คนที่ไปอยู่นอกแล้วไม่อยากกลับมาอยู่ที่ไทยอีกเพราะอะไรหรอคะ?

กระทู้คำถาม
เราแค่สงสัยเฉยๆคะ เราเป็นคนนึงที่อยากย้ายไปอยุ่ที่นั้นเพราะเบื่ออะไรหลายๆอย่างที่นี้แต่ยังไงเราก็รักเมืองไทยเหมือนเดิมคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อยู่เมืองไทย มีเงินกับอำนาจ ถึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุขครับ ชนชั้นกลางกะรากหญ้าก็อยู่แบบปากกัดตีนถีบ คอยมองรัฐเอาภาษีเราๆเข้ากระเป๋าไปเสวยสุขกันเอง
เมืองนอกอาจจะมีพวกเส้นใหญ่บ้าง แต่โดยรวมแล้วดีกว่าไทยเยอะ

ถึงเมืองไทยจะเป็นบ้านเกิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องอยู่ที่เดิมตลอดกาล บ้านยังย้ายได้ ทำไมย้ายประเทศจะไม่ได้หละครับ เกิดมาครั้งเดียวบนโลกนี้ ขอเลือกใช้ชีวิตในที่ๆเหมาะกับตัวเราดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 27
จขกท. ถามว่า    คนที่ไปอยู่เมืองนอกแล้วไม่อยากกลับไทยอีกเพราะอะไรคะ

อีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันไม่อยากกลับ  คือ  สังคมที่ผู้คนมักง่าย เห็นแก่ตัว เรียกร้องหาแต่ น้ำใจ จากผู้อื่น รู้จักแต่สิทธิของตัวเอง แต่ไม่เคยคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น ไม่ได้รับการอะลุ้มอะหล่วย ก็ว่าคนอื่นแล้งน้ำใจ
ไร้ระเบียบวินัย  "กฏมีไว้แหก"  "ด้านได้อายอด" "น้ำขึ้นให้รีบตัก" "มือใครยาวสาวได้สาวเอา" นี่คือ คติพจน์ที่คนไทยชอบใช้  
อะไรไม่ดี โทษคนอื่นหมด  บ้านเมืองสกปรกโทษผู้นำ ประเทศไม่พัฒนาก็โทษระบบการศึกษา  ทั้งที่วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ความเป็นระเบียบวินัย  มีสอนกันตั้งแต่ระดับชั้นประถม ตั้งแต่มีระบบการเรียนการสอนตั้งขึ้นมา

ฉันบอกตรงๆ  อย่างนี้  เดี๋ยวต้องมีคนมาด่า ว่ายกย่องฝรั่ง ลืมกำพืด ดูถูกดูแคลนแผ่นดินเกิดตัวเอง แช่งชักหักกระดูก ให้ตายอยู่ต่างประเทศ อย่ากลับเมืองไทย   ทั้งๆ ฉันพูดถึง นิสัยของคน

ประเทศที่พัฒนาแล้ว เจริญรุ่งเรือง ก็เพราะคนที่อาศัยอยู่ในประเทศ เน้นว่า ส่วนใหญ่ เขาไม่มีนิสัยแบบคนไทย
ความคิดเห็นที่ 35
เห็นประเทศตัวเองแล้วหดหู่ครับ หดหู่ตรงที่เราช่วยให้มันดีกว่านี้ไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 18
เหตุผลหนึ่งที่ครอบครัวคนไทยหลายครอบครัวมาอยู่ที่ออสฯ คือเรื่องการศึกษาของลูกค่ะ

   เห็นว่าระอากับระบบแป๊ะเจี้ยะที่เมืองไทยค่ะ บอกว่าขนาดจะเอาลูกเข้าอนุบาลใกล้บ้าน ค่าแป๊ะเจี้ยะห้าหมื่นบาท (เรทเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว)  เพื่อนอีกคนบ้านอยู่ใกล้โรงเรียนขนาดเดินไปได้ โรงเรียนนี้มีชื่อเสียงมาก พอพาลูกไปสมัครเรียน ต้องเขียนด้วยค่ะว่าจะบริจาคเงินให้โรงเรียนเท่าไหร่ เธอเขียนไปสองแสน แต่เข้าไม่ได้ ลูกของเพื่อนบ้านเข้าได้เพราะเขียนไปห้าแสน นี่ขนาดสิบกว่าปีที่แล้ว ถ้าปัจจุบันคงต้องเขียนเป็นตัวเลขเจ็ดหลัก

   พอพามาอยู่ออสฯ เลือกอยู่ย่านดีๆ แล้วพาลูกไปสมัครเรียนโรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้าน โรงเรียนที่นี่ถ้าเป็นของรัฐ จะแบ่งเป็นประถมกับมัธยมแยกกัน แล้วโรงเรียนประถมส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนเล็กๆ แต่มีกระจัดกระจายในชุมชน บ้านใครใกล้ที่ไหน ก็จะพาลูกเข้าที่นั่นค่ะ เด็กๆ ที่นี่ส่วนใหญ่จะเดินไปโรงเรียนกันค่ะ ลูกไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่ตีห้า แม่ต้องป้อนข้าวบนรถช่วงรถติดเหมือนอย่างเด็กกรุงเทพฯ  แต่เด็กที่นี่จะตื่นแปดโมง บางคนก็แปดโมงครึ่ง ล้างหน้า ถูฟัน กินข้าวเช้า พออีกสิบหรือสิบห้านาทีค่อยเดินออกจากบ้านไปโรงเรียน (โรงเรียนเข้าเก้าโมง)

    อย่างคนที่ไปแคนาดา (จบสาขาไอที) ที่เขาขอวีซ่าถาวรก็เพราะเพื่อการศึกษาของลูกๆ ค่ะ ยอมไปลำบากทำงานใช้แรงงานช่วงแรกๆ จนได้งานตรงสาขา ครอบครัวค่อยสบายขึ้น เขาบอกว่าที่มาเพราะถ้าอยู่เมืองไทย เขาไม่มีปัญญาส่งลูกสามคนเรียนโรงเรียนดีๆ ยิ่งถ้าส่งเรียนต่างประเทศยิ่งไม่ไหว เลยใช้วิธีขอพีอาร์ก่อน เขาบอกว่าคุ้ม เพราะพอลูกๆ มาก็ได้เรียนฟรีในโรงเรียนของรัฐจนจบมัธยม แล้วไม่มีแป๊ะเจี๊ยะ ถ้าเก็บแป๊ะเจี้ยะ ครูใหญ่เจอคุกค่ะ แล้วโรงเรียนรัฐไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเด็ก ถ้าพ่อแม่อยู่ในเขต จูงลูกไปสมัครเรียนได้เลย จะช่วงเทอมไหนของปีก็ได้

   ซึ่งพอดูนักเรียนไทยที่ได้ทุนมาต่อโทต่อเอกที่ออสฯ แล้วพาลูกมาเรียนด้วย พอเรียนจบต้องกลับไทย จะเสียดายเรื่องการศึกษาของลูกทั้งนั้น แถมมาบ่นตอนหลังอีกว่ามีปัญหาตอนกลับไทย จะเอาลูกไปเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาล ก็ถูกปฎิเสธ ไม่รับเด็กกลางเทอม ต้องพาเข้าเอกชน บางคนพอมีเส้นสายจะพาเข้าของรัฐบาล เจอครูใหญ่นัดไปคุยขอแป๊ะเจี้ยะ พ่อแม่มึนตึ้บ

    แล้วเราได้ดูข่าวๆ นึงที่ชวนเงิบมากๆๆ คือข่าวเด็กๆ ที่เมืองไทยตอนจะเข้าเรียนต่อมอหนึ่งกับมอสี่ ที่เห็นคือบรรดาผู้ปกครองแต่ละท่านต่างพาลูกมาพร้อมกับถือพวงมาลัย ไปบนบานศาลกล่าวกับศาลพระภูมิที่โรงเรียน ขอให้ลูกเข้าได้  โอ้ เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติบ้านเมืองในภายภาคหน้าจะเรียนต่อนี่ต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันขนาดนี้แล้วหรือ
ความคิดเห็นที่ 11
คิดว่าคนที่อยู่ยาว ๆ ไม่กลับไทยส่วนใหญ่คือเค้ามีสิ่งยึดเหนี่ยวที่ต่างประเทศ เช่น มีครอบครัวที่ต่างประเทศ หรือมีงานที่เค้าใฝ่ฝันอยากทำ และเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วอยู่ต่างประเทศนั้นดีกว่า กรณีของผมบอกตามว่าชอบความสะดวกสบาย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไม่ชอบอาหาร ดังนั้นทุก ๆ สองหรือสามปีผมจะเริ่มรู้สึกอยากกลับไทย ผมมีความลังเลอยู่เสมอ เพราะเมื่ออยู่ไทยไปสักสองสามปีผมก็จะเริ่มอยากไปอยู่ต่างประเทศอีก เพราะคิดถึงข้อดีของต่างประเทศนั่นเอง จริง ๆ การที่อยากกลับไทยก็ส่วนหนึ่งเพราะอยากกลับไปอยู่กับพ่อแม่และครอบครัว อีกส่วนคือเมื่อถึงจุดหนึ่งความสะดวกสบายไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง ชีวิตที่ต่างประเทศไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ และอยู่ไทยก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก เพราะอยู่ไทยก็หน้าที่การงานดีมีเงินเก็บ มีครอบครัวอยู่รอบข้าง และสังคมรอบตัวที่ไทยก็ไม่ได้ไร้ระเบียบจนทำให้เซ็ง

ทุกวันนี้ผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าอยู่ไทยหรือต่างประเทศดีกว่ากัน แต่ถ้ามองแค่เรื่องความสะดวกสบายและความเป็นระเบียบ ต่างประเทศก็ชนะไป แต่ถ้ามองที่จุดยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และชีวิตที่สมบูรณ์ ไทยก็ชนะไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่