ทัวร์นาเมนต์ทั้งสองรายการก่อนวิมเบิลดันในปีนี้นับว่าน่าสนใจกว่าเดิมมาก โดยการที่ยกระดับรายการขึ้นเป็น ATP 500 นับว่าได้น้ำได้เนื้อมากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ
ในปีนี้มีนักเทนนิสระดับท็อป 10 ของโลกถึง 8 คน เข้าชิงชัยในทัวร์นาเมนต์ทั้งสอง
ที่ Halle 3 คน ได้แก่ โรเจอร์ นิชิโคริ เบอร์ดิช
ที่ Queen 5 คน ได้แก่ นาดาล เมอเรย์ วาวเรนก้า ราโอนิช ซิลิช
ส่วนอีก 2 คนที่ไม่มาแข่งคือ โนวัค และ เฟอแรร์ อาจจะเพราะอยากพักเนื่องจากทั้งสองคนเป็นผู้เล่นท็อป 10 ซึ่งกรำศึกหนักที่สุด
โนวัคลงแข่งน้อยทัวร์นาเมนต์ที่สุดในผู้เล่นท็อป 10 ทั้งหมดก็จริง (ไม่นับราโอนิชซึ่งเจ็บยาวในช่วงฤดูกาลคอร์ตดิน ) แต่เกือบทุกรายการพี่แกเข้าถึงรอบชิง จึงน่าจะเหนื่อยไม่น้อย
ส่วนเฟอแรร์ลงแข่งมากทัวร์นาเมนต์ที่สุดในท็อป 10 มีทั้งรายการที่ได้แชมป์กับรายการที่เข้าถึงรอบลึก ๆ วัยขนาดนี้ของคุณลุงแก ก็น่าจะพักอยู่
ในตอนแรกผู้จัดที่ Queen คงยิ้มร่าที่มีท็อป 10 ของโลกถึง 5 คน มาเล่นในทัวร์นาเมนต์ของตน พอถึงรอบรองกลับมีมือวาง 1 ใน 5 คนนี้ มาตามนัดแค่คนเดียวคือเมอเรย์ นอกนั้นร่วงหมด ยังดีที่ตัวเรียกคนดูที่สุดอย่างเมอเรย์ยังอยู่
ส่วนที่ Halle เสียหายน้อยกว่าเพราะมือวางอันดับ 1 กับ 2 ของรายการยังอยู่ครบ มีเพียงพี่เบิร์ดของสาว ๆ ร่วงไปด้วยมือ " เทพเจ้าสายฟ้าฟาด " อีโว คาโรวิช เรียบร้อย
รอบรองของทั้งสองทัวร์นาเมนต์ นับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
Halle
Roger Federer - Ivo Karlovic
รบพุ่งกันมา 13 ศึก โรเจอร์เฉือนไปได้ 12 ครั้ง ( ใช้คำว่าเฉือนก็เพราะมันไม่มีแมตช์ไหนชนะขาดเลย ถ้าไม่ชนะไทร์เบรคก็เก็บได้แค่เซ็ตละเบรค )
Andres Seppi - Kei Nishikori
เจอกันมา 3 ครั้ง เคย์คุงเฉือนได้ 2 ครั้ง ชนะไม่ง่ายซักครั้งแต่ตอนแพ้ก็แพ้ยากอยู่
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับแฟนพี่เบิร์ดของเหล่าสาว ๆ ในพันทิปด้วยนะครับ เจอไป 45 เอส แบบนั้นยังเล่นถึงเซ็ต 3 ได้ เรียกว่าไม่แย่เกินไปแล้ว
45เอส...ยังไม่รวมลูกที่รีเทิร์นไม่ข้ามหรือรีเทิร์นออกอีกไม่รู้กี่ลูกต่อกี่ลูกนะเนี่ย
ไอ้หมอนี่เล่นไปชั่วชีวิตแค่ 500 แมตช์เศษ ๆ แต่เสิร์ฟเอสไปราว ๆ 9500 ลูกแล้ว ติดทำเนียบมืออันดับ 2 ของมือเอสตลอดกาลตั้งแต่เริ่มมีการเก็บสถิติมา มืออันดับ 1 คือ Goran Ivanisevic เสิร์ฟเอสตลอดอาชีพการเล่นเทนนิสได้ 10183 เอส แต่ต้องใช้ถึง 893 แมตช์ ในการสร้างสถิตินี้
มืออันดับ 1 - 5 ในทำเนียบนักตีเอสนี้ ถ้าไม่ใช่อดีตมือ 1 ของโลก ก็ต้องอดีตมือ 2 ทั้งสิ้น แต่คาโรวิชซึ่งเล่นมาถึงตอนนี้ทำได้อย่างดีแค่เฉี่ยวเข้ามาอยู่ในท็อป 20 ไม่ถึง 2 เดือน เมื่อหลายปีก่อนก็แค่นั้น กลับมีสถิติลูกเสิร์ฟเอสขึ้นหิ้งเทียบกับมือระดับตำนาน
ผมเลยขอถือวิสาสะตั้งฉายาให้พี่ท่านว่า " เทพเจ้าสายฟ้าฟาด " ซะเลย
โรเจอร์ต้องสู้กับคู่แข่งแบบนี้... ความจริงผมอยากให้โรเจอร์เจอพี่เบิร์ดมากกว่านะ คือแบบว่า...ไม่ว่าจะแพ้จะชนะ มันก็ยังได้ออกกระบวนท่าสู้กัน ถ้าแพ้ก็คือโรเจอร์เล่นไม่ดีเอง หรือไม่ก็พี่เบิร์ดฟอร์มผีเข้าเอง
แต่กับพี่ยักษ์คาโรวิชคนนี้ เวลาดูแกเล่นแล่วเชียร์ฝ่ายตรงข้ามแกทีไร มันโคตรอึดอัดเลยครับพี่น้อง รีเทิร์นกลับไปได้สวย ๆ ซักลูกนึงก็ต้องขอบคุณพระเจ้า ถึงรีเทิร์นไม่สวยก็ต้องแถ..ถูลู่ถูกังให้มันเป็นแต้มให้ได้มากที่สุด
กับคู่ต่อสู้แบบนี้ ถ้าไม่สามารถฉกฉวยโอกาสจากช่วงที่มันมีเสิร์ฟตกต้องไปเสิร์ฟสองติด ๆ กันหลายลูกได้ ใคร ๆ ก็อาจแพ้ได้ แถมแพ้ในแบบที่แทบไม่ได้ออกมือออกเท้าอะไรด้วยซ้ำ นึกดูแล้วกันว่ามันน่าอึดอักขนาดไหน แฟนพี่เบิร์ดในวันนี้คงเข้าใจสิ่งที่ผมบอกได้ดี
สิ่งที่โรเจอร์ต้องทำก็เหมือนกับทุกครั้งที่เจอเจ้านี่ล่ะ นั่นคือถ้ารีเทิร์นข้ามไปได้ต้องทำให้มันเป็นแต้มให้ได้มากที่สุด
จากแมตช์ที่ทั้งคู่เคยเจอกันมาในอดีต ผมเห็นโรเจอร์รีเทิร์นบางลูกไปโด่งบ้างสั้นบ้าง แต่โรเจอร์จะพยายามทำให้ลูกที่รีเทิร์นไม่ดีเหล่านั้นเป็นแต้มให้ได้มากที่สุด เพราะโรเจอร์ก็รู้ดีว่า แค่รีเทิร์นให้ข้ามแล้วเล่นบอลกันต่อมันก็เป็นเรื่องไม่ง่ายแล้ว
โชคดีที่วิทยายุทธเชิงเทนนิสด้านอื่นของเจ้านี่ไม่สูงล้ำนัก ถ้ารีเทิร์นกลับไปสวย ๆ ได้ แทบจะการันตีแต้มได้เลย
ส่วนสิ่งที่ซิลิชทำเพื่อชัยชนะก็ยิ่งเรียบง่ายกว่าสิ่งที่โรเจอร์ต้องทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่พี่แกทำมาโดยตลอดอยู่แล้วไม่ว่าจะเจอใคร นั่นคือ เอส เอส เอส ไปเรื่อย ๆ รักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองเป็นสำคัญ รอคู่ต่อสู้อ่อนลงหรือพลาดเอง
นิชิโคริ.....นิชิโคริ....หลาย ๆ ท่านคงเคยผ่านตามาบ้าง ผมเคยบอกว่าประทับใจแมตช์ที่นิชิโคริสู้กับเฟอแรร์ในรอบแรกนัดสุดท้ายของเวิลด์ทัวร์ไฟนอลปีที่แล้ว บอกว่ามันเป็นเกมแห่งชั้นเชิง
แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ ผมประทับใจเคย์คุงขึ้นอีกเป็นกอง...
ในรอบ 16 คน กับ " เจ้าโยคี " ดัสติน บราวน์ คู่ต่อสู้คนนี้เสิร์ฟแรงกว่า หวดแรงกว่า ความคล่องตัวสูงกว่าเคย์คุงทุกประการ ส่วนเจซีย์ แยนโนวิช คู่ต่อสู้ในรอบ 8 คน ยิ่งแรงควายยิ่งกว่า แต่ความคล่องตัวดูน้อยกว่ารายแรกอยู่บ้าง
กับคู่ต่อสู้ที่เครื่องแรงกว่าแบบ 2 คนนี้ เคย์คุงโชว์ความแตกต่างของฝีมือระหว่างนักเทนนิสธรรมดาสามัญกับมือวางอันดับ 5 ของโลกออกมาลบช่องว่างด้านพละกำลังและความเร็วอย่างงดงาม
น่าประทับใจจริง ๆ ครับ เวลาเห็นคนเอเชียที่ตัวเตี้ยกว่าผมซะอีก เล่นกีฬาชนะฝรั่งตัวยักษ์ ๆ ได้...
ที่ประทับใจอีกอย่างคือตอที่กรรมการขานผิดในลูกที่เขากำลังได้เปรียบจนต้องมาเล่นใหม่ พี่แกแค่ยิ้มแล้วก็เล่นต่อ ผิดกับผู้เล่นหลาย ๆ คนที่โวยวายยังกับว่าถ้าแต้มนี้ไม่ได้พ่อมันจะตายยังไงยังงี้น
เคย์คุงเจอกับเซ็ปปิครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013 ตอนนั้นพี่แกยังเป็นมือวางท็อป 20 อยู่ ประวัติการเจอกันในแต่ละครั้ง ถ้าไม่ล่อกันถึงเซ็ตตัดสิน ก็เป็น 2 เซ็ตรวดที่สูสีมาก ก็นับว่าเหมาะสมถ้ามองจากอันดับโลกของทั้งคู่ขณะเจอกันในเวลานั้น ๆ
แต่ตอนนี้นักเทนนิสแห่งแดนอาทิตย์อุทัยของเราคนนี้เป็นมือวางอันดับ 5 ของโลกเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เซ็ปปิผลงานยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ แม้ต้นปีจะโผล่มาสังหารเทพโรเจอร์จนสร้างความฮือฮาได้ แต่ฟอร์มของพี่แกก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอะไร อันดับเกาะอยู่ที่ 30 กว่า - 40 กว่า มาตลอดครึ่งปี แถมที่ชนะ " เจ้าคนป่า " กาเอล มอนฟิลส์มาได้ ก็เพราะคู่ต่อสู้มันถอนตัวกลางคัน ( สงสัยเจ็บหนักพักยาวอีกแล้ว )
พูดถึงเจ้าคนป่านั่นก็สงสาร เห็นไม่เจ็บป่วยลงเล่นติดต่อกันได้มาช่วงนึง เราก็นึกว่าฟอร์มจะพุ่ง แต่ที่ไหนได้ เจ็บอีกแล้วไม่รู้ว่าจะเจ็บนานแค่ไหน
ถ้าไม่มีอะไรพลาดเชื่อว่า ความแตกต่างของอันดับโลกของทั้งคู่ซึ่งห่างกันมากกว่าการเจอกันในอดีต เคย์คุงตอนนี้น่าจะเอาอยู่น่า
Queen
Andy Murray - Viktor Troicki
ซัดกันมา 6 ครั้ง แอนดี้ที่รัก ( ไม่ใช่ของผมนะ ) กินรวบ
Gilles Simon - Kevin Anderson
เจอกันมาแค่ครั้งเดียว เควินชนะ
ว่ากันว่าแอนดี้เมื่อ 2 ปีก่อนกำลังจะกลับมา คำกล่าวนี้ถือว่าไม่เกินเลยทีเดียว เมื่อดูจากผลงานในภาพรวมของครึ่งฤดูกาลแรกของหมอนี่ซึ่งเป็นรองแค่โนวัคเพียงคนเดียว จากที่แพ้มือเทพอย่างโรเจอร์กับโนวัคชนิดยับเยินเหลือใบไม้ปิดจู๋เพียงใบเดียว ในเวิลด์ทัวร์ไฟนอลเมื่อปลายปีก่อนกับมาสเตอร์เมื่อต้นปี
แอนดี้ในเฟรนช์โอเพนสามารถวัดกับโนวัคถึง 5 เซ็ตได้ ถึงเซ็ตตัดสินจะขาดกระจุยไปหน่อยก็เหอะ
นับเป็นสัญญาณบอกว่าเมอเรย์กำลังเหยียบเข้ามาในอาณาเขตของเหล่าทวยเทพอีกครั้ง
ในทัวร์นาเมนต์นี้ถึงจะดูขลุกขลิกไปบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ตลอด เมื่อมองดูเหล่าคู่แข่งที่เหลือแล้ว พี่แกอาจแอบซ้อมบทสัมภาษณ์หลังรับถ้วยไว้เรียบร้อยแล้ว อาจคิดแม้แต่จะโพสท่ายังไงให้ตากล้องถ่ายรูป 555 ( สองประโยคหลังนี่ผมเพ้อเจ้อเอาเองนะ )
เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่จะเป็นแชมป์ง่าย ๆ คู่แข่งที่จะเจอในรอบรองนี่ก็ใช่ย่อย ผลงานในคอร์ตหญ้ารอบครึ่งเดือนมานี้บ่งบอกว่าไม่หมู
นักหวดที่หายหน้าหายตาไปนานน้องทรอยซ์ของพี่.... เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วถ้าทุกคนยังจำกันได้ พี่แกเพิ่งบ่นเสียดายรถเบนซ์สีเขียวโทนเดียวกับแท็กซี่มิเตอร์บ้านเราคันนั้นของนาดาลมาหยก ๆ คราวนี้แกโผล่มาอีกแล้ว แถมอัดพณฯ ท่าน แชมป์ยูเอสโอเพนคนล่าสุดได้ 2 ทัวร์นาเมนต์ซ้อน ๆ กัน แล้วก็ซัดเจ้านักเทนนิสที่อาศัยลูกเสิร์ฟหากินอีกคนอย่างอีสเนอร์มาได้ ( เคยมีใครสงสัยมั๊ยว่า นักเทนนิสสวมหมวกส่วนใหญ่ในทัวร์ ทำไมมักเป็นนักเทนนิสอเมริกัน )
ไม่ได้ดูน้องทรอยซ์เล่นซักที เพราะมันมักมีคู่ที่น่าสนใจกว่าให้ดูในเวลาเดียวกัน หรือไม่ก็ไม่ใช่เวลาที่ว่างมาดู ได้เห็นฟอร์มแค่ในทัวร์นาเมนต์ที่แล้วกับซิลิชในปลาย ๆ เซ็ตตัดสินเท่านั้น..จึงบอกได้จากผลงานที่เห็นว่าเอาชนะนักเทนนิสดัง ๆ มาได้ หลายคนในช่วงนี้ว่า เมอเรย์น่าจะเจองานไม่ง่าย หากยังฟอร์มเหมือนรอบที่ผ่าน ๆ มา ก็มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำอยู่บ้าง เพราะทรอยซกี้ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว คงจะเร่งเต็มสูบ ความมั่นใจก็สะสมมาจนเต็มพิกัดตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ที่แล้ว
ซิมง - แอนเดอร์สัน คู่ชิงรองแชมป์ ?
ด้วยน้ำมือของซิมงที่ดับรุ่นน้องที่เคยปีนเกลียวตัวเองมา 3 ครั้ง 3 ครา ได้เป็นครั้งแรก ทำให้เสี้ยนหนามของเมอเรย์เหี้ยนเตียนเกลี้ยงหมด
น่าห่วงราโอนิชเหมือนกัน หมอนี่เว้นวรรคไปหลายทัวร์นาเมนต์ ยังไงก็ต้องมีฝืด ๆ อยู่บ้าง ในวิมเบิลดันมีแต้มใหญ่ต้องป้องกันถึง 720 แต้ม ทัวร์นาเมนต์นี้ควรจะต้องทำผลงานดี ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเล่นบนคอร์ตหญ้าและเพื่อเก็บแต้มตุนไว้เพื่อนำไปถัวในกรณีที่รักษา 720 แต้มที่ว่าไม่ได้
ซิมงและแอนเดอร์สัน....สองคนนี้เป็นท็อป 20 เหมือนกัน อันดับโลกและระดับฝีมือถือว่าใกล้เคียงกันมาก ซิมงอาจจะมีชื่อเสียงมายาวนานกว่าเพราะแอนเดอร์สันเทิร์นโปรช้ามาก ๆ รู้สึกจะเทิร์นโปรปีเดียวกับแยนโนวิชกับนิชิโคริที่เพิ่งสู้กันไปช่วงค่ำที่ผ่านมานี้ แต่อายุมากกว่าสองคนนั้นอยู่หลายปี
สูสีจนไม่ว่าใครจะชนะก็ไม่แปลก แต่ถ้าลองคิดในแง่ที่ว่า ซิมงเป็นผู้เล่นที่เคยเข้าถึงจุดสูงสุดและลดระดับลงมาแล้ว ส่วนแอนเดอร์สันจะว่าไปกลับเป็นนักเทนนิสขาขึ้น แม้วัยหมอนี่จะไม่ใช่ดาวรุ่งแล้วก็ตาม
ระหว่างนักเทนนิสที่มองเห็นเพดานของตัวเองไปแล้ว กับนักเทนนิสที่ยังไม่รู้ว่าเพดานของตัวเองอยู่ตรงไหน อาจสูงกว่านี้อีกนิดหรือเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้
ขอบังอาจถือหางแอนเดอร์สันหน่อยนะครับ
จบเท่านี้..
ใครมีข้อมูลอะไรจะเพิ่มเติมหรือแก้ไขก็เชิญบอกกล่าวกันดี ๆ ได้ครับ หรือถ้าจะแสดงความรู้สึกใด ๆ ก็เชิญกันได้ ในกระทู้นี้เราเปิดพื้นที่ให้ทุกท่านอวยนักเทนนิสสุดที่เลิฟกันได้อิสระ ท่านที่เห็นการอวยแล้วเกิดหมั่นไส้ก็ยั้ง ๆ มือหน่อยนะครับ อย่าให้ลุกลามจนทะเลาะกัน
โค้งสุดท้าย...สองทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องวิมเบิลดัน...รอบรองชนะเลิศ
ในปีนี้มีนักเทนนิสระดับท็อป 10 ของโลกถึง 8 คน เข้าชิงชัยในทัวร์นาเมนต์ทั้งสอง
ที่ Halle 3 คน ได้แก่ โรเจอร์ นิชิโคริ เบอร์ดิช
ที่ Queen 5 คน ได้แก่ นาดาล เมอเรย์ วาวเรนก้า ราโอนิช ซิลิช
ส่วนอีก 2 คนที่ไม่มาแข่งคือ โนวัค และ เฟอแรร์ อาจจะเพราะอยากพักเนื่องจากทั้งสองคนเป็นผู้เล่นท็อป 10 ซึ่งกรำศึกหนักที่สุด
โนวัคลงแข่งน้อยทัวร์นาเมนต์ที่สุดในผู้เล่นท็อป 10 ทั้งหมดก็จริง (ไม่นับราโอนิชซึ่งเจ็บยาวในช่วงฤดูกาลคอร์ตดิน ) แต่เกือบทุกรายการพี่แกเข้าถึงรอบชิง จึงน่าจะเหนื่อยไม่น้อย
ส่วนเฟอแรร์ลงแข่งมากทัวร์นาเมนต์ที่สุดในท็อป 10 มีทั้งรายการที่ได้แชมป์กับรายการที่เข้าถึงรอบลึก ๆ วัยขนาดนี้ของคุณลุงแก ก็น่าจะพักอยู่
ในตอนแรกผู้จัดที่ Queen คงยิ้มร่าที่มีท็อป 10 ของโลกถึง 5 คน มาเล่นในทัวร์นาเมนต์ของตน พอถึงรอบรองกลับมีมือวาง 1 ใน 5 คนนี้ มาตามนัดแค่คนเดียวคือเมอเรย์ นอกนั้นร่วงหมด ยังดีที่ตัวเรียกคนดูที่สุดอย่างเมอเรย์ยังอยู่
ส่วนที่ Halle เสียหายน้อยกว่าเพราะมือวางอันดับ 1 กับ 2 ของรายการยังอยู่ครบ มีเพียงพี่เบิร์ดของสาว ๆ ร่วงไปด้วยมือ " เทพเจ้าสายฟ้าฟาด " อีโว คาโรวิช เรียบร้อย
รอบรองของทั้งสองทัวร์นาเมนต์ นับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
Halle
Roger Federer - Ivo Karlovic
รบพุ่งกันมา 13 ศึก โรเจอร์เฉือนไปได้ 12 ครั้ง ( ใช้คำว่าเฉือนก็เพราะมันไม่มีแมตช์ไหนชนะขาดเลย ถ้าไม่ชนะไทร์เบรคก็เก็บได้แค่เซ็ตละเบรค )
Andres Seppi - Kei Nishikori
เจอกันมา 3 ครั้ง เคย์คุงเฉือนได้ 2 ครั้ง ชนะไม่ง่ายซักครั้งแต่ตอนแพ้ก็แพ้ยากอยู่
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับแฟนพี่เบิร์ดของเหล่าสาว ๆ ในพันทิปด้วยนะครับ เจอไป 45 เอส แบบนั้นยังเล่นถึงเซ็ต 3 ได้ เรียกว่าไม่แย่เกินไปแล้ว
45เอส...ยังไม่รวมลูกที่รีเทิร์นไม่ข้ามหรือรีเทิร์นออกอีกไม่รู้กี่ลูกต่อกี่ลูกนะเนี่ย
ไอ้หมอนี่เล่นไปชั่วชีวิตแค่ 500 แมตช์เศษ ๆ แต่เสิร์ฟเอสไปราว ๆ 9500 ลูกแล้ว ติดทำเนียบมืออันดับ 2 ของมือเอสตลอดกาลตั้งแต่เริ่มมีการเก็บสถิติมา มืออันดับ 1 คือ Goran Ivanisevic เสิร์ฟเอสตลอดอาชีพการเล่นเทนนิสได้ 10183 เอส แต่ต้องใช้ถึง 893 แมตช์ ในการสร้างสถิตินี้
มืออันดับ 1 - 5 ในทำเนียบนักตีเอสนี้ ถ้าไม่ใช่อดีตมือ 1 ของโลก ก็ต้องอดีตมือ 2 ทั้งสิ้น แต่คาโรวิชซึ่งเล่นมาถึงตอนนี้ทำได้อย่างดีแค่เฉี่ยวเข้ามาอยู่ในท็อป 20 ไม่ถึง 2 เดือน เมื่อหลายปีก่อนก็แค่นั้น กลับมีสถิติลูกเสิร์ฟเอสขึ้นหิ้งเทียบกับมือระดับตำนาน
ผมเลยขอถือวิสาสะตั้งฉายาให้พี่ท่านว่า " เทพเจ้าสายฟ้าฟาด " ซะเลย
โรเจอร์ต้องสู้กับคู่แข่งแบบนี้... ความจริงผมอยากให้โรเจอร์เจอพี่เบิร์ดมากกว่านะ คือแบบว่า...ไม่ว่าจะแพ้จะชนะ มันก็ยังได้ออกกระบวนท่าสู้กัน ถ้าแพ้ก็คือโรเจอร์เล่นไม่ดีเอง หรือไม่ก็พี่เบิร์ดฟอร์มผีเข้าเอง
แต่กับพี่ยักษ์คาโรวิชคนนี้ เวลาดูแกเล่นแล่วเชียร์ฝ่ายตรงข้ามแกทีไร มันโคตรอึดอัดเลยครับพี่น้อง รีเทิร์นกลับไปได้สวย ๆ ซักลูกนึงก็ต้องขอบคุณพระเจ้า ถึงรีเทิร์นไม่สวยก็ต้องแถ..ถูลู่ถูกังให้มันเป็นแต้มให้ได้มากที่สุด
กับคู่ต่อสู้แบบนี้ ถ้าไม่สามารถฉกฉวยโอกาสจากช่วงที่มันมีเสิร์ฟตกต้องไปเสิร์ฟสองติด ๆ กันหลายลูกได้ ใคร ๆ ก็อาจแพ้ได้ แถมแพ้ในแบบที่แทบไม่ได้ออกมือออกเท้าอะไรด้วยซ้ำ นึกดูแล้วกันว่ามันน่าอึดอักขนาดไหน แฟนพี่เบิร์ดในวันนี้คงเข้าใจสิ่งที่ผมบอกได้ดี
สิ่งที่โรเจอร์ต้องทำก็เหมือนกับทุกครั้งที่เจอเจ้านี่ล่ะ นั่นคือถ้ารีเทิร์นข้ามไปได้ต้องทำให้มันเป็นแต้มให้ได้มากที่สุด
จากแมตช์ที่ทั้งคู่เคยเจอกันมาในอดีต ผมเห็นโรเจอร์รีเทิร์นบางลูกไปโด่งบ้างสั้นบ้าง แต่โรเจอร์จะพยายามทำให้ลูกที่รีเทิร์นไม่ดีเหล่านั้นเป็นแต้มให้ได้มากที่สุด เพราะโรเจอร์ก็รู้ดีว่า แค่รีเทิร์นให้ข้ามแล้วเล่นบอลกันต่อมันก็เป็นเรื่องไม่ง่ายแล้ว
โชคดีที่วิทยายุทธเชิงเทนนิสด้านอื่นของเจ้านี่ไม่สูงล้ำนัก ถ้ารีเทิร์นกลับไปสวย ๆ ได้ แทบจะการันตีแต้มได้เลย
ส่วนสิ่งที่ซิลิชทำเพื่อชัยชนะก็ยิ่งเรียบง่ายกว่าสิ่งที่โรเจอร์ต้องทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่พี่แกทำมาโดยตลอดอยู่แล้วไม่ว่าจะเจอใคร นั่นคือ เอส เอส เอส ไปเรื่อย ๆ รักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองเป็นสำคัญ รอคู่ต่อสู้อ่อนลงหรือพลาดเอง
นิชิโคริ.....นิชิโคริ....หลาย ๆ ท่านคงเคยผ่านตามาบ้าง ผมเคยบอกว่าประทับใจแมตช์ที่นิชิโคริสู้กับเฟอแรร์ในรอบแรกนัดสุดท้ายของเวิลด์ทัวร์ไฟนอลปีที่แล้ว บอกว่ามันเป็นเกมแห่งชั้นเชิง
แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ ผมประทับใจเคย์คุงขึ้นอีกเป็นกอง...
ในรอบ 16 คน กับ " เจ้าโยคี " ดัสติน บราวน์ คู่ต่อสู้คนนี้เสิร์ฟแรงกว่า หวดแรงกว่า ความคล่องตัวสูงกว่าเคย์คุงทุกประการ ส่วนเจซีย์ แยนโนวิช คู่ต่อสู้ในรอบ 8 คน ยิ่งแรงควายยิ่งกว่า แต่ความคล่องตัวดูน้อยกว่ารายแรกอยู่บ้าง
กับคู่ต่อสู้ที่เครื่องแรงกว่าแบบ 2 คนนี้ เคย์คุงโชว์ความแตกต่างของฝีมือระหว่างนักเทนนิสธรรมดาสามัญกับมือวางอันดับ 5 ของโลกออกมาลบช่องว่างด้านพละกำลังและความเร็วอย่างงดงาม
น่าประทับใจจริง ๆ ครับ เวลาเห็นคนเอเชียที่ตัวเตี้ยกว่าผมซะอีก เล่นกีฬาชนะฝรั่งตัวยักษ์ ๆ ได้...
ที่ประทับใจอีกอย่างคือตอที่กรรมการขานผิดในลูกที่เขากำลังได้เปรียบจนต้องมาเล่นใหม่ พี่แกแค่ยิ้มแล้วก็เล่นต่อ ผิดกับผู้เล่นหลาย ๆ คนที่โวยวายยังกับว่าถ้าแต้มนี้ไม่ได้พ่อมันจะตายยังไงยังงี้น
เคย์คุงเจอกับเซ็ปปิครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013 ตอนนั้นพี่แกยังเป็นมือวางท็อป 20 อยู่ ประวัติการเจอกันในแต่ละครั้ง ถ้าไม่ล่อกันถึงเซ็ตตัดสิน ก็เป็น 2 เซ็ตรวดที่สูสีมาก ก็นับว่าเหมาะสมถ้ามองจากอันดับโลกของทั้งคู่ขณะเจอกันในเวลานั้น ๆ
แต่ตอนนี้นักเทนนิสแห่งแดนอาทิตย์อุทัยของเราคนนี้เป็นมือวางอันดับ 5 ของโลกเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เซ็ปปิผลงานยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ แม้ต้นปีจะโผล่มาสังหารเทพโรเจอร์จนสร้างความฮือฮาได้ แต่ฟอร์มของพี่แกก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอะไร อันดับเกาะอยู่ที่ 30 กว่า - 40 กว่า มาตลอดครึ่งปี แถมที่ชนะ " เจ้าคนป่า " กาเอล มอนฟิลส์มาได้ ก็เพราะคู่ต่อสู้มันถอนตัวกลางคัน ( สงสัยเจ็บหนักพักยาวอีกแล้ว )
พูดถึงเจ้าคนป่านั่นก็สงสาร เห็นไม่เจ็บป่วยลงเล่นติดต่อกันได้มาช่วงนึง เราก็นึกว่าฟอร์มจะพุ่ง แต่ที่ไหนได้ เจ็บอีกแล้วไม่รู้ว่าจะเจ็บนานแค่ไหน
ถ้าไม่มีอะไรพลาดเชื่อว่า ความแตกต่างของอันดับโลกของทั้งคู่ซึ่งห่างกันมากกว่าการเจอกันในอดีต เคย์คุงตอนนี้น่าจะเอาอยู่น่า
Queen
Andy Murray - Viktor Troicki
ซัดกันมา 6 ครั้ง แอนดี้ที่รัก ( ไม่ใช่ของผมนะ ) กินรวบ
Gilles Simon - Kevin Anderson
เจอกันมาแค่ครั้งเดียว เควินชนะ
ว่ากันว่าแอนดี้เมื่อ 2 ปีก่อนกำลังจะกลับมา คำกล่าวนี้ถือว่าไม่เกินเลยทีเดียว เมื่อดูจากผลงานในภาพรวมของครึ่งฤดูกาลแรกของหมอนี่ซึ่งเป็นรองแค่โนวัคเพียงคนเดียว จากที่แพ้มือเทพอย่างโรเจอร์กับโนวัคชนิดยับเยินเหลือใบไม้ปิดจู๋เพียงใบเดียว ในเวิลด์ทัวร์ไฟนอลเมื่อปลายปีก่อนกับมาสเตอร์เมื่อต้นปี
แอนดี้ในเฟรนช์โอเพนสามารถวัดกับโนวัคถึง 5 เซ็ตได้ ถึงเซ็ตตัดสินจะขาดกระจุยไปหน่อยก็เหอะ
นับเป็นสัญญาณบอกว่าเมอเรย์กำลังเหยียบเข้ามาในอาณาเขตของเหล่าทวยเทพอีกครั้ง
ในทัวร์นาเมนต์นี้ถึงจะดูขลุกขลิกไปบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ตลอด เมื่อมองดูเหล่าคู่แข่งที่เหลือแล้ว พี่แกอาจแอบซ้อมบทสัมภาษณ์หลังรับถ้วยไว้เรียบร้อยแล้ว อาจคิดแม้แต่จะโพสท่ายังไงให้ตากล้องถ่ายรูป 555 ( สองประโยคหลังนี่ผมเพ้อเจ้อเอาเองนะ )
เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่จะเป็นแชมป์ง่าย ๆ คู่แข่งที่จะเจอในรอบรองนี่ก็ใช่ย่อย ผลงานในคอร์ตหญ้ารอบครึ่งเดือนมานี้บ่งบอกว่าไม่หมู
นักหวดที่หายหน้าหายตาไปนานน้องทรอยซ์ของพี่.... เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วถ้าทุกคนยังจำกันได้ พี่แกเพิ่งบ่นเสียดายรถเบนซ์สีเขียวโทนเดียวกับแท็กซี่มิเตอร์บ้านเราคันนั้นของนาดาลมาหยก ๆ คราวนี้แกโผล่มาอีกแล้ว แถมอัดพณฯ ท่าน แชมป์ยูเอสโอเพนคนล่าสุดได้ 2 ทัวร์นาเมนต์ซ้อน ๆ กัน แล้วก็ซัดเจ้านักเทนนิสที่อาศัยลูกเสิร์ฟหากินอีกคนอย่างอีสเนอร์มาได้ ( เคยมีใครสงสัยมั๊ยว่า นักเทนนิสสวมหมวกส่วนใหญ่ในทัวร์ ทำไมมักเป็นนักเทนนิสอเมริกัน )
ไม่ได้ดูน้องทรอยซ์เล่นซักที เพราะมันมักมีคู่ที่น่าสนใจกว่าให้ดูในเวลาเดียวกัน หรือไม่ก็ไม่ใช่เวลาที่ว่างมาดู ได้เห็นฟอร์มแค่ในทัวร์นาเมนต์ที่แล้วกับซิลิชในปลาย ๆ เซ็ตตัดสินเท่านั้น..จึงบอกได้จากผลงานที่เห็นว่าเอาชนะนักเทนนิสดัง ๆ มาได้ หลายคนในช่วงนี้ว่า เมอเรย์น่าจะเจองานไม่ง่าย หากยังฟอร์มเหมือนรอบที่ผ่าน ๆ มา ก็มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำอยู่บ้าง เพราะทรอยซกี้ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว คงจะเร่งเต็มสูบ ความมั่นใจก็สะสมมาจนเต็มพิกัดตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ที่แล้ว
ซิมง - แอนเดอร์สัน คู่ชิงรองแชมป์ ?
ด้วยน้ำมือของซิมงที่ดับรุ่นน้องที่เคยปีนเกลียวตัวเองมา 3 ครั้ง 3 ครา ได้เป็นครั้งแรก ทำให้เสี้ยนหนามของเมอเรย์เหี้ยนเตียนเกลี้ยงหมด
น่าห่วงราโอนิชเหมือนกัน หมอนี่เว้นวรรคไปหลายทัวร์นาเมนต์ ยังไงก็ต้องมีฝืด ๆ อยู่บ้าง ในวิมเบิลดันมีแต้มใหญ่ต้องป้องกันถึง 720 แต้ม ทัวร์นาเมนต์นี้ควรจะต้องทำผลงานดี ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเล่นบนคอร์ตหญ้าและเพื่อเก็บแต้มตุนไว้เพื่อนำไปถัวในกรณีที่รักษา 720 แต้มที่ว่าไม่ได้
ซิมงและแอนเดอร์สัน....สองคนนี้เป็นท็อป 20 เหมือนกัน อันดับโลกและระดับฝีมือถือว่าใกล้เคียงกันมาก ซิมงอาจจะมีชื่อเสียงมายาวนานกว่าเพราะแอนเดอร์สันเทิร์นโปรช้ามาก ๆ รู้สึกจะเทิร์นโปรปีเดียวกับแยนโนวิชกับนิชิโคริที่เพิ่งสู้กันไปช่วงค่ำที่ผ่านมานี้ แต่อายุมากกว่าสองคนนั้นอยู่หลายปี
สูสีจนไม่ว่าใครจะชนะก็ไม่แปลก แต่ถ้าลองคิดในแง่ที่ว่า ซิมงเป็นผู้เล่นที่เคยเข้าถึงจุดสูงสุดและลดระดับลงมาแล้ว ส่วนแอนเดอร์สันจะว่าไปกลับเป็นนักเทนนิสขาขึ้น แม้วัยหมอนี่จะไม่ใช่ดาวรุ่งแล้วก็ตาม
ระหว่างนักเทนนิสที่มองเห็นเพดานของตัวเองไปแล้ว กับนักเทนนิสที่ยังไม่รู้ว่าเพดานของตัวเองอยู่ตรงไหน อาจสูงกว่านี้อีกนิดหรือเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้
ขอบังอาจถือหางแอนเดอร์สันหน่อยนะครับ
จบเท่านี้..
ใครมีข้อมูลอะไรจะเพิ่มเติมหรือแก้ไขก็เชิญบอกกล่าวกันดี ๆ ได้ครับ หรือถ้าจะแสดงความรู้สึกใด ๆ ก็เชิญกันได้ ในกระทู้นี้เราเปิดพื้นที่ให้ทุกท่านอวยนักเทนนิสสุดที่เลิฟกันได้อิสระ ท่านที่เห็นการอวยแล้วเกิดหมั่นไส้ก็ยั้ง ๆ มือหน่อยนะครับ อย่าให้ลุกลามจนทะเลาะกัน