เบื้องหลังการปล่อยข่าวลือปฏิวัติซ้อน ใครได้ ใครเสีย
หลังจากมีคำสั่งเกษียณอายุของนายทหารใน กันยายน 2558 มีการคาดหมายว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ซึ่งใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นบุคคล 2 คน ที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ทำให้เกิดภาพความขัดแย้งในกลุ่มนายทหาร ขณะเดียวกัน กลับมีข่าวลือการปฏิวัติซ้อน และข่าวการ พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลัด พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร ผบ.ทบ. เนื่องจากมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.อ.ประวิตร ทั้งข่าวลือการปลด พล.อ.อุดมเดช และข่าวการปฏิวัติซ้อน ทำให้บรรดาบิ๊กใน คสช. ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อุดมเดช ไม่พอใจ และสั่งให้หาตัวคนที่เผยแพร่ข่าวดังกล่าว จนกระทั่งมีการนำไปสู่การจับกุมผู้เผยแพร่ข่าวดังกล่าว ซึ่งดูเหมือจะไม่ใช่การกระทำที่ไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เป็นการวางแผนมาอย่างแยบยล ข่าวทางลึกพบว่า หลังจากคำสั่งเกษียณนายทหารประจำปี 2558 ออกมาไม่กี่ชั่วโมง เกิดการเคลื่อนไหวในกลุ่มไลน์หลายกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่เคลื่อนไหวสนับสนุนคนเสื้อแดง เช่น กลุ่มชมรมคนไพร่ประชาธิปไตย กลุ่มแสงดาวแห่งศรัทธา กลุ่มชมรมคนรากหญ้าเพื่อนสมัย และชมรมหนูรักผู้เฒ่า+18 ได้เริ่มเผยแพร่ข่าวการเคลื่อนไหวขบวนรถถัง พร้อมกับระบุข่าวลือปฏิวัติ ทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มเกิดความแตกตื่น และมีบางคนที่อยู่ในกลุ่มเหล่านี้เห็นว่าเป็นประเด็นที่จะนำมาโจมตีคณะ คสช.ได้ จึงบอกต่อกันเป็นนัยว่า เรื่องนี้ถ้าทำดีๆ มีโอกาสที่ คสช. จะแตกคอกัน หลังจากนั้นกลุ่มคนที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นเว็บ dangdd.com ซึ่งมีลาวฝ่ายขวาในอเมริกาเป็นผู้ทำ ได้เริ่มมีการปล่อยข่าวดังกล่าว โดยผู้ใช้นามแฝง usa.th ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเว็บเป็นคนทำ ในส่วนของโซเชียลมีเดียบรรดาคนที่สนับสนุนคนเสื้อแดงก็เริ่มปล่อยข่าวเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดกรณีของเฟซบุ๊ค chanisa boonyajinda เริ่มเอาภาพขบวนรถถังที่แชร์ในกลุ่มมาเผยแพร่เมื่อบ่ายวันที่ 10 มิถุนายน 2558 พร้อมกับโพสต์เป็นนัยว่าจะมีการปฏิวัติ ในวันรุ่งขึ้นเฟซบุ๊คนี้ก็นำภาพขบวนรถถังมาเผยแพร่อีก เพื่อเป็นการตอกย้ำความน่าเชื่อถือ อีกวันถัดมาเว็บแห่งนี้เริ่มเน้นในข้อความที่ระบุว่าจะมีการปฏิวัติซ้อน รวมทั้งมีบางประเด็นมุ่งตรงไปที่สถาบันฯ ซึ่งเนื้อหาที่เผยแพร่ตรงกับในเว็บ dangdd.com อีก 5 วันถัดมา เฟซบุ๊ค chanisa boonyajinda โพสต์เรื่องมีขบวนรถถัง 20 คัน เคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ จะเห็นได้ว่าการปล่อยข่าวทั้งเรื่องการปฏิวัติซ้อน และสถาบันฯ เป็นการดิสเครดิต เพื่อสร้างความแตกแยกภายในกองทัพ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยทำมา งานนี้ถือว่า คสช. เกือบเพลี่ยงพล้ำ ถ้าหากจับตัวคนปล่อยข่าวไม่ได้ และนับเป็นความโชคดีที่ในที่สุดก็สามารถหาตัวคนปล่อยข่าวลือได้ พร้อมกับหลักฐานและกระบวนการการปล่อยข่าว ที่ทำอย่างเป็นขั้นตอนและต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้คิดกันได้ว่า กลุ่มของผู้นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อทวงคืนอำนาจ และหาเหตุโจมตีฝ่ายทหารในทุกกรณีเท่าที่มีเงื่อนไข สิ่งที่คนไทยควรทำได้คือ ไม่ควรหูเบา มีความหนักแน่น ไม่เชื่อข่าวลือในสถานการณ์แบบนี้
-----------------------------------------------------------
เบื้องหลังการปล่อยข่าวลือปฏิวัติซ้อน ใครได้ ใครเสีย
หลังจากมีคำสั่งเกษียณอายุของนายทหารใน กันยายน 2558 มีการคาดหมายว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ซึ่งใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นบุคคล 2 คน ที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ทำให้เกิดภาพความขัดแย้งในกลุ่มนายทหาร ขณะเดียวกัน กลับมีข่าวลือการปฏิวัติซ้อน และข่าวการ พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลัด พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร ผบ.ทบ. เนื่องจากมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.อ.ประวิตร ทั้งข่าวลือการปลด พล.อ.อุดมเดช และข่าวการปฏิวัติซ้อน ทำให้บรรดาบิ๊กใน คสช. ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อุดมเดช ไม่พอใจ และสั่งให้หาตัวคนที่เผยแพร่ข่าวดังกล่าว จนกระทั่งมีการนำไปสู่การจับกุมผู้เผยแพร่ข่าวดังกล่าว ซึ่งดูเหมือจะไม่ใช่การกระทำที่ไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เป็นการวางแผนมาอย่างแยบยล ข่าวทางลึกพบว่า หลังจากคำสั่งเกษียณนายทหารประจำปี 2558 ออกมาไม่กี่ชั่วโมง เกิดการเคลื่อนไหวในกลุ่มไลน์หลายกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่เคลื่อนไหวสนับสนุนคนเสื้อแดง เช่น กลุ่มชมรมคนไพร่ประชาธิปไตย กลุ่มแสงดาวแห่งศรัทธา กลุ่มชมรมคนรากหญ้าเพื่อนสมัย และชมรมหนูรักผู้เฒ่า+18 ได้เริ่มเผยแพร่ข่าวการเคลื่อนไหวขบวนรถถัง พร้อมกับระบุข่าวลือปฏิวัติ ทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มเกิดความแตกตื่น และมีบางคนที่อยู่ในกลุ่มเหล่านี้เห็นว่าเป็นประเด็นที่จะนำมาโจมตีคณะ คสช.ได้ จึงบอกต่อกันเป็นนัยว่า เรื่องนี้ถ้าทำดีๆ มีโอกาสที่ คสช. จะแตกคอกัน หลังจากนั้นกลุ่มคนที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นเว็บ dangdd.com ซึ่งมีลาวฝ่ายขวาในอเมริกาเป็นผู้ทำ ได้เริ่มมีการปล่อยข่าวดังกล่าว โดยผู้ใช้นามแฝง usa.th ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเว็บเป็นคนทำ ในส่วนของโซเชียลมีเดียบรรดาคนที่สนับสนุนคนเสื้อแดงก็เริ่มปล่อยข่าวเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดกรณีของเฟซบุ๊ค chanisa boonyajinda เริ่มเอาภาพขบวนรถถังที่แชร์ในกลุ่มมาเผยแพร่เมื่อบ่ายวันที่ 10 มิถุนายน 2558 พร้อมกับโพสต์เป็นนัยว่าจะมีการปฏิวัติ ในวันรุ่งขึ้นเฟซบุ๊คนี้ก็นำภาพขบวนรถถังมาเผยแพร่อีก เพื่อเป็นการตอกย้ำความน่าเชื่อถือ อีกวันถัดมาเว็บแห่งนี้เริ่มเน้นในข้อความที่ระบุว่าจะมีการปฏิวัติซ้อน รวมทั้งมีบางประเด็นมุ่งตรงไปที่สถาบันฯ ซึ่งเนื้อหาที่เผยแพร่ตรงกับในเว็บ dangdd.com อีก 5 วันถัดมา เฟซบุ๊ค chanisa boonyajinda โพสต์เรื่องมีขบวนรถถัง 20 คัน เคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ จะเห็นได้ว่าการปล่อยข่าวทั้งเรื่องการปฏิวัติซ้อน และสถาบันฯ เป็นการดิสเครดิต เพื่อสร้างความแตกแยกภายในกองทัพ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยทำมา งานนี้ถือว่า คสช. เกือบเพลี่ยงพล้ำ ถ้าหากจับตัวคนปล่อยข่าวไม่ได้ และนับเป็นความโชคดีที่ในที่สุดก็สามารถหาตัวคนปล่อยข่าวลือได้ พร้อมกับหลักฐานและกระบวนการการปล่อยข่าว ที่ทำอย่างเป็นขั้นตอนและต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้คิดกันได้ว่า กลุ่มของผู้นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อทวงคืนอำนาจ และหาเหตุโจมตีฝ่ายทหารในทุกกรณีเท่าที่มีเงื่อนไข สิ่งที่คนไทยควรทำได้คือ ไม่ควรหูเบา มีความหนักแน่น ไม่เชื่อข่าวลือในสถานการณ์แบบนี้
-----------------------------------------------------------