จะเลือก ข้อ 1 หรือข้อ 2 ดีครับ

เลือกข้อหนึ่งข้อใดก่อนไม่ได้ครับ ต้องเลือกทั้งสองข้อประกอบกัน


  -  การกู้ปลูกบ้าน ควรจะต้องเป็นบ้านในฝันที่ดีที่สุด รองรับครอบครัวที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูงพอสมควร แนะนำให้วางแผนชำระหนี้บัตรเครดิตในกรณีที่มีการผ่อนสินค้าโดยบัตรฯ หรือชำระยอดไม่เต็มจำนวนในแต่ละงวด (แต่ถ้ามเป็นการใช้บัตรเครดิตปกติ ไม่มีการผ่อนสินค้าและชำระไม่เต็ม แต่เมื่อครบกำหนดชำระมีการชำระตรงงวด ธนาคารจะไม่นำมาคิดเป็นภาระหนี้สิน)

  -  หากคู่สมรสมีรายได้ ก็ควรทำเรื่องเป็นการกู้ร่วมจะช่วยให้ได้วงเงินมากขึ้น หรือกู้ไม่มาก ก็จะมีโอกาสได้รับอนุมัติสูงขึ้น

  -  ในการกู้ก่อสร้างบ้าน หากไม่มีราคาที่ผู้รับเหมาตีราคาค่าก่อสร้าง ธนาคารก็จะไม่รู้ว่าจะต้องให้กู้ที่เท่าไร ถ้าให้ไปแล้วไปก่อสร้างบ้านที่มีราคาต่ำกว่ายอดที่กู้ ธนาคารก็จะเสียหาย ดังนั้นจะมีขั้นตอนดังนี้ครับ

1.ต้องรู้ว่าพื้นที่จะก่อสร้างบ้านมีข้อกำหนดห้ามก่อสร้างไหม ดังนั้น ต้องไปที่หน่วยงานที่ดูแลพื้นที่เพื่อขอในอนุญาตก่อสร้างบ้าน(ต้องมีแบบแปลนหรือพิมพ์เขียวบ้านที่จะก่อสร้าง หรือรูปถ่ายตัวอย่างบ้านที่จะก่อสร้างไว้ด้วย)

2.เมื่อได้ใบอนุญาตปลูกสร้างบ้านแล้ว ติดต่อหาผู้รับเหมา ถ้าแน่ใจว่าจะกู้ได้แน่ ก็ทำสัญญาว่าจ้างให้ก่อสร้างเลย แต่หากยังไม่แน่ใจก็ขอให้ผู้รับเหมาทำหนังสือตีราคาค่าก่อสร้างตามแบบแปลนหรือรูปบ้านตัวอย่าง พร้องแนบรายละเอียดการเบิกงวดงานให้พร้อม

3.ติดต่อธนาคารที่ต้องการใช้บริการ นำเอกสารต่างๆ ตามข้อ 1.-2. พร้อมภาพถ่ายโฉนดที่ดินที่จะก่อสร้าง(ถ่ายหน้า-หลัง ฉบับเท่าตัวจริง) พร้อมเอกสารส่วนตัวไปด้วย

4.การกู้ก่อสร้าง ธนาคารจะให้ 100% เต็มตามราคาค่าก่อสร้าง(ธนาคารจะมีการประเมินราคาตามแบบว่าราคาที่ผู้รับเหมาให้มาสมเหตุสมผลหรือไม่) และเมื่อรวมกับราคาประเมินที่ดินที่จะก่อสร้างบ้านแล้วต้องไม่เกิน 80% ของราคาบ้านพร้อมที่ดิน

5.ทั้งนี้ วงเงินให้กู้ตามมข้อ  4. จะต้องไม่เกินความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ขอกู้ คือ ต้องไม่เกิน 40% ของรายได้รวม