ทำไมการเรียนภาษาอังกฤษจึงเริ่มที่ อ่าน เขียน ฟัง พูด.....?

แน่นอนว่า .....ฟัง พูด อ่าน เขียน คือ ลำดับขั้นมาตรฐานสำหรับภาษาแรก ของทุกๆคน
เพราะ คงเป็นเรื่องยากมากๆที่จะบังคับให้เด็กแบเบาะ จำตัวอักษร และ จับดินสอ
และสิ่งแรกสุดที่คนๆหนึ่งจะถ่ายทอดสู่อีกคนได้อย่างง่ายดาย ก็คือ เสียง และ ท่าทาง
แต่เหตุไฉน การเรียนภาษาที่ 2 ซึ่งคือภาษาอังกฤษโดยส่วนมาก ถึงผิดเพี้ยนไปจากเดิม
เราจะโทษการศึกษา และ ครูผู้สอน อย่างเดียวได้ไหม?.......ในฐานะต้นเหตุความไร้ศักยภาพทางด้านภาษาอังกฤษของคนไทย
..................................
ไม่ใช่ว่าครูไม่เข้าใจถึงจุดนี้  แต่สาเหตุที่แท้จริงมักเกิดจาก ตัวผู้เรียน และสภาวะที่ผู้เรียนมีอยู่เอง
เพราะการฝึกฟัง และพูด เพียวๆ นั้นไม่สามารถทำได้โดยใช้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน  ตามที่เรามีในตารางเรียน ของโรงเรียนไทยทั่วไป
แต่เราต้องใช้เวลามากกว่านั้น โดยมีผู้ฝึกสอนอยู่กับเราตลอดเวลา เหมือนกับที่เรามีพ่อแม่อยู่ด้วย เพื่อสอนให้พูดภาษาไทย
ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยกเว้น...
ต้องใช้เงินทุนในการจ้างครูพิเศษ หรือ...
ต้องใช้เงินทุนในการย้ายตัวเองไปสู่สภาพแวดล้อมที่พูดภาษาอังกฤษ เช่น ต่างประเทศ,โรงเรียนนานาชาติ ฯลฯ หรือ...
ต้องใช้ความกระตือรือร้นอย่างมหาศาล ในการฝึกฝนพูดกับเพื่อน คนแปลกหน้า และกับตัวเอง! (ซึ่งส่วนใหญ่ก็คิดว่ามัน"บ้า")

ด้วยเหตุนี้   คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีเงินทุน จึงทำได้แค่เพียงจดบันทึกการเรียนผ่านตัวอักษร และใช้หนังสือในการทบทวน
จนรูปแบบการเรียนมักจะเป็นการฟัง การพูด ไปพร้อมกับการอ่าน   ซึ่งเรามักจะให้ความสำคัญกับอย่างหลังมากกว่า เพราะ..
1.อาย
2.ขี้เกียจ
3.ต้องอ่านไปสอบอ่านข้อสอบอ่าน! ....... ซึ่งข้อนี้เองก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ต้องโทษระบบส่วนหนึ่งที่ดึงความสนใจและความจำเป็นของผู้เรียนไป
   ถ้าระบบมีวิธีทดสอบฟัง และพูด ก่อนการอ่าน   ......มันก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่บังคับให้ผู้เรียนสามารถฟัง พูด ได้
   ...แต่เราไม่ฝึกก็เพราะ ไม่มีเหตุให้ต้องทำและไม่มีคนสั่งให้ทำนั้น ยังคงฟังดูเป็นเหตุผลของคนโง่  และพวกเกียจคร้านไม่ขวนขวายกระตือรือร้นพัฒนาตัวเอง

เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่เอาแต่โทษครู และการศึกษา ถึงความล้มเหลวของการเรียนภาษาอังกฤษ
ให้ดูตัวเองให้ดีก่อนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่