สวัสดีค่ะ

วันนี้มีร้านอาหารใหม่แถวบางตะบูนมาแนะนำกันค่ะ จขกท.กับครอบครัวมาเที่ยวหัวหินกันบ่อยมากกก เราเลือกที่จะมาเส้นทางเลียบทะเลไปชะอำเสมอ เพราะรถไม่มาก (แต่ตอนนี้น่าจะฮิต ก็เยอะเหมือนกันค่ะ) ขับได้เรื่อยๆ ซึ่งทางนี้จะผ่านบางตะบูนซึ่งเป็นที่ที่เราแวะทานอาหารเช้าตอนเกือบเที่ยงกันตลอด ร้านประจำคือร้านครัวลุงญา พร้อมกับแวะซื้อรังนกกันประจำ ร้านนี้คนเยอะมากค่ะ อาหารอร่อย บริการดี แต่ต้องมาตอนเปิดร้านพอดีไม่งั้นมีอันต้องรอคิว มาครั้งนี้คุณสามีแนะนำให้ลองร้านใหม่เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง เป็นร้านที่เค้าได้ยินมายังไม่เคยไปลอง จขกท.ก็หวั่นๆ เพราะพาที่บ้านมาด้วยหลายชีวิต กลัวจะเสียชื่อเชลล์ชวนชิม แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมาลองดู

หลังจากลองแล้วก็ไม่ผิดหวัง แถมดีกว่าเดิมซะอีก เลยตั้งใจมารีวิวให้ค่ะ เรียกแขกด้วยรูปก่อนเลย



ร้านครัวแม่จินดาจะถึงก่อนร้านครัวลุงญาบางตะบูนนะคะ จะมีป้ายเขียนโฆษณาขายหอยจ๊ออยู่ น่าจะเจ้าเดียวเลยนะคะ จขกท.ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมารีวิวเลยไม่ได้ถ่ายป้ายไว้ พอเข้ามาในร้านก็ตกใจเล็กน้อย เพราะไม่มีคนเลยซึ่งตอนนั้นคือ 11 โมงเช้าวันเสาร์ด้วย ตอนนั้นใจแป้วไปละ ไม่มีคนแบบนี้จะไหวเร้อ แถมเข้าไปเหมือนร้านยังไม่พร้อมบริการน่ะค่ะ ตู้แช่น้ำยังคล้องกุญแจอยู่เลย แต่ก็ยังเห็นแม่ครัวกำลังเตรียมของสดนะคะ ยิ่งตอนสั่งอาหารก็ดูไม่พร้อม ปูมีไม๊ก็ไม่รู้ต้องวิ่งไปถามอะไรงี้อ่ะค่ะ ด้วยความไม่มั่นใจเลยสั่งไป 5 อย่างก่อน (มากัน 7 คน)

และแล้วอาหารจานแรกก็มา "ปลากระพงทอดน้ำปลา" เมนู Benchmark ของทุกร้าน ร้านแจ้งก่อนแล้วว่า ไม่ได้มาเป็นตัวนะ มาดูกัน
ปลามาชิ้นใหญ่ กรอบมาก น้ำราดก็อร่อยกลมกล่อมกำลังดี ผ่านผ่านผ่าน


จานต่อมา หอยจ๊อ ของขึ้นชื่อของร้านนี้ ทอดมาแบบกรอบแต่เนื้อในยังชุ่มฉ่ำ คนละชิ้นหมดอย่างไว


จานต่อมาเป็นใบชะครามผัดกุ้ง จขกท.ชอบกินใบชะครามมาก หากินได้แค่แถวนี้เลยสั่งมาตลอด ถ้าครัวลุงญาขอให้ลองใบชะครามชุบไข่ทอดนะคะ อร่อย จานนี้มารสชาติกำลังดี เอาน้ำราดข้าวหน่อยฟินเลย ขอเม้าท์นิดตอนแรกมองไปที่ครัวเห็นแม่ครัวเหมือนเดินไปเดินมา เตาก็ยังไม่จุด ยังคุยกันว่า เค้าหุงข้าวหรือยังนะ 555 แต่เอาเข้าจริง อาหารมาเร็วใช้ได้ไม่ช้าค่ะ (เพราะเรามาโต๊ะแรกนั่นเอง 555)


ส่วนจานนี้เจ้าของร้านแนะนำ เป็นเอ็นหอย???ทอดกระเทียม ลืมชื่อ เนื้อหอยจะคล้ายๆหอยเชลล์แต่เนื้อจะเหนียวกว่าค่ะ เอาทอดกระเทียมกำลังอร่อยเลย จขกท.ขอดน้ำซะเกลี้ยง


จานนี้สั่งเพราะเข้าไปอ่านรีวิวก่อนถึงร้าน เค้าแนะนำเลยขอลอง เรียกว่า "ไข่สะเออะ" ซึ่งก็คือ ไข่ปลาดุกทะเลต้มกะทิค่ะ รสชาติดีมากกกกกกกเหมือนต้มข่าแต่ข้นกว่าเยอะ ให้อารมณ์เป็นหลนมากกว่า ไข่ปลาดุกมาในก้อนไข่อีกที รสชาติกลมกล่อมซดได้เลย พยายามถามร้านว่ามันทำยังไง แต่จับใจความไม่ได้ 555 ต้องลองค่ะอันนี้ ดีงาม (สีรูปหม่นไปนิดนะคะ ตากล้องฝากบอก)


หลังจากกินไปหมดครบที่สั่ง สมาชิกรู้สึกยังไม่อิ่มเลยจัดการสั่งมาเพิ่มอีกรัวๆ 4 อย่าง ทั้งที่ตอนนี้เราก็รอปูม้าแกะอยู่นะคะ มาดูกันต่อว่ายังไง
เราเบิ้ลหอยจ๊อกันไปอีกจาน แล้วก็สั่งอันนี้มา "กุ้งนึ่งนมสด" กุ้งตัวใหญ่ราดด้วยเครื่องเคียง น้ำนมสดมีรสเปรี้ยวนิดๆ จากมะนาวที่บีบมาด้วย รสชาติดี เนื้อกุ้งไม่สุกเกินไปด้วย เรียบวุธอย่างรวดเร็ว


จานต่อมาเป็นกุ้งทรงเครื่องค่ะ มาได้แบบน่ากินเลยทีเดียว รสชาติดีเครื่องเคียงอร่อย


และแล้วปูม้าก็มา ถึงร้านนี้จะแกะได้ไม่เนี๊ยบเท่าร้านอื่น แต่ก็ทานง่ายอร่อยดีค่ะ


จานสุดท้ายเป็นเมนูแนะนำของร้าน ปลาหมึกแดดเดียว ซึ่งตอนแรกเราไม่อยากกินปลาหมึกเลยไม่เอา แต่พอจะสั่งรอบสองเรามั่นใจในฝีมือแม่ครัวเลยลองค่ะ พอยกเข้ามาก็ช๊อกเลย ปลาหมึกตัวใหญ่มากกกและหอมมากเลยค่ะ เนื้อนุ่มดีเหมือนไม่ได้ตากแดด เค้าทอดมาดีมาก กรอบนอกนุ่มใน มีรสชาติซอสที่ทามาด้วย


ปลาหมึกมาหลังสุด พวกเราเริ่มอิ่มกันแล้วจึงคิดจะห่อกลับบ้าน แต่กินไปกินมา หมดเกลี้ยงเลย เจ้าของร้านมาเล่าว่าใช้หมึกตัวใหญ่เนื้อจะนุ่มกว่า ตากแดดดีดีและสะอาด แล้วนำมาราดซอสนิดๆ ก่อนทอด อร่อยจริงๆ ค่ะ ลืมหมึกแดดเดียวที่ปราณบุรีไปเลย

จำได้ใช่ไม๊คะ เราอิ่มกันแล้ว แต่แต่แต่ ของหวานต้องมี เจ้าของร้านแนะนำผลไม้ลอยแก้วที่ทำเองเป็นเกล็ดหิมะ เราจะพลาดได้ไงจัดไปครบ 3 อย่าง สละ ลูกตาล และลิ้นจี่


หมดแล้วค่าอาหารที่สั่ง ทุกคนอิ่มกันมากและประทับใจทั้งอาหารและอัธยาศัยของเจ้าของร้าน แม่ครัว ในระหว่างที่เรานั่งทานกันก็ทยอยมีลูกค้าคนอื่นเข้ามานะคะ ร้านไม่เงียบเหงาอย่างที่คิด สุดท้ายก็สรุปกันว่า ร้านนี้มีเมนูสร้างสรรค์มากกว่า อาหารก็อร่อย แต่ถ้าลูกค้ามากอาจจะช้านิดเพราะมีแม่ครัวไม่มากค่ะ คราวหน้าได้ผ่านมาคงจะจอดที่ร้านนี้แน่นอน