[CR] รีวิวการไป เกาะล้าน ครั้งแรก แบบเสียค่าโง่ (เล่าย้อน 4 ปีที่แล้ว)

มารีวิวเพราะเห็นกระทู้นึงในพันทิปเจอผีหลอกที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเกาะล้านค่ะ
ดูโลเคชั่นแล้วน่าจะที่นี่แหละ (ในกระทู้นั้น เค้าบอกว่าตอนนี้รีสอร์ทปิดตัวแล้วนะคะ)


แต่เราไม่ได้เจอผีหลอกนะ เจอคนตัวเป็นๆหลอกนี่แหละค่าา


ตามชื่อกระทู้ค่ะ คือการเล่าย้อนไปน่าจะประมาณ 4 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นไปแบบไม่มีแผน ไม่มีการจองที่พักล่วงหน้าค่ะ ไม่มีข้อมูลอะไรเลยในหัว มีแค่ "เห้ย มันอยู่ใกล้ๆเรานี่เอง"
นึกอยากจะไปกันก็แพ็คกระเป๋าออกจากบ้านกันเลย ไปแค่ 1 คืนเพราะเรามีเวลาแค่นั้น
ไปกัน 3 สาวค่ะ (เรา, พี่สาว, เพื่อนพี่สาว)
ออกมาก็ช่วงบ่ายแล้วแหละ เรือรอบเย็น จำได้ว่าพอไปถึงเกาะ..พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว


ลงเรือปุ๊ป เดินย่ำไปตามถนนเลย ไม่เช่า-ไม่โบกรถใดๆทั้งสิ้น
ไม่แน่ใจว่าอยากประหยัดหรือร้านเช่ารถปิดแล้ว


เดินมาเรื่อยๆจนในใจเราเริ่มท้อ คือไม่เห็นบ้าน ไม่เห็นที่พักเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน
จนมีรถประจำทางผ่านมา บีบแตรปี๊ปๆ พร้อมเลื่อนกระจกลง ถามว่าจะไปไหนกัน
'เดินหาที่พักเรื่อยๆอะค่ะลุง'
'โห้ย แถวนี้ไม่มีหรอกหนู จากนี่ไปกว่าจะเจอที่พักก็ 3-4 โลแหน่ะ'
ไอเ-ย แค่นึกก็ท้อแล้ว เลยตัดสินใจนั่งรถไปกัน
ลุงแกก็บอกอีกว่า 'นี่ก็เย็นแล้วนะ หาที่พักตอนนี้มันจะลำบาก ส่วนใหญ่ก็เต็มหมด เอาเป็นว่าลุงพาไปส่งที่ซานาดูรีสอร์ทแล้วกัน ลุงรู้จักเจ้าของรีสอร์ท'


ค่อนข้างไกลและเปลี่ยวมากค่ะกว่าจะถึงที่พัก แถมทางเข้านี่นะ ถ้าลุงแกไม่พามาก็ไม่นึกว่าจะมีรีสอร์ทข้างใน
จอดรถขนของลงปุ๊ป จ่ายค่ารถให้แกประมาณ 4-500 บาทนี่แหละ
รับเงินเสร็จสรรพแกส่งต่อพวกเราให้คุณป้าท่านนึงแล้วขับรถออกไป
สิ้นแสงและเสียงรถแกแล้ว.. อึมครึมมากๆ
ในใจก็คิดว่า เอาน่าต้นไม้เยอะ ดินชื้นๆ พระอาทิตย์ตกดิน อึมครึมบ้างเป็นธรรมดา


ป้าแกก็บอกว่า 'ปกติห้องพักราคา 1000 บาทนะ แต่หนูมา 3 คนป้าต้องคิดเพิ่ม 200 เป็น 1200'
และต้องจ่ายตอนนั้นเดี๋ยวนั้นเลย


ตลอดระยะทางที่นั่งรถมาคือไม่มีแสงไฟจากโรงแรมอื่นๆเลย
แถมไม่มีมอไซจะออกไปไหนด้วย โดนลุงสองแถวมหาโหดทิ้งแล้วด้วย เลยต้องยอมจ่ายไปค่ะ


จ่ายเงินเสร็จ แกก็พาเดินไปที่ห้อง ก็ให้กุญแจแล้วหันหลังเดินกลับไป


ห้องรูปแบบบังกะโลว์ค่ะ ชั้นเดียว รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าห้องเป็นชานระเบียง เดินเข้าไปหน่อยจะเจอประตูอยู่ขวามือ กึ่งกลางห้องพอดี
ประตูไม้ล็อคด้วยแม่กุญแจเหล็ก ไขล็อค เปิดประตูห้องไปเจอเตียงไม้หลังใหญ่มาก ใหญ่กว่าไซส์คิงเบดอยู่ขวามือห้องอยู่ 2 เตียง
เตียงใหญ่แบบนอนได้ 5-6 คนอะ ปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวี, ทีวีจอหนา, และผ้าขนหนูขนแข็งๆ
เราคิดในใจ 'แ-งเอ้ย พักได้เป็น 10ๆ คนยังจะคิดตังค์เพิ่มอีก สกปรกยังกะไม่ได้กวาดมาเป็นเดือน'
ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ กระเบื้องเขรอะๆ กระจกมัวๆ
ในห้องและบริเวณรอบๆไม่น่าเรียกว่ารีสอร์ทค่ะ แต่เค้าบอกว่าซานาดูรีสอร์ทก็อ่ะ!! ยอม!!


เพื่อนพี่สาวเราอยากออกไปชมทะเลค่ะ แต่เรากับพี่สาวเลือกจะอยู่ห้องรอ
ระหว่างรอ เราบอกพี่สาวว่าเราใจแป้วมากๆ ไม่อยากอยู่ที่นี่แต่ก็ไม่รู้จะไปไหน
เวลาอาบน้ำคือกลัวมากเหมือนมีคนจ้อง อาบทีเราตะโกนเรียกพี่สาวที
เราสองคนเลยไปเจรจาขอเงินคืน (และจะไปหาที่พักเอาดาบหน้าค่ะ)
ได้รับคำตอบแบบที่ฟังแล้ว รู้ว่าแถมาว่า 'ไม่ได้ค่ะ ป้าโอนเงินส่งไปให้เจ้าของรีสอร์ทแล้ว'
เห้ยทั้งๆที่ยังไม่ถึง 1 ชมคือโอนให้เค้าแล้วหรอ? ยังไง?
สรุปคือยังไงก็จะไม่ได้เงินคืนอะ เลยต้องนอนค่ะ นอนทั้งน้ำตาเลย เม่าตกใจ ไม่อยากเสียเงินมากกว่านี้ละ


อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เพื่อนพี่สาวเดินกลับมา เรา 3 คนเลยตัดสินใจจะออกไปทานข้าวกัน
เราจะไปถามป้าแกค่ะ ว่าแถวนี้หาร้านอาหารได้ที่ไหนบ้าง
(จริงๆที่พักเรามีร้านอาหารอยู่แถวๆด้านหน้าหาดนะ แต่ดูจากสภาพแล้ว ..ไปที่อื่นดีกว่า)
แต่เราเห็นป้าแกกับครอบครัวกลุ่มใหญ่นั่งทานข้าวกันมีความสุข พร้อมเหล้าเบียร์ต่างๆนาๆ เสียงดังเจี้ยวจ้าว
เรานี่คิดเลยนะว่าเงินที่เราจ่ายไปอะไม่ได้โอนให้ใครที่ไหนหรอก แต่เอาไปซื้อของพวกนี้มาฉลองกันอยู่ตอนนี้ไง!


เลยเดินเลี่ยงๆป้าแกลงมาทางหน้าหาด
ที่พักเราอยู่สุดหาดเลยค่ะ หน้าหาดตอนนั้นไม่มีไฟเลย
มองไปซ้ายคือโขดหิน เป็นเขาเล็กๆยื่นไปในทะเล ชวนให้คิดมากว่ามีซัมติงมองเรามาจากมุมมืดนั่น


เราเลยเดินไปด้านขวามือของหาด เดินมาสักพักเจอซุ้มเล็กๆเหมือนร้านอาหารค่ะ มีคนตั้งวงกินข้าว เรานี่เดินปรี่เข้าไปเลย
แต่เค้าบอกว่า 'ยังไม่เปิดให้บริการค่ะ'
เลยถามพี่ๆน้าๆว่าแถวนี้มีร้านมอไซที่ไหนให้เช่าอีกมั้ย แกบอกว่าตอนนี้ก็ปิดกันหมดแล้วแหละหนู
ใจเรานี่แป้วแล้วแป้วอีก สักพักมีเสียงจากสวรรค์เอ่ยถามเราว่า
'น้องเอามอไซพี่ไปใช้ก็ได้นะ คิดราคาปกติเลย 300'
เรารีบไหว้พี่แกและยื่นบัตรประชาชนให้ แต่แกบอกว่าไม่เป็นไรน้อง เอาไปใช้เลย กลับเมื่อไหร่ค่อยโทรหาพี่ (แล้วเราก็แลกเบอร์กัน)
แกถามว่าพักกันที่ไหน
เราตอบเค้าว่าจากร้านนี้ไปทางซ้ายมือสุดหาดก็เจอ (เรากลัวพี่แกคิดว่าเราจะโกงรถแก เลยบอกที่อยู่ -.-)


ซ้อน 3 เลยค่ะตอนนี้ ขับออกมาข้างนอก
ยังไม่ทานข้าวนะ! หาที่พักก่อน! มาครั้งหน้าจะได้ไม่เสียค่าโง่
คือเจอที่พักที่มีห้องว่างเยอะมาก สภาพดีกว่าและถูกกว่าด้วย แต่ก็ปลงๆกันละ


ขากลับ ซัก 4-5ทุ่ม เราจะกลับทางเดิมที่รถสองแถวพามาค่ะแต่คือ มืดเกินไป ไม่เห็นข้างหน้าเลย ต้นไม้,หญ้ารกมากๆ
ขี่มอไซกันไม่แข็งเลยขับต่อไปอีกนิดนึง มันจะมีทางเข้าที่มีป้อมยามและแผงกั้นค่ะ
ก็ขับเข้าไปเลย รปภจำเราได้ (เพราะเราได้มอไซจากพี่เค้าแล้วก็ขับพากันออกมาทางนี้แหละ)


พอขับเข้าไปมันจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายค่ะ ตรงไปจะเจอซุ้มพี่ๆเค้า
เราเลยขับแยกออกมาทางซ้ายกันเพราะคิดว่า น่าจะเจอรีสอร์ทเราอยู่ซ้ายมือ
ขับมาสุดทางเจอป้ายรีสอร์ท 'ซานาดูรีสอร์ท'
แต่!!
แต่ไม่ใช่รีสอร์ทที่เราพักค่ะ!!
มองหน้ากันแล้วพยักหน้าหงึกๆเป็นที่รับรู้ว่า ซานาดูรีสอร์ทโดนแอบอ้าง และอีกอย่างซานาดูเหมือนจะยังไม่เปิดให้บริการในตอนนั้นนะคะ


เราเลยจอดรถทิ้งไว้ตรงนั้น แล้วเดินลงหาด อ้อมซานาดูไปยังกระต๊อบของเรา
เม่าตาสว่าง


เช้า ขับมอไซไปหาดตาแหวนค่ะ
เที่ยง ทิ้งเพื่อนพี่สาวไว้ที่หาดเพราะเค้ากำลังเอนจอยเดอะบีช เราสองคนเลยขอตัวมาเก็บกระเป๋าที่ห้อง


ระหว่างทางกลับคือแวะชมวิวกันตามประสาพี่น้องค่ะ แต่ทางลงจุดชมวิวนี่คืออันตรายอะ สำหรับคนขับมอไซไม่แข็งอย่างเราๆ
รถล้มดังโครม!
ชิ-หาย เอารถพี่สวรรค์(ชื่อนี้ตั้งให้พี่แกเอง)มาล้ม!!! รอยถลอกเยอะมาก แถมตัวยางหุ้มที่เหยียบนั่นก็หลุดหายไปเลยค่ะ
ยกรถขึ้นแล้วหัวเราะให้ความโง่ของตัวเองทั้งๆที่น้ำตาจะไหล 55555


ขับรถกลับมาเก็บของเสร็จ คืนกุญแจเสร็จ เตรียมใจอยู่นานว่าจะบอกพี่แกว่ายังไง
(ตอนนั้นพี่แกโทรมาย้ำๆๆๆมากค่ะ เพราะแกรีบไปขึ้นเรือ)
เลทแกอยู่ซักครึ่งชั่วโมงได้ เลยตัดสินใจหอบข้าวของพร้อมรอยแผลมอไซมาส่งคืนพี่เค้า
เค้าก็ถามจะขึ้นเรือที่ไหนเดี๋ยวพี่ไปส่งที่ท่า
เราบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวโบกรถแถวนี้ไปต่อ แกไปเถอะเพราะเลทเรือแกมากๆแล้ว แถมที่เอารถแกไปล้มแกไม่คิดเงินซักบาท
แกก็บอกไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่ง
เลยพากันมาที่หาดตาแหวนค่ะ ไหว้ขอบคุณพี่เค้าแล้วเค้าก็ยิ้มขับมอไซออกไป


จากนั้นก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ขึ้นเรือกลับพัทยา นั่งรถตู้เข้ากรุงเทพตามปกติ


สรุปย่อๆสั้นๆคือโดนลุงสองแถวและป้าแกหลอกว่าที่นี่คือซานาดูรีสอร์ท ทั้งๆที่จริงคือชื่อรีสอร์ทข้างๆ
ที่นี่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อที่พักของตัวเองด้วยซ้ำ
ทริปนี้คือเสียค่าโง่มากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้มากค่ะ 555

แต่ก็สุขใจมากนะ ลุยกันตามประสาพี่น้อง แอบร้องไห้กันสองคน แต่ยังเจอคนดีๆอย่างพี่สวรรค์และเจ้าของบาร์ข้างนอก อมยิ้ม02

ปล. กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกค่ะ แท็กผิดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
ชื่อสินค้า:   เกาะล้าน พัทยา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่