ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองก่อนเลยน่ะค่ะ ดิฉันจบปริญญาโทมาจากเมืองไทย ทำงานระดับผู้บริหารที่เมืองไทยมาเกือบยี่สิบปี และแล้ววันหนึ่งก็ได้มาเจอสามีและแต่งงานอยู่ที่อเมริกา ชีวิตช่วงแรกจะลำบากมากกับการปรับตัว เพราะพอแต่งงานมาอยู่อเมริกา ภาษาไม่แข็งแรงเท่าไร เนื่องจากอยู่เมืองไทย
เราเรียนของคนบริติช ไม่ได้เรียนสำเนียงของอเมริกัน เวลาพูดกับใครก็มีปัญหา แต่สมัยอยู่เมืองไทยทำงานกับพวกฝรั่ง พวกฝรั่งเค้าเข้าใจเราพูด
พอมาอยู่อเมริกาคนอเมริกันไม่ค่อยเข้าใจสำเนียงที่เราพูด ก็ใช้เวลาการปรับตัว ปรับสำเนียง แต่ทุกอย่างถ้าเราให้ความสนใจ มันก็ทำได้ค่ะ 
พออยู่อเมริกา ก็เรียน เรียน จนจบอนุปริญญา และได้ใบประกาศนียบัตรทางด้านบัญชี ก็เริ่มหางานทำ แต่งานก็หายากเอามา ก็เลยหันมา
ทำงานเป็นพนักงานที่ห้างขายเสื้อผ้าดังของอเมริกาคือ Old Navy ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่มากที่เดียว หน้าที่ก็ทำทุกอย่าง เช่น
เอาเสื้อผ้าไปเก็บเข้าที่ พาลูกค้าไปห้องลองเสื้อ แนะนำเสื้อผ้าให้กับลูกค้า บางครั้งก็ทำหน้าที่ชิปเม้นท์ด้วย แล้วก็ต้องทำหน้าที่แคชเชียร์ด้วย
เรียกว่าทำทุกอย่างที่อำนวยความสะดวกกับลูกค้า และที่สำคัญจะต้องขายบัตรเครดิตได้ด้วย ดิฉันก็ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ เป็นที่รักของ
เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ทำมาก็เกือบ 8 ปีแล้ว แต่ดิฉันก็อยากจะหางานที่สองทำเหตุผลก็คือต้องการได้ชั่วโมงมากขึ้น ได้เงินเพิ่มขึ้น เพราะ
ห้างฯที่ดิฉันทำ ชั่วโมงการทำงานขึ้นกับยอดการขาย ถ้าขายไม่ดีก็ไม่ได้ชั่วโมงมาก สำหรับดิฉันนั้นเป็นพนักงานเรียกว่ากิติมศักดิ์ค่ะ เพราะไม่
ทำงานหลังหกโมงเย็น แล้วก็ต้องหยุดเสาร์และอาทิตย์ด้วย เพราะต้องการใช้เวลาอยู่กับสามี แล้วดิฉันก็ย้ายมาถึงสามสาขาแล้วค่ะ เหตุก็คือ
ย้ายบ้านค่ะ ก็ต้องย้ายสาขา แต่ผลงานของดิฉันก็เป็นที่ถูกใจของผู้จัดการทุกคน เหตุผลเพราะดิฉันคิดว่าถ้าดิฉันทำงานก็ต้องทำงานให้ได้ดี ตั้งใจ
ให้ถึงที่สุด แต่ชั่วโมงการทำงานก็ไม่มากเท่าไร ดิฉันก็ขนขวายพยายามหางานที่สองทำให้ได้เพราะจะได้เงินเพิ่มขึ้น
และแล้วเมือสามเดือนก่อน ดิฉันก็ได้งานที่สองเป็นงานที่ซุปเปอร์มาเก็ตชื่อ Food 4 Less ดิฉันดีใจมากๆ เพราะตอนสัมภาษณ์ผู้จัดการก็บอกว่า
เค้ากำลังหาคนที่มีบุคลิกแบบดิฉัน คือยิ้มง่าย มนุษยสัมพันธ์ดี ซึ่งดิฉันตรงกับสเปคของเค้ามาก แล้วงานที่ดิฉันก็ไม่มีอะไรมาก แค่เช็คราคา
สินค้า เข็นรถนิดหน่อย ดิฉันก็ดีใจมาก ไม่ได้ถามว่าจะให้ชั่วโมงล่ะกี่เหรียญเพราะคิดว่คงให้มากกว่าสิบเหรียญต่อชั่วโมงและดิฉันก็ถามว่าดิฉัน
จะได้ทำงานสัปดาห์ละกี่ชั่วโมง เค้าก็บอกว่าประมาร 24-32 ชั่วโมง ดิฉันก็ดีใจเพราะจะได้ชั่วโมงเพิ่มขึ้นและอยู่ใกล้บ้านด้วย																															
						 
												
						
					
ในที่สุดความฝันก็สลายและต้องลาออกจากงานที่ฝันไว้
เราเรียนของคนบริติช ไม่ได้เรียนสำเนียงของอเมริกัน เวลาพูดกับใครก็มีปัญหา แต่สมัยอยู่เมืองไทยทำงานกับพวกฝรั่ง พวกฝรั่งเค้าเข้าใจเราพูด
พอมาอยู่อเมริกาคนอเมริกันไม่ค่อยเข้าใจสำเนียงที่เราพูด ก็ใช้เวลาการปรับตัว ปรับสำเนียง แต่ทุกอย่างถ้าเราให้ความสนใจ มันก็ทำได้ค่ะ
พออยู่อเมริกา ก็เรียน เรียน จนจบอนุปริญญา และได้ใบประกาศนียบัตรทางด้านบัญชี ก็เริ่มหางานทำ แต่งานก็หายากเอามา ก็เลยหันมา
ทำงานเป็นพนักงานที่ห้างขายเสื้อผ้าดังของอเมริกาคือ Old Navy ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่มากที่เดียว หน้าที่ก็ทำทุกอย่าง เช่น
เอาเสื้อผ้าไปเก็บเข้าที่ พาลูกค้าไปห้องลองเสื้อ แนะนำเสื้อผ้าให้กับลูกค้า บางครั้งก็ทำหน้าที่ชิปเม้นท์ด้วย แล้วก็ต้องทำหน้าที่แคชเชียร์ด้วย
เรียกว่าทำทุกอย่างที่อำนวยความสะดวกกับลูกค้า และที่สำคัญจะต้องขายบัตรเครดิตได้ด้วย ดิฉันก็ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ เป็นที่รักของ
เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ทำมาก็เกือบ 8 ปีแล้ว แต่ดิฉันก็อยากจะหางานที่สองทำเหตุผลก็คือต้องการได้ชั่วโมงมากขึ้น ได้เงินเพิ่มขึ้น เพราะ
ห้างฯที่ดิฉันทำ ชั่วโมงการทำงานขึ้นกับยอดการขาย ถ้าขายไม่ดีก็ไม่ได้ชั่วโมงมาก สำหรับดิฉันนั้นเป็นพนักงานเรียกว่ากิติมศักดิ์ค่ะ เพราะไม่
ทำงานหลังหกโมงเย็น แล้วก็ต้องหยุดเสาร์และอาทิตย์ด้วย เพราะต้องการใช้เวลาอยู่กับสามี แล้วดิฉันก็ย้ายมาถึงสามสาขาแล้วค่ะ เหตุก็คือ
ย้ายบ้านค่ะ ก็ต้องย้ายสาขา แต่ผลงานของดิฉันก็เป็นที่ถูกใจของผู้จัดการทุกคน เหตุผลเพราะดิฉันคิดว่าถ้าดิฉันทำงานก็ต้องทำงานให้ได้ดี ตั้งใจ
ให้ถึงที่สุด แต่ชั่วโมงการทำงานก็ไม่มากเท่าไร ดิฉันก็ขนขวายพยายามหางานที่สองทำให้ได้เพราะจะได้เงินเพิ่มขึ้น
และแล้วเมือสามเดือนก่อน ดิฉันก็ได้งานที่สองเป็นงานที่ซุปเปอร์มาเก็ตชื่อ Food 4 Less ดิฉันดีใจมากๆ เพราะตอนสัมภาษณ์ผู้จัดการก็บอกว่า
เค้ากำลังหาคนที่มีบุคลิกแบบดิฉัน คือยิ้มง่าย มนุษยสัมพันธ์ดี ซึ่งดิฉันตรงกับสเปคของเค้ามาก แล้วงานที่ดิฉันก็ไม่มีอะไรมาก แค่เช็คราคา
สินค้า เข็นรถนิดหน่อย ดิฉันก็ดีใจมาก ไม่ได้ถามว่าจะให้ชั่วโมงล่ะกี่เหรียญเพราะคิดว่คงให้มากกว่าสิบเหรียญต่อชั่วโมงและดิฉันก็ถามว่าดิฉัน
จะได้ทำงานสัปดาห์ละกี่ชั่วโมง เค้าก็บอกว่าประมาร 24-32 ชั่วโมง ดิฉันก็ดีใจเพราะจะได้ชั่วโมงเพิ่มขึ้นและอยู่ใกล้บ้านด้วย