“ไทยแอร์เอเชีย”ยันไม่ได้รับผลกระทบICAO เดินหน้าเปิด 5 เส้นทางใหม่

กระทู้ข่าว
จากมติชนออนไลน์

“ไทยแอร์เอเชีย” ยันไม่ได้รับผลกระทบ ไอซีเอโอ เดินหน้าเปิด 5 เส้นทางใหม่ คาดกรมการบินทยอยตรวจสอบกันยานี้ เชื่อสิ้นปีเเล้วเสร็จ 10 สายการบิน ยื่น IATA ตรวจมาตรฐาน IOSA ยกระดับมาตรฐานสากล  

นายธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเเอร์เอเชีย เปิดเผยว่า การที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ปักธงแดงต่อกรมการบินพลเรือนของไทย รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ยังคงเดินตามแผนว่าช่วงเวลาที่เหลือปี 2558 จะรับเครื่องอีก 2 ลำ จากที่รับมาแล้ว 3 ลำ ทำให้ทั้งปีนี้สายการบินรับเครื่องบินทั้งหมด 5 ลำ ทำให้สิ้นปีมีเครื่องบิน 45 ลำ พร้อมทั้งขยายเส้นทางบินได้ตามแผนที่วางไว้อยู่ โดยจีนได้อนุญาตเปิดเส้นทางบินเพิ่ม 3 เส้นทาง คาดว่าจะเปิดบินได้ภายในปีนี้ได้ 2 เส้นทาง และต้นปีหน้า 1 เส้นทาง นอกจากนี้ยังได้อนุญาตเปิดเส้นทางบิน บังกะลอร์ ประเทศอินเดีย เพิ่ม 1 เส้นทาง

“ช่วงที่เหลือของปีนี้จะเพิ่มเส้นทางบิน 5 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางที่บินตรงจากฐานการบินใหม่ อู่ตะเภา 3 เส้นทาง หลักๆ คือ บินไปจีน และเส้นทางที่บินออกจากกรุงเทพฯ อีก 2 เส้นทาง ในส่วนของอินเดีย จะบินออกจากกรุงเทพฯ ในอดีตเคยเปิดบินในอินเดียหลายเมืองแล้ว คือ เชนไน กัลกัตตา นิวเดลี และโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดบินและเหลือแค่เส้นทางเชนไน เพราะช่วงเวลานั้นยังขาดประสบการณ์กับตลาดอินเดีย มีช่องทางจำหน่ายที่ไม่ครอบคลุม

แต่เหลือเส้นทางเชนไนไว้ศึกษากลยุทธ์การทำเส้นทางบินอินเดียนานถึง 3 ปี จนปัจจุบันโหลด แฟกเตอร์เส้นทางนี้อยู่ที่ 78% หรือบางช่วงสูงถึง 85-86% มีพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทำให้มั่นใจกลับไปเปิดเส้นทางอินเดียเพิ่มอีกครั้ง โดยจะเปิดเพิ่มปีละ 1-2 เส้นทาง ทั้งนี้ ปีหน้ายังยืนยันรับเครื่องบินตามแผนอีก 5 ลำ เพื่อรองรับขยายเส้นทางบินทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงจีน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปัญหาไอเคโอ ไม่กระทบต่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ปีนี้ คือ มียอดผู้โดยสาร 14.5 ล้านคน อัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบิน (โหลด แฟกเตอร์) เฉลี่ย 83% รายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า  ปีนี้ ” นายธรรศพลฐ์ กล่าว

นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาไอเคโอทำให้การบินไทยที่บินไปประเทศที่เข้มงวดเรื่องมาตรฐานการบิน ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย เกาหลี และญี่ปุ่น เกิดความกังวลบ้าง แต่เชื่อว่ากรมการบินพลเรือนของประเทศเหล่านี้น่าจะเห็นถึงมาตรฐานการบินระดับโลกที่สายการบินมีอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเกิดผลด้านลบเกิดขึ้น ส่วนไทยแอร์เอเชียไม่ได้ทำการบิน เพราะส่วนใหญ่จะบินเฉพาะเส้นทางไม่เกิน 4 ชั่วโมงอยู่ในอาเซียน และจีน เป็นหลัก โดยเฉพาะจีนที่ปัจจุบันได้อนุญาตให้สายการบินจากไทยบินได้ปกติ ซึ่งหลังมีเหตุการณ์นี้ ยอมรับว่า กรมการบินพลเรือนของจีนเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจมากขึ้น จากเดือนละครั้งกลายเป็นสัปดาห์ละ 1-2 ไฟลท์ สลับเมืองปลายทางที่บินไป แต่เรายืนยันว่าสายการบินเรามีมาตรฐานอยู่แล้วจังไม่กังวลใดๆ

"เชื่อว่าการเดินหน้าแก้ปัญหาไอซีเอโอของกรมการบินพลเรือนเดินมาถูกทางแล้วแต่ความรวดเร็วในการแก้ปัญหาอาจจะช้าบ้างส่วนอนาคตหากการแก้ปัญหาไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จะส่งผลกระทบให้ไทยโดนลดชั้นหรือไม่นั้น ก็ถือเป็นดุลยพินิจของกรมการบินพลเรือนแต่ละประเทศ ที่จะให้สายการบินจากไทยบินเข้าไป ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ต้องปิดเส้นทางซับโปโร นอกจากเรื่องกรมการบินพลเรือนไทยถูกธงแดงแล้ว ยังมาจากการที่ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ต้องขออนุญาตบินได้เพียงระยะสั้นทุก 1 เดือน ถือเป็นเรื่องยากต่อการขายตั๋วและทำการตลาด

อย่างไรก็ตาม ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ พร้อมจะกลับมาเปิดบริการทันที หากปัญหานี้ยุติและได้รับการแก้ไขจากกรมการบินเรียบร้อยแล้ว เพราะตั้งเเต่เปิดเส้นทางนี้มา 2-3 เดือน โหลดแฟกเตอร์อยู่ที่ 70% และกำลังเพิ่มขึ้นถึง 80% แต่ติดปัญหานี้ก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทั้งนี้ การปิดบริการชั่วคราวเส้นทางดังกล่าว ไม่กระทบรายได้ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เพราะมีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 10% ของรายได้สายการบิน ระหว่างนี้อยู่ระหว่างหารือกับจีน เพื่อเปิดบริการเเบบชาร์เตอร์ไฟลท์ หรือเช่าเหมาลำ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปบางส่วน"  นายธรรศพลฐ์ กล่าว

นายธรรศพลฐ์  กล่าวว่า สายการบินเชื่อว่ากรมการบินน่าสามารถทยอยตรวจสอบสายการบินต่างๆ ที่ยังดำเนินธุรกิจราว 10 สายการบิน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 80-90% ของธุรกิจการบินของไทยจากทั้งสิ้น 28 สายการบินตั้งเเต่ช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ และแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2558 และคาดว่าจะใช้เวลา 1 ปีนับตั้งแต่การตรวจสอบสายการบินแรกจนแล้วเสร็จสายการบินลำดับที่ 28 ซึ่งคราวนี้จะได้ทราบว่าหากใช้มาตรฐานใหม่ตามที่กรมการบินได้ปรับแก้ให้เป็นไปตามมาตรฐานไอเคโอ จะเหลือกี่สายการบินที่ผ่านเกณฑ์บ้าง และเชื่อว่าหากสายการบินใดผ่านการตรวจสอบและได้รับใบอนุญาตใหม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่ากรมการบินของประเทศปลายทางที่จะบินไปพิจารณากับสายการบินนั้นอย่างไร อาจสามารถบริการหรือนุญาตเปิดเส้นทางบินใหม่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้กรมการบินตรวจสอบให้แล้วเสร็จทั้ง 28 สายการบิน

"เราเชื่อมั่นว่าหากสามารถแก้ไขข้อบกพร่อมเพื่อให้ได้มาตรฐานไอเคโอ แนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง และระหว่างนี้ทั้งไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้ยื่นเรื่องไปยังสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เพื่อเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยด้านการบิน (IOSA) ซึ่งหากผ่านการตรวจสอบจะทำให้ทั้ง 2 สายการบินถือว่าได้ผ่านการตรวจสอบรับรองจากหน่วยงานตรวจเช็คมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสารและคืบหน้าไปกว่า 70% แล้ว ซึ่งมาตรฐานดังกล่าว จะเป็นมาตรฐานคล้ายคลึงกับของไอเคโอ โดยมีกรมการบินพลเรือนที่จะเข้ามาตรวจสอบ มั่นใจว่า เราจะผ่าน IOSA ไปแล้ว และกรมการบินก็จะเข้ามาตรวจ ซึ่งหลักการประเมินจะคล้ายกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" นายธรรศพลฐ์ กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่