สวัสดีค่ะรีวิวครั้งแรกบอกเลยว่ายืม Accountเพื่อนมาใช้ค่ะ
ก่อนหน้านี้เคยเห็นรีวิวไปปีนังมาก็หลายอันแต่รีวิวนี้มาแบบฉบับไปเสาร์กลับอาทิตย์ เอิบบ หลายคนบอกน้อยไปไหน
เราบอกอยู่ว่าชื่อกระทู้เราคือเที่ยวปีนังฉบับคนมีวันหยุดน้อย!!!
เราเริ่มทริปนั่งรถทัวร์จากภูเก็ต(บ้านอยู่ภูเก็ต)คืนวันศุกร์รอบสามทุ่มครึ่งรถที่เรานั่งเป็นบัสสองชั้น36ที่นั่งค่ะซื้อตั๋วได้ที่ บขส มีหลายบริษัทให้เลือกราคาเที่ยว360บาทไปกลับก็720 บาท
เราถึงหาดใหญ่ตอนตีสามคือแบบเช้ามากไปไหนไม่ได้เลยพากันนอนต่อที่บขสจนถึงหกโมงเช้าเพื่อรอไปกินติ่มซำร้านดังที่หาดใหญ่
เมนูแนะนำที่นี้คือบะกุ๊ดเต๋อารมณ์ออกแนวขาหมูผสมน้ำพะโล้หมูติดมันเนื้อนุ่มม๊วกกพวกเราไปกันสองคนสั่งกันอย่างบ้าคลั่งกะว่าจะต้องกินให้อิ่มไปเลยเพราะเดี๊ยวต้องเดินทางกันอีกยาวไกล
กินเสร็จแล้วเรายังที่เวลาเหลือเลยเดินชิวกันต่อระหว่างรอขึ้นรถไปปีนังรอบ 9.30และหาที่จะแลกเงินเพราะว่าแลกจากไทยจะได้เรทจะดีกว่าไป แลกที่ปีนังพวกเราแลกมา300 ริงกิตเป็นเงินไทยคือ3000บาท
บรรยากาศหน้าบริษัท kst travel รถตู้ไปปีนังเป็นตึกแถวพาณิชย์มีคุณลุงน่ารักเป็นคนรับจองวันที่เราไปติดกะเสาร์คนค่อนข้างเยอะพวกเราซื้อเป็นตั๋วแบบไป-กลับราคา750 บาทเดินทาง4 ชมหรือถ้าใครจะไปแบบขาเดียวก็แค่ 400 บาท
นั่งรถมาประมาณ1ชมเราก็มาถึงด่านสะเดา คนเยอะไปไหนทั้งไทยทั้งมาเลย์ต่อคิดกัน5-6 แถวพวกเราเสียเวลาอยู่ที่ด่านกันเเกือบชั่วโมง
(ป.ล เราต้องจ่ายตังค์ให้คนขับรถอีกคนล่ะ10 บาทเพื่อเป็นค่าเสียเวลา)
ผ่านด่านไทยแล้วววววขับมาอีก10 นาทีก็ถึงด่านมาเลย์ต่ออยากบอกว่าด่านมาเลย์ คือดี มากระบบเค้าดีเยี่ยมยืนรอแค่5นาทีแถมยืนในห้องแอร์ อย่างดีเลยล่ะ(แอบคิดทำไมประเทศกูไม่เป็นแบบนี้ว่ะ)
ในที่สุดเราก็ถึงThe Frame Guesthouse ที่พวกเราจองไว้ (จองผ่านwww.hostelworld.com)อยู่ในย่าน Little indiaแต่ทำเลค่อนข้างดี ไม่ไกลจากFoodcentralและที่เที่ยวNight life….
Roomtypeที่พวกเราเลือกเป็นห้องPrivateเตียงDoubleราคาห้องพักก็แค่906 บาท เอง ห้องสะอาด แอร์ดี เตียงนุ่ม แต่ที่นี้จะเป็น Shared Bathroomค่ะแต่พูดเลยว่าห้องน้ำสะอาดมากๆไม่เหมือนHostelที่เคยนอนที่อื่นๆๆโฮลเทลพวกเราจะเป็น ฝรั่งซะ 70% เอเชีย 30% แอบฟินเบาๆๆช่วงที่ไปตอนนั้นฝรั่งวัยรุ่นใสๆเดินกันเต็มไปหมดแอบเสียดายรู้แบบนี้กูนอนแบบDorm Mix ดีกว่า 555+ (ป้าๆๆ น้ำเดิน)
พวกเราอาบน้ำอาบท่าเสร็จไม่พูดพร่ำทำเพลงค่ะขอMapจากที่Hostelแล้ว ออกสำรวจเมืองกันเลยLet’s explor!!
เดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยอากาศที่นั้นค่อนข้างร้อน พวกเราเลยตัดสินใจหาร้านกาแฟเก๋ร์ๆนั่งพักก่อนเดินๆมาก็สะดุดอยู่ร้านV Cafeบรรยากาศในร้านตกแต่งแบบlotfดิบๆปูนเปลือยเพดานสูงอากาศถ่ายเทเย็นสบายเฟอร์นิเจอร์ก็Mixกันได้อย่างลงตัว
พวกเรากะว่าจะหาอะไรเย็นๆๆดื่มแต่เจ้าของร้านเข้ามาชี้ๆว่านี้คือsignaturesของที่ร้านเราสั่งมาชิมดูมั้งเป็นชากุหลาบกินแล้วชุ่มคอดีเอิบแต่นี้เราบอกมาหาอะไรเย็นๆกินไม่ใช่หรอกินชาเอาซะร้อนเลย
นั่งพักได้ไม่นานก็เดินลุยต่อเพราะมีเวลาไม่มากแล้วเดี๋ยวค่ำจะถ่ายอะไรไม่สวยอีก
เดินๆๆได้มาสักระยะเริ่มเหนื่อยเหอๆและยังมีStreet Artอีกหลายอันที่ยังหาไม่เจอ และบางอันก็อยู่ไกล เดินไปกว่าจะถึงคงมืดซะก่อน พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะจ้างสามล้อปั่นพาไป...เดินๆไปถามกะคุณลุงคนหนึ่งฮีบอก35 ริงกิต(เงินไทย350)ปั่นเที่ยวดูStreet Artเป็นเวลา1ชมพวกเรามองหน้ากันก่อนจะตกลงไปกะคุณลุง(คนขับสามล้อปั่นที่นี้จะเป็นลุงแก่ๆวัย70อัพแทบไม่มีคนไหนหนุ่มเลย)
ที่นี้ ไม่ได้มี แค่ สามล้อรับจ้าง อย่างเดียว ยังมีจักรยานปั่นแบบเดียว แบบคู่ หรือ จะปั่นแบบครอบครัวให้เช่าอีกด้วย
ลุงปั่นพาพวกเรามาแวะร้านทาร์ตไข่ชื่อดังพวกเราสองคนรีบกระโดดจากรถวิ่งไปซื้อเลยจ้าแบบว่านี้แหละที่ชั้นตามหามานานได้กินซ่ะที
ทาร์ตไข่ที่นี้ชิ้นล่ะ2 ริงกิต(18บาท)ราคาพอๆกะKFCแต่อร่อยกว่าล้านเท่าคือเนื้อไข่นุ่มแป้งกรอบมาก
โอ้ย..ฟินเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ฟินจะทาร์ตเสร็จคุณลุงก็ปั่นพาเราเที่ยวต่อไปยังจุดถ่ายรูปต่อไป
วิวสองข้างทางก็จะรายล้อมไปด้วยหนุ่มตาน้ำข้าวหน้าตาน่ารักกรุ้บกริ้บใสๆเดินกันเยอะไปหมดค่ะ ฟิน..พวกเราสะกิดเรียกกันดูจนเนื้อเขียวโอ้ย..คนซ้ายก็ใสคนขวาก็เท่ >___<
ภาระกิจเรายังไม่เสร็จสิ้นฟ้าเริ่มมืดแถมฝนกำลังจะมาพวกเราเลยบอกให้คุณลุงไปส่งพวกเรากลับ โฮล ก่อนจะบอกลา และ จ่ายตังให้ คุณลุงเป็น 40ริงกิตแถมให้ฮี5ริงกิตด้วยความสงสารเพราะฮีปั่นให้พวกเราสองคนนั่งน้ำหนักพวกเราสองก็ไม่ใช่น้อยๆT^T
พวกเราอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวจัดเต็มออกไปหาข้าวกินกันต่อถามพนักงงานที่โฮลว่าร้านไหนอาหารอร่อยฮีแนะนำให้พวกเราไปที่ RedGarden FoodParadiseฮีบอกมีอาหารให้เลือกหลายประเภทแถมราคาไม่แพง
อาหารที่นี้มีมากมายหลายอย่างจริงๆทั้งอาหารมาเลย์อาหารฝรั่งก็มี เอิบบบบ เลือกไม่ค่อยถูก.....
พวกเราเลย เลือกกิน หมี่ แทน เพระเห็นจากป้ายหน้าตาดูคล้ายๆหมี่ผัดฮกกี้ยนอาหารพื้นเมืองภูเก็ตแต่รสชาติไม่ต่างอะไรกันมากเส้นเค้าจะกลมๆนุ่มๆกว่าเส้นหมี่ฮกเกี้ยน
หมี่Tai Lok Meen(จานหน้า)Cha Kway Tiew(จานหลัง)จากที่ชิมชอบจานหลังหน้าตาคล้ายๆผัดไทยแต่เส้นจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่บ้านเราราคาเบาๆคิดเป็นเงินไทยจานล่ะ58เอง
กินอิ่มพวกเราก็เดินย่อยสำรวจหาร้านนั่งชิวกันต่อที่ปีนัง4-5ทุ่มยังถึงว่าเงียบๆเพราะคนปีนังเค้าจะออกPartyกันตี1- ตี3ค่ะพวกร้านนั่งก็ส่วนใหญ่ก็จะเห็นแค่ฝรั่งที่นั่งชิวกันอยู่
ระหว่างทางเดินหาร้านที่ดูโอเคๆน่านั่ง...โอ้ยยย อินดง อินเดียแซวกันเกลียวกราวค่ะมีแบบชะลอรถมาแซว คือแบบเกรียนมากค่ะบอกเลยอยู่นี้ ฮอตมากค่ะ 555+
เดินมาสักพักผ่านบาร์เรกเก้เฮ้ยร้านนี้ดูคนเยอะดีแถม ผช ที่นั่งในร้านแอบหน้าตาดี ฮิฮิ จัดการลากเก้าอี้นั่งซิค่ะรอช้าอยู่ทำไม
สักพักเจ้าของร้านเดินเค้ามาทักคนไทยหรือป่าว?(สำเนียงแบบไม่ชัด)พวกเราตอบอย่างพร้อมเพียงใช่ค่ะ!!
โต๊ะใกล้ๆมี2สาวอังกฤษกะ1หนุ่มเยอรมันนั่งอยู่เฮียเจ้าของร้านค๊าาาา ลากพวกเรามานั่งกะพวกเค้าเลยค่ะฮีบอกดื่มด้วยกันหลายๆๆคนสนุกดี พวกเราทักทายแนะนำตัวเสร็จเม้ามอยกันไม่นานก็สนิทกันแล้วก็ชวนกันย้ายไปร้านไปPartyที่อื่นต่อนังเพื่อนฝรั่งชีใช้ความน่ารักของนางเข้าไปถามคนพื้นที่ว่าแถวนี้มีที่ไหนแดนซ์ได้บ้างเค้าเลยแนะนำพวกเราไปที่SlipperySenoritasย่านนั้นมีผับมากมายแต่ร้านนี้ดังสุดพวกเราก็เอาว่ะ ลองเดินไปดูถ้าไม่โอยังไงค่อยกลับ
พวกเราเดินสำรวจกันอยู่สักพักแต่ผับไม่ค่อยโอเคสำหรับพวกเราเท่าไหรพวกเราเลยตัดสินใจแยกย้ายกลับไปนอน....
วันอาทิตย์....
พวกเรารีบตื่นแต่เช้าออกมากินBreakfastที่ทางโฮลเตรียมให้เป็นขนมปังปิ้งชากาแฟและผลไม้
กินเสร็จก็เที่ยวกันต่อเพราะภาระกิจพวกเรายังไม่สำเร็จยังมีMuseumCamaraและStreetArtอีกหลายจุดที่ยังไม่ไปถ่าย
พวกเราแวะกินกาแฟกันอีกรอบก่อนไปMuseum Camaraที่ Wheeler’s Coffee ร้านนี้ติดท็อปรีวิวอยู่หลายเว็บเลยล่ะเจ้าของร้านนิสัยดี
MuseumCamaraเป็นตึก2ชั้นชั้นแรกจะขายของที่ระลึกและร้านกาแฟชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ต้องเสียค่าเข้าชม200 บาท…แต่พวกเราเลือกที่จะไม่เข้าเพราะว่ามันแพงเกินเลยกันไปเดินที่อีกต่อกางแผนที่อีกครั้งเฮ้ยยไปไหนดีสรุปเลยเดินไปหาร้านกาแฟที่ชื่อว่าMoustacha Houzeแทนซึ่งเป็นร้านที่พวกเราเคยอ่านรีวิวไว้ก่อนจะมา
ระหว่างทางเราก็เจอArtหลายๆตัวที่ตามหา
บรรยากาศหน้าร้านเป็นตึกพาณิชย์ค่ะ
นั่งชิวกาแฟได้ไม่ได้ ก็ต้องรีบกลับโฮลเพื่อไปรอรถมารับมาที่นัดคือบ่าย3โมง เฮ้อออหมดเวลาสนุกจบทริปนั่งรถกันตูดานกลับภูเก็ตอีก
See you next time Penang..
[CR] เที่ยว Penang - Georgetown Street Art & Wall Painting เก๋ร์ๆฉบับคนมีวันหยุดน้อย(รูปเยอะม๊วก)
สวัสดีค่ะรีวิวครั้งแรกบอกเลยว่ายืม Accountเพื่อนมาใช้ค่ะ
ก่อนหน้านี้เคยเห็นรีวิวไปปีนังมาก็หลายอันแต่รีวิวนี้มาแบบฉบับไปเสาร์กลับอาทิตย์ เอิบบ หลายคนบอกน้อยไปไหน
เราบอกอยู่ว่าชื่อกระทู้เราคือเที่ยวปีนังฉบับคนมีวันหยุดน้อย!!!
เราเริ่มทริปนั่งรถทัวร์จากภูเก็ต(บ้านอยู่ภูเก็ต)คืนวันศุกร์รอบสามทุ่มครึ่งรถที่เรานั่งเป็นบัสสองชั้น36ที่นั่งค่ะซื้อตั๋วได้ที่ บขส มีหลายบริษัทให้เลือกราคาเที่ยว360บาทไปกลับก็720 บาท
เราถึงหาดใหญ่ตอนตีสามคือแบบเช้ามากไปไหนไม่ได้เลยพากันนอนต่อที่บขสจนถึงหกโมงเช้าเพื่อรอไปกินติ่มซำร้านดังที่หาดใหญ่
เมนูแนะนำที่นี้คือบะกุ๊ดเต๋อารมณ์ออกแนวขาหมูผสมน้ำพะโล้หมูติดมันเนื้อนุ่มม๊วกกพวกเราไปกันสองคนสั่งกันอย่างบ้าคลั่งกะว่าจะต้องกินให้อิ่มไปเลยเพราะเดี๊ยวต้องเดินทางกันอีกยาวไกล
กินเสร็จแล้วเรายังที่เวลาเหลือเลยเดินชิวกันต่อระหว่างรอขึ้นรถไปปีนังรอบ 9.30และหาที่จะแลกเงินเพราะว่าแลกจากไทยจะได้เรทจะดีกว่าไป แลกที่ปีนังพวกเราแลกมา300 ริงกิตเป็นเงินไทยคือ3000บาท
บรรยากาศหน้าบริษัท kst travel รถตู้ไปปีนังเป็นตึกแถวพาณิชย์มีคุณลุงน่ารักเป็นคนรับจองวันที่เราไปติดกะเสาร์คนค่อนข้างเยอะพวกเราซื้อเป็นตั๋วแบบไป-กลับราคา750 บาทเดินทาง4 ชมหรือถ้าใครจะไปแบบขาเดียวก็แค่ 400 บาท
นั่งรถมาประมาณ1ชมเราก็มาถึงด่านสะเดา คนเยอะไปไหนทั้งไทยทั้งมาเลย์ต่อคิดกัน5-6 แถวพวกเราเสียเวลาอยู่ที่ด่านกันเเกือบชั่วโมง
(ป.ล เราต้องจ่ายตังค์ให้คนขับรถอีกคนล่ะ10 บาทเพื่อเป็นค่าเสียเวลา)
ผ่านด่านไทยแล้วววววขับมาอีก10 นาทีก็ถึงด่านมาเลย์ต่ออยากบอกว่าด่านมาเลย์ คือดี มากระบบเค้าดีเยี่ยมยืนรอแค่5นาทีแถมยืนในห้องแอร์ อย่างดีเลยล่ะ(แอบคิดทำไมประเทศกูไม่เป็นแบบนี้ว่ะ)
ในที่สุดเราก็ถึงThe Frame Guesthouse ที่พวกเราจองไว้ (จองผ่านwww.hostelworld.com)อยู่ในย่าน Little indiaแต่ทำเลค่อนข้างดี ไม่ไกลจากFoodcentralและที่เที่ยวNight life….
Roomtypeที่พวกเราเลือกเป็นห้องPrivateเตียงDoubleราคาห้องพักก็แค่906 บาท เอง ห้องสะอาด แอร์ดี เตียงนุ่ม แต่ที่นี้จะเป็น Shared Bathroomค่ะแต่พูดเลยว่าห้องน้ำสะอาดมากๆไม่เหมือนHostelที่เคยนอนที่อื่นๆๆโฮลเทลพวกเราจะเป็น ฝรั่งซะ 70% เอเชีย 30% แอบฟินเบาๆๆช่วงที่ไปตอนนั้นฝรั่งวัยรุ่นใสๆเดินกันเต็มไปหมดแอบเสียดายรู้แบบนี้กูนอนแบบDorm Mix ดีกว่า 555+ (ป้าๆๆ น้ำเดิน)
พวกเราอาบน้ำอาบท่าเสร็จไม่พูดพร่ำทำเพลงค่ะขอMapจากที่Hostelแล้ว ออกสำรวจเมืองกันเลยLet’s explor!!
เดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยอากาศที่นั้นค่อนข้างร้อน พวกเราเลยตัดสินใจหาร้านกาแฟเก๋ร์ๆนั่งพักก่อนเดินๆมาก็สะดุดอยู่ร้านV Cafeบรรยากาศในร้านตกแต่งแบบlotfดิบๆปูนเปลือยเพดานสูงอากาศถ่ายเทเย็นสบายเฟอร์นิเจอร์ก็Mixกันได้อย่างลงตัว
พวกเรากะว่าจะหาอะไรเย็นๆๆดื่มแต่เจ้าของร้านเข้ามาชี้ๆว่านี้คือsignaturesของที่ร้านเราสั่งมาชิมดูมั้งเป็นชากุหลาบกินแล้วชุ่มคอดีเอิบแต่นี้เราบอกมาหาอะไรเย็นๆกินไม่ใช่หรอกินชาเอาซะร้อนเลย
นั่งพักได้ไม่นานก็เดินลุยต่อเพราะมีเวลาไม่มากแล้วเดี๋ยวค่ำจะถ่ายอะไรไม่สวยอีก
เดินๆๆได้มาสักระยะเริ่มเหนื่อยเหอๆและยังมีStreet Artอีกหลายอันที่ยังหาไม่เจอ และบางอันก็อยู่ไกล เดินไปกว่าจะถึงคงมืดซะก่อน พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะจ้างสามล้อปั่นพาไป...เดินๆไปถามกะคุณลุงคนหนึ่งฮีบอก35 ริงกิต(เงินไทย350)ปั่นเที่ยวดูStreet Artเป็นเวลา1ชมพวกเรามองหน้ากันก่อนจะตกลงไปกะคุณลุง(คนขับสามล้อปั่นที่นี้จะเป็นลุงแก่ๆวัย70อัพแทบไม่มีคนไหนหนุ่มเลย)
ที่นี้ ไม่ได้มี แค่ สามล้อรับจ้าง อย่างเดียว ยังมีจักรยานปั่นแบบเดียว แบบคู่ หรือ จะปั่นแบบครอบครัวให้เช่าอีกด้วย
ลุงปั่นพาพวกเรามาแวะร้านทาร์ตไข่ชื่อดังพวกเราสองคนรีบกระโดดจากรถวิ่งไปซื้อเลยจ้าแบบว่านี้แหละที่ชั้นตามหามานานได้กินซ่ะที
ทาร์ตไข่ที่นี้ชิ้นล่ะ2 ริงกิต(18บาท)ราคาพอๆกะKFCแต่อร่อยกว่าล้านเท่าคือเนื้อไข่นุ่มแป้งกรอบมาก
โอ้ย..ฟินเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ฟินจะทาร์ตเสร็จคุณลุงก็ปั่นพาเราเที่ยวต่อไปยังจุดถ่ายรูปต่อไป
วิวสองข้างทางก็จะรายล้อมไปด้วยหนุ่มตาน้ำข้าวหน้าตาน่ารักกรุ้บกริ้บใสๆเดินกันเยอะไปหมดค่ะ ฟิน..พวกเราสะกิดเรียกกันดูจนเนื้อเขียวโอ้ย..คนซ้ายก็ใสคนขวาก็เท่ >___<
ภาระกิจเรายังไม่เสร็จสิ้นฟ้าเริ่มมืดแถมฝนกำลังจะมาพวกเราเลยบอกให้คุณลุงไปส่งพวกเรากลับ โฮล ก่อนจะบอกลา และ จ่ายตังให้ คุณลุงเป็น 40ริงกิตแถมให้ฮี5ริงกิตด้วยความสงสารเพราะฮีปั่นให้พวกเราสองคนนั่งน้ำหนักพวกเราสองก็ไม่ใช่น้อยๆT^T
พวกเราอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวจัดเต็มออกไปหาข้าวกินกันต่อถามพนักงงานที่โฮลว่าร้านไหนอาหารอร่อยฮีแนะนำให้พวกเราไปที่ RedGarden FoodParadiseฮีบอกมีอาหารให้เลือกหลายประเภทแถมราคาไม่แพง
อาหารที่นี้มีมากมายหลายอย่างจริงๆทั้งอาหารมาเลย์อาหารฝรั่งก็มี เอิบบบบ เลือกไม่ค่อยถูก.....
พวกเราเลย เลือกกิน หมี่ แทน เพระเห็นจากป้ายหน้าตาดูคล้ายๆหมี่ผัดฮกกี้ยนอาหารพื้นเมืองภูเก็ตแต่รสชาติไม่ต่างอะไรกันมากเส้นเค้าจะกลมๆนุ่มๆกว่าเส้นหมี่ฮกเกี้ยน
หมี่Tai Lok Meen(จานหน้า)Cha Kway Tiew(จานหลัง)จากที่ชิมชอบจานหลังหน้าตาคล้ายๆผัดไทยแต่เส้นจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่บ้านเราราคาเบาๆคิดเป็นเงินไทยจานล่ะ58เอง
กินอิ่มพวกเราก็เดินย่อยสำรวจหาร้านนั่งชิวกันต่อที่ปีนัง4-5ทุ่มยังถึงว่าเงียบๆเพราะคนปีนังเค้าจะออกPartyกันตี1- ตี3ค่ะพวกร้านนั่งก็ส่วนใหญ่ก็จะเห็นแค่ฝรั่งที่นั่งชิวกันอยู่
ระหว่างทางเดินหาร้านที่ดูโอเคๆน่านั่ง...โอ้ยยย อินดง อินเดียแซวกันเกลียวกราวค่ะมีแบบชะลอรถมาแซว คือแบบเกรียนมากค่ะบอกเลยอยู่นี้ ฮอตมากค่ะ 555+
เดินมาสักพักผ่านบาร์เรกเก้เฮ้ยร้านนี้ดูคนเยอะดีแถม ผช ที่นั่งในร้านแอบหน้าตาดี ฮิฮิ จัดการลากเก้าอี้นั่งซิค่ะรอช้าอยู่ทำไม
สักพักเจ้าของร้านเดินเค้ามาทักคนไทยหรือป่าว?(สำเนียงแบบไม่ชัด)พวกเราตอบอย่างพร้อมเพียงใช่ค่ะ!!
โต๊ะใกล้ๆมี2สาวอังกฤษกะ1หนุ่มเยอรมันนั่งอยู่เฮียเจ้าของร้านค๊าาาา ลากพวกเรามานั่งกะพวกเค้าเลยค่ะฮีบอกดื่มด้วยกันหลายๆๆคนสนุกดี พวกเราทักทายแนะนำตัวเสร็จเม้ามอยกันไม่นานก็สนิทกันแล้วก็ชวนกันย้ายไปร้านไปPartyที่อื่นต่อนังเพื่อนฝรั่งชีใช้ความน่ารักของนางเข้าไปถามคนพื้นที่ว่าแถวนี้มีที่ไหนแดนซ์ได้บ้างเค้าเลยแนะนำพวกเราไปที่SlipperySenoritasย่านนั้นมีผับมากมายแต่ร้านนี้ดังสุดพวกเราก็เอาว่ะ ลองเดินไปดูถ้าไม่โอยังไงค่อยกลับ
พวกเราเดินสำรวจกันอยู่สักพักแต่ผับไม่ค่อยโอเคสำหรับพวกเราเท่าไหรพวกเราเลยตัดสินใจแยกย้ายกลับไปนอน....
วันอาทิตย์....
พวกเรารีบตื่นแต่เช้าออกมากินBreakfastที่ทางโฮลเตรียมให้เป็นขนมปังปิ้งชากาแฟและผลไม้
กินเสร็จก็เที่ยวกันต่อเพราะภาระกิจพวกเรายังไม่สำเร็จยังมีMuseumCamaraและStreetArtอีกหลายจุดที่ยังไม่ไปถ่าย
พวกเราแวะกินกาแฟกันอีกรอบก่อนไปMuseum Camaraที่ Wheeler’s Coffee ร้านนี้ติดท็อปรีวิวอยู่หลายเว็บเลยล่ะเจ้าของร้านนิสัยดี
MuseumCamaraเป็นตึก2ชั้นชั้นแรกจะขายของที่ระลึกและร้านกาแฟชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ต้องเสียค่าเข้าชม200 บาท…แต่พวกเราเลือกที่จะไม่เข้าเพราะว่ามันแพงเกินเลยกันไปเดินที่อีกต่อกางแผนที่อีกครั้งเฮ้ยยไปไหนดีสรุปเลยเดินไปหาร้านกาแฟที่ชื่อว่าMoustacha Houzeแทนซึ่งเป็นร้านที่พวกเราเคยอ่านรีวิวไว้ก่อนจะมา
ระหว่างทางเราก็เจอArtหลายๆตัวที่ตามหา
บรรยากาศหน้าร้านเป็นตึกพาณิชย์ค่ะ
นั่งชิวกาแฟได้ไม่ได้ ก็ต้องรีบกลับโฮลเพื่อไปรอรถมารับมาที่นัดคือบ่าย3โมง เฮ้อออหมดเวลาสนุกจบทริปนั่งรถกันตูดานกลับภูเก็ตอีก
See you next time Penang..
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น