัดไทย
ขี่จักรยานเที่ยวสังขละบุรี??
เราสามารถเดินทางด้วยจักรยานท่องเที่ยวในสังขละบุรีได้ไหมคะ ไม่แน่ใจว่าแต่ละที่ห่างกันขนาดที่พอจะขี่ไหวหรือเปล่า โปรแกรมคร่าวๆ วันแรก: สะพานมอญ - ตลาดมอญ - หมู่บ้านมอญ - วัดวังก์วิเวการาม - เจดีย์พุทธค
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
เที่ยวสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
สวัสดีค่ะ สำหรับกระทู้นี้เราจะมารีวิวการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมณ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญนะจ๊ะบุรี เอ้ย กาญจนบุรี ค่ะก่อนอื่นต้องขอเล่ารายละเอียดก่อนนะคะทริปนี้เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวกับบริษัทฯ ค่ะถือว
Nooknickandnoina
ขอเส้นทาง โปรแกรมเที่ยว กาญจนบุรี-สังขละบุรีด้วยค่ะ
วันแรก กรุงเทพฯ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสมเด็จพระนเรศวร บ่อน้ำพุร้อนหินดาด วัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขละบุรี 06.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป จังหวัดกาญจนบุรี รับประทานอาหารเช้า 09.00 น. ออกเดินทา
นู๋เต๋าเต้ย
สะพานมอญ สังขละบุรี สุดเขตแดนสวรรค์ตะวันตก 2 วัน 1 คืนก็ไปได้
สะพานมอญ สังขละบุรี สุดเขตแดนสวรรค์ตะวันตก สังขละบุรี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของใครหลายคนที่มาเยือนจังหวัดกาญจนบุรี รายล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งภูเขา แม่น้ำ&n
ที่นี่ก็ดีนะ
@@ สังขละบุรี 2 วัน 1 คืน....สัมผัสวัฒนธรรม ไทย กะเหรี่ยง รามัญ @@
"สะพานไม้ ด่านเจดีย์ นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่ ไทยกะเหรี่ยงรามัญ สารพันธรรมชาติ อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นตะวันตก" สวัสดีครับ นานๆจะได้ทำกระทู้ท่องเที่ยวยาวๆแบบนี้ซักที
เซเว่นหน้าหอใน
พุทธศาสนิกชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ตักบาตรสะพานมอญ”
กรมการศาสนา นำพุทธศาสนิกชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ตักบาตรสะพานมอญ”ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น น้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการดำเ
อาคุงกล่อง
นั่งรถไฟ ไปสัมผัสมนต์เสน่ห์สังขละบุรี ที่ไม่เคยหลับไหล ไปทุกครั้งก็หลงทุกครั้งนการเดินทางจาก กทม.
วันนี้พาไปแถวชายแดนสังขละบุรี สะพานมอญ และเจดีย์ 3 องค์ ไม่ว่าจะมาหน้าไหนบอกเลยฟินหมด อาจจะใช้เวลาในการเดินทางจาก กทม. บ้าง แต่เกินคุ้มเกินราคา จะมาแบบ 2 วัน 1 คืน หรือ 2 คืน 3 วัน ก็ไม่ผิดหวัง
gdbowx
บรรยากาศสะพานมอญ วัดวังก์วิเวการาม เจดีย์สวย พระใหญ่ พุทธศิลป์งดงาม🙏🏻@อ.สังขละบุรี แล้วไป ด่านเจดีย์สามองค์✌️😃😄
บรรยากาศสะพานมอญ วัดวังก์วิเวการาม เจดีย์สวย พระใหญ่ พุทธศิลป์งดงาม🙏🏻ใน อ.สังขละบุรี แล้วไปเดินเล่น @เจดีย์สามองค์ ✌️😃😄 กระทู้นี้ ผมทำเป็นกระทู้เล่าเรื่อง เสร็จจาก เมืองจั
กานต์(วีระพัฒน์)
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
สังขละบุรี
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2.9 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Backpack เที่ยวสังขละบุรี 2วัน 1คืน ก็เที่ยวได้
แต่จากที่เพื่อนๆและคนรอบตัวที่เคยไปมาแล้วบอกประมาณว่า ”ค่อนข้างไกล แค่2คงวันไม่พอหรอก” แต่ไหนๆตั้งใจจะไปแล้ว “ เอาวะ!! 2วันก็ได้ ไปก็ไป” แล้วเราก็หาข้อมูลการเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยวแบบคร่าวๆแล้วก็ไปกันเลย แต่ ต้องบอกก่อนเลยนะว่าเที่ยวสังขละบุรี 2วัน 1คืน แบบเราต้องใช้พลังกายพอสมควรเลยล่ะ ส่วนเรื่องพลังใจในการเที่ยวคงไปต้องเป็นห่วงอยู่แล้วเนอะ กระทู้จะรีวิวคร่าวๆเผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้ใครที่อยากเที่ยวในแบบเราได้ลองอ่านดูนะครับ
เริ่มจากเช้าวันเสาร์ เราไปกัน 2 คน เดินทางโดยรถโดยสาร 999 กรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ จากสถานีขนส่งหมอชิต รถเที่ยวแรกออกประมาณ 6.30น. ตีตั๋วไปลงสังขละบุรีได้เลย (ช่องขายตั๋วที่21 ค่าโดยสารคนละ 306บ.)
หลังจากรถเริ่มออกเดินทางรถจะแวะพัก และแวะให้รับประทานอาหารตอนเที่ยง หลังจากนั้นจะวิ่งยาวๆถึงสังขละบุรี ถ้าใครไม่หลับบนรถขอบอกว่าวิวระหว่างทางสวยมาก เรานี่สิ มึนๆ หลับๆตื่นๆ เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย ตาสว่างอีกทีถึงสังขละบุรีแล้ว ประมาณ 13.30น. รถมาจอดส่งเราที่ตลาดสังขละบุรี มาถึงฝนก็ต้อนรับกันอย่างชุ่มช่ำเลยทีเดียวโชคดีนะครับที่ตกไม่นาน
หลังจากลงรถแล้วยืนงงๆกันอยู่พักนึง ก็คิดว่าคงต้องหาที่พักก่อนพอดีมีวินมอเตอร์ไซต์ขับมาถามว่าจะไปไหนกันเราก็ตอบ ” ชื่นใจเฮ้าส์” จากที่หาข้อมูลที่พักมาที่นี่สะกิดใจแบบบอกไม่ถูกเหมือนกันก็เลยไปแบบไม่ค่อยได้คิดเยอะครับ
ที่นี่จะเป็นเกสเฮาส์แบบบ้านๆไม่เน้นหรูหรา ตกแต่งแบบคลาสสิค วินเทจ ดูมีเสน่ห์มากๆ
เส้นทางที่เราเดินมา ก่อนจะถึงสะพานมอญ ต้องผ่านสะพานแดงก่อน จากตรงนี้จะเห็นสะพานมอญอยู่ไกลๆ เราเลยแวะพักเหนื่อยแล้วก็ถ่ายรูปกันตรงนี้ก่อนครับ
เราเดินจากสะพานแดงมาจนถึงสะพานมอญ คือสะพานไม้เค้าสวยจริงๆ ขอถ่ายรูปเซทแรกเอาไว้ก่อนละกันครับ
เดินเล่นแถวนี้ได้สักพักก็มีพี่ชายคนนึงมาถามเราว่าสนใจนั่งเรือชมวัดรึเปล่า ตอนนั้นประมาณบ่ายสามครึ่ง ถ้าไปก็คง 5โมงเย็น มาเดินเล่นที่สะพานต่อพอดี เราเองก็สนใจอยู่แล้วเลยตกลงไปกับพี่เค้าเลยครับ โปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำ ราคาอยู่ที่ 300/ 1วัด และ 500/3วัด ไหนๆมาแล้วก็เอาให้ครบ3วัดเลยก็แล้วกัน ระหว่างนั่งเรือรับลมเย็นๆก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศเอาเยอะล่ะเลยครับ
มาถึงวัดแรกของโปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำ 3วัด วัดนี้ชื่อว่า “ศรีสุวรรณ” เป็นวัดเดียวในโปรแกรม 3วัด ที่เราไม่สามารถขึ้นบกไปชมใกล้ๆได้ เพราะตอไม้เยอะมากขนาดนี้จนเอาเรือเข้าไปไม่ได้ เป็นเราก็คงไม่เสี่ยงขับเรือเข้าไปนะ
หลังจากนั่งอยู่บนเรือชมวัดศรีสุวรรณอยู่ไกลๆแล้ว สารถีก็ขับเรือพาเรามาที่วัดต่อมา คือ "วัดวังก์วิเวการาม (เก่า)" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" วัดนี้เป็นวัดที่เป็นไฮไลท์ของโปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำเลยก็ว่าได้ พอเรือมาถึงปุ๊บ ก็จะมีเด็กๆชาวมอญ มารอต้อนรับแถมยัง
เป็นไกด์นำเที่ยวให้พร้อมดอกไม้ธูปเทียนไว้ไปไหว้พระด้วย เด็กๆเค้าจะคิดเงินแค่ค่าดอกไม้ธูปเทียนชุดละ 10บาท ที่เหลือก็แล้วแต่น้ำใจเราละนะ