นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานจะเสนอเพิ่มเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ 4 จีของคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่จะประมูลปลายปีนี้ ในส่วนของการกำหนดเพดานถือครองคลื่นความถี่ของผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม ให้ถือครองไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อต้องการให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ซึ่งจะเสนอเงื่อนไขดังกล่าวเข้าที่ประชุมกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในวันที่ 24 มิ.ย.58 นี้ เพื่อพิจารณา
ทั้งนี้ การคำนวณคลื่นจะนับรวมทั้งส่วนที่ยังอยู่ในสัญญาสัมปทานและที่ได้รับใบอนุญาต โดยจะกำหนดให้ไม่เกิด 60 เมกะเฮิรตซ์ เฉพาะผู้ที่ใช้งานและมีสิทธิ์ใช้งาน ซึ่งหมายถึงผู้ที่รับสัมปทาน และหากถือครองคลื่นคนละนิติบุคคล มีบริษัทในเครือเป็นผู้ใช้คลื่น ก็จะต้องนำคลื่นมานับรวมทั้งหมด อีกทั้งหากทำการประมูลคลื่นแล้วมีจำนวนคลื่นที่ถือครองเกิน 60 เมกะเฮิรตซ์ จะต้องนำคลื่นที่มีอยู่เดิมคืนกลับมาที่ผู้ให้สัมปทานหรือผู้ให้ใบอนุญาต เพื่อนำคลื่นนั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มีคลื่นที่ถือครองอยู่ 75 เมกะเฮิรตซ์, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส มีจำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีจำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีแทคมีคลื่นที่ไม่ใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 25 เมกะเฮิรตซ์ โดยก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือเพื่อคืนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ได้นำมาใช้งาน โดยจะสิ้นสัญญาสัมปทานในปี 2561 มาที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ให้สัมปทาน เพื่อนำ ไปร่วมประมูล 4 จี แต่ทั้งนี้ กสทช.จะนำคลื่นมาร่วมประมูลได้นั้น บมจ.กสทฯ จะต้องคืนคลื่นมาแบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งตอนนี้ บมจ.กสทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการเกี่ยวกับรายละเอียด.
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558
กสทช. เล็งเพิ่มเงื่อนไขประมูล 4 จี กำหนดเพดานถือครองคลื่นไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานจะเสนอเพิ่มเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ 4 จีของคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่จะประมูลปลายปีนี้ ในส่วนของการกำหนดเพดานถือครองคลื่นความถี่ของผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม ให้ถือครองไม่เกิน 60 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อต้องการให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ซึ่งจะเสนอเงื่อนไขดังกล่าวเข้าที่ประชุมกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในวันที่ 24 มิ.ย.58 นี้ เพื่อพิจารณา
ทั้งนี้ การคำนวณคลื่นจะนับรวมทั้งส่วนที่ยังอยู่ในสัญญาสัมปทานและที่ได้รับใบอนุญาต โดยจะกำหนดให้ไม่เกิด 60 เมกะเฮิรตซ์ เฉพาะผู้ที่ใช้งานและมีสิทธิ์ใช้งาน ซึ่งหมายถึงผู้ที่รับสัมปทาน และหากถือครองคลื่นคนละนิติบุคคล มีบริษัทในเครือเป็นผู้ใช้คลื่น ก็จะต้องนำคลื่นมานับรวมทั้งหมด อีกทั้งหากทำการประมูลคลื่นแล้วมีจำนวนคลื่นที่ถือครองเกิน 60 เมกะเฮิรตซ์ จะต้องนำคลื่นที่มีอยู่เดิมคืนกลับมาที่ผู้ให้สัมปทานหรือผู้ให้ใบอนุญาต เพื่อนำคลื่นนั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มีคลื่นที่ถือครองอยู่ 75 เมกะเฮิรตซ์, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส มีจำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีจำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดีแทคมีคลื่นที่ไม่ใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 25 เมกะเฮิรตซ์ โดยก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือเพื่อคืนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ได้นำมาใช้งาน โดยจะสิ้นสัญญาสัมปทานในปี 2561 มาที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ให้สัมปทาน เพื่อนำ ไปร่วมประมูล 4 จี แต่ทั้งนี้ กสทช.จะนำคลื่นมาร่วมประมูลได้นั้น บมจ.กสทฯ จะต้องคืนคลื่นมาแบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งตอนนี้ บมจ.กสทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการเกี่ยวกับรายละเอียด.
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558