"Devil Partner"
ไม่อยากเจ๊ง!!!! จงวิเคราะห์คนก่อนชวนมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ!!!
.
เขาว่ากันว่าการเลือกหุ้นส่วนมาทำธุรกิจเป็นงานยาก งานทมิฬหินชาติมากๆ เพราะขนาดพี่น้องครอบครัวเดียวกัน ยังแตกคอ แตกหัก ร้ายสุดถึงขนาดฆ่ากันตายได้เลยทีเดียว ข่าวก็มีให้เห็นกันอยู่
.
การเลือกหุ้นส่วนมาทำธุรกิจจึงเป็นอะไรที่ท้าทายและยากมากๆ ต้องใช้สัญชาติญานและสติสัมปชัญญะ และปัญญาขั้นสูงสุด รวมไปถึงบุญเก่า + บุญใหม่มาช่วยคัดเลือกเลยทีเดียวเชียว (ฮาาาาา เยอะไปมั้ย 555+)
.
เรามาดูข้อแนะนำที่กลั่นมาจากประสบการณ์กันเลยว่า .......
ใครกัน!!?? ที่เรา "ไม่ควร" ชวนมาเป็นหุ้นส่วนโดยเด็ดขาด
.
...1. อย่าสับสนว่าคนนิสัยดี ศีลครบทุกข้อ แล้วจะต้องทำงานเก่ง ให้แยกแยะว่าเขาเป็นคนดี มีศีลธรรม ก็เหมาะจะคบหาเป็นเพื่อนสนิท เป็นมิตรสหาย หรือจะเป็นแค่คนรู้จักก็พอ ...แต่ถ้าจะชวนเขามาเข้าหุ้นเพื่อมาผลักดันธุรกิจร่วมกัน เขาจะต้องทำงานได้ด้วย ต้องมีทักษะพิเศษที่เราขาดอยู่ ต่อให้เขามีคอนเนคชั่นดีมากมาย แต่ถ้าไม่มีแนวคิดหรือแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกับคุณ ฝันถึงดาวคนละดวง ไม่มีแรงผลักที่จะร่วมสรรค์สร้างธุรกิจกับคุณ โปรดคิดให้หนักก่อนชวน ***คิดหนักๆ หนักมากๆ เพราะต้องคอยมาผลักดันเขา แทนที่จะเบาแรง คุณอาจต้องมาเหนื่อยกับหุ้นส่วน เพราะเขาไม่คิด ไม่เริ่ม ไม่สนใจอะไรเลยก็เป็นได้
.
...2. คนที่มีปัญหาทางการเงินตลอดเวลา
ชักหน้าไม่ถึงหลังตลอดเว ...อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก ก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ เสี่ยงมากๆ แม้เขาจะเป็นคนดี แต่ขอให้กลับไปอ่านข้อหนึ่ง คนดีแต่ไม่มีกะใจทำงาน + มีปัญหาเรื่องเงินอีก เสี่ยงมากจริงๆ +__+
.
...3. คนเฉื่อยชา
คนประเภทนี้จะช้ามากๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าเพราะขี้เกียจหรืออะไร กว่าจะคิด จะทำอะไรแต่ละอย่าง ใช้เวลานานมากๆ ดีเลย์เกินธรรมดาตลอดศก คุณก็อาจเหนื่อยใจกับเขาอีกเช่นเดียวกัน ช้าไปจะไม่ทันกินเอาได้จ้ะ ...นับรวมคนที่แบ่งเวลาไม่เป็น คือ เอาเวลาไปเวิ่นเว้อเรื่องไม่สำคัญจนหมด ตัวอย่าง เราจะเห็นได้จาก บางคนที่พอถามถึงงาน กลับไม่มีอะไรคืบหน้า แต่พออ่านสเตตัสเฟซบุ๊คจะพบว่า โพสต์อยู่ได้ทั้งวัน *___* มึนกับคนประเภทนี้มากจริงๆ
.
...4. คนที่ใจร้อน คิดเร็ว ทำเร็วเกิ้นนนน ขาดความรอบคอบ
การทำธุรกิจต้องใช้สติในการไตร่ตรองอย่างหนัก โดยเฉพาะการวางแผนธุรกิจและการใช้งบประมาณในเรื่องต่างๆ ...แม้การคิดเร็ว ทำเร็ว เป็นสิ่งดี แต่ถ้าติดใจร้อน มุทะลุดุดัน หุนหันพลันแล่นเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ออกแนวบ้าดีเดือด จิพาเจ๊งได้ง่าย ต้องระมัดระวังคนแบบนี้เช่นกัน
.
...5. นักโอดครวญ
ที่พร้อมจะตีโพยตีพายกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราต้องหมั่นสังเกตุเพื่อนๆ เรา หรือ คนที่เราข้องแวะอยู่ด้วย ต่อให้เรามองผิวเผินว่า โอ้ววว! คนนี้เก่ง คนนี้ดี คนนี้ใช่ แต่ถ้ามีปัญหาแล้วเป็นนักโอดครวญ ตีโพยตีพาย ขี้โวยวาย โดยไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ก็น่ากลัวยิ่งนัก ตอนเป็นเพื่อนเรายังปลอบ เรายังรับฟังเขาได้ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับเรามาก ...แต่ถ้าวันหนึ่งเขาจะกลายมาเป็นหุ้นส่วน หึหึ สยองเลยทีเดียว เพราะในการทำธุรกิจ ไม่มีทางเสียล่ะ ที่จะไม่เจอปัญหา ....การมีหุ้นส่วนเป็นนักโอดครวญจึงทรมานใจยิ่งนัก เพราะแทนที่จะนิ่งเพื่อช่วยกันคิดหาทางแก้ไข และมีสติในการแก้ปัญหา คุณอาจต้องเครียดหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก
.
...6. คนหัวหมอที่ติดจะเห็นแก่ได้ เน้นเงิน ไม่เน้นศีลธรรม
อันนี้ก็แววโดนโกง โดนฉ้อมาให้เห็นรำไรแล้ว เพียงแต่คุณจะตระหนักหรือเปล่า ถ้าตอนที่คบค้าสมาคมกันเป็นเพื่อนเป็นคนรู้จัก คุณเห็นแล้วว่าเขามีนิสัยแบบนั้น ก็อย่าริอ่านชวนมาเลย ยกเว้นคุณมีข้อตกลงที่รัดกุมจริงๆ และถ้าเขามีความสามารถก็จ้างเขาทำงานเป็นเรื่องๆ ไป ให้เป็นฟรีแลนซ์จะดีกว่า จ่ายตามเนื้องานเป็นส่วนๆ ไป แบ่งจ่าย 20% 30% 50% หรือเท่าไหร่ก็ว่ากันไป จะได้ไม่น้ำตาเช็ดหัวเข่าทีหลัง
.
...7. ขี้โม้ตลอดๆ แต่ผลงานไม่มี
คนแบบนี้อยากมีส่วนร่วมกับทุกโปรเจคท์ ทุกเรื่องราวที่มีคนเอ่ยถึง ไม่รู้เรื่องก็บอกรู้ ไม่เคยทำก็บอกเคยทำ บางทีแค่ไปเห็นยังบอกได้ทำมาแล้ว หรือไปก๊อปของชาวบ้านมาแล้วบอกว่าทำเอง ...คนแบบนี้น่ากลัวมว้ากๆๆๆ เพราะบางทีการพูดเก่งเป็นต่อยหอย น้ำไหลไฟดับชวนให้เคลิ้ม ทำให้เราสับสน มึนงง จนเผลอเอ่ยปากชวนมาเป็นที่ปรึกษา หนักเข้าก็ชวนมาเป็นหุ้นส่วน แล้วมารู้ทีหลังว่าทำอย่างที่พูดไม่ได้เลย ...อันนี้คุณจะต้อง "ร้องไห้หนักมากๆ" เลยนะ ...วิธีแก้ ถ้าเขาเพ้อมากๆ เข้า ให้เราถามถึงผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของเขา ว่าทำอะไรมาบ้าง เขาทำได้ยังไง เจออุปสรรคอะไรมาบ้าง ...คนจริง ทำจริง ต้องเล่าได้ และต้องเจอปัญหา แล้วเล่าถึงรายละเอียดได้ ....เวลาฟังโปรดสังเกตุ สีหน้า แววตาเขาให้ดี ว่าดูจริง หรือดูเสแสร้ง เราจับโกหกคนแบบนี้ไม่ยากหรอกจ้า ^^
.
...8. คนล่อกแล่ก เชื่อถือไม่ได้
คนแบบนี้เราเคยเจอ คือ จ้างทำงานเพราะสงสาร เห็นว่ามีความสามารถ อยากช่วยให้มีรายได้ เขาเป็นฟรีแลนซ์ทำเว็บไซต์ แต่งานไม่เคยเสร็จทันตามที่พูด เดี๋ยวป่วยมั่ง ไม่มีใครดูลูกมั่ง เราอดทนถึง 2 หน และคิดในใจว่า หนที่ 3 ถ้าไม่เสร็จ ขอเลิกใช้บริการ พอครั้งที่ 3 ก็ไม่เสร็จตามที่พูดจริงๆ เราเด็ดขาดยกเลิกไปเลย เสียเงินไปหลักหมื่น เพราะสงสารไม่อยากเรียกคืน แต่ถือว่าตัดปัญหา และเป็นบทเรียน มองคนพลาดตั้งแต่แรก และเราใจดีเกินไป อันนี้ต้องระวังสุดๆ จ้างคนผิด ธุรกิจจะล่าช้าและเสียหาย ทุนจม ต้องระวังค่ะ ...ข้อนี้นับรวมคนที่ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาคุณภาพสินค้าและบริการไว้ด้วย ประเภทแรกๆ ทำดี หลังๆ เริ่มเละ แบบนี้ขอบายค่ะ
.
...9. คนอีโก้สูงเทียมยอดตาล 555555555555+
เลือกยอดตาลเพราะสูงดี อิอิ ...คนแบบบี้ คือ ข้าเก่งมากๆ เก่งที่สุด แกพูดไรออกมาเนี่ย ไม่เข้าท่า คามคิดฉันสิถูกที่สุดในสามโลก!!! อย่ามาเถียงช้านนนนนนน! ...โอ้วววว ถ้าคุณเจอคนแบบนี้ อย่าชวนมาเด็ดขาด เพราะการทำธุรกิจมาคือการหล่อหลอมรวมความคิดดีๆ ที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน 100% เพื่อเอามาคัดกรอง บางความคิดเวิร์ค แต่บางความคิดก็ไม่เวิร์ค ต้องช่วยกันวิเคราะห์ด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ ความดีงามจึงจะบังเกิด ...แต่ถ้าเราดันไปได้หุ้นส่วนที่ยกตนข่มท่าน เป็นคนไม่ฟังใครแล้ว ความคิดดีๆ จากหลายมุมมองจิบังเกิดได้อย่างไรกัน!
.
...10. คนที่เออออห่อหมกและคิดอะไรเองไม่เป็นเลย
คนประเภทนี้ต่างกับแบบที่ 9 อย่างสุดขั้ว เป็นขุนพลอยพยัก(หน้า) คือแทบไม่ใช้ความคิดอะไรเลย ถามอะไรก็ว่าดีแล้วๆๆๆๆๆ อันนี้ก็ระวังนิดนุง แม้ไม่เป็นภัยในภายภาคนี้ ก็อาจเป็นภัยในภายภาคหน้า ว่ายามตกทุกข์ได้ยาก เขาจะมีความรับผิดชอบร่วมกันกับเราหรือไม่ หรือเอามาโทษเราว่าก็ "ฉันก็ว่าตามแกอ้ะแหละ แกผิด ก็แกคิดคนเดียวนี่!!!!!"
.
...11. คนที่มักจะไม่ระวังคำพูดเสมอๆ
ก็มีความคล้ายกับเบอร์ 9 ที่อีโก้สูงเทียมยอดตาลอยู่บ้างเหมือนกันคนแบบนี้มักจะแสดงความคิดเห็นในทางลบบ่อยๆ มักติคนอื่นจนหงายเงิบ ไม่ค่อยชมใคร หรือมักตำหนิคนอื่นต่อหน้าอย่างไม่เห็นใจใคร ขอทำนายว่า คนแบบนี้จะชักนำภัยมาสู่ธุรกิจ คนไม่ชอบเขาก็พาลไม่ชอบแบรนด์เขา ไม่ชอบธุรกิจเขา ไม่ชอบสินค้าเขาไปด้วย ก็พี่ท่านเล่นเน้นสร้างศัตรูมากกว่าสร้างพันธมิตร ...หากท่านมีเขาเป็นหุ้นส่วน ท่านอาจจะต้องเหนื่อยที่จะต้องตามแก้ตัว แก้ต่าง แก้ข่าวให้เขาบ่อยๆ ก็เป็นได้
.
แค่ 11 ข้อก็อ่วมแล้วจ้า แต่คิดว่าถ้าเลี่ยงคน 11 ประเภทนี้ได้ อย่างน้อยเราก็จะไม่เหนื่อยมาก ....แต่ถ้าเจอคนที่มีครบทั้ง 11 ข้อในคนเดียว Oh No!!!!!!!!!! รีบหลีกทางให้เขาเลย อย่าจีบมาเป็นหุ้นส่วนเด็ดขาดจ้า
.
บทความโดย สมุนไพรพิมธารา
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.texasrestaurantlaw.com/
.

.
.
เพื่อนๆ คนไหนมีข้อควรระวังในการเลือกหุ้นส่วนธุรกิจ หรือมีประสบการณ์แย่ๆ จากหุ้นส่วน จะมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ก็ได้นะคะ
จะได้เตือนภัยให้คนอื่นๆ ได้ระวังไว้ด้วยเช่นกันค่ะ ^^
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
"Devil Partner" ไม่อยากเจ๊ง!!!! จงวิเคราะห์คนก่อนชวนมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ!!!
ไม่อยากเจ๊ง!!!! จงวิเคราะห์คนก่อนชวนมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ!!!
.
เขาว่ากันว่าการเลือกหุ้นส่วนมาทำธุรกิจเป็นงานยาก งานทมิฬหินชาติมากๆ เพราะขนาดพี่น้องครอบครัวเดียวกัน ยังแตกคอ แตกหัก ร้ายสุดถึงขนาดฆ่ากันตายได้เลยทีเดียว ข่าวก็มีให้เห็นกันอยู่
.
การเลือกหุ้นส่วนมาทำธุรกิจจึงเป็นอะไรที่ท้าทายและยากมากๆ ต้องใช้สัญชาติญานและสติสัมปชัญญะ และปัญญาขั้นสูงสุด รวมไปถึงบุญเก่า + บุญใหม่มาช่วยคัดเลือกเลยทีเดียวเชียว (ฮาาาาา เยอะไปมั้ย 555+)
.
เรามาดูข้อแนะนำที่กลั่นมาจากประสบการณ์กันเลยว่า .......
ใครกัน!!?? ที่เรา "ไม่ควร" ชวนมาเป็นหุ้นส่วนโดยเด็ดขาด
.
...1. อย่าสับสนว่าคนนิสัยดี ศีลครบทุกข้อ แล้วจะต้องทำงานเก่ง ให้แยกแยะว่าเขาเป็นคนดี มีศีลธรรม ก็เหมาะจะคบหาเป็นเพื่อนสนิท เป็นมิตรสหาย หรือจะเป็นแค่คนรู้จักก็พอ ...แต่ถ้าจะชวนเขามาเข้าหุ้นเพื่อมาผลักดันธุรกิจร่วมกัน เขาจะต้องทำงานได้ด้วย ต้องมีทักษะพิเศษที่เราขาดอยู่ ต่อให้เขามีคอนเนคชั่นดีมากมาย แต่ถ้าไม่มีแนวคิดหรือแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกับคุณ ฝันถึงดาวคนละดวง ไม่มีแรงผลักที่จะร่วมสรรค์สร้างธุรกิจกับคุณ โปรดคิดให้หนักก่อนชวน ***คิดหนักๆ หนักมากๆ เพราะต้องคอยมาผลักดันเขา แทนที่จะเบาแรง คุณอาจต้องมาเหนื่อยกับหุ้นส่วน เพราะเขาไม่คิด ไม่เริ่ม ไม่สนใจอะไรเลยก็เป็นได้
.
...2. คนที่มีปัญหาทางการเงินตลอดเวลา
ชักหน้าไม่ถึงหลังตลอดเว ...อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก ก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ เสี่ยงมากๆ แม้เขาจะเป็นคนดี แต่ขอให้กลับไปอ่านข้อหนึ่ง คนดีแต่ไม่มีกะใจทำงาน + มีปัญหาเรื่องเงินอีก เสี่ยงมากจริงๆ +__+
.
...3. คนเฉื่อยชา
คนประเภทนี้จะช้ามากๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าเพราะขี้เกียจหรืออะไร กว่าจะคิด จะทำอะไรแต่ละอย่าง ใช้เวลานานมากๆ ดีเลย์เกินธรรมดาตลอดศก คุณก็อาจเหนื่อยใจกับเขาอีกเช่นเดียวกัน ช้าไปจะไม่ทันกินเอาได้จ้ะ ...นับรวมคนที่แบ่งเวลาไม่เป็น คือ เอาเวลาไปเวิ่นเว้อเรื่องไม่สำคัญจนหมด ตัวอย่าง เราจะเห็นได้จาก บางคนที่พอถามถึงงาน กลับไม่มีอะไรคืบหน้า แต่พออ่านสเตตัสเฟซบุ๊คจะพบว่า โพสต์อยู่ได้ทั้งวัน *___* มึนกับคนประเภทนี้มากจริงๆ
.
...4. คนที่ใจร้อน คิดเร็ว ทำเร็วเกิ้นนนน ขาดความรอบคอบ
การทำธุรกิจต้องใช้สติในการไตร่ตรองอย่างหนัก โดยเฉพาะการวางแผนธุรกิจและการใช้งบประมาณในเรื่องต่างๆ ...แม้การคิดเร็ว ทำเร็ว เป็นสิ่งดี แต่ถ้าติดใจร้อน มุทะลุดุดัน หุนหันพลันแล่นเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ออกแนวบ้าดีเดือด จิพาเจ๊งได้ง่าย ต้องระมัดระวังคนแบบนี้เช่นกัน
.
...5. นักโอดครวญ
ที่พร้อมจะตีโพยตีพายกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราต้องหมั่นสังเกตุเพื่อนๆ เรา หรือ คนที่เราข้องแวะอยู่ด้วย ต่อให้เรามองผิวเผินว่า โอ้ววว! คนนี้เก่ง คนนี้ดี คนนี้ใช่ แต่ถ้ามีปัญหาแล้วเป็นนักโอดครวญ ตีโพยตีพาย ขี้โวยวาย โดยไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ก็น่ากลัวยิ่งนัก ตอนเป็นเพื่อนเรายังปลอบ เรายังรับฟังเขาได้ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับเรามาก ...แต่ถ้าวันหนึ่งเขาจะกลายมาเป็นหุ้นส่วน หึหึ สยองเลยทีเดียว เพราะในการทำธุรกิจ ไม่มีทางเสียล่ะ ที่จะไม่เจอปัญหา ....การมีหุ้นส่วนเป็นนักโอดครวญจึงทรมานใจยิ่งนัก เพราะแทนที่จะนิ่งเพื่อช่วยกันคิดหาทางแก้ไข และมีสติในการแก้ปัญหา คุณอาจต้องเครียดหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก
.
...6. คนหัวหมอที่ติดจะเห็นแก่ได้ เน้นเงิน ไม่เน้นศีลธรรม
อันนี้ก็แววโดนโกง โดนฉ้อมาให้เห็นรำไรแล้ว เพียงแต่คุณจะตระหนักหรือเปล่า ถ้าตอนที่คบค้าสมาคมกันเป็นเพื่อนเป็นคนรู้จัก คุณเห็นแล้วว่าเขามีนิสัยแบบนั้น ก็อย่าริอ่านชวนมาเลย ยกเว้นคุณมีข้อตกลงที่รัดกุมจริงๆ และถ้าเขามีความสามารถก็จ้างเขาทำงานเป็นเรื่องๆ ไป ให้เป็นฟรีแลนซ์จะดีกว่า จ่ายตามเนื้องานเป็นส่วนๆ ไป แบ่งจ่าย 20% 30% 50% หรือเท่าไหร่ก็ว่ากันไป จะได้ไม่น้ำตาเช็ดหัวเข่าทีหลัง
.
...7. ขี้โม้ตลอดๆ แต่ผลงานไม่มี
คนแบบนี้อยากมีส่วนร่วมกับทุกโปรเจคท์ ทุกเรื่องราวที่มีคนเอ่ยถึง ไม่รู้เรื่องก็บอกรู้ ไม่เคยทำก็บอกเคยทำ บางทีแค่ไปเห็นยังบอกได้ทำมาแล้ว หรือไปก๊อปของชาวบ้านมาแล้วบอกว่าทำเอง ...คนแบบนี้น่ากลัวมว้ากๆๆๆ เพราะบางทีการพูดเก่งเป็นต่อยหอย น้ำไหลไฟดับชวนให้เคลิ้ม ทำให้เราสับสน มึนงง จนเผลอเอ่ยปากชวนมาเป็นที่ปรึกษา หนักเข้าก็ชวนมาเป็นหุ้นส่วน แล้วมารู้ทีหลังว่าทำอย่างที่พูดไม่ได้เลย ...อันนี้คุณจะต้อง "ร้องไห้หนักมากๆ" เลยนะ ...วิธีแก้ ถ้าเขาเพ้อมากๆ เข้า ให้เราถามถึงผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของเขา ว่าทำอะไรมาบ้าง เขาทำได้ยังไง เจออุปสรรคอะไรมาบ้าง ...คนจริง ทำจริง ต้องเล่าได้ และต้องเจอปัญหา แล้วเล่าถึงรายละเอียดได้ ....เวลาฟังโปรดสังเกตุ สีหน้า แววตาเขาให้ดี ว่าดูจริง หรือดูเสแสร้ง เราจับโกหกคนแบบนี้ไม่ยากหรอกจ้า ^^
.
...8. คนล่อกแล่ก เชื่อถือไม่ได้
คนแบบนี้เราเคยเจอ คือ จ้างทำงานเพราะสงสาร เห็นว่ามีความสามารถ อยากช่วยให้มีรายได้ เขาเป็นฟรีแลนซ์ทำเว็บไซต์ แต่งานไม่เคยเสร็จทันตามที่พูด เดี๋ยวป่วยมั่ง ไม่มีใครดูลูกมั่ง เราอดทนถึง 2 หน และคิดในใจว่า หนที่ 3 ถ้าไม่เสร็จ ขอเลิกใช้บริการ พอครั้งที่ 3 ก็ไม่เสร็จตามที่พูดจริงๆ เราเด็ดขาดยกเลิกไปเลย เสียเงินไปหลักหมื่น เพราะสงสารไม่อยากเรียกคืน แต่ถือว่าตัดปัญหา และเป็นบทเรียน มองคนพลาดตั้งแต่แรก และเราใจดีเกินไป อันนี้ต้องระวังสุดๆ จ้างคนผิด ธุรกิจจะล่าช้าและเสียหาย ทุนจม ต้องระวังค่ะ ...ข้อนี้นับรวมคนที่ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาคุณภาพสินค้าและบริการไว้ด้วย ประเภทแรกๆ ทำดี หลังๆ เริ่มเละ แบบนี้ขอบายค่ะ
.
...9. คนอีโก้สูงเทียมยอดตาล 555555555555+
เลือกยอดตาลเพราะสูงดี อิอิ ...คนแบบบี้ คือ ข้าเก่งมากๆ เก่งที่สุด แกพูดไรออกมาเนี่ย ไม่เข้าท่า คามคิดฉันสิถูกที่สุดในสามโลก!!! อย่ามาเถียงช้านนนนนนน! ...โอ้วววว ถ้าคุณเจอคนแบบนี้ อย่าชวนมาเด็ดขาด เพราะการทำธุรกิจมาคือการหล่อหลอมรวมความคิดดีๆ ที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน 100% เพื่อเอามาคัดกรอง บางความคิดเวิร์ค แต่บางความคิดก็ไม่เวิร์ค ต้องช่วยกันวิเคราะห์ด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ ความดีงามจึงจะบังเกิด ...แต่ถ้าเราดันไปได้หุ้นส่วนที่ยกตนข่มท่าน เป็นคนไม่ฟังใครแล้ว ความคิดดีๆ จากหลายมุมมองจิบังเกิดได้อย่างไรกัน!
.
...10. คนที่เออออห่อหมกและคิดอะไรเองไม่เป็นเลย
คนประเภทนี้ต่างกับแบบที่ 9 อย่างสุดขั้ว เป็นขุนพลอยพยัก(หน้า) คือแทบไม่ใช้ความคิดอะไรเลย ถามอะไรก็ว่าดีแล้วๆๆๆๆๆ อันนี้ก็ระวังนิดนุง แม้ไม่เป็นภัยในภายภาคนี้ ก็อาจเป็นภัยในภายภาคหน้า ว่ายามตกทุกข์ได้ยาก เขาจะมีความรับผิดชอบร่วมกันกับเราหรือไม่ หรือเอามาโทษเราว่าก็ "ฉันก็ว่าตามแกอ้ะแหละ แกผิด ก็แกคิดคนเดียวนี่!!!!!"
.
...11. คนที่มักจะไม่ระวังคำพูดเสมอๆ
ก็มีความคล้ายกับเบอร์ 9 ที่อีโก้สูงเทียมยอดตาลอยู่บ้างเหมือนกันคนแบบนี้มักจะแสดงความคิดเห็นในทางลบบ่อยๆ มักติคนอื่นจนหงายเงิบ ไม่ค่อยชมใคร หรือมักตำหนิคนอื่นต่อหน้าอย่างไม่เห็นใจใคร ขอทำนายว่า คนแบบนี้จะชักนำภัยมาสู่ธุรกิจ คนไม่ชอบเขาก็พาลไม่ชอบแบรนด์เขา ไม่ชอบธุรกิจเขา ไม่ชอบสินค้าเขาไปด้วย ก็พี่ท่านเล่นเน้นสร้างศัตรูมากกว่าสร้างพันธมิตร ...หากท่านมีเขาเป็นหุ้นส่วน ท่านอาจจะต้องเหนื่อยที่จะต้องตามแก้ตัว แก้ต่าง แก้ข่าวให้เขาบ่อยๆ ก็เป็นได้
.
แค่ 11 ข้อก็อ่วมแล้วจ้า แต่คิดว่าถ้าเลี่ยงคน 11 ประเภทนี้ได้ อย่างน้อยเราก็จะไม่เหนื่อยมาก ....แต่ถ้าเจอคนที่มีครบทั้ง 11 ข้อในคนเดียว Oh No!!!!!!!!!! รีบหลีกทางให้เขาเลย อย่าจีบมาเป็นหุ้นส่วนเด็ดขาดจ้า
.
บทความโดย สมุนไพรพิมธารา
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.texasrestaurantlaw.com/
.
.
.
เพื่อนๆ คนไหนมีข้อควรระวังในการเลือกหุ้นส่วนธุรกิจ หรือมีประสบการณ์แย่ๆ จากหุ้นส่วน จะมาเล่าเป็นอุทาหรณ์ก็ได้นะคะ
จะได้เตือนภัยให้คนอื่นๆ ได้ระวังไว้ด้วยเช่นกันค่ะ ^^
ขอบคุณมากๆ ค่ะ