มีคำถามดังนี้
1)ถ้าไม่สั่งน้ำเปล่าที่ต้องเสียเงิน มันจะน่าเกลียดไปไหม ประมาณถ้าต้องเสียเงินก็ไม่กินก็ได้(วะ) ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นร้านประมาณนี้น้ำฟรีไม่ต้องเสียเงิน
2)ทำไมร้านพวกนี้ไม่นำระบบการต้อนรับแบบญี่ปุ่นที่พูดต้อนรับเวลาลูกค้าเข้าร้าน และพูดขอบคุณเวลาออกจากร้านแบบมีพลังกระปรี้กระเปร่ากระฉับ
กระเฉงยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนที่ญี่ปุ่นครับ ฯลฯ ร้านแฟรนไชส์ญี่ปุ่นในไทยหลายๆที่พนักงานหน้าบูดหน้าบึ้งหน้าหงิกหน้างอเหมือนกุ้ง
คำพูดต้อนรับ หรือขอบคุณตอนจ่ายเงินก็ไม่มี ถึงมีก็เบาเหมือนคนป่วยเข้าขั้นโคม่า เฉื่ยยๆชาๆ หรือว่าวัฒนธรรมการต้อนรับแบบไทยมันเป็นแบบนี้อยูแ่ล้วคือเป็นเรื่อง
ปกติ เป็นเรื่องช่วยไม่ได้หรือเปล่า ???
ไม่ทำไมหรอกครับ แต่ละที่ก็ตั้งราคาไม่ได้ต่างจากที่ญี่ปุ่น ไม่ได้ตั้งราคาตามค่าครองชีพคนไทย ก็เลยรู้สึกไม่คุ้มเวลาต้องจ่ายเงิน ตั้งราคาใกล้เคียงกับที่
ญี่ปุ่นทั้งทีก็น่าจะนำสิ่งดีๆเช่นวัฒนธรรมการบริการที่มีคำพูดต้อนรับขอบคุณเสียงดัง ยิ้มแย้มแจ่มใส กระฉับกระเฉงของเค้ามาใช้ด้วย
ร้านอาหารแฟรนไชส์ญี่ปุ่นพวกYOSHINOYA,YAYOI,COCOICHIBANYA ฯลฯทำไมน้ำเปล่าต้องซื้อ ไม่มีให้กินฟรีแบบที่ญี่ปุ่นครับ ?
1)ถ้าไม่สั่งน้ำเปล่าที่ต้องเสียเงิน มันจะน่าเกลียดไปไหม ประมาณถ้าต้องเสียเงินก็ไม่กินก็ได้(วะ) ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นร้านประมาณนี้น้ำฟรีไม่ต้องเสียเงิน
2)ทำไมร้านพวกนี้ไม่นำระบบการต้อนรับแบบญี่ปุ่นที่พูดต้อนรับเวลาลูกค้าเข้าร้าน และพูดขอบคุณเวลาออกจากร้านแบบมีพลังกระปรี้กระเปร่ากระฉับ
กระเฉงยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนที่ญี่ปุ่นครับ ฯลฯ ร้านแฟรนไชส์ญี่ปุ่นในไทยหลายๆที่พนักงานหน้าบูดหน้าบึ้งหน้าหงิกหน้างอเหมือนกุ้ง
คำพูดต้อนรับ หรือขอบคุณตอนจ่ายเงินก็ไม่มี ถึงมีก็เบาเหมือนคนป่วยเข้าขั้นโคม่า เฉื่ยยๆชาๆ หรือว่าวัฒนธรรมการต้อนรับแบบไทยมันเป็นแบบนี้อยูแ่ล้วคือเป็นเรื่อง
ปกติ เป็นเรื่องช่วยไม่ได้หรือเปล่า ???
ไม่ทำไมหรอกครับ แต่ละที่ก็ตั้งราคาไม่ได้ต่างจากที่ญี่ปุ่น ไม่ได้ตั้งราคาตามค่าครองชีพคนไทย ก็เลยรู้สึกไม่คุ้มเวลาต้องจ่ายเงิน ตั้งราคาใกล้เคียงกับที่
ญี่ปุ่นทั้งทีก็น่าจะนำสิ่งดีๆเช่นวัฒนธรรมการบริการที่มีคำพูดต้อนรับขอบคุณเสียงดัง ยิ้มแย้มแจ่มใส กระฉับกระเฉงของเค้ามาใช้ด้วย