ภัยเงียบ'มือถือ'จากเสาส่งสัญญาณจริงหรือ


ข้อมูลจากสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ในกำกับของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เผยแพร่ข้อมูลลักษณะปัญหาของเสาสถานีวิทยุคมนาคมที่ผู้ใช้วิตกกังวล ว่าอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

ปัญญาที่พบคล้ายคลึงกับปัญหาของคนที่ไม่สูบบุหรี่แต่อยู่ใกล้ชิดกับคนที่สูบบุหรี่ (Second-hand smoker) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ คนที่อยู่ใกล้เสาแม้จะไม่ได้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ก็ต้องรับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง แต่เสาสถานีวิทยุคมนาคมนั้นมีประโยชน์และจำเป็นเพื่อการสื่อสาร ต่างจากบุหรี่ที่มีแต่โทษ จึงควรกำกับดูแลโดยกำหนดกฎกติกาที่เหมาะสม ไม่ใช่การห้ามตั้งเสาสถานีเพิ่ม และที่สำคัญคือการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับสังคม และหามาตรการป้องกันที่เหมาะสม  ปัจจุบันหลายประเทศมีกระแส ต่อต้านเสาสัญญาณ ทำให้ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ แต่โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ จึงควรใช้อย่างฉลาด รู้วิธีป้องกันผลกระทบ และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่นเดียวกัน 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยขยายเสาสถานีฐานหลังได้รับใบอนุญาต 3จี มากกว่า 10,000 แห่ง

เข้มมาตรการกำกับดูแล

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ส่วนมาตรฐานการกำกับดูแลนั้น ประเทศไทยอิงตามมาตรฐาน ICNIRP (International Commission on Non-Ionizing Radiation Protection) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล แต่มาตรฐานนี้กำหนดบนพื้นฐานผลกระทบด้าน ความร้อน (Thermal Effect)  ขณะที่การศึกษาวิจัยในปัจจุบันมุ่งไปที่ผลกระทบที่ไม่ใช่ความร้อน (Non-thermal Effect) ซึ่งทำให้เกิดข้อห่วงกังวลว่าค่าที่กำหนดเป็นมาตรฐานในปัจจุบันอาจสูงเกินไป หลายประเทศได้ปรับมาตรฐานให้เข้มงวดขึ้นโดยลดระดับความแรงของสัญญาณลงเพื่อลดผลกระทบที่ไม่ใช่ความร้อน

ที่ผ่านมา การติดตั้งสถานีฐานมีปัญหาทั้งสองด้าน คือด้านผู้ที่ต้องการให้ติดตั้งเนื่องจากต้องการใช้บริการ และด้านผู้ที่ ไม่ต้องการให้ติดตั้งเนื่องจากกังวลต่อ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ผู้ประกอบการเองก็พยายามหาจุดสมดุลของประชาชนทั้งสองกลุ่ม และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ กทช. กำหนดในส่วนสถานที่ติดตั้งนั้นอาจเช่าพื้นที่เอกชนที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนเนื่องจากความต้องการใช้งานโทรศัพท์มี เป็นจำนวนมาก เหตุผลที่ต้องติดตั้งเสาสถานีเพิ่มในบริเวณพื้นที่ให้บริการที่มีสัญญาณอยู่แล้ว ก็เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากแต่ละสถานีรองรับปริมาณการ ใช้ได้จำนวนจำกัด ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้แก่ ความเข้ม ระยะทาง และระยะเวลา ซึ่งหากทั้ง 3 ปัจจัยเป็นไปตามข้อกำหนดก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ให้บริการก็พยายามปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนดในส่วนข้อเสนอให้ใช้เสาร่วมกัน หรืออินฟราสตรักเจอร์ แชร์ริ่งนั้น ปัญหาอยู่ที่สัญญาร่วมการงานของผู้ให้บริการแต่ละราย ซึ่งต้องส่งมอบทรัพย์สินให้คู่สัญญา คือบมจ.ทีโอที หรือ บมจ.กสท โทรคมนาคม ซึ่งดำเนินการแยกกัน

หาทางออก'สังคม-ค่ายมือถือ'
          
ปัจจุบันมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นจำนวนมาก การดำเนินการเรื่องเสาสถานีย่อมส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง จึงจำเป็นต้องรอบคอบ ไม่สร้างความตื่นตระหนกให้สังคม การติดตั้งเสาสถานีควรร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและกำหนดเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการเพิ่มทางออกจากปัญหา  มิใช่เพิ่มความกังวลโดยไม่มีทางออก

เขาแนะว่าควรดำเนินการดังนี้
1.ให้ข้อมูลและทำความเข้าใจกับประชาชนให้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
2.ติดตามผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในระยะยาวและวางมาตรการป้องกัน
3.กรณีตั้งเสาสถานีขนาดใหญ่ ควรห่างจากชุมชนอย่างน้อย 300 เมตร
4.กรณีตั้งเสาสถานีในเขตชุมชน ควรลดขนาดของสถานีลง และให้มีกำลังส่งต่ำลง เช่น พิโคเซลล์ หรือนาโนเซลล์ เป็นต้น และ
5.การตั้งเสาควรรับฟังความเห็นของชุมชน และกำหนดโซนติดตั้งที่เหมาะสม

คลื่นมือถือคือคลื่นความร้อน

นายชาญไชย ไทยเจียม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะกรรมการสมาคมวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กล่าวว่า หลักขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า  คลื่นโทรศัพท์มือถือ คือ คลื่นความร้อน มาจากกำลังที่ส่งออกจากเสาส่งสัญญาณ  แต่ความเข้าใจคลาดเคลื่อนทำให้ชาวบ้านมักคิดว่า เสาต้นใหญ่ เสาส่งสัญญาณที่อยู่ใกล้บ้านเรือนจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ส่วนที่เป็นคลื่นความร้อนจะแผ่ออกจากยอดเสา คือจากสายอากาศ ถ้าต้องการกำลังส่งสูงทำให้มีพื้นที่ครอบคลุมกว้างไกลก็ต้องทำเสาสูง และพอมีกำลังส่งไกลจะได้กำลังส่งหลายวัตต์มากขึ้น

ดังนั้น ต้องมีมาตรฐานของดับบลิวเอชโอ ก่อนนำเข้า ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบต่างๆ โดยเฉพาะจากสำนักงาน กสทช.  ซึ่งกำกับดูแลรับผิดชอบโดยตรง การที่จะส่งสัญญาณเกินมาตรฐานที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขสภาพจึงทำไม่ได้

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  โทรศัพท์มือถือ Mobile Operator คุ้มครองผู้บริโภค สุขภาพกาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่