สวัสดีค่ะ สมาชิกพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เคยเสียความรู้สึกจากการถามข้อมูลจากคนรอบข้าง เลยมาตั้งคำถามในโลกออนไลน์ เขาจะว่าอย่างไรกันบ้างนะ???
เราเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของคณะที่จบออกไปแล้วจะไปเป็นครู ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน (ไม่ได้กวนนะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง)
ตามนั้นแหละค่ะ ตอนนี้เราฝึกสอนอยู่โรงเรียนมัธยมในตัวอำเภอ ที่จะบอกจริงๆ คือบ้านเราอยู่ห่างไกลจากความเจริญ หรือที่เรียกว่าบ้านนอกนั่นแหละค่ะ พ่อแม่เรามีอาชีพทำนา ทำไร่ รับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน แต่บ้านเราเป็นคนขยัน เราเป็นคนที่มีผลการเรียนดีมาตลอด พ่อกับแม่เลยสนับสนุนเรื่องการเรียน (ด้วยเหตุผลยอดนิยมของคนแถวนี้ว่าถ้ามีการศึกษาดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมาลำบากเป็นชาวนาเหมือนพ่อกับแม่ ) แล้วเราก็กู้เงินกองทุน กยศ. ด้วย เลยพอที่จะส่งเสียเรื่องการเรียนได้ แต่ฐานะทางครอบครัวก็ยังถือว่าลำบากอยู่พอสมควร
ปัญหาจริงๆ มันก็เกิดจากตัวเรานี่แหละค่ะ ตอนเรียนมัธยมเคยคุยกับกับเพื่อนว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศ ดูจากสภาพและสถานะทางการเงินเพื่อนก็บอกมีวิธีเดียวง่ายที่สุดก็คือ หา ผั_ 555 หา ผั_ เพื่อไปเที่ยว ตปท. เนี่ยนะ (ส่ายหัวรัวๆๆๆๆ)
เราไม่ยอมทิ้งความฝันนะ ตอนสอบเข้ามหา’ลัย เลยลองคุยกับแม่เล่นๆ แกมเอาจริงว่า ถ้าหนูเรียนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ขอเงินไปเที่ยวยุโรปนะแม่....คำตอบที่ได้น่ะเหรอ เหอะๆๆ.... “ หาเงินส่งแกเรียนทุกวันนี้ มันก็เหมือนกับขายนาส่งควายเรียนนั่นแหละ ไม่ต้องฝันจะไปถึงเมืองนอกเมืองนาหรอก เอาแค่ให้แกเรียนจบมีงานทำฉันยังไม่รู้เลยว่าจะรอดมั๊ย ”
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ยังบอกกับตัวเองว่าจะไปให้ได้ พอเราขึ้นปีสอง แม่เราไปเรียนทำขนมและทำขายที่ตลาด ไม่ได้ทำไร่(ปกติทำไร่ข้าวโพด) แต่ก็ยังทำนาอยู่เหมือนเดิม เราเห็นว่าที่ไร่ว่างเปล่า เราจึงขอแม่ทำไร่มันสำปะหลัง โดยบอกว่าเราจะทำเอง แล้วเงินที่ได้จะเก็บไว้ไปเที่ยวตอนเรียนจบ... แม่หัวเราะเสียงดังแล้วสบประมาทไว้ว่าเราทำไม่ได้หรอก
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ แม่โทรมาหาเราบอกว่าพ่อไปไถไร่เตรียมไว้แล้วนะ ให้เรากลับบ้านมาตัดต้นมันสำปะหลังไปปลูก เราตกใจมาก นี่แม่เอาจริงเหรอเนี่ย เราก็กลับบ้านไปตัดต้นมันสำปะหลังทั้งตัด แบก ตัดเป็นท่อน แล้วเอาไปเสียบ เหมือนจะง่าย แต่กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาหลายวัน ผิวหนังกรำแดด มือเท้าเราด้านไปหมด รู้เลยว่าเกษตรกรเหนื่อยยากแค่ไหน พ่อเราก็ทำช่วยตลอด รู้สึกรักพ่อมากขึ้นทุกวัน 555 จากนั้นเราก็หมั่นกลับบ้านตลอดทุกสัปดาห์ วันไหนไม่มีเรียนก็กลับ เพื่อไปดูแลไร่มันสำปะหลังของเรา ใส่ปุ๋ย ถางหญ้า กว่าจะเสร็จแต่ละรอบใช้เวลาหลายวัน แม่ให้เงินซื้อปุ๋ยใส่ เพราะขายขนมรายได้ดี
เอาเป็นว่าเราทำได้นะ เหนื่อยแต่ก็อดทน ตอนขุดมันไปขาย เราตื่นเต้นมากที่จะเห็นเงินก้อนแรกในชีวิตของเรา ปีแรกเราขายได้เงินหกหมื่นบาท เราดีใจมาก เราแบ่งเงินให้พ่อกับแม่ แต่ท่านไม่เอาบอกว่าจะเก็บไว้ไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ เอาไปฝากธนาคารไว้สิ แล้วอย่าเอาออกมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยล่ะ เดี๋ยวเงินหมดไม่ได้ไปเที่ยว (เรานี่น้ำตาไหลพรากเลย รักพ่อกับแม่ที่สุด) ปีต่อมาเราก็ทำเหมือนเดิม แต่ขายได้แค่สี่หมื่นบาท เพราะมันสำปะหลังราคาถูก
สรุปว่าตอนนี้ เราอยู่ปีสุดท้าย เรียนได้เกียรตินิยม มีเงินเก็บอยู่หนึ่งแสนบาท ภาษาอังกฤษดีพอได้ ไปเที่ยวได้แล้วสินะ??? ไม่รู้สิ ไปเที่ยวเมืองนอกนี่มันไปอย่างไรเหรอ??
อยากไปออสเตรีย กับ สาธารณรัฐเช็ก สัก 7 วัน มันจะเป็นไปได้ไหมด้วยเงื่อนไขดังนี้ค่ะ
1.ไม่เคยไป ตปท. ยังไม่มี passport ไม่เคยขึ้นเครื่องบิน
2.เงิน 100,000 บาท ไปได้มั๊ย
3.ขอวีซ่ายังไง statement ชาวนาเงินไม่มี บัญชีเรามีแค่เงิน กยศ. กับเงินที่พ่อโอนให้เดือนไม่กี่พัน แล้วก็บัญชีใหม่มีเงินเข้า สองครั้งจากการขายมันสำปะหลัง
4. เลิกคิดซะมันเป็นไปไม่ได้หรอก
4.1 เอาเงินไปใช้หนี้ กยศ. ดีกว่ามั๊ย
4.2 บ้านจนเลี้ยงดูพ่อแม่ดีกว่า เงินแสนนึงไม่ใช่น้อยๆ เลย
4.3 เก็บไว้ใช้ตอนเรียนจบ ตกงาน สอบไม่ได้
................................................................................................................................
ปล. ที่บอกว่าเคยเสียความรู้สึกจากการถามข้อมูลจากคนรอบข้าง เพราะเขาบอกว่า
- E คางคกขึ้นวอ จนแล้วไม่เจียม คนอื่นเขาไป ตปท.ทำงานส่งเงินกลับบ้าน E นี่จะเอาเงินไปผลาญทิ้ง
- มีงานทำค่อยไป ชาตินี้ถ้าไม่ตายคงได้ไปอยู่หรอก
- ฯลฯ
ช่วยตอบคำถามให้กับความพยายามนี้หน่อยค่ะ ฉันอยากไปเที่ยวเมืองนอก
เราเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของคณะที่จบออกไปแล้วจะไปเป็นครู ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน (ไม่ได้กวนนะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง)
ตามนั้นแหละค่ะ ตอนนี้เราฝึกสอนอยู่โรงเรียนมัธยมในตัวอำเภอ ที่จะบอกจริงๆ คือบ้านเราอยู่ห่างไกลจากความเจริญ หรือที่เรียกว่าบ้านนอกนั่นแหละค่ะ พ่อแม่เรามีอาชีพทำนา ทำไร่ รับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน แต่บ้านเราเป็นคนขยัน เราเป็นคนที่มีผลการเรียนดีมาตลอด พ่อกับแม่เลยสนับสนุนเรื่องการเรียน (ด้วยเหตุผลยอดนิยมของคนแถวนี้ว่าถ้ามีการศึกษาดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมาลำบากเป็นชาวนาเหมือนพ่อกับแม่ ) แล้วเราก็กู้เงินกองทุน กยศ. ด้วย เลยพอที่จะส่งเสียเรื่องการเรียนได้ แต่ฐานะทางครอบครัวก็ยังถือว่าลำบากอยู่พอสมควร
ปัญหาจริงๆ มันก็เกิดจากตัวเรานี่แหละค่ะ ตอนเรียนมัธยมเคยคุยกับกับเพื่อนว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศ ดูจากสภาพและสถานะทางการเงินเพื่อนก็บอกมีวิธีเดียวง่ายที่สุดก็คือ หา ผั_ 555 หา ผั_ เพื่อไปเที่ยว ตปท. เนี่ยนะ (ส่ายหัวรัวๆๆๆๆ)
เราไม่ยอมทิ้งความฝันนะ ตอนสอบเข้ามหา’ลัย เลยลองคุยกับแม่เล่นๆ แกมเอาจริงว่า ถ้าหนูเรียนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ขอเงินไปเที่ยวยุโรปนะแม่....คำตอบที่ได้น่ะเหรอ เหอะๆๆ.... “ หาเงินส่งแกเรียนทุกวันนี้ มันก็เหมือนกับขายนาส่งควายเรียนนั่นแหละ ไม่ต้องฝันจะไปถึงเมืองนอกเมืองนาหรอก เอาแค่ให้แกเรียนจบมีงานทำฉันยังไม่รู้เลยว่าจะรอดมั๊ย ”
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ยังบอกกับตัวเองว่าจะไปให้ได้ พอเราขึ้นปีสอง แม่เราไปเรียนทำขนมและทำขายที่ตลาด ไม่ได้ทำไร่(ปกติทำไร่ข้าวโพด) แต่ก็ยังทำนาอยู่เหมือนเดิม เราเห็นว่าที่ไร่ว่างเปล่า เราจึงขอแม่ทำไร่มันสำปะหลัง โดยบอกว่าเราจะทำเอง แล้วเงินที่ได้จะเก็บไว้ไปเที่ยวตอนเรียนจบ... แม่หัวเราะเสียงดังแล้วสบประมาทไว้ว่าเราทำไม่ได้หรอก
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ แม่โทรมาหาเราบอกว่าพ่อไปไถไร่เตรียมไว้แล้วนะ ให้เรากลับบ้านมาตัดต้นมันสำปะหลังไปปลูก เราตกใจมาก นี่แม่เอาจริงเหรอเนี่ย เราก็กลับบ้านไปตัดต้นมันสำปะหลังทั้งตัด แบก ตัดเป็นท่อน แล้วเอาไปเสียบ เหมือนจะง่าย แต่กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาหลายวัน ผิวหนังกรำแดด มือเท้าเราด้านไปหมด รู้เลยว่าเกษตรกรเหนื่อยยากแค่ไหน พ่อเราก็ทำช่วยตลอด รู้สึกรักพ่อมากขึ้นทุกวัน 555 จากนั้นเราก็หมั่นกลับบ้านตลอดทุกสัปดาห์ วันไหนไม่มีเรียนก็กลับ เพื่อไปดูแลไร่มันสำปะหลังของเรา ใส่ปุ๋ย ถางหญ้า กว่าจะเสร็จแต่ละรอบใช้เวลาหลายวัน แม่ให้เงินซื้อปุ๋ยใส่ เพราะขายขนมรายได้ดี
เอาเป็นว่าเราทำได้นะ เหนื่อยแต่ก็อดทน ตอนขุดมันไปขาย เราตื่นเต้นมากที่จะเห็นเงินก้อนแรกในชีวิตของเรา ปีแรกเราขายได้เงินหกหมื่นบาท เราดีใจมาก เราแบ่งเงินให้พ่อกับแม่ แต่ท่านไม่เอาบอกว่าจะเก็บไว้ไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ เอาไปฝากธนาคารไว้สิ แล้วอย่าเอาออกมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยล่ะ เดี๋ยวเงินหมดไม่ได้ไปเที่ยว (เรานี่น้ำตาไหลพรากเลย รักพ่อกับแม่ที่สุด) ปีต่อมาเราก็ทำเหมือนเดิม แต่ขายได้แค่สี่หมื่นบาท เพราะมันสำปะหลังราคาถูก
สรุปว่าตอนนี้ เราอยู่ปีสุดท้าย เรียนได้เกียรตินิยม มีเงินเก็บอยู่หนึ่งแสนบาท ภาษาอังกฤษดีพอได้ ไปเที่ยวได้แล้วสินะ??? ไม่รู้สิ ไปเที่ยวเมืองนอกนี่มันไปอย่างไรเหรอ??
อยากไปออสเตรีย กับ สาธารณรัฐเช็ก สัก 7 วัน มันจะเป็นไปได้ไหมด้วยเงื่อนไขดังนี้ค่ะ
1.ไม่เคยไป ตปท. ยังไม่มี passport ไม่เคยขึ้นเครื่องบิน
2.เงิน 100,000 บาท ไปได้มั๊ย
3.ขอวีซ่ายังไง statement ชาวนาเงินไม่มี บัญชีเรามีแค่เงิน กยศ. กับเงินที่พ่อโอนให้เดือนไม่กี่พัน แล้วก็บัญชีใหม่มีเงินเข้า สองครั้งจากการขายมันสำปะหลัง
4. เลิกคิดซะมันเป็นไปไม่ได้หรอก
4.1 เอาเงินไปใช้หนี้ กยศ. ดีกว่ามั๊ย
4.2 บ้านจนเลี้ยงดูพ่อแม่ดีกว่า เงินแสนนึงไม่ใช่น้อยๆ เลย
4.3 เก็บไว้ใช้ตอนเรียนจบ ตกงาน สอบไม่ได้
................................................................................................................................
ปล. ที่บอกว่าเคยเสียความรู้สึกจากการถามข้อมูลจากคนรอบข้าง เพราะเขาบอกว่า
- E คางคกขึ้นวอ จนแล้วไม่เจียม คนอื่นเขาไป ตปท.ทำงานส่งเงินกลับบ้าน E นี่จะเอาเงินไปผลาญทิ้ง
- มีงานทำค่อยไป ชาตินี้ถ้าไม่ตายคงได้ไปอยู่หรอก
- ฯลฯ