คือเราคบกันมาได้สักพักแล้วครับ
คือมันเริ่มจากการที่ผมได้ไปแอดเขาในโปรแกรมแชทอันนึงเพราะเห็นว่าเขาตั้งว่าแอดมาได้นะคุยได้ตลอดขี้เหงา
ผมก็ไม่ได้คิดที่จะจีบเขานะครับตอนแรกผมเลยลองแอดเขาไปดู
พอเขารับแอดผมแล้วผมกลับมาล็อกอินเขาก็ทักมาถามว่านี้ใครอะ
ผมก็บอกว่าแอดมาเพราะเห็นตั้งสเตตัสยังงั้นและด้วยความที่ผมเริ่มเบื่อกับเรื่องรักๆแล้วเลยเหงาไม่ค่อยมีคนคุย เขาก็บอกเข้าใจแล้วคุยกับผมในวันนั้นผมก็ถามว่าทำไหมถึงตั้งสเตตัสนั้นเขาก็บอกว่า
เขาก็อยากหาคนคุยด้วยเพราะเขาก็ไม่ค่อยมีคนที่คุยแบบไว้ใจได้สักเท่าไรที่โรงเรียน
ผมก็คิดว่าคุยกันธรรมดาเฉยๆ วันต่อมาเขาก็ทักผมก่อน ผมก็อะว่างๆด้วยเพราะปิดเทอมเลยตอบแชทเขาไปเขาก็คุยดีนะครับก็คุยได้เรื่อยๆ เขาก็ทักมาหาผมก่อนทุกวัน
ผมก็พยายามถามเขาที่ละนิดที่ละหน่อยว่าชื่ออะไรเหรอ เห็นรูปแล้วเครื่องแบบม.ต้นนี้น่า เรียนอยู่ที่ไหนเหรอ ประมาณนี้ ผมก็คุยแทบทุกวันจนเขาบอกลองโทรหากันดีกว่าไหมละ เพราะเขาเบื่อที่จะพิมพ์แล้ว(ความจริงเขาอยากลองทดสอบด้วยว่าเสียงผมจะเหมือนอายุตามที่ผมบอกไปหรือเปล่า) ผมก็คุยโทรศัพท์แรกๆก็เขินกันนะ เขาก็เริ่มเล่าเรื่องของเขาให้ผมฟังเขาก็เล่าว่าเขาเจอเรื่องที่เสียใจมาเยอะมากจนไม่รู้จะปรึกษาใครผมก็พยายามบอกว่างั้นลองมาปรึกษาพี่ดูสิ
เขาก็เอามาปรึกษาผมตลอด แบบเวลาทะเลาะอะไรกันเขาก็จะมาเล่า ผมก็อาสาไปอธิบายคนที่เขามาทะเลาะกันเขาให้เข้าใจจนกลับมาคืนดีกันหลายรอบเหมือนกัน จนในที่สุดผมรู้สึกว่าชีวิตเขามันไม่น่าเศร้าไปหน่อยเหรอ ผมจึงคิดอยากจะดูแลเขาคอยให้คำปรึกษากับเขาเลยแปรเปลื่ยนมาเป็นความชอบ จนผมก็เริ่มจีบเขาก็หยอดหวานบ้างหรืออาจจะคุยหยอกเล่นตลกดูขำๆแต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้เขานะครับ (ผมยังไม่เคยเจอตัวจริงกับ วิดิโอคอลนะครับ)
แล้วมันก็เริ่มมีอะไรเปลื่ยนไปก็คือ
เขาเปลื่ยนรูปตัวเองเป็นเน็ตไอดอลแล้วบอกว่าถ่าย ตอนนั่น ตอนนี้นะซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ครับว่าเป็นเน็ตไอดอลแต่ผมก็แอบสงสัยว่ารูปแรกๆยังเป็นเด็กมัธยมต้นอยู่เลยทำไหมรูปใหม่เป็นเครื่องแบบมัธยมปลายแทนแต่ผมไม่ได้ไปสืบนะครับก็เลยปล่อยให้เขาใช้รูปเน็ตไอดอลแทน (ผมนัดเจอกับเขาแล้วแต่เขาบอกว่าคุณแม่ห่วงไม่ให้ออกจากบ้าน แต่ผมว่าน่าจะเป็นเพราะเขาไม่ไว้ใจผมแต่เขาบอกว่าจะมีเดือนนึงที่จัดงานที่เขาอยากไปให้เจอเขากันที่นั้น)
จนในที่สุดคุยกันมานานมากละผมว่าเอาละลองบอกขอเป็นแฟนเลยละกัน ซึ่งวันที่ผมบอกเขาอึ้งไปเลยแล้วเขาก็พยายามยื้อว่าพี่น้องได้ไหม ผมก็อธิบายกับเขาแล้วลองถามเขาว่าทำไหมถึงยื้อเหรอ เขาบอกว่ากลัวผมจะห่างแล้วทิ้งเขาเหมือนแฟนเก่าของเขา ผมก็อธิบายว่าอย่ากลัวที่จะห่างเลยพี่สัญญาเลย
จนในที่สุดเขาก็ยอมตกลงกับผม
แล้วหลังจากนั้นพอขอเป็นแฟนเขาก็เปลื่ยนรูปตัวเองเป็นรูปตัวการตูนแทนซึ่งผมยังไม่รู้ว่าทำไหม(ผมว่าเขาคงรู้สึกผิดที่ใช้ภาพเน็ตไอดอลมาเป็นโปรไฟล์)
จนมาถึงวันที่ผมรู้ความจริงว่ารูปที่เขาเคยใช้มันไม่ใช้ตัวจริงเขา
วันนั้นผมนั่งเครียดทั้งวันผมก็สองจิตสองใจ ใจนึงก็รักเขาใจนึงก็บอกว่าเขาจะโกหกเราทำไหมเพื่อนผมก็พยายามเตือนผมว่าใจเย็นอย่าพึงไปถามเขาเลย แต่ผมเป็นคนตรงมีอะไรที่เก็บไว้ไม่อยู่ก็จะถามไปตรงๆเลย ผมก็ลองโทรไปหาเขาดูว่าทำไหมถึงใช้ภาพเน็ตไอดอล ซึ่งมันเป็นวันเดียวกับที่เขาจะมาบอกเลิกผมเพราะกลัวว่าผมจะโกรธที่เขาโกหกเขา
ตอนนั้นพอเขาบอกเลิกกันได้ไหม ผมก็ถามเขากลับเขาก็อธิบายว่าเพราะเขาไปปรึกษาเพื่อนเขาว่าลองใช้เน็ตไอดอลดูก่อนเพราะถ้าใช้ตัวจริงอาจจะโดนตามตัวมาด่าถึงที่โรงเรียนได้ถ้าเขาเป็นพวกที่แอดมาด่า
ตอนนั้นผมก็เลยบอกเขาว่าไม่ใช้นะพี่ไม่ได้จะแอดมาด่านะเชื่อใจพี่สิ ผมก็พยายามปลอบเขาไปเรื่อยๆแล้วบอกว่าเราลองถ่ายรูปตอนนี้แล้วตั้งเป็นรูปโปรไฟล์สิจะได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขี้นเนอะ เขาก็บอกว่าไม่กล้าถ่ายผมก็พยายามตื้อให้เขาถ่ายให้ได้จน คืนนั้นเขาก็เงียบไปสักพักนึงแล้วผมได้ยินเสียงเหมือนร้องไห้แล้วเขาก็ว่างสายผมไปเลย ผมคงรู้แล้วละว่าเขาคงรู้สึกผิดมาก วันต่อมาผมจึงแชทปลอบเขาแล้วถามว่าโทรไปหาได้ไหม เขาก็ตอบกลับมาว่า ยังอยากคุยกันหนูอยู่เหรอหนูโกหกพี่ซะขนาดนี้คงจะเกลียดหนูแล้วละ
ผมก็พยายามง้อให้เขารับสายผมให้ได้ ทั้งโทรไปเรื่อยๆ ทั้งพิมพ์อ้อน แล้วพิมพ์บอกขอโทษ จนในที่สุดผมก็ใช้วิธีสุดท้ายคือพิมพ์เหมือนตอนที่จีบใหม่ๆ จนเขาใจอ่อนยอมรับสายผม ผมก็บอกไม่เป็นไรนะคืนนั้นก็ปลอบเขาทั้งคืนจนเขากลับมาดีขึ้นแล้วละ
จนถึงวันที่เขางอลผมครั้งใหญ่
ช่วงนั่นคือช่วงที่เขาไม่สะดวกคุยโทรศัพท์เพราะติดธุระผมก็เลยใช้แชทคุยกับเขาแทนจนใช้มาตลอด5-7วัน ผมก็เหนื่อยครับเพราะหลังจากขอเขาเป็นแฟนเวลาพิมพ์เขาจะพิมพ์กลับมาเย็นชาในระดับนึงผมก็รู้สึกท้อนิดนึงเพราะเวลาเขาคุยโทรศัพท์กับแชทนี้แตกต่างมากครับ เวลาคุยโทรศัพท์นี้คือคุยคลอดไม่มีหยุดเลย ผมก็บอกว่าถ้ามีไรก็ทักพี่มานะเดียวไปอ่านหนังสือแล้วนอนก่อน พอผมตื่นมาดูก็เห็นว่าเขาทักเมื่อชั่วโมงที่แล้วผมก็พยายามบอกขอโทษ เขาก็ตอบมาว่า กว่าจะตอบ ผมก็ง้อเขาแล้วเขาก็บอกไม่เป็นไรน่าซึ่งผมรู้ว่าเขาแอบงอลผมแน่ๆ
พอคุยๆกันก็เหมือนจะปรกติ ก็บอกฝันดีนะไปเข้านอนได้แล้วนะ
แต่พอผมตื่นไปเรียนแล้วกลับมาที่บ้านผมก็รอเขาออนแต่เขาไม่ออนสักที่ผมก็พยายามโทรไปหาเขาก็ไม่รับสาย
จนผมก็เรื่มลนลานไปปรึกษาเพื่อนเลยเพื่อนก็บอกคิดมากน่าเขาอาจจะโดนตัดค่าเน็ตค่าโทรศัพท์หรือไม่ว่างน่า ผมก็พยายามใจเย็น จนเลยมาได้2-3วันก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ผมก็ไปสืบเลยละกันว่าเขาหายไปไหนก็พยายามแอดเพื่อนเขาไปถาม
แต่เพื่อนเขาก็บอกไม่รู้จนในที่สุด ผมก็สืบเรื่อยๆจนไปเจอทวิสที่เขาตั้งไว้ในวันที่เขาขาดการติดต่อกับผมเขาตั้งว่า อย่าห่างจากเราไปเลยได้ไหมถ้าเธอห่างไปแล้วฉันจะอยู่อย่างไร,คุยกันแรกๆก็ดีอยู่นะแต่พอนานวันเข้าก็เริ่มเบื่อกัน#ห่างหาย,เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะเบือเราตอนไหน
พอผมเห็นข้อความพวกนี้แล้ว ผมก็คิดว่าไม่ได้ละเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ
ผมจึงคิดไว้ว่าผมจะไปง้อเขาถึงโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ซะเลย ให้เขาเห็นตัวจริงของเราซะให้เขาเชื่อใจเราว่าผมจริงใจแค่ไหน ผมเลยมาขอคำปรึกษากับทุกคนครับว่า เขายังมีใจให้ผมอยู่ไหมถ้าเขาหมดใจแล้วผมจะง้อเขายังไง ทำยังไงดีให้เขากลับมาคุยกับเราถึงจะเป็นแค่พี่น้อง ถ้าเขาหนีหน้าผมควรจะพยายามตื้อให้มันจบแบบสวยงามหรือตัดใจจากเขาซะ ขอบคุณทุกคนครับ
ขอคำปรึกษาเรื่องง้อแฟนครับ
คือมันเริ่มจากการที่ผมได้ไปแอดเขาในโปรแกรมแชทอันนึงเพราะเห็นว่าเขาตั้งว่าแอดมาได้นะคุยได้ตลอดขี้เหงา
ผมก็ไม่ได้คิดที่จะจีบเขานะครับตอนแรกผมเลยลองแอดเขาไปดู
พอเขารับแอดผมแล้วผมกลับมาล็อกอินเขาก็ทักมาถามว่านี้ใครอะ
ผมก็บอกว่าแอดมาเพราะเห็นตั้งสเตตัสยังงั้นและด้วยความที่ผมเริ่มเบื่อกับเรื่องรักๆแล้วเลยเหงาไม่ค่อยมีคนคุย เขาก็บอกเข้าใจแล้วคุยกับผมในวันนั้นผมก็ถามว่าทำไหมถึงตั้งสเตตัสนั้นเขาก็บอกว่า
เขาก็อยากหาคนคุยด้วยเพราะเขาก็ไม่ค่อยมีคนที่คุยแบบไว้ใจได้สักเท่าไรที่โรงเรียน
ผมก็คิดว่าคุยกันธรรมดาเฉยๆ วันต่อมาเขาก็ทักผมก่อน ผมก็อะว่างๆด้วยเพราะปิดเทอมเลยตอบแชทเขาไปเขาก็คุยดีนะครับก็คุยได้เรื่อยๆ เขาก็ทักมาหาผมก่อนทุกวัน
ผมก็พยายามถามเขาที่ละนิดที่ละหน่อยว่าชื่ออะไรเหรอ เห็นรูปแล้วเครื่องแบบม.ต้นนี้น่า เรียนอยู่ที่ไหนเหรอ ประมาณนี้ ผมก็คุยแทบทุกวันจนเขาบอกลองโทรหากันดีกว่าไหมละ เพราะเขาเบื่อที่จะพิมพ์แล้ว(ความจริงเขาอยากลองทดสอบด้วยว่าเสียงผมจะเหมือนอายุตามที่ผมบอกไปหรือเปล่า) ผมก็คุยโทรศัพท์แรกๆก็เขินกันนะ เขาก็เริ่มเล่าเรื่องของเขาให้ผมฟังเขาก็เล่าว่าเขาเจอเรื่องที่เสียใจมาเยอะมากจนไม่รู้จะปรึกษาใครผมก็พยายามบอกว่างั้นลองมาปรึกษาพี่ดูสิ
เขาก็เอามาปรึกษาผมตลอด แบบเวลาทะเลาะอะไรกันเขาก็จะมาเล่า ผมก็อาสาไปอธิบายคนที่เขามาทะเลาะกันเขาให้เข้าใจจนกลับมาคืนดีกันหลายรอบเหมือนกัน จนในที่สุดผมรู้สึกว่าชีวิตเขามันไม่น่าเศร้าไปหน่อยเหรอ ผมจึงคิดอยากจะดูแลเขาคอยให้คำปรึกษากับเขาเลยแปรเปลื่ยนมาเป็นความชอบ จนผมก็เริ่มจีบเขาก็หยอดหวานบ้างหรืออาจจะคุยหยอกเล่นตลกดูขำๆแต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้เขานะครับ (ผมยังไม่เคยเจอตัวจริงกับ วิดิโอคอลนะครับ)
แล้วมันก็เริ่มมีอะไรเปลื่ยนไปก็คือ
เขาเปลื่ยนรูปตัวเองเป็นเน็ตไอดอลแล้วบอกว่าถ่าย ตอนนั่น ตอนนี้นะซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ครับว่าเป็นเน็ตไอดอลแต่ผมก็แอบสงสัยว่ารูปแรกๆยังเป็นเด็กมัธยมต้นอยู่เลยทำไหมรูปใหม่เป็นเครื่องแบบมัธยมปลายแทนแต่ผมไม่ได้ไปสืบนะครับก็เลยปล่อยให้เขาใช้รูปเน็ตไอดอลแทน (ผมนัดเจอกับเขาแล้วแต่เขาบอกว่าคุณแม่ห่วงไม่ให้ออกจากบ้าน แต่ผมว่าน่าจะเป็นเพราะเขาไม่ไว้ใจผมแต่เขาบอกว่าจะมีเดือนนึงที่จัดงานที่เขาอยากไปให้เจอเขากันที่นั้น)
จนในที่สุดคุยกันมานานมากละผมว่าเอาละลองบอกขอเป็นแฟนเลยละกัน ซึ่งวันที่ผมบอกเขาอึ้งไปเลยแล้วเขาก็พยายามยื้อว่าพี่น้องได้ไหม ผมก็อธิบายกับเขาแล้วลองถามเขาว่าทำไหมถึงยื้อเหรอ เขาบอกว่ากลัวผมจะห่างแล้วทิ้งเขาเหมือนแฟนเก่าของเขา ผมก็อธิบายว่าอย่ากลัวที่จะห่างเลยพี่สัญญาเลย
จนในที่สุดเขาก็ยอมตกลงกับผม
แล้วหลังจากนั้นพอขอเป็นแฟนเขาก็เปลื่ยนรูปตัวเองเป็นรูปตัวการตูนแทนซึ่งผมยังไม่รู้ว่าทำไหม(ผมว่าเขาคงรู้สึกผิดที่ใช้ภาพเน็ตไอดอลมาเป็นโปรไฟล์)
จนมาถึงวันที่ผมรู้ความจริงว่ารูปที่เขาเคยใช้มันไม่ใช้ตัวจริงเขา
วันนั้นผมนั่งเครียดทั้งวันผมก็สองจิตสองใจ ใจนึงก็รักเขาใจนึงก็บอกว่าเขาจะโกหกเราทำไหมเพื่อนผมก็พยายามเตือนผมว่าใจเย็นอย่าพึงไปถามเขาเลย แต่ผมเป็นคนตรงมีอะไรที่เก็บไว้ไม่อยู่ก็จะถามไปตรงๆเลย ผมก็ลองโทรไปหาเขาดูว่าทำไหมถึงใช้ภาพเน็ตไอดอล ซึ่งมันเป็นวันเดียวกับที่เขาจะมาบอกเลิกผมเพราะกลัวว่าผมจะโกรธที่เขาโกหกเขา
ตอนนั้นพอเขาบอกเลิกกันได้ไหม ผมก็ถามเขากลับเขาก็อธิบายว่าเพราะเขาไปปรึกษาเพื่อนเขาว่าลองใช้เน็ตไอดอลดูก่อนเพราะถ้าใช้ตัวจริงอาจจะโดนตามตัวมาด่าถึงที่โรงเรียนได้ถ้าเขาเป็นพวกที่แอดมาด่า
ตอนนั้นผมก็เลยบอกเขาว่าไม่ใช้นะพี่ไม่ได้จะแอดมาด่านะเชื่อใจพี่สิ ผมก็พยายามปลอบเขาไปเรื่อยๆแล้วบอกว่าเราลองถ่ายรูปตอนนี้แล้วตั้งเป็นรูปโปรไฟล์สิจะได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขี้นเนอะ เขาก็บอกว่าไม่กล้าถ่ายผมก็พยายามตื้อให้เขาถ่ายให้ได้จน คืนนั้นเขาก็เงียบไปสักพักนึงแล้วผมได้ยินเสียงเหมือนร้องไห้แล้วเขาก็ว่างสายผมไปเลย ผมคงรู้แล้วละว่าเขาคงรู้สึกผิดมาก วันต่อมาผมจึงแชทปลอบเขาแล้วถามว่าโทรไปหาได้ไหม เขาก็ตอบกลับมาว่า ยังอยากคุยกันหนูอยู่เหรอหนูโกหกพี่ซะขนาดนี้คงจะเกลียดหนูแล้วละ
ผมก็พยายามง้อให้เขารับสายผมให้ได้ ทั้งโทรไปเรื่อยๆ ทั้งพิมพ์อ้อน แล้วพิมพ์บอกขอโทษ จนในที่สุดผมก็ใช้วิธีสุดท้ายคือพิมพ์เหมือนตอนที่จีบใหม่ๆ จนเขาใจอ่อนยอมรับสายผม ผมก็บอกไม่เป็นไรนะคืนนั้นก็ปลอบเขาทั้งคืนจนเขากลับมาดีขึ้นแล้วละ
จนถึงวันที่เขางอลผมครั้งใหญ่
ช่วงนั่นคือช่วงที่เขาไม่สะดวกคุยโทรศัพท์เพราะติดธุระผมก็เลยใช้แชทคุยกับเขาแทนจนใช้มาตลอด5-7วัน ผมก็เหนื่อยครับเพราะหลังจากขอเขาเป็นแฟนเวลาพิมพ์เขาจะพิมพ์กลับมาเย็นชาในระดับนึงผมก็รู้สึกท้อนิดนึงเพราะเวลาเขาคุยโทรศัพท์กับแชทนี้แตกต่างมากครับ เวลาคุยโทรศัพท์นี้คือคุยคลอดไม่มีหยุดเลย ผมก็บอกว่าถ้ามีไรก็ทักพี่มานะเดียวไปอ่านหนังสือแล้วนอนก่อน พอผมตื่นมาดูก็เห็นว่าเขาทักเมื่อชั่วโมงที่แล้วผมก็พยายามบอกขอโทษ เขาก็ตอบมาว่า กว่าจะตอบ ผมก็ง้อเขาแล้วเขาก็บอกไม่เป็นไรน่าซึ่งผมรู้ว่าเขาแอบงอลผมแน่ๆ
พอคุยๆกันก็เหมือนจะปรกติ ก็บอกฝันดีนะไปเข้านอนได้แล้วนะ
แต่พอผมตื่นไปเรียนแล้วกลับมาที่บ้านผมก็รอเขาออนแต่เขาไม่ออนสักที่ผมก็พยายามโทรไปหาเขาก็ไม่รับสาย
จนผมก็เรื่มลนลานไปปรึกษาเพื่อนเลยเพื่อนก็บอกคิดมากน่าเขาอาจจะโดนตัดค่าเน็ตค่าโทรศัพท์หรือไม่ว่างน่า ผมก็พยายามใจเย็น จนเลยมาได้2-3วันก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ผมก็ไปสืบเลยละกันว่าเขาหายไปไหนก็พยายามแอดเพื่อนเขาไปถาม
แต่เพื่อนเขาก็บอกไม่รู้จนในที่สุด ผมก็สืบเรื่อยๆจนไปเจอทวิสที่เขาตั้งไว้ในวันที่เขาขาดการติดต่อกับผมเขาตั้งว่า อย่าห่างจากเราไปเลยได้ไหมถ้าเธอห่างไปแล้วฉันจะอยู่อย่างไร,คุยกันแรกๆก็ดีอยู่นะแต่พอนานวันเข้าก็เริ่มเบื่อกัน#ห่างหาย,เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะเบือเราตอนไหน
พอผมเห็นข้อความพวกนี้แล้ว ผมก็คิดว่าไม่ได้ละเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ
ผมจึงคิดไว้ว่าผมจะไปง้อเขาถึงโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ซะเลย ให้เขาเห็นตัวจริงของเราซะให้เขาเชื่อใจเราว่าผมจริงใจแค่ไหน ผมเลยมาขอคำปรึกษากับทุกคนครับว่า เขายังมีใจให้ผมอยู่ไหมถ้าเขาหมดใจแล้วผมจะง้อเขายังไง ทำยังไงดีให้เขากลับมาคุยกับเราถึงจะเป็นแค่พี่น้อง ถ้าเขาหนีหน้าผมควรจะพยายามตื้อให้มันจบแบบสวยงามหรือตัดใจจากเขาซะ ขอบคุณทุกคนครับ