บอร์ดกทค.อนุมัติหลักการกำหนดเพดาน คลื่นมือถือเอกชนรายละไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์ บีบเข้าประมูล 4จีต้องคืนคลื่น บรรจุเงื่อนไขเพิ่มในไอเอ็ม
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทค. วานนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมตินำเรื่องการถือครองคลื่นความถี่โดยรวม บนกิจการโทรคมนาคมที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูล 4จีบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องถือครองคลื่นความถี่รวมไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์เฉพาะคลื่นความถี่ที่ใช้งานและมีสิทธิ์ใช้งาน
ทั้งนี้ จะนำเรื่องบรรจุในร่างประกาศฯ การประมูลคลื่นความถี่ (ไอเอ็ม) และเสนอที่ประชุม กสทช. พิจารณากลางเดือนก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ร่างประกาศฯ ดังกล่าว จะกำหนดการถือครองคลื่นความถี่ของผู้ใช้บริการในประเทศทั้งหมด เบื้องต้นดังนี้
1.การกำหนดถือครองคลื่นความถี่จะกำหนดเฉพาะผู้ที่ให้บริการในกิจการโทรคมนาคมเท่านั้น
2.การถือครองคลื่นความถี่เฉพาะคลื่นที่ใช้งานและมีสิทธิใช้งาน เช่น กรณีผู้ให้สัมปทานและผู้รับสัมปทาน การคิดจำนวนเพดานการถือครองคิดจากผู้รับสัมปทาน
3.การถือครองคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการที่เป็นนิติบุคคล และบริษัทในเครือ ถือเป็นการถือครองโดยบุคคลเดียวกัน และนับจำนวนคลื่นความถี่รวมกันต้องไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์
4.การถือครองคลื่นความถี่ นับรวมการอนุญาตในระบบสัญญาสัมปทาน และระบบใบอนุญาตที่ กสทช.ได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้
5.การถือครองคลื่นความถี่ ผู้ให้บริการ ยังคงเข้าร่วมประมูล 4จีที่จะเปิดประมูล วันที่ 11 พ.ย.นี้ หากชนะการประมูล นับรวมแล้วคลื่นความถี่ที่ถือครองอยู่เกินจำนวนที่กำหนด แต่อยู่ในระบบสัญญาสัมปทาน จะต้องคืนให้แก่ผู้ให้สัมปทานไม่น้อยกว่าคลื่นความถี่ ที่ประมูลได้
ปัจจุบันคลื่นความถี่ที่ผู้ให้บริการมี ได้แก่
1.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) มีคลื่นบนย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ สิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 ก.ย.นี้ จำนวน 17.5 เมกะเฮิรตซ์ และบริษัทในเครือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ก จำกัด ได้รับใบอนุญาต (ไลเซ่น) คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ระยะเวลา 15 ปี รวมเป็น 32.5 เมกะเฮิรตซ์
2.บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) มีคลื่นความถี่ 850 จำนวน 10 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 1800 จำนวน 50 เมกะเฮิรตซ์ มีอายุสัมปทานถึงปี 2561 และคลื่นย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ 15 เมกะเฮิรตซ์ รวมเป็น 75 เมกะเฮิรตซ์
3.บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในกลุ่มทรูมีคลื่นความถี่ย่าน 2.1 จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ บริษัทลูกอย่างบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ที่ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปแล้วเมื่อ ก.ย.2556 จำนวน 12.5 เมกะเฮิรตซ์
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558
กทค. กำหนดเพดานถือครองคลื่น ดีแทคน่วม ถือครองคลื่นเกิน60MHz
บอร์ดกทค.อนุมัติหลักการกำหนดเพดาน คลื่นมือถือเอกชนรายละไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์ บีบเข้าประมูล 4จีต้องคืนคลื่น บรรจุเงื่อนไขเพิ่มในไอเอ็ม
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทค. วานนี้ (23 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมตินำเรื่องการถือครองคลื่นความถี่โดยรวม บนกิจการโทรคมนาคมที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูล 4จีบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องถือครองคลื่นความถี่รวมไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์เฉพาะคลื่นความถี่ที่ใช้งานและมีสิทธิ์ใช้งาน
ทั้งนี้ จะนำเรื่องบรรจุในร่างประกาศฯ การประมูลคลื่นความถี่ (ไอเอ็ม) และเสนอที่ประชุม กสทช. พิจารณากลางเดือนก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ร่างประกาศฯ ดังกล่าว จะกำหนดการถือครองคลื่นความถี่ของผู้ใช้บริการในประเทศทั้งหมด เบื้องต้นดังนี้
1.การกำหนดถือครองคลื่นความถี่จะกำหนดเฉพาะผู้ที่ให้บริการในกิจการโทรคมนาคมเท่านั้น
2.การถือครองคลื่นความถี่เฉพาะคลื่นที่ใช้งานและมีสิทธิใช้งาน เช่น กรณีผู้ให้สัมปทานและผู้รับสัมปทาน การคิดจำนวนเพดานการถือครองคิดจากผู้รับสัมปทาน
3.การถือครองคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการที่เป็นนิติบุคคล และบริษัทในเครือ ถือเป็นการถือครองโดยบุคคลเดียวกัน และนับจำนวนคลื่นความถี่รวมกันต้องไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์
4.การถือครองคลื่นความถี่ นับรวมการอนุญาตในระบบสัญญาสัมปทาน และระบบใบอนุญาตที่ กสทช.ได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้
5.การถือครองคลื่นความถี่ ผู้ให้บริการ ยังคงเข้าร่วมประมูล 4จีที่จะเปิดประมูล วันที่ 11 พ.ย.นี้ หากชนะการประมูล นับรวมแล้วคลื่นความถี่ที่ถือครองอยู่เกินจำนวนที่กำหนด แต่อยู่ในระบบสัญญาสัมปทาน จะต้องคืนให้แก่ผู้ให้สัมปทานไม่น้อยกว่าคลื่นความถี่ ที่ประมูลได้
ปัจจุบันคลื่นความถี่ที่ผู้ให้บริการมี ได้แก่
1.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) มีคลื่นบนย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ สิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 ก.ย.นี้ จำนวน 17.5 เมกะเฮิรตซ์ และบริษัทในเครือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ก จำกัด ได้รับใบอนุญาต (ไลเซ่น) คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ระยะเวลา 15 ปี รวมเป็น 32.5 เมกะเฮิรตซ์
2.บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) มีคลื่นความถี่ 850 จำนวน 10 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 1800 จำนวน 50 เมกะเฮิรตซ์ มีอายุสัมปทานถึงปี 2561 และคลื่นย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ 15 เมกะเฮิรตซ์ รวมเป็น 75 เมกะเฮิรตซ์
3.บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในกลุ่มทรูมีคลื่นความถี่ย่าน 2.1 จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ บริษัทลูกอย่างบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ที่ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปแล้วเมื่อ ก.ย.2556 จำนวน 12.5 เมกะเฮิรตซ์
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558