อนินเคยแอบได้ยินพ่อกับแม่เขาเถียงกัน
“ เธอจะเอายังไงอีก ฉันปล่อยให้เธอเป็นคุณนายเสวยความสุขอยู่ที่นี่แล้วยังไม่พอใจอีกหรือไง ”
“ คุณกมล คุณจะทำกับฉันอย่างไรฉันยอมรับมันได้ทั้งนั้น แต่กับนิน คุณให้ความเป็นธรรมกับเขาบ้างสิเขาเป็นลูกของคุณเหมือนกันนะคะ ”
“ ลูกหรือ ได้เธอว่ามันเป็นลูกฉันก็ไม่ว่า เธอต้องการความเป็นธรรมอะไรจากฉันให้กับมันก็ว่ามา ”
เสียงของยุพดีร้องไห้ อนินถอยหลังจะวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้นเขาชนเข้ากับกีรติพี่ชาย
“ นิน เจ็บหรือเปล่าหืมม์ ”
“ ไม่เจ็บครับ ”
อนินบอกแล้ววิ่งออกมาจากพี่ชาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่จึงต้องทะเลาะกันเรื่องของเขาด้วย และเมื่อเขาเรียนจบมัธยมหกพ่อก็เรียกเขามาพบที่ไร่แห่งนี้
“ จบมอหกแล้วใช่ไหม ”
“ ครับ ”
“ ฉันดูผลการเรียนของเธอแล้วก็ถือว่าใช้ได้เลย แล้วอยากเรียนต่ออะไรล่ะ ”
“ วิศวะครับ ”
“ จะเรียนวิศวะแล้วมีปัญญาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่าล่ะ ”
“ ผมสอบแล้วครับกำลังรอผมว่าจะติดไหม ”
“ อย่ารอผลเลยฉันจะส่งเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเลยตอนนี้ก็ให้ลุงที่เขาอยู่ทางโน้นหาที่เรียนให้เธอแล้ว ”
“ เรียนต่อเมืองนอกหรือครับ ”
อนินถามอย่างตื่นเต้น เขาไม่คิดว่าพ่อจะให้เขาไปเรียนต่อถึงเมืองนอก
“ ทำไมเธอไม่อยากไปหรือไง ”
“ อยากสิครับ ผมอยากไปเรียนต่อเมืองนอกมากเลย ”
“ ก็ได้ไปสมใจแล้วไง ทีนี้แม่เธอเขาจะได้มาว่าฉันว่าไม่สนใจเธออีกไม่ได้ ”
อนินดีใจมากที่ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกเขาเอาความลิงโลดดีใจมาบอกแม่
“ คุณแม่ครับ ผมมีข่าวดีที่สุดมาบอกคุณแม่ครับ ”
“ ข่าวดีอะไรลูก ดูหน้าสิบานเป็นดอกจานแล้ว ”
“ คุณพ่อจะให้ผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกครับ ”
คุณยุพดีอึ้งใบหน้าที่สะสวยของเธอซีดเผือดจนเห็นได้ชัด
“ คุณแม่ครับ ทำไมคุณแม่ทำหน้าตกใจอย่างนั้นล่ะครับ คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่า ”
“ เปล่าลูกแม่ไม่ได้เป็นอะไร แม่ดีใจด้วยนะที่นินได้เป็นเรียนเมืองนอก ”
อนินไม่รู้ว่ายุพดีกำลังคิดอะไร นายกมลต้องการให้ยุพดีต้องตรมตรอมจมทุกข์ที่ลูกของเธอต้องจากไปเรียนแดนไกล ในขณะที่ลูกชายคนโตกำลังมีปัญหาอย่างหนักกับคู่หมั้นของเขา กีรติกำลังเผชิญกับปัญหาที่แม้นมาศทรยศหักหลังเขาไปคบชายอื่น จนถึงขนาดเขาไปพบแม้นมาศนอนอยู่กับคู่รักใหม่ของเธอในขนำร้างกลางสวนตามลำพังสองต่อสอง กีรติเสียใจมากจนไม่สามารถทนอยู่บ้านหลังใหญ่กับแม่ได้เขาจึงขอไปอยู่กับพ่อที่ไร่ เมื่อกีรติก็ไม่อยู่นายกมลเลยหาเหตุส่งอนินไปเรียนต่อต่างประเทศซะ คุณยุพดีจึงต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามลำพังอย่างเดียวดาย และเท่านั้นยังไม่พอนายกมลยังยุให้กีรติถอดหมั้นกับแม้นมาศที่เป็นหลานสาวของคุณยุพดีซะ
“ กริมถึงขนาดกริมไปเจอมันนอนกกอยู่สองต่อสองแล้ว กริมยังจะทนยอมรับมันได้อีกหรือ ”
“ คุณพ่อ แล้วผมจะทำอย่างไร ”
“ ถอนหมั้นกับมันซะสิลูกเอ๋ย ผู้หญิงที่ใจกล้าหน้าด้านอย่างนั้นกริมแต่งงานกับมันด้วยไม่ได้หรอก มันสวมเขาให้เราตั้งแต่ยังไม่ทันได้แต่ง ”
แต่กีรติแค้นใจเกินกว่าที่จะให้ปล่อยแม้นมาศให้ไปมีความสุขกับคนรักใหม่ของเธอได้เขาจึงไม่ทำตามที่พ่อยุ คนที่ต้องการขอถอนที่สุดคือแม้นมาศเอง เธอโทรตามให้กีรติมาพบกับเธอเพื่อคุยตกลงกัน
“ โทรตามผมมามีธุระอะไรไม่ทราบ ”
“ กริมคะ คุณอย่าแสดงสีหน้าท่าทางอย่างนั้นสิคะ ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันได้ไม่ใช่หรือคะ ”
“ อ้อ นี่คุณเปลี่ยนสถานภาพของเราเหลือแค่ความเป็นเพื่อนหรือว่าแค่ญาติกันแล้วหรือ ”
กีรติถามน้ำเสียงอย่างขื่นขมอารมณ์เต็มที่
“ จะให้มาศทำอย่างไรละคะ มาศฝืนความรู้สึกและห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมามาศเข้าใจความรู้สึกของตัวเองผิดมาตลอด ”
“ เข้าใจความรู้ของตัวเองผิดหรือ มาศขอร้องให้ผมหมั้นกับมาศนั่นคือความรู้สึกที่เข้าใจผิดหรือ ”
“ กริมขา เพราะเราสนิทกันเกินไป เราเลยไม่รู้ว่าที่แท้ใจของเราเป็นอย่างไร มาศยอมรับนะคะว่ากริมเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่มาศเคยพบมา แต่พอมาศรู้จักกับตรินมาศถึงได้รู้ว่าที่แท้ความรักนั้นมันเป็นอย่างไร มันไม่ใช่แต่เราสนิทสนมกันคบกันมานานตั้งแต่เด็กแต่มันยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่หัวใจของเราปรารถณาอย่างแท้จริง ”
“ คุณรักเขาใช่ไหม ”
“ค่ะมาศรักตริน รักอย่างไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน ”
กีรติกำมือแน่นข่มความรู้สึกเจ็บจี๊ดอย่างสุดความสามารถ แม้นมาศยังพร่ำต่อ
“ กริมคะ ปล่อยมาศไปเถอะนะคะ เราอย่าทนฝืนหมั้นกันต่อไปอีกเลย มันจะทรมานด้วยกันทุกฝ่าย มาศอยากมีอิสระไปคบกับคนที่มาศรักเขา กริมเองก็จะได้มีโอกาสพบกับคนที่กริมจะรักเขาได้อย่างที่มาศพบ ”
“ พบใครล่ะ ผมจะไปพบใครได้ เมื่อหัวใจมันถูกสับถูกฟันจนยับเยินแบบนี้แล้ว ให้เขามาขอกับผมเองสิมาศ มาขอคู่หมั้นผมจากผมถ้าเขากล้ามาขอด้วยตัวของเขาเองผมก็จะยอมถอนหมั้นให้กับคุณ ”
“ กริม ทำไมคุณต้องมีข้อแม้เหนี่ยวรั้งมาศไว้ด้วย เราตกลงด้วยตัวของเราเองก็ได้ ”
“ ไม่ได้ ถ้าคนที่มาศรักและเทิดทูลเขานักหนาไม่กล้ามาขอมาศไปจากผม ผมก็ไม่มีวันถอนหมั้นเด็ดขาด ”
“ กริม เขาไม่มาพบกริมหรอกเพราะเขารู้ว่าถ้าเขามากริมต้องทำร้ายเขาแน่ ”
“

น่ะสิ ”
“ กริม อย่าก้าวร้าวว่าเขานะคะ เขาไม่ได้เป็นอย่างที่กริมพูดหรอก ”
“ ทำไมต้องออกรับแทนเขาด้วยนี่มาศหลงเขาถึงขนาดออกมารับแทนกันเชียวหรือ มาศมีศักดิ์ศรีของตัวเองบ้างสิ ไม่ใช่ยอมนอนกับเขายอมปกป้องเขาทุกอย่างมาศกำลังหน้ามืดตาบอดนะ ”
“ กริม กล้าดียังไงมาว่ามาศว่าคนรักของมาศ ”
“ อ๋อ นี่ขนาดนี้เลยหรือ อย่างนั้นก็ฝันไปเถอะว่าผมจะยอมถอนหมั้นให้ ถ้าเขาไม่มากราบเท้าขอคุณไปจากผมก็อย่าฝันว่าผมจะยอม ”
กีรติชี้หน้าแม้นมาศอย่างสุดแสนจะเจ็บปวด แม้นมาศก็โมโหระงับอารมณ์ไม่อยู่กระโดดเข้าทำร้ายกีรติ
“ แล้วเธอจะรั้งฉันไว้ทำไม ฉันไม่รักเธอเลยนะ ไม่รักได้ยินไหมว่าไมได้รัก ”
“ หยุดนะมาศ หยุดแสดงกริยาอยากถอนหมั้นจนเหมือนคนบ้าแบบนี้ ”
“ คุณสิบ้า จะมาคิดเหนี่ยวรั้งฉัน บ้าแค่ไหน ในเมื่อรู้ว่าเขาไม่รักไม่ต้องการแล้วก็เลิกกันเสียสิ เลิก ”
แม้นมาศทุบทำร้ายกีรติชายหนุ่มปัดป้องและพลักแม้นมาศสุดแรงจนหญิงสาวกระเด็นกลิ้งหลุนๆตกบันไดลงไปกองกับพื้นข้างล่างสลบเหมือด
“ แม้นมาศ ”
กีรติร้องอย่างตกตลึง เขาวิ่งมาอุ้มร่างที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลทะลักออกปากออกจมูกอย่างน่ากลัวและมันก็เป็นความโชคร้ายของแม้นมาศที่อุบัติเหตุในครั้งนี้แม้นมาศถึงกับตาบอดมองไม่เห็นทั้งสองข้างเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้นมาศร่ำร้องหาตรินอยู่ตลอดเวลา เธอไม่รู้ว่ากีรติไปตามตรินมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจแม้นมาศแต่ตรินยอมมาแค่หน้าห้องรักษาตัวของแม้นมาศเท่านั้น เขาไม่ยอมเข้าไปหาดเธอเพราะทำใจยอมรับว่าแม้นมาศต้องเป็นคนพิการตาบอดไปตลอดชีวิตไม่ได้
“ คุณจะไปไหนตริน ทำไมไม่เข้าไปพบเธอ เธอรอคุณอยู่นะ ”
“ ไม่ ผมว่าไม่พบเธอซะเลยมันจะดีกว่า ”
“ ทำไม คุณรังเกียจผู้หญิงที่คุณรักที่สุดอย่างนั้นหรือ เพียงแค่ตาบอดคุณก็ยอมรับเธอไม่ได้อย่างนั้นหรือ ”
กีรติจ้องหน้าผู้ชายที่แม้นมาศรักสุดหัวใจผู้ชายที่มาทำลายความรักความหวังของเขา
“ คุณไม่เข้าใจนะคุณกีรติ ผม เสียใจจริงๆที่เข้ามา แล้วทำให้คุณกับมาศต้องมีปัญหากัน ถ้าผมเข้าไปหาเธอเธอก็ต้องคิดต้องหวังกับผม มันจะทำให้คุณมาศเข้าใจลำบากขึ้น ”
“ คุณเข้าใจพูดนะ แต่มาพูดแบบนี้ตอนนี้มันไม่สายไปหน่อยเหรอ คุณดึงมาศไปจากผมแล้ว แล้วคุณคิดจะผลักเธอทิ้งเพราะเธอหมดคุณค่าแล้วน่ะหรือ คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ”
กีรติระงับอารมณ์ตัวเองที่ระเบิดเสียงใส่ตริน แม้นมาศที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ผวาลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของตรินแว่วๆ
“ ตริน ตรินขา ตริน ”
กีรติหันมองแม้นมาศที่ลุกขึ้นนั่งเอามือควานหาคนรักของเธอเปะปะ ตรินมองแล้วหันหลังเดินหนีไปจากที่นั้นอย่างรวดเร็ว กีรติจะเรียกแต่เขาพูดไม่ออกมันจุกอยู่แค่คอทีได้รับรู้น้ำใจอันแท้จริงของตริน
“ มาศ ”
“ ตรินล่ะ ตรินอยู่ไหน ตริน ”
“ ผมไล่เขากลับไปแล้ว และห้ามไม่ให้เขามาที่นี่อีกห้ามไม่ให้เขามาพบกับคุณอีก ”
“ กรี๊ดๆๆๆ ทำไม ทำไมต้องห้ามเขา แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามเขาไม่ให้มาพบฉัน ไอ้คนใจร้าย ฉันเกลียดแก ไปตามเขามาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ ตริน ตรินขา มาหามาศมารับมาศด้วย มาศจะอยู่กับคุณ ”
“ หยุดได้แล้วนะแม้นมาศ คุณไม่มีสิทธิ์จะคิดไปไหนทั้งนั้น และไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาหาคุณด้วยถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ”
กีรติพาแม้นมาศมาอยู่ที่ไร่ นายกมลเกลียดแม้นมาศมากแต่เขาก็พอใจที่คิดว่ากีรติพาแม้นมาศมากักขังทรมานที่นี่คุณยุพดีเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากแต่ไม่สามารถช่วยแม้นมาศได้ เธอพยายามพูดกับเกีรติให้ส่งแม้นมาศไปอยู่กับยายที่ราชบุรียังจะดีกว่าที่เอาตัวเธอมากักขังไว้อย่างนี้ แต่กีรติคิดว่าเขามีส่วนต้องทำให้แม้นมาศต้องกลายเป็นคนพิการจึงต้องการที่จะดูแลเธอเพื่อชดใช้ให้กับแม้นมาศ ก่อนอนินจะเรียนจบและเดินทางกลับมาประเทศไทยครึ่งปีนายกมลก็ป่วยและชีวิตลง เขาทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่กีรติแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่ให้อะไรกับอนินเลย คุณยุพดีเสียหนักที่นายกมลทำเช่นนี้แม้จนวาระสุดท้ายนายกมลก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าอนินเป็นลูกของชู้ไม่ใช่ลูกของท่าน ความผิดพลาดครั้งเดียวที่คุณยุพดีทำมันทำให้อนินต้องกลายเป็นลูกที่พ่อไม่ยอมรับ นายกมลปฏิเสธว่าอนินไม่ใช่ลูกของเขาเมื่อคุณยุพดีตั้งท้อง แต่เขาหารู้ไม่ว่าคุณยุพดีตั้งครรภ์ก่อนที่จะพลาดท่าเสียตัวให้กับเพื่อนของนายกมลในคืนวันหนึ่ง คืนนั้นนายกมลได้รับตำแหน่งใหม่จึงมีการเลี้ยงฉลองกันที่บ้านโดยมีพวกเพื่อนๆมาร่วมกินเลี้ยงกันหลายสิบคน จนเวลาผ่านไปเกือบๆตีหนึ่งเพื่อนๆเริ่มทะยอยกันกลับคุณยุพดีจึงขอตัวขึ้นข้างบนเพราเห็นว่าแขกของสามีกลับกันจนเกือบหมดแล้ว แต่เมื่อเธอไปถึงห้องก็พบกับอักษรเพื่อนคนหนึ่งของกมลยืนสูบบุหรี่อยู่ที่เฉลียงบ้าน
“ อ้าวคุณอักษร ฉันคิดว่าคุณกลับไปแล้วซะอีก ”
“ คืนนี้ผมอยากค้างที่นี่คุณคงไม่ว่านะครับ ”
“ จะค้างที่นี่หรือคะ ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปจัดห้องให้นะคะ ”
ยุพดีบอกแล้วเดินไปที่ห้องเพื่อจะจัดห้องให้กับเพื่อนสามีแต่อักษรตามเข้ามาแล้วกอดปลุกปล้ำเธออย่างกระหาย ยุพดีดิ้นรนสุดแรงอักษรจึงชกเธอที่ลิ้นปี่จนหญิงสาวตัวงอหมดทางสู้ อักษรอุ้มเธอมาที่เตียงแล้วลงมือข่มขืนเธออย่างไร้สำนึกว่านี่คือเมียของเพื่อน นายกมลขึ้นมาบนห้องแล้วไม่เห็นภรรยาจึงเดินตามหาและเข้ามาพบกับภาพที่อักษรกำลังร่วมรักกับยุพดีเต็มตา เขายืนตะลึงตัวชาและก่อนที่เขาจะต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน เขารีบหันหลังวิ่งออกไปจากที่นั้นโดยมีสายตาของยุพดีที่หันมองสามีแต่พูดอะไรไม่ออกแล้ว อักษรตักตวงความสุขบนร่างของยุพดีจนสมความปรารถนาแล้วผละเธอออกไปโดยทิ้งความเจ็บปวดใหญ่หลวงเอาไว้ให้เธอต้องเผชิญชะตากรรมอย่างแสนสาหัสในเวลาต่อมา
อนินมองพี่ชายแววตาแม้จะฉายแววหม่นหมองแต่มันก็แค่วูบเดียวเท่านั้น
“ นิน บางทีผู้หญิงก็ใช่ว่าจะทำอะไรถูกหมดเสมอไป คุณพ่อคงอยากให้พี่เป็นตัวแทนทำอะไรทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาดให้มันถูกต้องเป็นธรรม ”
“ ไม่ใช่หรอก เป็นพี่ต่างหากที่มีน้ำใจกับผมเอง ”
“ นิน นับแต่นี้เป็นต้นไปพี่จะเริ่มทุกอย่างให้ใหม่หมด มองโลกอีกด้านที่พี่ไม่ยอมมองมาตลอด ทุกอย่างพี่จะมองไปตามความถูกต้องและพึงพอใจของตัวเราเองที่สุด ”
“ ครับ ผมก็อยากจะให้พี่เป็นแบบนั้นมานานแล้ว ”
“ เราจะจบความผิดพลาดต่างๆกันในวันนี้ แล้วก้าวเดินให้มั่นคงและสง่าผ่าเผยในวันต่อไปนะ ”
“ ครับ พี่กริม ”
สองพี่น้องจับมือกันมั่นและพร้อมที่จะประสานใจทั้งสองดวงให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าอย่างมั่นคงและอบอุ่น
กีรติเรียกให้ทนายมาแก้ไขและแบ่งทรัพย์สินของบิดาที่เคยทำมอลบให้เขาเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวเสียใหม่ โดยหมอแบ่งไร่กีรติครึ่งหนึ่งให้กับอนิน ทรัพย์สินอื่นๆที่เขาเคยได้อยู่คนเดียวก็แบ่งครึ่งหมด อนินซึ้งน้ำใจของพี่ชายที่ไม่เคยคิดเอาเปรียบเขาเลยเมื่อเรื่องทรัพย์สินถูกแบ่งกันอย่างเป็นธรรมแล้วกีรติก็สบายใจ
รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 17
“ เธอจะเอายังไงอีก ฉันปล่อยให้เธอเป็นคุณนายเสวยความสุขอยู่ที่นี่แล้วยังไม่พอใจอีกหรือไง ”
“ คุณกมล คุณจะทำกับฉันอย่างไรฉันยอมรับมันได้ทั้งนั้น แต่กับนิน คุณให้ความเป็นธรรมกับเขาบ้างสิเขาเป็นลูกของคุณเหมือนกันนะคะ ”
“ ลูกหรือ ได้เธอว่ามันเป็นลูกฉันก็ไม่ว่า เธอต้องการความเป็นธรรมอะไรจากฉันให้กับมันก็ว่ามา ”
เสียงของยุพดีร้องไห้ อนินถอยหลังจะวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้นเขาชนเข้ากับกีรติพี่ชาย
“ นิน เจ็บหรือเปล่าหืมม์ ”
“ ไม่เจ็บครับ ”
อนินบอกแล้ววิ่งออกมาจากพี่ชาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่จึงต้องทะเลาะกันเรื่องของเขาด้วย และเมื่อเขาเรียนจบมัธยมหกพ่อก็เรียกเขามาพบที่ไร่แห่งนี้
“ จบมอหกแล้วใช่ไหม ”
“ ครับ ”
“ ฉันดูผลการเรียนของเธอแล้วก็ถือว่าใช้ได้เลย แล้วอยากเรียนต่ออะไรล่ะ ”
“ วิศวะครับ ”
“ จะเรียนวิศวะแล้วมีปัญญาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่าล่ะ ”
“ ผมสอบแล้วครับกำลังรอผมว่าจะติดไหม ”
“ อย่ารอผลเลยฉันจะส่งเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเลยตอนนี้ก็ให้ลุงที่เขาอยู่ทางโน้นหาที่เรียนให้เธอแล้ว ”
“ เรียนต่อเมืองนอกหรือครับ ”
อนินถามอย่างตื่นเต้น เขาไม่คิดว่าพ่อจะให้เขาไปเรียนต่อถึงเมืองนอก
“ ทำไมเธอไม่อยากไปหรือไง ”
“ อยากสิครับ ผมอยากไปเรียนต่อเมืองนอกมากเลย ”
“ ก็ได้ไปสมใจแล้วไง ทีนี้แม่เธอเขาจะได้มาว่าฉันว่าไม่สนใจเธออีกไม่ได้ ”
อนินดีใจมากที่ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกเขาเอาความลิงโลดดีใจมาบอกแม่
“ คุณแม่ครับ ผมมีข่าวดีที่สุดมาบอกคุณแม่ครับ ”
“ ข่าวดีอะไรลูก ดูหน้าสิบานเป็นดอกจานแล้ว ”
“ คุณพ่อจะให้ผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกครับ ”
คุณยุพดีอึ้งใบหน้าที่สะสวยของเธอซีดเผือดจนเห็นได้ชัด
“ คุณแม่ครับ ทำไมคุณแม่ทำหน้าตกใจอย่างนั้นล่ะครับ คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่า ”
“ เปล่าลูกแม่ไม่ได้เป็นอะไร แม่ดีใจด้วยนะที่นินได้เป็นเรียนเมืองนอก ”
อนินไม่รู้ว่ายุพดีกำลังคิดอะไร นายกมลต้องการให้ยุพดีต้องตรมตรอมจมทุกข์ที่ลูกของเธอต้องจากไปเรียนแดนไกล ในขณะที่ลูกชายคนโตกำลังมีปัญหาอย่างหนักกับคู่หมั้นของเขา กีรติกำลังเผชิญกับปัญหาที่แม้นมาศทรยศหักหลังเขาไปคบชายอื่น จนถึงขนาดเขาไปพบแม้นมาศนอนอยู่กับคู่รักใหม่ของเธอในขนำร้างกลางสวนตามลำพังสองต่อสอง กีรติเสียใจมากจนไม่สามารถทนอยู่บ้านหลังใหญ่กับแม่ได้เขาจึงขอไปอยู่กับพ่อที่ไร่ เมื่อกีรติก็ไม่อยู่นายกมลเลยหาเหตุส่งอนินไปเรียนต่อต่างประเทศซะ คุณยุพดีจึงต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามลำพังอย่างเดียวดาย และเท่านั้นยังไม่พอนายกมลยังยุให้กีรติถอดหมั้นกับแม้นมาศที่เป็นหลานสาวของคุณยุพดีซะ
“ กริมถึงขนาดกริมไปเจอมันนอนกกอยู่สองต่อสองแล้ว กริมยังจะทนยอมรับมันได้อีกหรือ ”
“ คุณพ่อ แล้วผมจะทำอย่างไร ”
“ ถอนหมั้นกับมันซะสิลูกเอ๋ย ผู้หญิงที่ใจกล้าหน้าด้านอย่างนั้นกริมแต่งงานกับมันด้วยไม่ได้หรอก มันสวมเขาให้เราตั้งแต่ยังไม่ทันได้แต่ง ”
แต่กีรติแค้นใจเกินกว่าที่จะให้ปล่อยแม้นมาศให้ไปมีความสุขกับคนรักใหม่ของเธอได้เขาจึงไม่ทำตามที่พ่อยุ คนที่ต้องการขอถอนที่สุดคือแม้นมาศเอง เธอโทรตามให้กีรติมาพบกับเธอเพื่อคุยตกลงกัน
“ โทรตามผมมามีธุระอะไรไม่ทราบ ”
“ กริมคะ คุณอย่าแสดงสีหน้าท่าทางอย่างนั้นสิคะ ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันได้ไม่ใช่หรือคะ ”
“ อ้อ นี่คุณเปลี่ยนสถานภาพของเราเหลือแค่ความเป็นเพื่อนหรือว่าแค่ญาติกันแล้วหรือ ”
กีรติถามน้ำเสียงอย่างขื่นขมอารมณ์เต็มที่
“ จะให้มาศทำอย่างไรละคะ มาศฝืนความรู้สึกและห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมามาศเข้าใจความรู้สึกของตัวเองผิดมาตลอด ”
“ เข้าใจความรู้ของตัวเองผิดหรือ มาศขอร้องให้ผมหมั้นกับมาศนั่นคือความรู้สึกที่เข้าใจผิดหรือ ”
“ กริมขา เพราะเราสนิทกันเกินไป เราเลยไม่รู้ว่าที่แท้ใจของเราเป็นอย่างไร มาศยอมรับนะคะว่ากริมเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่มาศเคยพบมา แต่พอมาศรู้จักกับตรินมาศถึงได้รู้ว่าที่แท้ความรักนั้นมันเป็นอย่างไร มันไม่ใช่แต่เราสนิทสนมกันคบกันมานานตั้งแต่เด็กแต่มันยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่หัวใจของเราปรารถณาอย่างแท้จริง ”
“ คุณรักเขาใช่ไหม ”
“ค่ะมาศรักตริน รักอย่างไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน ”
กีรติกำมือแน่นข่มความรู้สึกเจ็บจี๊ดอย่างสุดความสามารถ แม้นมาศยังพร่ำต่อ
“ กริมคะ ปล่อยมาศไปเถอะนะคะ เราอย่าทนฝืนหมั้นกันต่อไปอีกเลย มันจะทรมานด้วยกันทุกฝ่าย มาศอยากมีอิสระไปคบกับคนที่มาศรักเขา กริมเองก็จะได้มีโอกาสพบกับคนที่กริมจะรักเขาได้อย่างที่มาศพบ ”
“ พบใครล่ะ ผมจะไปพบใครได้ เมื่อหัวใจมันถูกสับถูกฟันจนยับเยินแบบนี้แล้ว ให้เขามาขอกับผมเองสิมาศ มาขอคู่หมั้นผมจากผมถ้าเขากล้ามาขอด้วยตัวของเขาเองผมก็จะยอมถอนหมั้นให้กับคุณ ”
“ กริม ทำไมคุณต้องมีข้อแม้เหนี่ยวรั้งมาศไว้ด้วย เราตกลงด้วยตัวของเราเองก็ได้ ”
“ ไม่ได้ ถ้าคนที่มาศรักและเทิดทูลเขานักหนาไม่กล้ามาขอมาศไปจากผม ผมก็ไม่มีวันถอนหมั้นเด็ดขาด ”
“ กริม เขาไม่มาพบกริมหรอกเพราะเขารู้ว่าถ้าเขามากริมต้องทำร้ายเขาแน่ ”
“
“ กริม อย่าก้าวร้าวว่าเขานะคะ เขาไม่ได้เป็นอย่างที่กริมพูดหรอก ”
“ ทำไมต้องออกรับแทนเขาด้วยนี่มาศหลงเขาถึงขนาดออกมารับแทนกันเชียวหรือ มาศมีศักดิ์ศรีของตัวเองบ้างสิ ไม่ใช่ยอมนอนกับเขายอมปกป้องเขาทุกอย่างมาศกำลังหน้ามืดตาบอดนะ ”
“ กริม กล้าดียังไงมาว่ามาศว่าคนรักของมาศ ”
“ อ๋อ นี่ขนาดนี้เลยหรือ อย่างนั้นก็ฝันไปเถอะว่าผมจะยอมถอนหมั้นให้ ถ้าเขาไม่มากราบเท้าขอคุณไปจากผมก็อย่าฝันว่าผมจะยอม ”
กีรติชี้หน้าแม้นมาศอย่างสุดแสนจะเจ็บปวด แม้นมาศก็โมโหระงับอารมณ์ไม่อยู่กระโดดเข้าทำร้ายกีรติ
“ แล้วเธอจะรั้งฉันไว้ทำไม ฉันไม่รักเธอเลยนะ ไม่รักได้ยินไหมว่าไมได้รัก ”
“ หยุดนะมาศ หยุดแสดงกริยาอยากถอนหมั้นจนเหมือนคนบ้าแบบนี้ ”
“ คุณสิบ้า จะมาคิดเหนี่ยวรั้งฉัน บ้าแค่ไหน ในเมื่อรู้ว่าเขาไม่รักไม่ต้องการแล้วก็เลิกกันเสียสิ เลิก ”
แม้นมาศทุบทำร้ายกีรติชายหนุ่มปัดป้องและพลักแม้นมาศสุดแรงจนหญิงสาวกระเด็นกลิ้งหลุนๆตกบันไดลงไปกองกับพื้นข้างล่างสลบเหมือด
“ แม้นมาศ ”
กีรติร้องอย่างตกตลึง เขาวิ่งมาอุ้มร่างที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลทะลักออกปากออกจมูกอย่างน่ากลัวและมันก็เป็นความโชคร้ายของแม้นมาศที่อุบัติเหตุในครั้งนี้แม้นมาศถึงกับตาบอดมองไม่เห็นทั้งสองข้างเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แม้นมาศร่ำร้องหาตรินอยู่ตลอดเวลา เธอไม่รู้ว่ากีรติไปตามตรินมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจแม้นมาศแต่ตรินยอมมาแค่หน้าห้องรักษาตัวของแม้นมาศเท่านั้น เขาไม่ยอมเข้าไปหาดเธอเพราะทำใจยอมรับว่าแม้นมาศต้องเป็นคนพิการตาบอดไปตลอดชีวิตไม่ได้
“ คุณจะไปไหนตริน ทำไมไม่เข้าไปพบเธอ เธอรอคุณอยู่นะ ”
“ ไม่ ผมว่าไม่พบเธอซะเลยมันจะดีกว่า ”
“ ทำไม คุณรังเกียจผู้หญิงที่คุณรักที่สุดอย่างนั้นหรือ เพียงแค่ตาบอดคุณก็ยอมรับเธอไม่ได้อย่างนั้นหรือ ”
กีรติจ้องหน้าผู้ชายที่แม้นมาศรักสุดหัวใจผู้ชายที่มาทำลายความรักความหวังของเขา
“ คุณไม่เข้าใจนะคุณกีรติ ผม เสียใจจริงๆที่เข้ามา แล้วทำให้คุณกับมาศต้องมีปัญหากัน ถ้าผมเข้าไปหาเธอเธอก็ต้องคิดต้องหวังกับผม มันจะทำให้คุณมาศเข้าใจลำบากขึ้น ”
“ คุณเข้าใจพูดนะ แต่มาพูดแบบนี้ตอนนี้มันไม่สายไปหน่อยเหรอ คุณดึงมาศไปจากผมแล้ว แล้วคุณคิดจะผลักเธอทิ้งเพราะเธอหมดคุณค่าแล้วน่ะหรือ คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ”
กีรติระงับอารมณ์ตัวเองที่ระเบิดเสียงใส่ตริน แม้นมาศที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ผวาลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของตรินแว่วๆ
“ ตริน ตรินขา ตริน ”
กีรติหันมองแม้นมาศที่ลุกขึ้นนั่งเอามือควานหาคนรักของเธอเปะปะ ตรินมองแล้วหันหลังเดินหนีไปจากที่นั้นอย่างรวดเร็ว กีรติจะเรียกแต่เขาพูดไม่ออกมันจุกอยู่แค่คอทีได้รับรู้น้ำใจอันแท้จริงของตริน
“ มาศ ”
“ ตรินล่ะ ตรินอยู่ไหน ตริน ”
“ ผมไล่เขากลับไปแล้ว และห้ามไม่ให้เขามาที่นี่อีกห้ามไม่ให้เขามาพบกับคุณอีก ”
“ กรี๊ดๆๆๆ ทำไม ทำไมต้องห้ามเขา แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามเขาไม่ให้มาพบฉัน ไอ้คนใจร้าย ฉันเกลียดแก ไปตามเขามาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ ตริน ตรินขา มาหามาศมารับมาศด้วย มาศจะอยู่กับคุณ ”
“ หยุดได้แล้วนะแม้นมาศ คุณไม่มีสิทธิ์จะคิดไปไหนทั้งนั้น และไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาหาคุณด้วยถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ”
กีรติพาแม้นมาศมาอยู่ที่ไร่ นายกมลเกลียดแม้นมาศมากแต่เขาก็พอใจที่คิดว่ากีรติพาแม้นมาศมากักขังทรมานที่นี่คุณยุพดีเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากแต่ไม่สามารถช่วยแม้นมาศได้ เธอพยายามพูดกับเกีรติให้ส่งแม้นมาศไปอยู่กับยายที่ราชบุรียังจะดีกว่าที่เอาตัวเธอมากักขังไว้อย่างนี้ แต่กีรติคิดว่าเขามีส่วนต้องทำให้แม้นมาศต้องกลายเป็นคนพิการจึงต้องการที่จะดูแลเธอเพื่อชดใช้ให้กับแม้นมาศ ก่อนอนินจะเรียนจบและเดินทางกลับมาประเทศไทยครึ่งปีนายกมลก็ป่วยและชีวิตลง เขาทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่กีรติแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่ให้อะไรกับอนินเลย คุณยุพดีเสียหนักที่นายกมลทำเช่นนี้แม้จนวาระสุดท้ายนายกมลก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าอนินเป็นลูกของชู้ไม่ใช่ลูกของท่าน ความผิดพลาดครั้งเดียวที่คุณยุพดีทำมันทำให้อนินต้องกลายเป็นลูกที่พ่อไม่ยอมรับ นายกมลปฏิเสธว่าอนินไม่ใช่ลูกของเขาเมื่อคุณยุพดีตั้งท้อง แต่เขาหารู้ไม่ว่าคุณยุพดีตั้งครรภ์ก่อนที่จะพลาดท่าเสียตัวให้กับเพื่อนของนายกมลในคืนวันหนึ่ง คืนนั้นนายกมลได้รับตำแหน่งใหม่จึงมีการเลี้ยงฉลองกันที่บ้านโดยมีพวกเพื่อนๆมาร่วมกินเลี้ยงกันหลายสิบคน จนเวลาผ่านไปเกือบๆตีหนึ่งเพื่อนๆเริ่มทะยอยกันกลับคุณยุพดีจึงขอตัวขึ้นข้างบนเพราเห็นว่าแขกของสามีกลับกันจนเกือบหมดแล้ว แต่เมื่อเธอไปถึงห้องก็พบกับอักษรเพื่อนคนหนึ่งของกมลยืนสูบบุหรี่อยู่ที่เฉลียงบ้าน
“ อ้าวคุณอักษร ฉันคิดว่าคุณกลับไปแล้วซะอีก ”
“ คืนนี้ผมอยากค้างที่นี่คุณคงไม่ว่านะครับ ”
“ จะค้างที่นี่หรือคะ ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปจัดห้องให้นะคะ ”
ยุพดีบอกแล้วเดินไปที่ห้องเพื่อจะจัดห้องให้กับเพื่อนสามีแต่อักษรตามเข้ามาแล้วกอดปลุกปล้ำเธออย่างกระหาย ยุพดีดิ้นรนสุดแรงอักษรจึงชกเธอที่ลิ้นปี่จนหญิงสาวตัวงอหมดทางสู้ อักษรอุ้มเธอมาที่เตียงแล้วลงมือข่มขืนเธออย่างไร้สำนึกว่านี่คือเมียของเพื่อน นายกมลขึ้นมาบนห้องแล้วไม่เห็นภรรยาจึงเดินตามหาและเข้ามาพบกับภาพที่อักษรกำลังร่วมรักกับยุพดีเต็มตา เขายืนตะลึงตัวชาและก่อนที่เขาจะต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน เขารีบหันหลังวิ่งออกไปจากที่นั้นโดยมีสายตาของยุพดีที่หันมองสามีแต่พูดอะไรไม่ออกแล้ว อักษรตักตวงความสุขบนร่างของยุพดีจนสมความปรารถนาแล้วผละเธอออกไปโดยทิ้งความเจ็บปวดใหญ่หลวงเอาไว้ให้เธอต้องเผชิญชะตากรรมอย่างแสนสาหัสในเวลาต่อมา
อนินมองพี่ชายแววตาแม้จะฉายแววหม่นหมองแต่มันก็แค่วูบเดียวเท่านั้น
“ นิน บางทีผู้หญิงก็ใช่ว่าจะทำอะไรถูกหมดเสมอไป คุณพ่อคงอยากให้พี่เป็นตัวแทนทำอะไรทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาดให้มันถูกต้องเป็นธรรม ”
“ ไม่ใช่หรอก เป็นพี่ต่างหากที่มีน้ำใจกับผมเอง ”
“ นิน นับแต่นี้เป็นต้นไปพี่จะเริ่มทุกอย่างให้ใหม่หมด มองโลกอีกด้านที่พี่ไม่ยอมมองมาตลอด ทุกอย่างพี่จะมองไปตามความถูกต้องและพึงพอใจของตัวเราเองที่สุด ”
“ ครับ ผมก็อยากจะให้พี่เป็นแบบนั้นมานานแล้ว ”
“ เราจะจบความผิดพลาดต่างๆกันในวันนี้ แล้วก้าวเดินให้มั่นคงและสง่าผ่าเผยในวันต่อไปนะ ”
“ ครับ พี่กริม ”
สองพี่น้องจับมือกันมั่นและพร้อมที่จะประสานใจทั้งสองดวงให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าอย่างมั่นคงและอบอุ่น
กีรติเรียกให้ทนายมาแก้ไขและแบ่งทรัพย์สินของบิดาที่เคยทำมอลบให้เขาเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวเสียใหม่ โดยหมอแบ่งไร่กีรติครึ่งหนึ่งให้กับอนิน ทรัพย์สินอื่นๆที่เขาเคยได้อยู่คนเดียวก็แบ่งครึ่งหมด อนินซึ้งน้ำใจของพี่ชายที่ไม่เคยคิดเอาเปรียบเขาเลยเมื่อเรื่องทรัพย์สินถูกแบ่งกันอย่างเป็นธรรมแล้วกีรติก็สบายใจ