รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 17

กระทู้สนทนา
อนินเคยแอบได้ยินพ่อกับแม่เขาเถียงกัน

“ เธอจะเอายังไงอีก  ฉันปล่อยให้เธอเป็นคุณนายเสวยความสุขอยู่ที่นี่แล้วยังไม่พอใจอีกหรือไง ”
“ คุณกมล  คุณจะทำกับฉันอย่างไรฉันยอมรับมันได้ทั้งนั้น  แต่กับนิน  คุณให้ความเป็นธรรมกับเขาบ้างสิเขาเป็นลูกของคุณเหมือนกันนะคะ ”
“ ลูกหรือ  ได้เธอว่ามันเป็นลูกฉันก็ไม่ว่า  เธอต้องการความเป็นธรรมอะไรจากฉันให้กับมันก็ว่ามา ”

เสียงของยุพดีร้องไห้  อนินถอยหลังจะวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้นเขาชนเข้ากับกีรติพี่ชาย

“ นิน  เจ็บหรือเปล่าหืมม์ ”
“ ไม่เจ็บครับ ”

อนินบอกแล้ววิ่งออกมาจากพี่ชาย  เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่จึงต้องทะเลาะกันเรื่องของเขาด้วย  และเมื่อเขาเรียนจบมัธยมหกพ่อก็เรียกเขามาพบที่ไร่แห่งนี้

“ จบมอหกแล้วใช่ไหม ”
“ ครับ  ”
“ ฉันดูผลการเรียนของเธอแล้วก็ถือว่าใช้ได้เลย  แล้วอยากเรียนต่ออะไรล่ะ ”
“ วิศวะครับ  ”
“ จะเรียนวิศวะแล้วมีปัญญาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่าล่ะ ”
“ ผมสอบแล้วครับกำลังรอผมว่าจะติดไหม ”
“ อย่ารอผลเลยฉันจะส่งเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเลยตอนนี้ก็ให้ลุงที่เขาอยู่ทางโน้นหาที่เรียนให้เธอแล้ว ”
“ เรียนต่อเมืองนอกหรือครับ ”

อนินถามอย่างตื่นเต้น  เขาไม่คิดว่าพ่อจะให้เขาไปเรียนต่อถึงเมืองนอก

“ ทำไมเธอไม่อยากไปหรือไง ”
“ อยากสิครับ  ผมอยากไปเรียนต่อเมืองนอกมากเลย ”
“ ก็ได้ไปสมใจแล้วไง  ทีนี้แม่เธอเขาจะได้มาว่าฉันว่าไม่สนใจเธออีกไม่ได้ ”

อนินดีใจมากที่ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกเขาเอาความลิงโลดดีใจมาบอกแม่

“ คุณแม่ครับ  ผมมีข่าวดีที่สุดมาบอกคุณแม่ครับ ”
“ ข่าวดีอะไรลูก  ดูหน้าสิบานเป็นดอกจานแล้ว ”
“ คุณพ่อจะให้ผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกครับ ”

คุณยุพดีอึ้งใบหน้าที่สะสวยของเธอซีดเผือดจนเห็นได้ชัด

“ คุณแม่ครับ  ทำไมคุณแม่ทำหน้าตกใจอย่างนั้นล่ะครับ  คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่า ”
“ เปล่าลูกแม่ไม่ได้เป็นอะไร  แม่ดีใจด้วยนะที่นินได้เป็นเรียนเมืองนอก ”

อนินไม่รู้ว่ายุพดีกำลังคิดอะไร  นายกมลต้องการให้ยุพดีต้องตรมตรอมจมทุกข์ที่ลูกของเธอต้องจากไปเรียนแดนไกล  ในขณะที่ลูกชายคนโตกำลังมีปัญหาอย่างหนักกับคู่หมั้นของเขา  กีรติกำลังเผชิญกับปัญหาที่แม้นมาศทรยศหักหลังเขาไปคบชายอื่น  จนถึงขนาดเขาไปพบแม้นมาศนอนอยู่กับคู่รักใหม่ของเธอในขนำร้างกลางสวนตามลำพังสองต่อสอง  กีรติเสียใจมากจนไม่สามารถทนอยู่บ้านหลังใหญ่กับแม่ได้เขาจึงขอไปอยู่กับพ่อที่ไร่   เมื่อกีรติก็ไม่อยู่นายกมลเลยหาเหตุส่งอนินไปเรียนต่อต่างประเทศซะ  คุณยุพดีจึงต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามลำพังอย่างเดียวดาย  และเท่านั้นยังไม่พอนายกมลยังยุให้กีรติถอดหมั้นกับแม้นมาศที่เป็นหลานสาวของคุณยุพดีซะ

“ กริมถึงขนาดกริมไปเจอมันนอนกกอยู่สองต่อสองแล้ว  กริมยังจะทนยอมรับมันได้อีกหรือ ”
“ คุณพ่อ  แล้วผมจะทำอย่างไร ”
“ ถอนหมั้นกับมันซะสิลูกเอ๋ย  ผู้หญิงที่ใจกล้าหน้าด้านอย่างนั้นกริมแต่งงานกับมันด้วยไม่ได้หรอก  มันสวมเขาให้เราตั้งแต่ยังไม่ทันได้แต่ง ”

แต่กีรติแค้นใจเกินกว่าที่จะให้ปล่อยแม้นมาศให้ไปมีความสุขกับคนรักใหม่ของเธอได้เขาจึงไม่ทำตามที่พ่อยุ  คนที่ต้องการขอถอนที่สุดคือแม้นมาศเอง  เธอโทรตามให้กีรติมาพบกับเธอเพื่อคุยตกลงกัน

“ โทรตามผมมามีธุระอะไรไม่ทราบ ”
“  กริมคะ  คุณอย่าแสดงสีหน้าท่าทางอย่างนั้นสิคะ  ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันได้ไม่ใช่หรือคะ ”
“ อ้อ  นี่คุณเปลี่ยนสถานภาพของเราเหลือแค่ความเป็นเพื่อนหรือว่าแค่ญาติกันแล้วหรือ ”

กีรติถามน้ำเสียงอย่างขื่นขมอารมณ์เต็มที่

“ จะให้มาศทำอย่างไรละคะ  มาศฝืนความรู้สึกและห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้  ที่ผ่านมามาศเข้าใจความรู้สึกของตัวเองผิดมาตลอด ”
“ เข้าใจความรู้ของตัวเองผิดหรือ  มาศขอร้องให้ผมหมั้นกับมาศนั่นคือความรู้สึกที่เข้าใจผิดหรือ ”
“ กริมขา  เพราะเราสนิทกันเกินไป  เราเลยไม่รู้ว่าที่แท้ใจของเราเป็นอย่างไร  มาศยอมรับนะคะว่ากริมเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่มาศเคยพบมา  แต่พอมาศรู้จักกับตรินมาศถึงได้รู้ว่าที่แท้ความรักนั้นมันเป็นอย่างไร  มันไม่ใช่แต่เราสนิทสนมกันคบกันมานานตั้งแต่เด็กแต่มันยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่หัวใจของเราปรารถณาอย่างแท้จริง ”

“ คุณรักเขาใช่ไหม ”
“ค่ะมาศรักตริน  รักอย่างไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน ”

กีรติกำมือแน่นข่มความรู้สึกเจ็บจี๊ดอย่างสุดความสามารถ  แม้นมาศยังพร่ำต่อ

“ กริมคะ  ปล่อยมาศไปเถอะนะคะ  เราอย่าทนฝืนหมั้นกันต่อไปอีกเลย  มันจะทรมานด้วยกันทุกฝ่าย  มาศอยากมีอิสระไปคบกับคนที่มาศรักเขา  กริมเองก็จะได้มีโอกาสพบกับคนที่กริมจะรักเขาได้อย่างที่มาศพบ ”
“ พบใครล่ะ  ผมจะไปพบใครได้  เมื่อหัวใจมันถูกสับถูกฟันจนยับเยินแบบนี้แล้ว  ให้เขามาขอกับผมเองสิมาศ  มาขอคู่หมั้นผมจากผมถ้าเขากล้ามาขอด้วยตัวของเขาเองผมก็จะยอมถอนหมั้นให้กับคุณ ”
“ กริม  ทำไมคุณต้องมีข้อแม้เหนี่ยวรั้งมาศไว้ด้วย  เราตกลงด้วยตัวของเราเองก็ได้ ”
“ ไม่ได้  ถ้าคนที่มาศรักและเทิดทูลเขานักหนาไม่กล้ามาขอมาศไปจากผม  ผมก็ไม่มีวันถอนหมั้นเด็ดขาด ”
“ กริม  เขาไม่มาพบกริมหรอกเพราะเขารู้ว่าถ้าเขามากริมต้องทำร้ายเขาแน่ ”
ยิ้มน่ะสิ ”
“ กริม  อย่าก้าวร้าวว่าเขานะคะ  เขาไม่ได้เป็นอย่างที่กริมพูดหรอก ”
“ ทำไมต้องออกรับแทนเขาด้วยนี่มาศหลงเขาถึงขนาดออกมารับแทนกันเชียวหรือ  มาศมีศักดิ์ศรีของตัวเองบ้างสิ  ไม่ใช่ยอมนอนกับเขายอมปกป้องเขาทุกอย่างมาศกำลังหน้ามืดตาบอดนะ ”
“ กริม  กล้าดียังไงมาว่ามาศว่าคนรักของมาศ ”
“ อ๋อ  นี่ขนาดนี้เลยหรือ  อย่างนั้นก็ฝันไปเถอะว่าผมจะยอมถอนหมั้นให้  ถ้าเขาไม่มากราบเท้าขอคุณไปจากผมก็อย่าฝันว่าผมจะยอม ”

กีรติชี้หน้าแม้นมาศอย่างสุดแสนจะเจ็บปวด  แม้นมาศก็โมโหระงับอารมณ์ไม่อยู่กระโดดเข้าทำร้ายกีรติ

“ แล้วเธอจะรั้งฉันไว้ทำไม  ฉันไม่รักเธอเลยนะ  ไม่รักได้ยินไหมว่าไมได้รัก ”
“ หยุดนะมาศ  หยุดแสดงกริยาอยากถอนหมั้นจนเหมือนคนบ้าแบบนี้ ”
“ คุณสิบ้า  จะมาคิดเหนี่ยวรั้งฉัน  บ้าแค่ไหน  ในเมื่อรู้ว่าเขาไม่รักไม่ต้องการแล้วก็เลิกกันเสียสิ  เลิก ”

แม้นมาศทุบทำร้ายกีรติชายหนุ่มปัดป้องและพลักแม้นมาศสุดแรงจนหญิงสาวกระเด็นกลิ้งหลุนๆตกบันไดลงไปกองกับพื้นข้างล่างสลบเหมือด

“ แม้นมาศ  ”

กีรติร้องอย่างตกตลึง  เขาวิ่งมาอุ้มร่างที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลทะลักออกปากออกจมูกอย่างน่ากลัวและมันก็เป็นความโชคร้ายของแม้นมาศที่อุบัติเหตุในครั้งนี้แม้นมาศถึงกับตาบอดมองไม่เห็นทั้งสองข้างเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง  แม้นมาศร่ำร้องหาตรินอยู่ตลอดเวลา  เธอไม่รู้ว่ากีรติไปตามตรินมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจแม้นมาศแต่ตรินยอมมาแค่หน้าห้องรักษาตัวของแม้นมาศเท่านั้น  เขาไม่ยอมเข้าไปหาดเธอเพราะทำใจยอมรับว่าแม้นมาศต้องเป็นคนพิการตาบอดไปตลอดชีวิตไม่ได้

“ คุณจะไปไหนตริน  ทำไมไม่เข้าไปพบเธอ  เธอรอคุณอยู่นะ ”
“ ไม่  ผมว่าไม่พบเธอซะเลยมันจะดีกว่า ”
“ ทำไม  คุณรังเกียจผู้หญิงที่คุณรักที่สุดอย่างนั้นหรือ  เพียงแค่ตาบอดคุณก็ยอมรับเธอไม่ได้อย่างนั้นหรือ ”

กีรติจ้องหน้าผู้ชายที่แม้นมาศรักสุดหัวใจผู้ชายที่มาทำลายความรักความหวังของเขา

“ คุณไม่เข้าใจนะคุณกีรติ  ผม  เสียใจจริงๆที่เข้ามา  แล้วทำให้คุณกับมาศต้องมีปัญหากัน  ถ้าผมเข้าไปหาเธอเธอก็ต้องคิดต้องหวังกับผม  มันจะทำให้คุณมาศเข้าใจลำบากขึ้น  ”
“ คุณเข้าใจพูดนะ  แต่มาพูดแบบนี้ตอนนี้มันไม่สายไปหน่อยเหรอ  คุณดึงมาศไปจากผมแล้ว  แล้วคุณคิดจะผลักเธอทิ้งเพราะเธอหมดคุณค่าแล้วน่ะหรือ  คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ”

กีรติระงับอารมณ์ตัวเองที่ระเบิดเสียงใส่ตริน  แม้นมาศที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ผวาลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของตรินแว่วๆ

“ ตริน  ตรินขา  ตริน ”

กีรติหันมองแม้นมาศที่ลุกขึ้นนั่งเอามือควานหาคนรักของเธอเปะปะ  ตรินมองแล้วหันหลังเดินหนีไปจากที่นั้นอย่างรวดเร็ว  กีรติจะเรียกแต่เขาพูดไม่ออกมันจุกอยู่แค่คอทีได้รับรู้น้ำใจอันแท้จริงของตริน

“ มาศ  ”
“  ตรินล่ะ  ตรินอยู่ไหน ตริน  ”
“ ผมไล่เขากลับไปแล้ว  และห้ามไม่ให้เขามาที่นี่อีกห้ามไม่ให้เขามาพบกับคุณอีก ”
“ กรี๊ดๆๆๆ  ทำไม  ทำไมต้องห้ามเขา  แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามเขาไม่ให้มาพบฉัน  ไอ้คนใจร้าย  ฉันเกลียดแก  ไปตามเขามาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ  ตริน  ตรินขา  มาหามาศมารับมาศด้วย  มาศจะอยู่กับคุณ ”
“ หยุดได้แล้วนะแม้นมาศ  คุณไม่มีสิทธิ์จะคิดไปไหนทั้งนั้น  และไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาหาคุณด้วยถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ”

กีรติพาแม้นมาศมาอยู่ที่ไร่  นายกมลเกลียดแม้นมาศมากแต่เขาก็พอใจที่คิดว่ากีรติพาแม้นมาศมากักขังทรมานที่นี่คุณยุพดีเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากแต่ไม่สามารถช่วยแม้นมาศได้  เธอพยายามพูดกับเกีรติให้ส่งแม้นมาศไปอยู่กับยายที่ราชบุรียังจะดีกว่าที่เอาตัวเธอมากักขังไว้อย่างนี้  แต่กีรติคิดว่าเขามีส่วนต้องทำให้แม้นมาศต้องกลายเป็นคนพิการจึงต้องการที่จะดูแลเธอเพื่อชดใช้ให้กับแม้นมาศ  ก่อนอนินจะเรียนจบและเดินทางกลับมาประเทศไทยครึ่งปีนายกมลก็ป่วยและชีวิตลง  เขาทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่กีรติแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่ให้อะไรกับอนินเลย  คุณยุพดีเสียหนักที่นายกมลทำเช่นนี้แม้จนวาระสุดท้ายนายกมลก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าอนินเป็นลูกของชู้ไม่ใช่ลูกของท่าน  ความผิดพลาดครั้งเดียวที่คุณยุพดีทำมันทำให้อนินต้องกลายเป็นลูกที่พ่อไม่ยอมรับ  นายกมลปฏิเสธว่าอนินไม่ใช่ลูกของเขาเมื่อคุณยุพดีตั้งท้อง  แต่เขาหารู้ไม่ว่าคุณยุพดีตั้งครรภ์ก่อนที่จะพลาดท่าเสียตัวให้กับเพื่อนของนายกมลในคืนวันหนึ่ง  คืนนั้นนายกมลได้รับตำแหน่งใหม่จึงมีการเลี้ยงฉลองกันที่บ้านโดยมีพวกเพื่อนๆมาร่วมกินเลี้ยงกันหลายสิบคน  จนเวลาผ่านไปเกือบๆตีหนึ่งเพื่อนๆเริ่มทะยอยกันกลับคุณยุพดีจึงขอตัวขึ้นข้างบนเพราเห็นว่าแขกของสามีกลับกันจนเกือบหมดแล้ว  แต่เมื่อเธอไปถึงห้องก็พบกับอักษรเพื่อนคนหนึ่งของกมลยืนสูบบุหรี่อยู่ที่เฉลียงบ้าน

“ อ้าวคุณอักษร  ฉันคิดว่าคุณกลับไปแล้วซะอีก ”
“  คืนนี้ผมอยากค้างที่นี่คุณคงไม่ว่านะครับ  ”
“ จะค้างที่นี่หรือคะ  ได้ค่ะ  ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปจัดห้องให้นะคะ  ”

ยุพดีบอกแล้วเดินไปที่ห้องเพื่อจะจัดห้องให้กับเพื่อนสามีแต่อักษรตามเข้ามาแล้วกอดปลุกปล้ำเธออย่างกระหาย  ยุพดีดิ้นรนสุดแรงอักษรจึงชกเธอที่ลิ้นปี่จนหญิงสาวตัวงอหมดทางสู้  อักษรอุ้มเธอมาที่เตียงแล้วลงมือข่มขืนเธออย่างไร้สำนึกว่านี่คือเมียของเพื่อน  นายกมลขึ้นมาบนห้องแล้วไม่เห็นภรรยาจึงเดินตามหาและเข้ามาพบกับภาพที่อักษรกำลังร่วมรักกับยุพดีเต็มตา  เขายืนตะลึงตัวชาและก่อนที่เขาจะต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน  เขารีบหันหลังวิ่งออกไปจากที่นั้นโดยมีสายตาของยุพดีที่หันมองสามีแต่พูดอะไรไม่ออกแล้ว  อักษรตักตวงความสุขบนร่างของยุพดีจนสมความปรารถนาแล้วผละเธอออกไปโดยทิ้งความเจ็บปวดใหญ่หลวงเอาไว้ให้เธอต้องเผชิญชะตากรรมอย่างแสนสาหัสในเวลาต่อมา

อนินมองพี่ชายแววตาแม้จะฉายแววหม่นหมองแต่มันก็แค่วูบเดียวเท่านั้น

“ นิน  บางทีผู้หญิงก็ใช่ว่าจะทำอะไรถูกหมดเสมอไป  คุณพ่อคงอยากให้พี่เป็นตัวแทนทำอะไรทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาดให้มันถูกต้องเป็นธรรม  ”
“ ไม่ใช่หรอก  เป็นพี่ต่างหากที่มีน้ำใจกับผมเอง  ”
“ นิน  นับแต่นี้เป็นต้นไปพี่จะเริ่มทุกอย่างให้ใหม่หมด  มองโลกอีกด้านที่พี่ไม่ยอมมองมาตลอด  ทุกอย่างพี่จะมองไปตามความถูกต้องและพึงพอใจของตัวเราเองที่สุด  ”
“ ครับ  ผมก็อยากจะให้พี่เป็นแบบนั้นมานานแล้ว  ”
“ เราจะจบความผิดพลาดต่างๆกันในวันนี้  แล้วก้าวเดินให้มั่นคงและสง่าผ่าเผยในวันต่อไปนะ  ”
“ ครับ  พี่กริม   ”

สองพี่น้องจับมือกันมั่นและพร้อมที่จะประสานใจทั้งสองดวงให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าอย่างมั่นคงและอบอุ่น
กีรติเรียกให้ทนายมาแก้ไขและแบ่งทรัพย์สินของบิดาที่เคยทำมอลบให้เขาเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวเสียใหม่  โดยหมอแบ่งไร่กีรติครึ่งหนึ่งให้กับอนิน  ทรัพย์สินอื่นๆที่เขาเคยได้อยู่คนเดียวก็แบ่งครึ่งหมด  อนินซึ้งน้ำใจของพี่ชายที่ไม่เคยคิดเอาเปรียบเขาเลยเมื่อเรื่องทรัพย์สินถูกแบ่งกันอย่างเป็นธรรมแล้วกีรติก็สบายใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่