1.
..รถวิ่งเร็วปรื๋อ...
อากาศเย็นระเรื่อ ต้องผิวกายของชายกำยำ...ในยามเช้า
นับเป็นครั้งเเรกในรอบ 3 ปี ที่เเสงเเรกของวันไม่มีผลต่อการตื่นนอนของเขา
เเม้ไม่คุ้นชินกับความมืดรอบตัว
หากเงื่อนเวลาไม่เอื้อให้เขาทำความรู้จักกับบรรยากาศแปลกคุ้นเช่นนี้
น้ำเเรกจากฝักบัวพุ่งอาบร่าง
นำความเย็นซ่ากระทบผิวเปลือยเปล่า
ก่อนความอุ่นจะเข้ามาเเทนที่ครองกาย
ครั้นมองต่ำลงเบื้องล่าง
เห็นฝาเเฝดน้อยหดตัว...อย่างไม่เกรงใจขนาดของร่างกาย
หรือนี่...อาจไม่ใช่เวลาตื่นของมันก็เป็นได้ - เขานึกขันกับตัวเอง
ผละจากห้องน้ำ
มายืนหน้ากระจก
นึกเเปลกใจที่ตัวเองใช้เวลาจัดการธุระส่วนตัวไปเพียง 1 ชั่วโมง
ทั้งที่เวลาปกติต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง - สำหรับเขาที่เสพติดความเนี้ยบเป็นอาจิณ
นกกาเหว่าขับขานรับวันใหม่
ลมรำเพยกลิ่นหอมเย็น
จนต้องหายใจเข้าลึกอย่างเนิบช้า
ขณะสองเท้าก้าวยาว
เเสงไฟข้างทางวอมเเวมในมุมสลัว
เขานึกอยากเดินช้า ๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศปลอดผู้คนแบบนี้
เเต่ชุดที่เขาสวมกลับไม่อนุญาตให้ทำเเบบนั้น
แท็กซี่คันหนึ่งแล่นผ่านอย่างรวดเร็ว
บอกถึงสภาพถนนที่โปร่งโล่งไร้ขบวนรถ
ข้างหลังเขาเป็นหญิงกลางคนในชุดสีกรมท่าปิดมิดชิด
กำลังกวาดถนน ในท่วงท่าทะมัดทะแมง
"ออกเเต่เช้าเลยนะหนุ่ม" เธอทักเขาด้วยเเววตายิ้มปริ่ม
หากเปิดผ้าปิดปากออกก็คงเห็นรอยยิ้มกว้างอยู่เป็นเเน่
เขาพยักหน้ารับ พร้อมส่งยิ้มกลับไป
เขารู้สึกเขิน ทำหน้าไม่ถูกเพราะไม่ค่อยมีใครมาทักเขาแบบนี้
อีกฟากของถนน เป็นทุ่งนาขนาดกว้าง
มีหมอกบาง ๆ ปกคลุมอยู่ท้ายทุ่ง
เป็นทุ่งนาของคนในพื้นที่ที่ยังไม่ยอมขายให้นายทุนไปสร้างคอนโดมิเนียม
ลือกันหนาหูว่า เจ้าของที่นาโดนข่มขู่หนักขึ้นทุกวัน
เขาเองก็ไม่รู้ว่าทุ่งนานี้จะมีลมหายใจต่อไปได้อีกนานเเค่ไหน ?
รู้เเต่ว่าตอนนี้
ภาพทุ่งนาถูกเเทนที่ด้วยรถเมล์ที่เพิ่งมาจอดเทียบตรงหน้าเขา
ซ่าาาาา !!!!! ...เสียงประตูรถถูกเปิดออก
อาแปะคนหนึ่งกุลีกุจอลากรถเข็นผักขนาดอเนกประสงค์...ลงจากบันไดอย่างทุลักทุเล
เขาถลันเข้าไปช่วยทันที
"ขอบใจนะ ขอบใจ อาตี๋น้อยเอ้ย " อาเเปะตบบ่าเขาเบา ๆ
เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นรอยยิ้มจากคนที่ไม่รู้จัก
เเล้วประตูรถเมล์ก็ปิดลงดังพลึ่บ !
พร้อมกับที่เขาเหวี่ยงตัวขึ้นรถพอดี
เขายืนโหนราวตามความเคยชิน
สักพัก...กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บค่าโดยสาร
หลังฉีกตั่วให้ ก็ได้รับคำชี้ชวน
"หลังว่างเลยพี่ หลังว่างเลย! "
นั่นสินะ...ที่นั่งบนรถว่างเยอะเลย
กวาดตาไปรอบ ๆ ก็พบผู้โดยสารไม่ถึง 5 คน
เเรงลมปะทะเข้าหน้า ยามรถเเล่นไปตามถนนใหญ่
กลิ่นสดชื่นชนิดหนึ่งก็โชยสัมผัสที่ปลายจมูก
จนต้องเผลอสูดหายใจยาว ๆ เป็นจังหวะ
เย็นสบายดีจัง - เขานึกในใจ
แม้ต้นไม้สีเขียวข้างทางจะมีไม่มากเมื่อเข้าเขตเมือง
เเต่ภาพเคลื่อนไหวเเรกอรุณของผู้คนบนฟุตบาธ
ก็ทำให้เพลินตาไปอีกแบบ...
อาคารพาณิชย์ถูกปลุกให้ตื่น
เมื่อเจ้าของกิจการเลื่อนประตูเหล็กขึ้นดัง...ครืน !
เสียงเเม่ค้าขายโจ๊กเรียกลูกค้าประจำเเละขาจรดังเเว่วให้ได้ยิน
ใกล้กันนั้น...มีกลุ่มคนยืนต่อคิวรับน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋กันหนาตา
ครั้นรถเมล์เคลื่อนผ่านสวนสาธาณะ
ก็ปรากฎเป็นกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ
ยืนทักทายกันก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ ไปตามทาง...รอบสวน
.
.
.
1.1
...รถสิบล้อพวยพุ่งควันสีเทาไว้เบื้องหลัง...
เขายกนาฬิกาข้อมือดูเวลา
ก่อนจะสาวเท้ายาวไปแลกตั๋วรถตู้
ตรงลานกว้างหน้าอาคารสีเก่าคร่ำ
ผู้คนในบริเวณนั้นใส่เครื่องแบบเดียวกับเขา
และยังมีจุดหมายปลายทางเดียวกับเขาด้วย
เขายื่นตั๋วให้พนักงานก่อนพาตัวเองเข้าไปนั่งในรถตู้สีขาวโพลน...
...เเล้วควันสีเทา ก็พวยพุ่งอีกครั้ง...
แอร์ในรถเย็นจนคนข้าง ๆ ต้องหยิบเสื้อคลุมมากระชับเเนบตัว
เเต่ร่างกายกำยำแบบเขา
ไม่ยี่หระต่อระดับความเย็นเพียงเกล็ดน้ำเเข็งนี้หรอก...!
หากพื้นที่อันจำกัดในรถต่างหากที่เขาไม่ใคร่จะชอบใจนัก
เขาอยากจะเอามือทุบกระจกเเล้วยื่นหน้าออกไปรับลมเย็น ๆ
เเต่โชคดีที่เขาได้เเต่เพียงคิด
เเละยามสายเช่นนี้
คงไม่มีลมเย็น ๆ ให้เขาได้สูดหายใจเเล้วเป็นเเน่ !
...เขาดูนาฬิกา...
เมื่อวานมาถึง 9 โมงเช้า
เเต่วันนี้เท้าเเตะพื้นในเวลา 7 โมง
บ่นพึมพำว่าว่ามาเร็วเกินไป
ม้าหินอ่อนข้างตึก คือ ที่นั่งพักเพื่อฆ่าเวลา
มองรอบ ๆ มีเพียงความว่างเปล่า
พื้นที่กว้างของที่นี่...คงดึงดูดเพื่อนร่วมทางบนรถตู้เมื่อครู่
ให้เเยกย้ายหาพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำสมาธิ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ไล่หารายชื่อเพื่อนที่คิดว่าน่าจะคุยกับเขาได้ในเวลานี้
เเต่ให้ตายเถอะ ! ...เขานึกไม่ออกว่าจะต่อสายถึงใครดี
เเม้จะมีรายชื่อให้เลือกอยู่นับสิบ...
ครั้นจะเชื่อมต่อ social network
Speed ก็ช้าไม่ทันใจ...
เขาจึงตัดสินใจฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
เเว่วเสียงนกกระจิบเเทรกเข้ามา
คล้ายทำนองเพลงธรรมชาติขับกล่อม
ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลง...ในตอนนั้น
--------------------------- ต่อตอน 2 ครับ -------------------------------
cr. ภาพ : คุณ ผมคิดว่าผม 9นิ้ว จาก
http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=38443
เขา story
1.
..รถวิ่งเร็วปรื๋อ...
อากาศเย็นระเรื่อ ต้องผิวกายของชายกำยำ...ในยามเช้า
นับเป็นครั้งเเรกในรอบ 3 ปี ที่เเสงเเรกของวันไม่มีผลต่อการตื่นนอนของเขา
เเม้ไม่คุ้นชินกับความมืดรอบตัว
หากเงื่อนเวลาไม่เอื้อให้เขาทำความรู้จักกับบรรยากาศแปลกคุ้นเช่นนี้
น้ำเเรกจากฝักบัวพุ่งอาบร่าง
นำความเย็นซ่ากระทบผิวเปลือยเปล่า
ก่อนความอุ่นจะเข้ามาเเทนที่ครองกาย
ครั้นมองต่ำลงเบื้องล่าง
เห็นฝาเเฝดน้อยหดตัว...อย่างไม่เกรงใจขนาดของร่างกาย
หรือนี่...อาจไม่ใช่เวลาตื่นของมันก็เป็นได้ - เขานึกขันกับตัวเอง
ผละจากห้องน้ำ
มายืนหน้ากระจก
นึกเเปลกใจที่ตัวเองใช้เวลาจัดการธุระส่วนตัวไปเพียง 1 ชั่วโมง
ทั้งที่เวลาปกติต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง - สำหรับเขาที่เสพติดความเนี้ยบเป็นอาจิณ
นกกาเหว่าขับขานรับวันใหม่
ลมรำเพยกลิ่นหอมเย็น
จนต้องหายใจเข้าลึกอย่างเนิบช้า
ขณะสองเท้าก้าวยาว
เเสงไฟข้างทางวอมเเวมในมุมสลัว
เขานึกอยากเดินช้า ๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศปลอดผู้คนแบบนี้
เเต่ชุดที่เขาสวมกลับไม่อนุญาตให้ทำเเบบนั้น
แท็กซี่คันหนึ่งแล่นผ่านอย่างรวดเร็ว
บอกถึงสภาพถนนที่โปร่งโล่งไร้ขบวนรถ
ข้างหลังเขาเป็นหญิงกลางคนในชุดสีกรมท่าปิดมิดชิด
กำลังกวาดถนน ในท่วงท่าทะมัดทะแมง
"ออกเเต่เช้าเลยนะหนุ่ม" เธอทักเขาด้วยเเววตายิ้มปริ่ม
หากเปิดผ้าปิดปากออกก็คงเห็นรอยยิ้มกว้างอยู่เป็นเเน่
เขาพยักหน้ารับ พร้อมส่งยิ้มกลับไป
เขารู้สึกเขิน ทำหน้าไม่ถูกเพราะไม่ค่อยมีใครมาทักเขาแบบนี้
อีกฟากของถนน เป็นทุ่งนาขนาดกว้าง
มีหมอกบาง ๆ ปกคลุมอยู่ท้ายทุ่ง
เป็นทุ่งนาของคนในพื้นที่ที่ยังไม่ยอมขายให้นายทุนไปสร้างคอนโดมิเนียม
ลือกันหนาหูว่า เจ้าของที่นาโดนข่มขู่หนักขึ้นทุกวัน
เขาเองก็ไม่รู้ว่าทุ่งนานี้จะมีลมหายใจต่อไปได้อีกนานเเค่ไหน ?
รู้เเต่ว่าตอนนี้
ภาพทุ่งนาถูกเเทนที่ด้วยรถเมล์ที่เพิ่งมาจอดเทียบตรงหน้าเขา
ซ่าาาาา !!!!! ...เสียงประตูรถถูกเปิดออก
อาแปะคนหนึ่งกุลีกุจอลากรถเข็นผักขนาดอเนกประสงค์...ลงจากบันไดอย่างทุลักทุเล
เขาถลันเข้าไปช่วยทันที
"ขอบใจนะ ขอบใจ อาตี๋น้อยเอ้ย " อาเเปะตบบ่าเขาเบา ๆ
เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นรอยยิ้มจากคนที่ไม่รู้จัก
เเล้วประตูรถเมล์ก็ปิดลงดังพลึ่บ !
พร้อมกับที่เขาเหวี่ยงตัวขึ้นรถพอดี
เขายืนโหนราวตามความเคยชิน
สักพัก...กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บค่าโดยสาร
หลังฉีกตั่วให้ ก็ได้รับคำชี้ชวน
"หลังว่างเลยพี่ หลังว่างเลย! "
นั่นสินะ...ที่นั่งบนรถว่างเยอะเลย
กวาดตาไปรอบ ๆ ก็พบผู้โดยสารไม่ถึง 5 คน
เเรงลมปะทะเข้าหน้า ยามรถเเล่นไปตามถนนใหญ่
กลิ่นสดชื่นชนิดหนึ่งก็โชยสัมผัสที่ปลายจมูก
จนต้องเผลอสูดหายใจยาว ๆ เป็นจังหวะ
เย็นสบายดีจัง - เขานึกในใจ
แม้ต้นไม้สีเขียวข้างทางจะมีไม่มากเมื่อเข้าเขตเมือง
เเต่ภาพเคลื่อนไหวเเรกอรุณของผู้คนบนฟุตบาธ
ก็ทำให้เพลินตาไปอีกแบบ...
อาคารพาณิชย์ถูกปลุกให้ตื่น
เมื่อเจ้าของกิจการเลื่อนประตูเหล็กขึ้นดัง...ครืน !
เสียงเเม่ค้าขายโจ๊กเรียกลูกค้าประจำเเละขาจรดังเเว่วให้ได้ยิน
ใกล้กันนั้น...มีกลุ่มคนยืนต่อคิวรับน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋กันหนาตา
ครั้นรถเมล์เคลื่อนผ่านสวนสาธาณะ
ก็ปรากฎเป็นกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ
ยืนทักทายกันก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ ไปตามทาง...รอบสวน
.
.
.
1.1
...รถสิบล้อพวยพุ่งควันสีเทาไว้เบื้องหลัง...
เขายกนาฬิกาข้อมือดูเวลา
ก่อนจะสาวเท้ายาวไปแลกตั๋วรถตู้
ตรงลานกว้างหน้าอาคารสีเก่าคร่ำ
ผู้คนในบริเวณนั้นใส่เครื่องแบบเดียวกับเขา
และยังมีจุดหมายปลายทางเดียวกับเขาด้วย
เขายื่นตั๋วให้พนักงานก่อนพาตัวเองเข้าไปนั่งในรถตู้สีขาวโพลน...
...เเล้วควันสีเทา ก็พวยพุ่งอีกครั้ง...
แอร์ในรถเย็นจนคนข้าง ๆ ต้องหยิบเสื้อคลุมมากระชับเเนบตัว
เเต่ร่างกายกำยำแบบเขา
ไม่ยี่หระต่อระดับความเย็นเพียงเกล็ดน้ำเเข็งนี้หรอก...!
หากพื้นที่อันจำกัดในรถต่างหากที่เขาไม่ใคร่จะชอบใจนัก
เขาอยากจะเอามือทุบกระจกเเล้วยื่นหน้าออกไปรับลมเย็น ๆ
เเต่โชคดีที่เขาได้เเต่เพียงคิด
เเละยามสายเช่นนี้
คงไม่มีลมเย็น ๆ ให้เขาได้สูดหายใจเเล้วเป็นเเน่ !
...เขาดูนาฬิกา...
เมื่อวานมาถึง 9 โมงเช้า
เเต่วันนี้เท้าเเตะพื้นในเวลา 7 โมง
บ่นพึมพำว่าว่ามาเร็วเกินไป
ม้าหินอ่อนข้างตึก คือ ที่นั่งพักเพื่อฆ่าเวลา
มองรอบ ๆ มีเพียงความว่างเปล่า
พื้นที่กว้างของที่นี่...คงดึงดูดเพื่อนร่วมทางบนรถตู้เมื่อครู่
ให้เเยกย้ายหาพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำสมาธิ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ไล่หารายชื่อเพื่อนที่คิดว่าน่าจะคุยกับเขาได้ในเวลานี้
เเต่ให้ตายเถอะ ! ...เขานึกไม่ออกว่าจะต่อสายถึงใครดี
เเม้จะมีรายชื่อให้เลือกอยู่นับสิบ...
ครั้นจะเชื่อมต่อ social network
Speed ก็ช้าไม่ทันใจ...
เขาจึงตัดสินใจฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
เเว่วเสียงนกกระจิบเเทรกเข้ามา
คล้ายทำนองเพลงธรรมชาติขับกล่อม
ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลง...ในตอนนั้น
--------------------------- ต่อตอน 2 ครับ -------------------------------
cr. ภาพ : คุณ ผมคิดว่าผม 9นิ้ว จาก
http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=38443