นี่เป็นกระทู้แรกที่ได้เขียนนะคะ ผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยด้วยค่ะ
เราอายุ18 เขาอายุ17 (ยังไม่ได้มีอะไรกันนะคะ แต่ละฝ่ายรู้สิ่งที่ควรไม่ควรค่ะ และอยู่ในช่วงวัยเรียนก็ช่วยๆกันเรียนด้วยค่ะ)
ขอเกริ่นเรื่องของแฟนให้ฟังก่อนนะคะ จะไม่เล่าว่ามารักกันได้ไง เดี๋ยวเรื่องจะยาวเกิน ขอเรียกแฟนเราว่า I ละกัน
หลังจากที่เราได้คบกับ I มาเรื่อยๆทำให้เรารู้ว่าเขาผ่านชีวิตอะไรมาบ้าง
I มีนิสัยเงียบๆไม่ค่อยคุยกับเพื่อน ถ้าเพื่อนคนไหนที่ไม่มีธุระด้วยเขาจะไม่จำชื่อเพื่อนเลย นอนเยอะ กินอาการเยอะมากแต่กินได้เรื่อยๆ
และเราก็ได้รู้ว่า พ่อแม่ I อย่าตอน I อยู่อนุบาล และยายเก็เป็นคนรับเขาเลี้ยงต่อ นานๆครั้งแม่เขาจะกลับมาบ้าน ส่วนพ่อจะนัดมาเจอกับเขาข้างนอก
สมัย I อยู่ปะถามโดนเพื่อนเเกล้งบ่อย โดนเพื่อนล้อปมด้อย(ขอไม่พูดถึง) ขี้แย เขาเลยไม่เข้าหาเพื่อน เลือกที่จะอยู่คนเดียว ผ่านมา
พอเข้าเข้าม.1 ยายของเขาเสียลง ทำให้เขาต้องอยู่คนเดียวในบ้าน เงินค่าใช้จ่ายพ่อเขาเป็นคนโอนให้ อาทิตย์ละ 1,000 ซึ่งบางคนอาจคิดว่ามันเยอะ
แต่เงิน 1,000 นึงนี้เขาต้องเอามาจ่ายค่าเดินทางไป ร.ร. ค่ารายงานที่ครูสั่ง ค่าสารพัดนึกที่ร.ร.เก็บ(พวกเงินห้อง เงินค่าหนังสือเรียน)
ค่าอาหารเช้า ถึงเย็น กลับบ้านมาเขาไม่มีแม่คอยมาทำอาหารให้ต้องหากินเอง เขาจึงประหยัดสุดๆ
คือเราเห็นเขากินมาม่าบ่อยมาก บางวันก็เดินกลับบ้านไม่นั่งรถ บางวันก็ไม่กินข้าวเช้า I ผอมมาก คือรอบเอวเกือบเท่าเราเลย เล็กกว่าผู้หญิงบางคนอีก
ในความคิดเรานะ คือเราเล่าอดีตเขาไม่หมดมันเยอะ คือเขาเจอเรื่องเจ็บปวดมาเยอะตั้งแต่เรื่องครอบครัวยันเพื่อนรอบข้าง และปัญหาเรื่องเงิน
ช่วงตอนเขาจบม.3 คะแนนของเขาออกมาแย่มาก ทำให้พ่อเสียใจ และเขาเริ่มท้อในชีวิต เขาคิดอยู่บ่อยๆว่าเขาไม่มีอะไรดีเลย
เขาเป็นคนคิดมาก มากๆๆ คิดว่าจะอยู่บนโลกนี้ไปทำไม คนเราเกิดมาเพื่ออะไร? อะไรแบบนี้
พอเขาขึ้นม.4 เป็นช่วงเวลาที่ท้อที่สุดในชีวิต I เล่าให้เราฟังเลยว่า เป็นช่วงที่เขารู้สึกว่า เหมือนโยนทุกอย่างทิ้งไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว
เขาท้อทุกอย่างเรื่องอนาคต เรื่องเรียน เรื่องอยู่ตัวคนเดียว เรื่องเงิน ไม่คุยกับใคร
เมื่อเขาขึ้น ม.5 เราได้เจอกับเขาและได้ตกลงคบกัน(ขอไม่เล่าว่ามารักกันได้ยังไง ยาวค่ะขออภัย)
เขาจะเงียบเวลาอยู่กับเพื่อน แต่พออยู่กับเราเขาจะน่ารักมากๆเป็นคนอบอุ่นมากและเป็นคนดี
เขาจะเดินมาส่งเราที่ป้ายรถเมล์ทุกครั้งตอนกลับจาก ร.ร. แล้วเขาก็จะเดินไปบ้านต่อ เราเองก็ดีใจเพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครได้เห็นนอกจากเรา
หลังจากที่เรารู้เรื่องราวของเขา เราก็พยายามให้ความรักเขามากขึ้น เช่น คุยด้วยบ่อยๆ ไปกินไอติมด้วย พักกลางวันก็มานั่งเล่นมือถือคุยนู้นนี่ด้วยกัน
กลับบ้านก็คอลสไกคุยเรื่อยเปื่อยด้วยกัน อาจจะดูเหมือนคุยกันเยอะเกินไปหน่อย แต่เราก็อยากเติมเต็มในส่วนที่เขาขาดไปจริงๆ
ในช่วงนี้เราอยู่ม.6 เขาอยู่ม.5 เป็นช่วงเตรียมสอบของเรา เราก็พยายามทั้งเรื่องเรียน เรื่องรัก จนสอบติดมหาลัยชื่อดังแห่งนึงได้ เป็นด้านศิลปะ
และในช่วงปิดเทอมใหญ่ เราก็ชวนเขาไปทำงานพิเศษด้วยกัน เป็นงานของครอบครัวเรา เพราะอยากให้เขามีเงินไว้กินไว้ใช้ จนกระทั่งหมดเวลาปิดเทอม...
ตอนนี้ เราอยู่ปี1 เขาอยู่ม.6 เขาพึ่งจะค้นพบตัวเองได้ว่าเขาชอบด้านสร้างอนิเมชั่น ซึ่งเขาหามหาลัยที่อยากเข้าได้แล้ว แต่ทว่ามีสอบวาดรูปด้วย
เขาจึงไปหาที่ติว เราจึงแนะนำพี่ติวให้เขาไป เป็นพี่ติวที่สอนเราแล้วเราสอบติด ก็พาไปนัดแนะกันแต่ปรากฏว่าเขาไม่รับสอนแล้ว เราเลยพาเขาไปมหาลัยเราเพื่อหาพี่ติว
ก็ได้พี่คิวมา แต่เขาดันสอนวันธรรมดา(เรียนไม่ได้เพราะติดเรียนที่ร.ร.)เลยไปหาพี่ติวอีกก็ได้มาคนนึง จากนั้นเราก็พาเขาไปซื้ออุปกรณ์เตรียม แต่...
พอใกล้ถึงวันที่นัดไปเรียน เขาขอเงินแม่เรียน แม่เขาไม่ให้ เพราะแม่อยากให้เขามุ่งไปทางวิชาการด้วย เขาจึงไม่มีที่เรียน
และตอนนี้เราเลยกลายเป็นคนสอนเขาแทนเพราะวิชาท่เขาสอบคล้ายๆของเรา เราก็พยายามเอาสิ่งที่เคยเรียนไปทั้งหมดมาสอนเขาให้มากที่สุด
เวลาสอนเขา เราสอนผ่านสไกคอลกันค่ะ จริงๆอยากไปสอนเขาที่บ้านมากมันจะสอนง่ายกว่า แต่พ่อแม่ฝั่งเราค่อนข้างกีดกันเรากับเขาด้วย
เขาก็ฝึกวาดรูปที่บ้าน พอวาดเสร็จจะถ่ายรูปมาให้เราดู เราก็จะติบอกในจุดที่ผิดว่าแก้อะไรยังไง และสอนวิธีวาด รวมถึงการใช้สี
บางวันเราก็จะแอบนัดเจอกันข้างนอกพอเที่ยวกันเสร็จก่อนกลับ เราจะนั่งสอนเขาก่อนกลับหน่อยนึง
การสอนดำเนินไปถึงจุดที่งวาดยากขึ้น การสอนผ่านสไก ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เพราะเราไม่สามารถเห็นเขาตอนระหว่างวาด
ทำให้เขาวาดภาพออกมายังไม่ค่อยดีนัก แล้วเขาก็เริ่มเกิดอาการท้อ... บางครั้งเราก็จะได้ยินเสียงเขาพูดอยู่คนเดียว เริ่มโวยวายตะโกน และเขาชอบต่อยกำแพง
ล่าสุดที่ไปเจอเขาคือมือเขาเลือดออกตรงข้อนิ้วที่ต่อย เราก็ห้ามเขาหลายรอบแล้ว ห้ามไม่ได้เขาได้แต่บอกกลับมาว่า ไม่เป็นไรหรอก เขารู้สึกดีที่ระบายอารมณ์
แต่เราเองก็ไม่อยากให้เขามีแผล เรากลัวว่าเขาจะกระดูกมือหักหรืออาจอักเสบ (เพราะเรามีเพื่อนคนนึงที่เขาทะเลาะกับแฟนไปต่อยกระจกที่ร.ร.แตก
แล้วเข้ารพ.เพราะกระดูกมือเป็นไรเนี่ยแหละคะน่าจะซ้อนกัน เข้าเฝือก)
เขามักคิดอยู่ตลอดว่า เขาพึ่งจะมาค้นหาตัวเองได้มันไม่ทันแล้ว แล้วเขาจะนอนไม่หลับเวลาที่เริ่มคิดมาก น้ำตาไหลและสับสนตัวเองทำอะไรไม่ถูก
นอนเหม่ออยู่บนเตียงแต่นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้เขาเองก็ไม่ได้เป็นทุกวัน มันจะกิดขึ้นเมื่อ เราสั่งงานวาดรูปเขาแล้วเขาวาดออกมาได้ไม่ดี
เขาเป็นคนจิตปกติเวลาเหมือนคนทั่วไปนะแต่เป็นบางครั้งที่อารมณ์ขึ้น เขาเองก็รู้ตัวเองว่าเป็นโรคซึมเศร้า และล่าสุดเขาส่งเว็บนี้ให้เรา
http://pantip.com/topic/32471856 เขาบอกว่าจากที่เขาอ่านมาเขาเป็นทุกข้อตามนี้เลย เราเลยเปิดอ่านซึ่งเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ
ตั้งแต่เรื่องการกิน เรื่องความฝัน พฤติกรรมการนอน การทำงานแล้วออกมาแย่เขาจะฉีกทำลายงานนั้นทิ้ง ความความคิดความรู้สึกของเขา
เขาชอบบอกเราว่า ตัวเขาดูเหมาะสมกับทาสที่สุด(เขารู้สึกตัวเองต่ำต้อย) และเขาเป็นคนมองโลกแง่ลบมากๆ
เราเป็นห่วงเขามากเพราะเป็นช่วงที่เขาต้องสอบมันเป็นช่วงที่เครียดกับชีวิตจริงๆและประกอบกับเขาเป็นโรคซึมเศร้าด้วย มันยิ่งเพราะความเครียดให้เขาอีกมีวิธีที่พอจะทำให้เขาหายจากอาการเหล่านี้มั้ยคะ? อาการที่อยากให้เขาหายหลักๆเลย การดูถูกตัวเอง ท้อง่าย และอารมณ์ร้อน
ตอนนี้เราฝึกให้เขาเข้านอนให้ตรงเวลาอยู่ค่ะก็ดีขึ้นมานิดนึงนะ เขาบอกเราว่า เขาโชคดีจริงๆที่ได้เจอเรา ชีวิจเขาดีขึ้นเพราะเรา ก่อนหน้านั้นชีวิตเขาเลวร้ายมาก
แต่เราว่ามันก็ยังไม่ดีที่สุดหรอกค่ะ หากเขายังแบบซึมเศร้าอยู่ เราเองก็จะพยายามให้ถึงที่สุด
รบกวนใครก็ได้ช่วยบอกวิธีแก้อาการเหล่านี้ หรือวิธีที่ทำให้คนใจเย็นลงเวลาโมโหสบสนตัวเองหน่อยนะคะ
(บางคนอาจจะแนะนำให้เข้าไปรพ. แต่ขอตัดเรื่อง รพ. เลยค่ะ ฐานะการเงินบ้านเขาไม่ดีค่ะ พวกคำคมสอนชีวิตก็ใช้อะไรกับเขาไม่ได้ผลเลยค่ะ)

แฟนเป็นจิตซึมเศร้าทำยังไงดีคะ?
เราอายุ18 เขาอายุ17 (ยังไม่ได้มีอะไรกันนะคะ แต่ละฝ่ายรู้สิ่งที่ควรไม่ควรค่ะ และอยู่ในช่วงวัยเรียนก็ช่วยๆกันเรียนด้วยค่ะ)
ขอเกริ่นเรื่องของแฟนให้ฟังก่อนนะคะ จะไม่เล่าว่ามารักกันได้ไง เดี๋ยวเรื่องจะยาวเกิน ขอเรียกแฟนเราว่า I ละกัน
หลังจากที่เราได้คบกับ I มาเรื่อยๆทำให้เรารู้ว่าเขาผ่านชีวิตอะไรมาบ้าง
I มีนิสัยเงียบๆไม่ค่อยคุยกับเพื่อน ถ้าเพื่อนคนไหนที่ไม่มีธุระด้วยเขาจะไม่จำชื่อเพื่อนเลย นอนเยอะ กินอาการเยอะมากแต่กินได้เรื่อยๆ
และเราก็ได้รู้ว่า พ่อแม่ I อย่าตอน I อยู่อนุบาล และยายเก็เป็นคนรับเขาเลี้ยงต่อ นานๆครั้งแม่เขาจะกลับมาบ้าน ส่วนพ่อจะนัดมาเจอกับเขาข้างนอก
สมัย I อยู่ปะถามโดนเพื่อนเเกล้งบ่อย โดนเพื่อนล้อปมด้อย(ขอไม่พูดถึง) ขี้แย เขาเลยไม่เข้าหาเพื่อน เลือกที่จะอยู่คนเดียว ผ่านมา
พอเข้าเข้าม.1 ยายของเขาเสียลง ทำให้เขาต้องอยู่คนเดียวในบ้าน เงินค่าใช้จ่ายพ่อเขาเป็นคนโอนให้ อาทิตย์ละ 1,000 ซึ่งบางคนอาจคิดว่ามันเยอะ
แต่เงิน 1,000 นึงนี้เขาต้องเอามาจ่ายค่าเดินทางไป ร.ร. ค่ารายงานที่ครูสั่ง ค่าสารพัดนึกที่ร.ร.เก็บ(พวกเงินห้อง เงินค่าหนังสือเรียน)
ค่าอาหารเช้า ถึงเย็น กลับบ้านมาเขาไม่มีแม่คอยมาทำอาหารให้ต้องหากินเอง เขาจึงประหยัดสุดๆ
คือเราเห็นเขากินมาม่าบ่อยมาก บางวันก็เดินกลับบ้านไม่นั่งรถ บางวันก็ไม่กินข้าวเช้า I ผอมมาก คือรอบเอวเกือบเท่าเราเลย เล็กกว่าผู้หญิงบางคนอีก
ในความคิดเรานะ คือเราเล่าอดีตเขาไม่หมดมันเยอะ คือเขาเจอเรื่องเจ็บปวดมาเยอะตั้งแต่เรื่องครอบครัวยันเพื่อนรอบข้าง และปัญหาเรื่องเงิน
ช่วงตอนเขาจบม.3 คะแนนของเขาออกมาแย่มาก ทำให้พ่อเสียใจ และเขาเริ่มท้อในชีวิต เขาคิดอยู่บ่อยๆว่าเขาไม่มีอะไรดีเลย
เขาเป็นคนคิดมาก มากๆๆ คิดว่าจะอยู่บนโลกนี้ไปทำไม คนเราเกิดมาเพื่ออะไร? อะไรแบบนี้
พอเขาขึ้นม.4 เป็นช่วงเวลาที่ท้อที่สุดในชีวิต I เล่าให้เราฟังเลยว่า เป็นช่วงที่เขารู้สึกว่า เหมือนโยนทุกอย่างทิ้งไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว
เขาท้อทุกอย่างเรื่องอนาคต เรื่องเรียน เรื่องอยู่ตัวคนเดียว เรื่องเงิน ไม่คุยกับใคร
เมื่อเขาขึ้น ม.5 เราได้เจอกับเขาและได้ตกลงคบกัน(ขอไม่เล่าว่ามารักกันได้ยังไง ยาวค่ะขออภัย)
เขาจะเงียบเวลาอยู่กับเพื่อน แต่พออยู่กับเราเขาจะน่ารักมากๆเป็นคนอบอุ่นมากและเป็นคนดี
เขาจะเดินมาส่งเราที่ป้ายรถเมล์ทุกครั้งตอนกลับจาก ร.ร. แล้วเขาก็จะเดินไปบ้านต่อ เราเองก็ดีใจเพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครได้เห็นนอกจากเรา
หลังจากที่เรารู้เรื่องราวของเขา เราก็พยายามให้ความรักเขามากขึ้น เช่น คุยด้วยบ่อยๆ ไปกินไอติมด้วย พักกลางวันก็มานั่งเล่นมือถือคุยนู้นนี่ด้วยกัน
กลับบ้านก็คอลสไกคุยเรื่อยเปื่อยด้วยกัน อาจจะดูเหมือนคุยกันเยอะเกินไปหน่อย แต่เราก็อยากเติมเต็มในส่วนที่เขาขาดไปจริงๆ
ในช่วงนี้เราอยู่ม.6 เขาอยู่ม.5 เป็นช่วงเตรียมสอบของเรา เราก็พยายามทั้งเรื่องเรียน เรื่องรัก จนสอบติดมหาลัยชื่อดังแห่งนึงได้ เป็นด้านศิลปะ
และในช่วงปิดเทอมใหญ่ เราก็ชวนเขาไปทำงานพิเศษด้วยกัน เป็นงานของครอบครัวเรา เพราะอยากให้เขามีเงินไว้กินไว้ใช้ จนกระทั่งหมดเวลาปิดเทอม...
ตอนนี้ เราอยู่ปี1 เขาอยู่ม.6 เขาพึ่งจะค้นพบตัวเองได้ว่าเขาชอบด้านสร้างอนิเมชั่น ซึ่งเขาหามหาลัยที่อยากเข้าได้แล้ว แต่ทว่ามีสอบวาดรูปด้วย
เขาจึงไปหาที่ติว เราจึงแนะนำพี่ติวให้เขาไป เป็นพี่ติวที่สอนเราแล้วเราสอบติด ก็พาไปนัดแนะกันแต่ปรากฏว่าเขาไม่รับสอนแล้ว เราเลยพาเขาไปมหาลัยเราเพื่อหาพี่ติว
ก็ได้พี่คิวมา แต่เขาดันสอนวันธรรมดา(เรียนไม่ได้เพราะติดเรียนที่ร.ร.)เลยไปหาพี่ติวอีกก็ได้มาคนนึง จากนั้นเราก็พาเขาไปซื้ออุปกรณ์เตรียม แต่...
พอใกล้ถึงวันที่นัดไปเรียน เขาขอเงินแม่เรียน แม่เขาไม่ให้ เพราะแม่อยากให้เขามุ่งไปทางวิชาการด้วย เขาจึงไม่มีที่เรียน
และตอนนี้เราเลยกลายเป็นคนสอนเขาแทนเพราะวิชาท่เขาสอบคล้ายๆของเรา เราก็พยายามเอาสิ่งที่เคยเรียนไปทั้งหมดมาสอนเขาให้มากที่สุด
เวลาสอนเขา เราสอนผ่านสไกคอลกันค่ะ จริงๆอยากไปสอนเขาที่บ้านมากมันจะสอนง่ายกว่า แต่พ่อแม่ฝั่งเราค่อนข้างกีดกันเรากับเขาด้วย
เขาก็ฝึกวาดรูปที่บ้าน พอวาดเสร็จจะถ่ายรูปมาให้เราดู เราก็จะติบอกในจุดที่ผิดว่าแก้อะไรยังไง และสอนวิธีวาด รวมถึงการใช้สี
บางวันเราก็จะแอบนัดเจอกันข้างนอกพอเที่ยวกันเสร็จก่อนกลับ เราจะนั่งสอนเขาก่อนกลับหน่อยนึง
การสอนดำเนินไปถึงจุดที่งวาดยากขึ้น การสอนผ่านสไก ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เพราะเราไม่สามารถเห็นเขาตอนระหว่างวาด
ทำให้เขาวาดภาพออกมายังไม่ค่อยดีนัก แล้วเขาก็เริ่มเกิดอาการท้อ... บางครั้งเราก็จะได้ยินเสียงเขาพูดอยู่คนเดียว เริ่มโวยวายตะโกน และเขาชอบต่อยกำแพง
ล่าสุดที่ไปเจอเขาคือมือเขาเลือดออกตรงข้อนิ้วที่ต่อย เราก็ห้ามเขาหลายรอบแล้ว ห้ามไม่ได้เขาได้แต่บอกกลับมาว่า ไม่เป็นไรหรอก เขารู้สึกดีที่ระบายอารมณ์
แต่เราเองก็ไม่อยากให้เขามีแผล เรากลัวว่าเขาจะกระดูกมือหักหรืออาจอักเสบ (เพราะเรามีเพื่อนคนนึงที่เขาทะเลาะกับแฟนไปต่อยกระจกที่ร.ร.แตก
แล้วเข้ารพ.เพราะกระดูกมือเป็นไรเนี่ยแหละคะน่าจะซ้อนกัน เข้าเฝือก)
เขามักคิดอยู่ตลอดว่า เขาพึ่งจะมาค้นหาตัวเองได้มันไม่ทันแล้ว แล้วเขาจะนอนไม่หลับเวลาที่เริ่มคิดมาก น้ำตาไหลและสับสนตัวเองทำอะไรไม่ถูก
นอนเหม่ออยู่บนเตียงแต่นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้เขาเองก็ไม่ได้เป็นทุกวัน มันจะกิดขึ้นเมื่อ เราสั่งงานวาดรูปเขาแล้วเขาวาดออกมาได้ไม่ดี
เขาเป็นคนจิตปกติเวลาเหมือนคนทั่วไปนะแต่เป็นบางครั้งที่อารมณ์ขึ้น เขาเองก็รู้ตัวเองว่าเป็นโรคซึมเศร้า และล่าสุดเขาส่งเว็บนี้ให้เรา
http://pantip.com/topic/32471856 เขาบอกว่าจากที่เขาอ่านมาเขาเป็นทุกข้อตามนี้เลย เราเลยเปิดอ่านซึ่งเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ
ตั้งแต่เรื่องการกิน เรื่องความฝัน พฤติกรรมการนอน การทำงานแล้วออกมาแย่เขาจะฉีกทำลายงานนั้นทิ้ง ความความคิดความรู้สึกของเขา
เขาชอบบอกเราว่า ตัวเขาดูเหมาะสมกับทาสที่สุด(เขารู้สึกตัวเองต่ำต้อย) และเขาเป็นคนมองโลกแง่ลบมากๆ
เราเป็นห่วงเขามากเพราะเป็นช่วงที่เขาต้องสอบมันเป็นช่วงที่เครียดกับชีวิตจริงๆและประกอบกับเขาเป็นโรคซึมเศร้าด้วย มันยิ่งเพราะความเครียดให้เขาอีกมีวิธีที่พอจะทำให้เขาหายจากอาการเหล่านี้มั้ยคะ? อาการที่อยากให้เขาหายหลักๆเลย การดูถูกตัวเอง ท้อง่าย และอารมณ์ร้อน
ตอนนี้เราฝึกให้เขาเข้านอนให้ตรงเวลาอยู่ค่ะก็ดีขึ้นมานิดนึงนะ เขาบอกเราว่า เขาโชคดีจริงๆที่ได้เจอเรา ชีวิจเขาดีขึ้นเพราะเรา ก่อนหน้านั้นชีวิตเขาเลวร้ายมาก
แต่เราว่ามันก็ยังไม่ดีที่สุดหรอกค่ะ หากเขายังแบบซึมเศร้าอยู่ เราเองก็จะพยายามให้ถึงที่สุด
รบกวนใครก็ได้ช่วยบอกวิธีแก้อาการเหล่านี้ หรือวิธีที่ทำให้คนใจเย็นลงเวลาโมโหสบสนตัวเองหน่อยนะคะ
(บางคนอาจจะแนะนำให้เข้าไปรพ. แต่ขอตัดเรื่อง รพ. เลยค่ะ ฐานะการเงินบ้านเขาไม่ดีค่ะ พวกคำคมสอนชีวิตก็ใช้อะไรกับเขาไม่ได้ผลเลยค่ะ)