คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ผมก็อปจากท่านสมาชิกหมายเลข 1085247มา คิดว่าจะจุดประกายให้ใครหลายๆคน
[สำคัญ] ศาสนาทั้งหมดถูกต้องจริงหรือ ? :
คำว่า"ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี" ที่เราได้ยินกันตั้งแต่เด็กๆ มันสร้าง Mind set ผิดๆให้กับคนจำนวนมาก และปลูกฝั่งว่าศาสนาไหนๆก็เหมือนกันนั่นแหละ , จนกระทั้งผมลงมาศึกษาด้วยตัวเองถึงได้รู้ความจริง ... คำถามแรกที่คุณควรจะถามว่า "ศาสนาคืออะไร ?" มันเป็นปรัชญา เป็นบัญญัติ เป็นคำสั่ง หรือเป็นนิทาน ? และถ้าหากมันเป็นปรัชญา แปลว่ามันเป็นเพียงแนวทาง จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ คิดเอง พิจารณาเองก็ได้ สุดท้ายพัง เพราะต่างคนต่างคิด , ถ้าเป็นนิทานนี้ ก็ฟังไว้สนุกๆ
++
ศาสนาทุกศาสนาจึงต้องมีระบอบ "เทวะ"
อันหมายถึงอำนาจที่เหนือมนุษย์ เช่น พระเจ้า เทพเจ้า กฎแห่งกรรม , มันเป็นอำนาจที่จะสอดรู้ในทุกๆสิ่ง ตัดสินในทุกๆสิ่ง และกำหนดผลในทุกๆสิ่ง มันคืออำนาจที่มีสภาพของเทวะ ปฏิเสธไม่ได้เลย , หากชาวพุทธปฏิเสธเทวะ พวกเขาจะกลายเป็น Atheist ที่ไม่มีอะไรเลยควบคุมเขา ต่างคนก็ต่างคิดไปคนละทาง เหล้าดื่มได้ ชู้มีได้ สุดท้ายพังทั้งระบบ -- ดังนั้นผมจึงเริ่มจากการตรวจสอบ ว่าเทวะมีจริงมั้ย ? และผมไม่ได้คำตอบเว้นเพียงผ่านความเชื่อ
++
แท้จริงศาสนาไม่เหมือนกัน
ใช่ ศาสนาทุกศาสนามีความดี ทุกลัทธิ-ทุกบุคคลมีความดีทั้งสิ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดีไปหมด หรือจริงไปหมด , และในอิสลามไม่ได้ใช้แค่ความดีหรือไม่ดีมาเป็นตัวตัดสิน แต่จะใช้คำว่าจริงและเท็จ และสิ้นสุดที่พระเจ้าเกลียด หรือพระเจ้ารัก มีแค่นี้จริงๆ , เมื่อเวลาคนดีทั้งหลายไม่สวมหมวกกันน็อก มันไม่ใช่เงื่อนไขว่าเขาจะพ้นโทษ , เป็นคนดี ก็ลงนรกได้ ถ้าดีบนฐานที่ผิดๆ / เช่น ทหารเยอรมันในสงครามโลก ทำความดีเพื่อชาติโดยการไปรบแบบสุดหัวใจ และทหารอเมริกาก็ทำความดีเพื่อชาติโดยการไปรบแบบสุดหัวใจ ... เราจะมองว่าคนทั้ง 2 ดีทั้งคู่ , แต่แท้จริงมันขึ้นอยู่กับว่าในใจนั้นเขายอมรับที่พระเจ้าสอนมั้ย ว่าระบบชาติทำให้คนต้องละเมิดต่อกัน และการฆ่าคนในนามชาตินั้นเป็นบาป (แม้จะต้องฆ่าเพราะจำเป็น แต่ยอมรับว่าเป็นบาป) - ถ้าทั้งคู่ยอมรับ ก็มีสิทธิ์ขึ้นสวรรค์ ถ้าไม่ยอมรับก็ตกนรกทั้งคู่ .... ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รบเพื่อชาติ แต่อยู่ที่เชื่อพระเจ้าหรือเปล่า
....
ถ้าคนพุทธเชื่อเรื่องจิตว่าง นิพพาน
อิสลามปฏิเสธเรื่องนี้ และบอกว่านั่นคือความหลง จะเป็นหลงขั้นโสดาบัน-หลงขั้นอรหันต์ ให้คนกราบไหว้บูชา ยังไงก็คือความหลง , อิสลามปฏิเลสเรื่องความพอเพียง - "แท้จริงมนุษย์นั้นจะละเมิดเสมอ เมื่อเขาคิดว่าตัวเอง(พรั่งพร้อม)เพียงพอแล้ว" [อัล-อะลัก 6-7] , ยิ่งถ้าพระเกจิไหนทำอิทธิฤทธิ์ ใบ้หวยได้ ถือว่าเล่นกับอำนาจญิน(เผ่าพันธ์ซาตาน) อันนี้นี่ต้องลงนรกเลยด้วยซ้ำ
++
คนเราควรจะพ้นทุกข์หรือ ?
โลกยังมีสงคราม ความขัดแย้ง กิเลส มาร เหล้า ซ่อง ความเจ็บปวด ความลำบากลูกหลาน อบายมุขเต็มไปหมด (พระเจ้าอนุมัติให้มันทดสอบมนุษย์) แต่คุณจะมานั่งจิตว่างเอาตัวรอดไปตนเดียว มันใช่ทางหรือ ? , หรือว่าคุณควรต้องดิ้นรนกับมัน ต่อต้านมันทุกๆเวลา
- ถ้ามีอำนาจก็ต้องทำด้วยมือ (ออกนโยบาย ,ต่อสู้กับอธรรม,ส่งกองกำลัง )
- ถ้าไม่มีอำนาจก็ทำด้วยวาจา(การเตือน เผยแผ่ สั่งสอน)
- ถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็จงทำด้วยใจ (ปฏิเสธความชั่ว -ถ้าเผลอทำก็รับว่าบาป)
หากจิตใจเราต้องญิฮาด(ดิ้นรนต่อสู้) ปฏิเสธความชั่วทุกขณะจิต แล้วมันจะว่างไปสู่นิพพานได้ยังไง ? , อิสลามจึงปฏิเสธการนิพพาน และปฏิเสธว่าต้องไปเป็นนักบวช ... แต่สอนให้ดิ้นรนในสภาพของคนธรรมดานี่แหละ จนสิ้นชีวิต ด้วยกับกาย วาจา ใจ ดิ้นรนอยู่เช่นนั้น อดทนอยู่เช่นนั้น ไม่มีหยุด จนกว่าเวลาของเราจะหมด - ต่อหน้าพระเจ้าไม่มีการพัก ไม่มีการเลี่ยง ไม่มีการหนีหรือปลง
++
การทดสอบคือการทำข้อสอบ ไม่ใช่การบรรลุคะแนน
คุณจะบรรลุได้ก็ต่อเมื่ออาจารย์ตรวจข้อสอบ และประกาศผลก่อน (วันพิพากษา) , โอเค คุณอาจจะทำได้เต็มตั้งแต่อยู่ในห้องสอบ แต่ถามว่า คุณจะรู้ได้อย่างไร คุณจะคิดไปเองได้อย่างไรว่าทำได้เต็ม ? ... มันต้องมีอำนาจอีกด้านที่มา Approve ให้คุณว่า ทำไดเต็มนะ / ผ่านนะ / ตกนะ ,นี่ไง ผมถึงบอกว่ามันต้องมีอำนาจที่เหนือกว่ามนุษย์มาให้การ Approve ก่อน ... สวรรค์หรือนรก ต้องมีบางสิ่งที่กำหนด Algorithm และนั่นคือพระเจ้า , มันไม่ได้เกิดโดยไร้เหตุปัจจัยใดๆ แต่มันต้องมีอำนาจที่เป็นนิรันดร์ ไร้จุดเริ่ม ไร้จุดจบ และมีสติปัญญาที่เป็นนิรันดร์ เป็นผู้วางระบบ
-------------------------------------------------
แน่นอนกาลเวลาที่ยาวนานได้เกิดขึ้นแก่มนุษย์
เมื่อเขามิได้เป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงเลย
แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์จากน้ำเชื้อผสมหยดหนึ่ง
เพื่อเราได้ทดสอบเขา
ดังนั้นเราจึงทำให้เขาเป็นผู้ได้ยิน เป็นผู้ได้เห็น
[ อัล-อินซาน 1-2]
....
“ทุกชีวิตย่อมต้องลิ้มรสแห่งความตาย
และเราจะทดสอบพวกเจ้าด้วยความชั่วและความดี
และพวกเจ้าต้องกลับไปหาเราอย่างแน่นอน”
[ อัล-อัมบิยาอ์ : 35 ]
....
มนุษย์คิดหรือว่าพวกเขาจะถูกปล่อยให้อ้างตนว่าเป็นผู้ศรัทธา
โดยที่พวกเขาจะมิได้ถูกทดสอบ ”
[ อัล- อังกะบูต : 1-2 ]
....
“โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มา
เพื่อเผชิญความยากลำบาก”
[ อัล-บะลัด: 4 ]
เชื่อพระเจ้า ลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด :
[ พูดหมด - พุทธ ฮินดู กรีก โรมัน อิยิปต์ คริสต์ อิสลาม ]
ปัจจุบันนี้คนเราไร้ศาสนาเป็นส่วนมาก แน่นอนในบัตรคุณอาจระบุไว้ แต่ด้วยกาย-วาจา-ใจ คนส่วนใหญ่นั้นละเมิดทั้งสิ้น , พวกเขาอาจจะหยิบยืมฟังค์ชั่นบางอย่างจากศาสนามารับใช้ชีวิตตัวเอง แต่เขาไม่ใช่ผู้ที่รับใช้ศีลธรรม , แท้จริงคนสวนใหญ่ไม่ได้ต่างอะไรกับคนไร้ศาสนา , อย่างไรก็ดี ผมจะมาพูดเรื่อง"ความเสี่ยง" ที่เราต้องรู้ ...
++
นรกของพุทธ ใครควบคุม ตัดสิน ?
ศาสนาทุกศาสนาสอนเรื่องความเสี่ยงในการลงนรก ผมอยากถามว่า พระพุทธเจ้าสามารถตัดสินคุณให้ลงนรกได้หรือไม่ ? .... ถ้าได้ คุณต้องอธิบายว่า "ตกลงแล้วพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์หรือเป็นเทพ ?" ถ้าตอบว่ามนุษย์ ก็ต้องอธิบายว่าทำไมคนๆหนึ่ง ถึงมีสิทธิ์ตัดสินคนอื่นๆลงนรกได้ และใครออกแบบระบบของนรก ? และใครเป็นคนสอดส่องคุณ ยามที่คุณทำดีหรือทำบาป ใครที่สามารถรู้ในทุกๆสิ่งที่คุณกระทำ ? ถ้าบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระเจ้า เป็นผู้ควบคุมหมด ก็ต้องอธิบายว่าทำไมท่านไม่บอกเราตั้งแต่แรก (เข้าข่ายปกปิดตนเอง ) ... แต่ถ้าบอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่คนคุม = แล้วสิ่งใดคุม ? สิ่งใดที่บอก Algorithm ให้พระพุทธเจ้ารู้ และ Approve ให้พระพุทธเจ้านำมาสอน ? ... ตรรกะง่ายๆก็คือ คนที่รู้ถึงนรกได้ มี 2 กรณี
1) เขาต้องลงไปเห็น-ไปประจักษ์กับนรกด้วยตัวเอง
2) เขาต้องได้รับการบอกกล่าว และ Approve จากผู้ที่บริหารนรก
[ส่วนจะจริงไม่ - เป็นอีกประเด็นนะ]
++
ผมจะบอกให้ว่า ศีล 5 น่ะ แทบจะทำไม่ได้กันอยู่แล้ว , และถ้าทำได้จริง คุณไม่ต้องฆ่าสัตว์เลย ไม่ฆ่าหนูนา หอยเชอร์รี่ ฝูงตั๊กแตน เสือ สิง ยุง ปลวก ต่างๆที่มาทำลายทุ่งนาของคุณ , ฝูงสัตว์จะแย่งพืชผลคุณกินหมด มันจึงไม่ต่างอะไรจากการที่คุณฆ่าตัวตาย ... เพราะฉะนั้นน่ะ ศีล 5 จึงเป็นเรื่อง Impossible เป็น Paradox(ย้อนแย้งในตัวเอง) , และลึกๆคุณก็รู้ดี คุณกินเนื้อสัตว์มั้ยละ กินผลไม้ก็มียาฆ่าแมลง ฆ่ามด ฆ่าปลวกมั้ยละ คุณถึงกินเหล้า ใช้ของเถื่อนไง ชู้นี่อย่าให้พูด คุณแค่เข้าไปหลบในศาสนา ก็ยามที่คุณอ่อนแอหรือเกิดความโลภ , แต่ในยามปกตินั้น คุณเป็นผู้หลงลืม ผู้ผินหลังให้
....
พุทธคือหลักชี้ทาง ไม่มีอำนาจตัดสิน
ถ้าคุณได้คำตอบว่า แท้จริงพระพุทธเจ้าไม่ได้ตัดสินคุณ ท่านเป็นเพียงผู้ชี้ทางคุณเท่านั้น เป็นนักคิด เป็นนักปรัชญา แต่ไม่ใช่ผู้บริหารระบบ , คุณจึงมีสิทธิ์เลือก 2 กรณี คือหนึ่ง ปฏิเสธทุกอย่างเลย ศาสนาไม่มีจริง เป็นแค่"แนวทาง" คุณทำสิ่งที่อยากทำ คิดว่าดีก็ทำไป-นะ ทำไปเลย คิดปรัชญาต่างๆ ผสมผสาน ดัดแปลง หยิบยืม ใครเทศน์อะไรก็ฟังๆไว้ เอามาใช้กับเรื่องทางโลก
...
แต่ผมจะเตือนคุณว่า เราไม่ได้รู้จริงๆหรอกว่าตายแล้วไปไหน เราเหมือนมดที่หล่นจากแผ่นกระดาษ บนมิติหนึ่งมันหายไป แต่แท้จริงมันยังคงอยู่ , ในจักรวาลนั้นทุกสิ่งไม่สูญหาย คุณเสี่ยงมั้ยล่ะ ว่าจิตคุณจะสลายจริงๆ ? , มันจึงมีความเสี่ยงที่คุณจะลงนรก .... ถ้าคุณจะบริหารความเสี่ยงนั้น ผมขอบอกว่าสิ่งที่จะตัดสินคุณให้ลงนรก มันคือสิ่งที่
- สามารถบันทึกทุกๆการกระทำของคุณได้
- มองเห็นคุณตลอดเวลา
- ล่วงรู้ถึงก้นบึ้งของใจคุณ
- มีอำนาจตัดสินคุณ ว่าจะรับโทษ หรือได้รางวัล
- และเป็นผู้คุมระบบนรก สวรรค์ และทั้งหมดนอกจากนั้น
= สิ่งนั้นคือ"ระบบเทวะ" และนั่นคือนิยามของศาสนา
++
ถ้าคุณเลือกวิธีลดความเสี่ยง
สมมุติว่าคุณตายแล้วสูญ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
ผมขอถามว่าคุณเสียอะไร ? ไม่มีเสีย ตายแล้วสูญ นิ่งสนิท นิพพานกันหมด เท่าเทียมกันหมด - "เจ๊า" / แต่ถ้าตายแล้วเจอพระเจ้าล่ะ ?
กรณีแรก > สำหรับกลุ่มบูชารูปปั้นที่ศาสนาเจ้าไม่ถึง แต่ถ้าคุณเริ่มสงสัย เริ่มตามหาสัจธรรมอย่างตั้งใจ ... ท่านจะทดสอบคุณด้วยตัวเอง แล้วจึงตัดสิน
กรณีที่สอง > เป็นผู้ศรัทธา รู้หลักการแล้ว ท่านจะตัดินคุณตามคะแนน
กรณีสุดท้าย > สำหรับผู้ปฏิเสธ (รู้แล้วดื้อ) หรือผู้ไม่ตามหาสัจธรรม (หลงชีวิตบนโลก) นรกเท่านั้นจริงๆครับ ไม่เกี่ยวว่าคุณไม่เคยฆ่าใคร หรือยังไง เพราะคุณเหมือนคนที่ส่งกระดาษเปล่า ชีวิตนั้นไร้ความหมาย มันก็สมควรแล้ว , ถ้าคุณคิดว่าชีวิตนั้นไม่มีสัจธรรม ก็แล้วจะโทษใครได้ล่ะ ?
-------
ถ้าสมมุติว่าเทพฮินดู จะตัดสินคุณ ?
ผมจะบอกว่า ไปเคลียร์เรื่องพระอินทร์ก่อน เพราะเมื่อก่อนเป็นกษัตริย์ แล้วถูกแต่งให้เป็นเทพ , พราหมณ์นี้เป็นศาสนาที่ไม่รู้ว่าใครเป็นศาสดา และไม่รู้ว่าคัมภีร์มาจากไหน-เมื่อไหนน่ะครับ , เหมือนคุณอ่านฟอร์เวิร์ดเมล์นั่นแหละ / ไปตอบคำถามก่อนว่าศาสดาเป็นใคร ได้คัมภีร์มาอย่างไร ถึงค่อยว่ากัน (ค้นพบว่าแรกๆเขาก็มีพระเจ้าองค์เดียว คือพระพรหมณ์ และมีพระเวทเล่มเดียว ... แต่หลังๆมันถูกแต่งเติม งอกเงยเป็นอะไรเต็มไปหมด)
-------
สมมุติว่าเทพกรีก โรมัน อิยิปต์ ตัดสินคุณ ?
คุณก็ถามเขาว่า ทำไมกลุ่มชนที่กราบไหว้-เชื่อฟังพวกท่าน (ชาวกรีก โรมัน ไอยคุปต์) ถึงตายหมด สูญหาย สิ้นเผ่าพันธ์กันหมด ...จนไม่มีคำสอนสืบทอดมายังโลกเลย ,และคุณก็ดูสิ ชนอิสราเอลยังอยู่ ลูกหลานอับราฮัมยังอยู่ และทุกวันนี้ก็ครองโลกอยู่ , ถ้าเทพกรีกยิ่งใหญ่จริง ทำไมไม่มีชนใดสืบทอดศาสนาเขาได้
++++++++++++++++++++++
การนับถือพระเจ้า จึงเป็นความเสี่ยงน้อยที่สุด ,
ต่อให้คุณเลิกนับถือพุทธ ใครละจะตามมาโทษคุณ พระพุทธเจ้าจะตามลากคุณลงนรกหรือ ? ... แต่ที่สำคัญ ถึงคุณนับถือพระเจ้า คุณก็ทำศีล 5 ได้เกือบครบ ถ้าเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัดจริงๆ ก็ทำศีล 3 ได้ (มีดื่มไวน์บ้าง) ถ้าเป็นมุสลิม คุณก็ได้ศีล 4 แบบเคร่งครัด ... ต่อให้เป็นนรกในแบบของพุทธ คุณก็มีสิทธิรอดได้มาก (มากกว่าคนพุทธที่ใช้ชีวิตปกติเสียอีก ) ... ส่วนเรื่องห้ามฆ่าสัตว์นี่ ผมบอกไปแล้ว ว่ายังไงๆ เป็นการฆ่าตัวตายทาง้อม และคุณเป็นพุทธ ทุกวันนี้คุณก็ฆ่าสัตว์ด้วยการกินอยู่ดี ฆ่าแมลง ฆ่ามดอยู่ดี
[สำคัญ] ศาสนาทั้งหมดถูกต้องจริงหรือ ? :
คำว่า"ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี" ที่เราได้ยินกันตั้งแต่เด็กๆ มันสร้าง Mind set ผิดๆให้กับคนจำนวนมาก และปลูกฝั่งว่าศาสนาไหนๆก็เหมือนกันนั่นแหละ , จนกระทั้งผมลงมาศึกษาด้วยตัวเองถึงได้รู้ความจริง ... คำถามแรกที่คุณควรจะถามว่า "ศาสนาคืออะไร ?" มันเป็นปรัชญา เป็นบัญญัติ เป็นคำสั่ง หรือเป็นนิทาน ? และถ้าหากมันเป็นปรัชญา แปลว่ามันเป็นเพียงแนวทาง จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ คิดเอง พิจารณาเองก็ได้ สุดท้ายพัง เพราะต่างคนต่างคิด , ถ้าเป็นนิทานนี้ ก็ฟังไว้สนุกๆ
++
ศาสนาทุกศาสนาจึงต้องมีระบอบ "เทวะ"
อันหมายถึงอำนาจที่เหนือมนุษย์ เช่น พระเจ้า เทพเจ้า กฎแห่งกรรม , มันเป็นอำนาจที่จะสอดรู้ในทุกๆสิ่ง ตัดสินในทุกๆสิ่ง และกำหนดผลในทุกๆสิ่ง มันคืออำนาจที่มีสภาพของเทวะ ปฏิเสธไม่ได้เลย , หากชาวพุทธปฏิเสธเทวะ พวกเขาจะกลายเป็น Atheist ที่ไม่มีอะไรเลยควบคุมเขา ต่างคนก็ต่างคิดไปคนละทาง เหล้าดื่มได้ ชู้มีได้ สุดท้ายพังทั้งระบบ -- ดังนั้นผมจึงเริ่มจากการตรวจสอบ ว่าเทวะมีจริงมั้ย ? และผมไม่ได้คำตอบเว้นเพียงผ่านความเชื่อ
++
แท้จริงศาสนาไม่เหมือนกัน
ใช่ ศาสนาทุกศาสนามีความดี ทุกลัทธิ-ทุกบุคคลมีความดีทั้งสิ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดีไปหมด หรือจริงไปหมด , และในอิสลามไม่ได้ใช้แค่ความดีหรือไม่ดีมาเป็นตัวตัดสิน แต่จะใช้คำว่าจริงและเท็จ และสิ้นสุดที่พระเจ้าเกลียด หรือพระเจ้ารัก มีแค่นี้จริงๆ , เมื่อเวลาคนดีทั้งหลายไม่สวมหมวกกันน็อก มันไม่ใช่เงื่อนไขว่าเขาจะพ้นโทษ , เป็นคนดี ก็ลงนรกได้ ถ้าดีบนฐานที่ผิดๆ / เช่น ทหารเยอรมันในสงครามโลก ทำความดีเพื่อชาติโดยการไปรบแบบสุดหัวใจ และทหารอเมริกาก็ทำความดีเพื่อชาติโดยการไปรบแบบสุดหัวใจ ... เราจะมองว่าคนทั้ง 2 ดีทั้งคู่ , แต่แท้จริงมันขึ้นอยู่กับว่าในใจนั้นเขายอมรับที่พระเจ้าสอนมั้ย ว่าระบบชาติทำให้คนต้องละเมิดต่อกัน และการฆ่าคนในนามชาตินั้นเป็นบาป (แม้จะต้องฆ่าเพราะจำเป็น แต่ยอมรับว่าเป็นบาป) - ถ้าทั้งคู่ยอมรับ ก็มีสิทธิ์ขึ้นสวรรค์ ถ้าไม่ยอมรับก็ตกนรกทั้งคู่ .... ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รบเพื่อชาติ แต่อยู่ที่เชื่อพระเจ้าหรือเปล่า
....
ถ้าคนพุทธเชื่อเรื่องจิตว่าง นิพพาน
อิสลามปฏิเสธเรื่องนี้ และบอกว่านั่นคือความหลง จะเป็นหลงขั้นโสดาบัน-หลงขั้นอรหันต์ ให้คนกราบไหว้บูชา ยังไงก็คือความหลง , อิสลามปฏิเลสเรื่องความพอเพียง - "แท้จริงมนุษย์นั้นจะละเมิดเสมอ เมื่อเขาคิดว่าตัวเอง(พรั่งพร้อม)เพียงพอแล้ว" [อัล-อะลัก 6-7] , ยิ่งถ้าพระเกจิไหนทำอิทธิฤทธิ์ ใบ้หวยได้ ถือว่าเล่นกับอำนาจญิน(เผ่าพันธ์ซาตาน) อันนี้นี่ต้องลงนรกเลยด้วยซ้ำ
++
คนเราควรจะพ้นทุกข์หรือ ?
โลกยังมีสงคราม ความขัดแย้ง กิเลส มาร เหล้า ซ่อง ความเจ็บปวด ความลำบากลูกหลาน อบายมุขเต็มไปหมด (พระเจ้าอนุมัติให้มันทดสอบมนุษย์) แต่คุณจะมานั่งจิตว่างเอาตัวรอดไปตนเดียว มันใช่ทางหรือ ? , หรือว่าคุณควรต้องดิ้นรนกับมัน ต่อต้านมันทุกๆเวลา
- ถ้ามีอำนาจก็ต้องทำด้วยมือ (ออกนโยบาย ,ต่อสู้กับอธรรม,ส่งกองกำลัง )
- ถ้าไม่มีอำนาจก็ทำด้วยวาจา(การเตือน เผยแผ่ สั่งสอน)
- ถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็จงทำด้วยใจ (ปฏิเสธความชั่ว -ถ้าเผลอทำก็รับว่าบาป)
หากจิตใจเราต้องญิฮาด(ดิ้นรนต่อสู้) ปฏิเสธความชั่วทุกขณะจิต แล้วมันจะว่างไปสู่นิพพานได้ยังไง ? , อิสลามจึงปฏิเสธการนิพพาน และปฏิเสธว่าต้องไปเป็นนักบวช ... แต่สอนให้ดิ้นรนในสภาพของคนธรรมดานี่แหละ จนสิ้นชีวิต ด้วยกับกาย วาจา ใจ ดิ้นรนอยู่เช่นนั้น อดทนอยู่เช่นนั้น ไม่มีหยุด จนกว่าเวลาของเราจะหมด - ต่อหน้าพระเจ้าไม่มีการพัก ไม่มีการเลี่ยง ไม่มีการหนีหรือปลง
++
การทดสอบคือการทำข้อสอบ ไม่ใช่การบรรลุคะแนน
คุณจะบรรลุได้ก็ต่อเมื่ออาจารย์ตรวจข้อสอบ และประกาศผลก่อน (วันพิพากษา) , โอเค คุณอาจจะทำได้เต็มตั้งแต่อยู่ในห้องสอบ แต่ถามว่า คุณจะรู้ได้อย่างไร คุณจะคิดไปเองได้อย่างไรว่าทำได้เต็ม ? ... มันต้องมีอำนาจอีกด้านที่มา Approve ให้คุณว่า ทำไดเต็มนะ / ผ่านนะ / ตกนะ ,นี่ไง ผมถึงบอกว่ามันต้องมีอำนาจที่เหนือกว่ามนุษย์มาให้การ Approve ก่อน ... สวรรค์หรือนรก ต้องมีบางสิ่งที่กำหนด Algorithm และนั่นคือพระเจ้า , มันไม่ได้เกิดโดยไร้เหตุปัจจัยใดๆ แต่มันต้องมีอำนาจที่เป็นนิรันดร์ ไร้จุดเริ่ม ไร้จุดจบ และมีสติปัญญาที่เป็นนิรันดร์ เป็นผู้วางระบบ
-------------------------------------------------
แน่นอนกาลเวลาที่ยาวนานได้เกิดขึ้นแก่มนุษย์
เมื่อเขามิได้เป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงเลย
แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์จากน้ำเชื้อผสมหยดหนึ่ง
เพื่อเราได้ทดสอบเขา
ดังนั้นเราจึงทำให้เขาเป็นผู้ได้ยิน เป็นผู้ได้เห็น
[ อัล-อินซาน 1-2]
....
“ทุกชีวิตย่อมต้องลิ้มรสแห่งความตาย
และเราจะทดสอบพวกเจ้าด้วยความชั่วและความดี
และพวกเจ้าต้องกลับไปหาเราอย่างแน่นอน”
[ อัล-อัมบิยาอ์ : 35 ]
....
มนุษย์คิดหรือว่าพวกเขาจะถูกปล่อยให้อ้างตนว่าเป็นผู้ศรัทธา
โดยที่พวกเขาจะมิได้ถูกทดสอบ ”
[ อัล- อังกะบูต : 1-2 ]
....
“โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มา
เพื่อเผชิญความยากลำบาก”
[ อัล-บะลัด: 4 ]
เชื่อพระเจ้า ลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด :
[ พูดหมด - พุทธ ฮินดู กรีก โรมัน อิยิปต์ คริสต์ อิสลาม ]
ปัจจุบันนี้คนเราไร้ศาสนาเป็นส่วนมาก แน่นอนในบัตรคุณอาจระบุไว้ แต่ด้วยกาย-วาจา-ใจ คนส่วนใหญ่นั้นละเมิดทั้งสิ้น , พวกเขาอาจจะหยิบยืมฟังค์ชั่นบางอย่างจากศาสนามารับใช้ชีวิตตัวเอง แต่เขาไม่ใช่ผู้ที่รับใช้ศีลธรรม , แท้จริงคนสวนใหญ่ไม่ได้ต่างอะไรกับคนไร้ศาสนา , อย่างไรก็ดี ผมจะมาพูดเรื่อง"ความเสี่ยง" ที่เราต้องรู้ ...
++
นรกของพุทธ ใครควบคุม ตัดสิน ?
ศาสนาทุกศาสนาสอนเรื่องความเสี่ยงในการลงนรก ผมอยากถามว่า พระพุทธเจ้าสามารถตัดสินคุณให้ลงนรกได้หรือไม่ ? .... ถ้าได้ คุณต้องอธิบายว่า "ตกลงแล้วพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์หรือเป็นเทพ ?" ถ้าตอบว่ามนุษย์ ก็ต้องอธิบายว่าทำไมคนๆหนึ่ง ถึงมีสิทธิ์ตัดสินคนอื่นๆลงนรกได้ และใครออกแบบระบบของนรก ? และใครเป็นคนสอดส่องคุณ ยามที่คุณทำดีหรือทำบาป ใครที่สามารถรู้ในทุกๆสิ่งที่คุณกระทำ ? ถ้าบอกว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระเจ้า เป็นผู้ควบคุมหมด ก็ต้องอธิบายว่าทำไมท่านไม่บอกเราตั้งแต่แรก (เข้าข่ายปกปิดตนเอง ) ... แต่ถ้าบอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่คนคุม = แล้วสิ่งใดคุม ? สิ่งใดที่บอก Algorithm ให้พระพุทธเจ้ารู้ และ Approve ให้พระพุทธเจ้านำมาสอน ? ... ตรรกะง่ายๆก็คือ คนที่รู้ถึงนรกได้ มี 2 กรณี
1) เขาต้องลงไปเห็น-ไปประจักษ์กับนรกด้วยตัวเอง
2) เขาต้องได้รับการบอกกล่าว และ Approve จากผู้ที่บริหารนรก
[ส่วนจะจริงไม่ - เป็นอีกประเด็นนะ]
++
ผมจะบอกให้ว่า ศีล 5 น่ะ แทบจะทำไม่ได้กันอยู่แล้ว , และถ้าทำได้จริง คุณไม่ต้องฆ่าสัตว์เลย ไม่ฆ่าหนูนา หอยเชอร์รี่ ฝูงตั๊กแตน เสือ สิง ยุง ปลวก ต่างๆที่มาทำลายทุ่งนาของคุณ , ฝูงสัตว์จะแย่งพืชผลคุณกินหมด มันจึงไม่ต่างอะไรจากการที่คุณฆ่าตัวตาย ... เพราะฉะนั้นน่ะ ศีล 5 จึงเป็นเรื่อง Impossible เป็น Paradox(ย้อนแย้งในตัวเอง) , และลึกๆคุณก็รู้ดี คุณกินเนื้อสัตว์มั้ยละ กินผลไม้ก็มียาฆ่าแมลง ฆ่ามด ฆ่าปลวกมั้ยละ คุณถึงกินเหล้า ใช้ของเถื่อนไง ชู้นี่อย่าให้พูด คุณแค่เข้าไปหลบในศาสนา ก็ยามที่คุณอ่อนแอหรือเกิดความโลภ , แต่ในยามปกตินั้น คุณเป็นผู้หลงลืม ผู้ผินหลังให้
....
พุทธคือหลักชี้ทาง ไม่มีอำนาจตัดสิน
ถ้าคุณได้คำตอบว่า แท้จริงพระพุทธเจ้าไม่ได้ตัดสินคุณ ท่านเป็นเพียงผู้ชี้ทางคุณเท่านั้น เป็นนักคิด เป็นนักปรัชญา แต่ไม่ใช่ผู้บริหารระบบ , คุณจึงมีสิทธิ์เลือก 2 กรณี คือหนึ่ง ปฏิเสธทุกอย่างเลย ศาสนาไม่มีจริง เป็นแค่"แนวทาง" คุณทำสิ่งที่อยากทำ คิดว่าดีก็ทำไป-นะ ทำไปเลย คิดปรัชญาต่างๆ ผสมผสาน ดัดแปลง หยิบยืม ใครเทศน์อะไรก็ฟังๆไว้ เอามาใช้กับเรื่องทางโลก
...
แต่ผมจะเตือนคุณว่า เราไม่ได้รู้จริงๆหรอกว่าตายแล้วไปไหน เราเหมือนมดที่หล่นจากแผ่นกระดาษ บนมิติหนึ่งมันหายไป แต่แท้จริงมันยังคงอยู่ , ในจักรวาลนั้นทุกสิ่งไม่สูญหาย คุณเสี่ยงมั้ยล่ะ ว่าจิตคุณจะสลายจริงๆ ? , มันจึงมีความเสี่ยงที่คุณจะลงนรก .... ถ้าคุณจะบริหารความเสี่ยงนั้น ผมขอบอกว่าสิ่งที่จะตัดสินคุณให้ลงนรก มันคือสิ่งที่
- สามารถบันทึกทุกๆการกระทำของคุณได้
- มองเห็นคุณตลอดเวลา
- ล่วงรู้ถึงก้นบึ้งของใจคุณ
- มีอำนาจตัดสินคุณ ว่าจะรับโทษ หรือได้รางวัล
- และเป็นผู้คุมระบบนรก สวรรค์ และทั้งหมดนอกจากนั้น
= สิ่งนั้นคือ"ระบบเทวะ" และนั่นคือนิยามของศาสนา
++
ถ้าคุณเลือกวิธีลดความเสี่ยง
สมมุติว่าคุณตายแล้วสูญ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
ผมขอถามว่าคุณเสียอะไร ? ไม่มีเสีย ตายแล้วสูญ นิ่งสนิท นิพพานกันหมด เท่าเทียมกันหมด - "เจ๊า" / แต่ถ้าตายแล้วเจอพระเจ้าล่ะ ?
กรณีแรก > สำหรับกลุ่มบูชารูปปั้นที่ศาสนาเจ้าไม่ถึง แต่ถ้าคุณเริ่มสงสัย เริ่มตามหาสัจธรรมอย่างตั้งใจ ... ท่านจะทดสอบคุณด้วยตัวเอง แล้วจึงตัดสิน
กรณีที่สอง > เป็นผู้ศรัทธา รู้หลักการแล้ว ท่านจะตัดินคุณตามคะแนน
กรณีสุดท้าย > สำหรับผู้ปฏิเสธ (รู้แล้วดื้อ) หรือผู้ไม่ตามหาสัจธรรม (หลงชีวิตบนโลก) นรกเท่านั้นจริงๆครับ ไม่เกี่ยวว่าคุณไม่เคยฆ่าใคร หรือยังไง เพราะคุณเหมือนคนที่ส่งกระดาษเปล่า ชีวิตนั้นไร้ความหมาย มันก็สมควรแล้ว , ถ้าคุณคิดว่าชีวิตนั้นไม่มีสัจธรรม ก็แล้วจะโทษใครได้ล่ะ ?
-------
ถ้าสมมุติว่าเทพฮินดู จะตัดสินคุณ ?
ผมจะบอกว่า ไปเคลียร์เรื่องพระอินทร์ก่อน เพราะเมื่อก่อนเป็นกษัตริย์ แล้วถูกแต่งให้เป็นเทพ , พราหมณ์นี้เป็นศาสนาที่ไม่รู้ว่าใครเป็นศาสดา และไม่รู้ว่าคัมภีร์มาจากไหน-เมื่อไหนน่ะครับ , เหมือนคุณอ่านฟอร์เวิร์ดเมล์นั่นแหละ / ไปตอบคำถามก่อนว่าศาสดาเป็นใคร ได้คัมภีร์มาอย่างไร ถึงค่อยว่ากัน (ค้นพบว่าแรกๆเขาก็มีพระเจ้าองค์เดียว คือพระพรหมณ์ และมีพระเวทเล่มเดียว ... แต่หลังๆมันถูกแต่งเติม งอกเงยเป็นอะไรเต็มไปหมด)
-------
สมมุติว่าเทพกรีก โรมัน อิยิปต์ ตัดสินคุณ ?
คุณก็ถามเขาว่า ทำไมกลุ่มชนที่กราบไหว้-เชื่อฟังพวกท่าน (ชาวกรีก โรมัน ไอยคุปต์) ถึงตายหมด สูญหาย สิ้นเผ่าพันธ์กันหมด ...จนไม่มีคำสอนสืบทอดมายังโลกเลย ,และคุณก็ดูสิ ชนอิสราเอลยังอยู่ ลูกหลานอับราฮัมยังอยู่ และทุกวันนี้ก็ครองโลกอยู่ , ถ้าเทพกรีกยิ่งใหญ่จริง ทำไมไม่มีชนใดสืบทอดศาสนาเขาได้
++++++++++++++++++++++
การนับถือพระเจ้า จึงเป็นความเสี่ยงน้อยที่สุด ,
ต่อให้คุณเลิกนับถือพุทธ ใครละจะตามมาโทษคุณ พระพุทธเจ้าจะตามลากคุณลงนรกหรือ ? ... แต่ที่สำคัญ ถึงคุณนับถือพระเจ้า คุณก็ทำศีล 5 ได้เกือบครบ ถ้าเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัดจริงๆ ก็ทำศีล 3 ได้ (มีดื่มไวน์บ้าง) ถ้าเป็นมุสลิม คุณก็ได้ศีล 4 แบบเคร่งครัด ... ต่อให้เป็นนรกในแบบของพุทธ คุณก็มีสิทธิรอดได้มาก (มากกว่าคนพุทธที่ใช้ชีวิตปกติเสียอีก ) ... ส่วนเรื่องห้ามฆ่าสัตว์นี่ ผมบอกไปแล้ว ว่ายังไงๆ เป็นการฆ่าตัวตายทาง้อม และคุณเป็นพุทธ ทุกวันนี้คุณก็ฆ่าสัตว์ด้วยการกินอยู่ดี ฆ่าแมลง ฆ่ามดอยู่ดี
แสดงความคิดเห็น
ผมสามารถเปลี่ยนศาสนาได้ไหม?
ตอนเด็กๆแม่ผมได้บอกบอกผมเสมอว่าผมเป็นคนอิสลาม ซึ่งพ่อของผมก็ไม่ได้ยื้อผมให้ไปทางพุทธศาสนา
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรคับ ท่องสวดอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ (แม่ผมเข้ามาอยู่ในบ้านของพ่อครับผมเลยไม่เคยท่องหรือสวดอะไรที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลามเลย)
แต่พอผมได้มาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ผมรู้จักเพื่อนชาวคริสเตียนมากขึ้น และพอเพื่อนผมชวนไปเข้าโบสผมก็ไป
และผมรู้สึกสบายใจและสงบอะคับ มากกว่าไปเข้าวัดหรือมัสยิด
ถ้าผมจะเปลี่ยนเป็นศาสนาคริสต์(เพราะเด๋วนี้ผมชอบเข้าไปนั่งในโบสถ์ เพราะรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ไป)จะถือว่าผิดไหมครับ