คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เหมือนน้องสาวผมเลย ซื้ออาคารพาณิชย์ไม่ได้เข้าอยู่อาศัย (ต่างจังหวัดแต่ตัวเองอยู่กรุงเทพ) ข้างบ้าน (ผู้เช่า)ก็ขอเอารถยนต์มาจอด น้องสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากนั้นบ้านที่ถัดไปอีกสองบ้านก็แย่งเอารถมาจอดบ้าง ข้างบ้านก็ไม่ยอมโทรศัพท์มาฟ้องน้องสาวด่าบ้านหลังนั้นให้ฟัง น้องสาวผมก็เฉยๆ แต่นานวันเข้าโทรมาด่าให้ฟังทู้กวัน จนน้องสาวรำคาญมากเลยตัดสินใจไปบ้านหลังนั้นแล้วจัดการเทพื้นหน้าบ้านให้สูงกว่าบ้านด้านข้างแล้วปักเสาเหล็กคล้องโซ่ปิดทุกด้านไม่ให้ใครเข้ามาจอดอีก ข้างบ้านมีเรียกตำรวจมาด้วยจะหาเรื่องน้องสาวผม น้องสาวบอกตำรวจว่าที่จอดรถมันอยู่ในเนื้อที่ของเอกสารสิทธิ์ ข้างบ้านเลยเงิบไป แต่มันก็แกล้งน้องสาวผมนะ ปลูกต้นไม้บังฝั่งบ้านน้องสาวผมแล้วกวาดเศษใบไม้มาทิ้งหน้าบ้านน้องสาวผม เวลาน้องสาวแวะไปพักก็หาของหนักๆมาทุบกำแพงห้องนอนฝั่งน้องสาวผมด้วย น้องสาวผมก็อดทนถือซะว่าไปๆมาๆ สุดท้ายร้านมันเจ๊งไปย้ายหนีออกไปครับ
แต่มันก็ไม่ได้จบแค่นั้นข้างบ้านมีคนมาเช่าใหม่ ก็อยากเอารถมาจอดหน้าบ้านน้องสาวเหมือนกัน ฝากบอกบ้านอีกด้านหนึ่งให้ช่วยพูดบอกให้เค้าจอดรถเป็นบุญเป็นกุศล แต่น้องสาวบอกไม่ยอมครับ ซึ่งสิ่งที่ทำถูกครับ คนเช่าใหม่นี้มีรถสองคันเอาไปจอดบ้านคนอื่นหมด แต่หน้าบ้านตัวเองตั้งวงเหล้าตั้งแต่ห้าโมงเย็นทุกวันไม่มีวันหยุด รถของเพื่อนฝูงมันอีก แอบไปจอดหน้าบ้านคนอื่นเหมือนกัน ตอนหลังน้องสาวขายอาคารพาณิชย์หลังนี้ไปได้โล่งอกไปเยอะเลยครับ เรื่องจอดรถหน้าบ้านอย่าไปใจดีครับ บุญคุณมันไม่มีหรอกครับ เวลาจะไล่แล้วมันจะมีเรื่องตามมาครับ
แต่มันก็ไม่ได้จบแค่นั้นข้างบ้านมีคนมาเช่าใหม่ ก็อยากเอารถมาจอดหน้าบ้านน้องสาวเหมือนกัน ฝากบอกบ้านอีกด้านหนึ่งให้ช่วยพูดบอกให้เค้าจอดรถเป็นบุญเป็นกุศล แต่น้องสาวบอกไม่ยอมครับ ซึ่งสิ่งที่ทำถูกครับ คนเช่าใหม่นี้มีรถสองคันเอาไปจอดบ้านคนอื่นหมด แต่หน้าบ้านตัวเองตั้งวงเหล้าตั้งแต่ห้าโมงเย็นทุกวันไม่มีวันหยุด รถของเพื่อนฝูงมันอีก แอบไปจอดหน้าบ้านคนอื่นเหมือนกัน ตอนหลังน้องสาวขายอาคารพาณิชย์หลังนี้ไปได้โล่งอกไปเยอะเลยครับ เรื่องจอดรถหน้าบ้านอย่าไปใจดีครับ บุญคุณมันไม่มีหรอกครับ เวลาจะไล่แล้วมันจะมีเรื่องตามมาครับ
แสดงความคิดเห็น
เพื่อนบ้าน เอารถมาจอดหน้าบ้านคุณแบบนี้ คุณจะทำยังไงครับ
โดยแต่ละห้องมีพื้นที่จากหน้าตึก ไปจนถึงฟุตบาทริมถนนประมาณ 3 เมตรกว่า ซึ่งถ้าว่ากันตามโฉนด ผมมีสิทธิเต็มที่อยู่แล้ว
หมายความว่า แต่ละบ้านก็จะมีพื้นที่จอดรถของตัวเองกัน ประมาณห้องละ 1 คัน
แต่ปัญหาเกิดคือ บ้านข้างๆเขาขายวัศดุก่อสร้าง แล้วเขาก็ต่อเติมทำเป็นห้องบริเวณหน้าตึกเขา ทำให้ห้องเขาไม่มีพื้นที่จอดรถเหลือ
และ แถวนั้นก็มี โรงเรียนสอนพิเศษ กับธนาคารอยู่ด้วย คนที่มาติดต่อธนาคาร โรงเรียน หรือ แม้แต่ร้านข้างๆ ก็มีเอารถมาจอดหน้าห้องผมบ้าง
เวลามาซื้อขาย ติดต่อ หรือทำธุระ ซึ่งจริงๆผมก็ไม่คิดจะว่าอะไร เพราะ ตั้งแต่ผมซื้อตึก ผมยังไม่ได้ทำอะไร ก็ปิดประตูไว้เฉยๆ
และ ผมเห็นว่า ตัวเองยังไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ และ พื้นที่หน้าตึกของผม ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนแถวนั้นได้
ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรพวกลูกค้าที่เอารถมาจอด ซึ่งช่วงแรกๆ บ้านข้างๆเขาก็มีเอารถมาจอดหน้าห้องผมบ้าง แต่ไม่ได้จอดถาวรอะไร
แต่พักหลังเริ่มยึดเป็นที่จอดส่วนตัว แถมไม่กี่วันมานี้ แกซื้อเต๊นท์สนามมาตั้งหน้าห้องผมเลย เอาไว้จอดรถส่วนตัว
ประมาณว่ากลัวรถตัวเองเปียก หรือ กลัวรถตัวเองโดนแดด
จริงๆ เรื่องนี้ไม่น่าใช่เรื่องการตั้งคำถาม เพราะ ยังไงผมก็ต้องไปคุยอยู่แล้ว
แต่ใจจริงผม ถ้าคุยกันรู้เรื่องก็คงดี แต่กับคนนี้ เป็นแบบนี้หลายครั้งแล้ว แล้วผมก็เด็กกว่าแกมาก
ไปพูดตรงๆ เดี๋ยวก็ว่าหาว่าผมไปหักหน้า ไปพูดอ้อมๆ ก็จะหาว่าผมไปสั่งสอนอีก อายุแกก็เกือบจะรุ่นพ่อผมแล้ว ลูก เมียแกก็มีแล้ว
เอามาเล่าให้ฟัง เพราะ อยากให้เป็นคนที่ยังไม่เคยมีบ้าน หรือ กำลังคิดจะมีบ้าน ทำบุญเยอะๆครับ
เวลาทำบุญเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมขอพรให้เจอเพื่อนบ้านที่ดี โบราณว่าไว้ "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
ทุกวันนี้ที่ผมเบื่อ ไม่ใช่เด็กๆ หรือคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะ ส่วนใหญ่ คนรุ่นใหม่ๆคุยกันง่ายครับ และมักจะคุยกันด้วยเหตุผลเป็นส่วนใหญ่
ต่างกับคนมีอายุ คนไหนดีก็ดีใจหาย คนไหนร้ายก็ร้ายแบบหลุดมาจากละครหลังข่าวแบบนั้นเลยครับ
ถ้าผมจะแก้ปัญหาก็ง่ายๆครับ ก็แค่กั้นรั้วเตี้ยๆ ไม่ต้องให้ใครมาจอดทั้งนั้น แต่ผมไม่อยากใช้วิธีนี้เลย เสียดายพื้นที่ที่จะไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าโอกาสที่ผมเปิดให้ส่วนรวมได้ใช้ กลับถูกคนเห็นแก่ตัวหุบเอาไปใช้คนเดียว
จริงๆกับคนนี้มีอีกหลายเรื่อง จนผมรู้สึกว่า เขาเป็นคนประเภทที่ไม่สามารถใช้เหตุและผลไปคุยด้วยได้แล้ว