[CR] ทริปตรัง ฤดูฝน (7-9/7/57)

ทริปตรัง 7-9/7/57 (ตรัง..ฤดูฝนพรำ)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน รีวิวแรกในชีวิต ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน่ะค่ะ ^^ ทริปนี้เราจองโปรหางแดงข้ามปีกันค่ะ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองวันที่ 7/7/57 เวลา 07.30 น. หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเหินฟ้าสู่จังหวัดตรังกันเลยค่ะ



ถึงตรังเวลาประมาณ 09.00 น.

เราจองรีสอร์ทไว้ล่วงหน้า "บ้านเจ้าไหมบีชรีสอร์ท" โดยได้นัดหมายให้รถตู้ของทางรีสอร์ทมารับที่สนามบิน รถตู้แบบไพรเวท (จริงๆฤดูมรสุมแบบนร้ก็คงมีแต่กรุ๊ปเราที่มาเที่ยวแหละค่ะ 555+) ราคา 1,200 บาท เค้าจะพาเราเที่ยวครึ่งวันเต็มค่ะ จุดแรกที่พาไปก็จะเป็บร้านติ่มซำชื่อดังของย่านนั้น มีทั้งขนมจีน และกาแฟที่อร่อยมากค่ะ

หลังจากอิ่มกันแล้วก็พาเราไปต่อกันที่สถานีรถไฟกันตัง สุดสายปลายทางอันดามันค่ะ บริเวณโดยรอบคลาสสิคดีค่ะ วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาจึงไม่มีผู้คนพลุกพล่านให้เห็น บรรยากาศเงียบสงบแบบน่าหลงไหลจริงเลย



หลังจากนั้นก็พาเราไปต่อกันที่บ้านเจ้าเมืองตรัง "เจ้าพระยารัษฎาฯ" เป็นบ้านเก่า มีของใช้โบราณหลายชิ้น หากใครมีโอกาศไปตรังอยากให้แวะไปน่ะค่ะ



และก็ไปต่อกันที่จุดชมวิวเมืองตรังค่ะ วิวสวยมากๆเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาไว้โอกาศหน้าจะนำมาให้ชม และก็ต่อกันด้วย "วนอุทยานบ่นน้ำร้อนกันตัง" สวยงามมากค่ะ ธรรมชาติสุดๆ มีหลายบ่อ อุญหภูมิแตกต่างกันไป มีธารน้ำตกเล็กๆ ถ้ามีเวลา ต้องอยู่ที่นี่นากว่านี้แน่นอนค่ะ...




หลังจากตระเวณไปหลายที่เราก็มุ่งหน้าสู่รีสอร์ทกันค่ะ ระหว่างทางคุณพี่รถตู้ก็ใจดีแวะให้เราได้ซื้ออาหารเครื่องดื่มและของใช้ที่จำเป็นอื่นๆที่ต้องการค่ะ เนื่องจากรีสอร์ทค่อนข้างห่างไกล ไม่มีตลาดแลหมู่บ้านคน เราจึงต้องซื้อของไปให้พร้อมค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วหากไปในฤดูท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบรีสอร์ทจะเป็นร้านอาหารริมทะเลเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับฤดูนี้ร้านค้าปิดหมดค่ะ เนื่องจากเป็นฤดูมรสุม
เมื่อถึงรีสอร์ทแล้วประทับใจมากค่ะ ไม่มีฝนน่ะค่ะ แต่จะเป็นคลื่นลมแรงค่ะ คลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร เราจึงไม่สามารถลงเล่นน้ำได้  แต่แค่ยืนอยู่ตรงนั้น วิวและบรรยากาศขนาดนั้นมันก็สุดยอดแล้วค่ะ




บอกกับตัวเองไว้เลยว่าต้องมาแก้มือรอบหน้าแน่ๆๆ จากห้องพักเดินลงทะเลได้เลยค่ะ บรรยากาศเงียบสงบมาก เราก็ให้เด็กๆวิ่งเล่นจับปูลมอยู่ริมหาดค่ะ







ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็นั่งชิวบรรยากาศกันไป ฟินกันเลยทีเดียว  ก่อนจะค่ำ เจ้าของรีสอร์ทใจดีค่ะพาเราขับรถเก๋งส่วนตัวออกไปร้านอาหารที่ถัดออกไปไม่ไกลเพื่อไปซื้ออาหารเย็นมาไว้ทานค่ะเนื่องจากทางรีสอร์ทไม่มีบริการ จบไปกับวันแรก เหนื่อย เพลียแต่สนุกมากค่ะ

วันที่ 2 ...วันนี้เราวางแผนไว้ว่าถ้าคลื่นลมไม่แรงเหมือนเมื่อวาน เราจะได้ออกทะเลไปดำน้ำดูปะการังกันค่ะ แต่เนื่องจากคลื่นทะเลยังแรงอยู่ไม่สามารถออกทะเลได้เราจึงมีการเปลี่ยนแผน 2 ค่ะ เรามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง เพื่อเที่ยวในเมือง ซึ่งจังหวัดตรังนี้ที่เที่ยวในเมืองมีเยอะมากๆค่ะ เวลาประมาณ 9.00 น. พี่รถตู้คันเดิมก็มารับเราออกเดินทางข้ามอำเภอแวะไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนพื้นที่ค่ะ (ค่าใช้จ่ายในการพาที่ยวเต็มวัน + กับพาเราตระเวณหาที่พักคืนที่ 2 ในเมือง ราคาอยู่ที่ 1,200 บาท เท่าเดิมค่ะ)


และก็ไปต่อกันที่ การแกะสลักไม้ของคนพื้นที่ค่ะแปลกตาดี



หลังจากนั้นพี่รถตู้ก็พาแวะกินแวะเที่ยวอีกหลายที่ แต่มีจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจมากๆคือที่นี่ค่ะ "ถ้ำเล เขากอบ"


เราต้องนอนในเรือเพื่อลอดเข้าไปในถ้ำค่ะ ไปชนหินงอก หินย้อย และถ้ำต่างๆด้านใน แต่ที่ไคลแม็กสุดๆ คือการ นอนลอดท้องมังกรค่ะ เราต้องนอนชนิดที่หน้าเราแนบติดกับหินเลยค่ะ เพราะเป็นจุดเตี้ยสุดของถ้ำที่ขนาบอยู่กับพื้นน้ำใต้ถ้ำค่ะ เราไม่สามารถเข้าได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าช่วงไหนที่เข้าได้ บางครั้งนักท่องเที่ยวมาแล้วก็เข้าไม่ได้ก็มีค่ะ พี่ไกด์บอกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติบางคน บินมาเพื่อมาลอดถ้ำนี้ปีละ 1 ครั้งเลยทีเดียวค่ะ มันอธิบายไม่ถูกว่าสุดเสียวขนาดไหน อยากให้เพื่อนๆที่มีโอกาศได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองน่ะค่ะ สนุก สุดยอดมากๆ หวาดเสียวสุดๆค่ะ









หลังจากนั้น เราไปเดินศุกษาธรรมชาติที่ สะพานเรือนยอดไม้กันค่ะ เดินชมนก ชมไม้ไปเรื่องๆ ไกลเอาเรื่องอยู่ค่ะ เรียกว่าเดินเข้าป่าอ้อมเขากันเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นวันธรรมดา จึงไม่มีเพื่อนร่วมทางเลยค่ะ ค่อนข้างเงียบเอาเรื่องเลย เดินไปก็มีฝนตกไปตลอดทาง เจอฝนหนักก็ต้องหาที่หลบค่ะ สงสารเด็กๆมาก เพราป่าจริงๆ ไม่มีที่หลบเลย เปียกกันหมดเลยค่ะ แต่ก็สนุกดีได้ผจญภัยไปอีกแบบ





ได้เวลาใกล้เย็นแล้วค่ะ พี่รถตู้ก็พาเราไปตระเวณหาที่พักในเมือง ขับถามอยู่สักสองสามที่ เราก็ได้พักที่นี่ค่ะ "โรงแรมมธรรมรินทร์ ธนา" เนื่องจากกลัวเด็กๆจะเบื่อค่ะ เลยต้องหาที่พักมีสระว่ายน้ำให้สักหน่อย เพราะมาถึงทะเลก็ไม่ได้เล่นน้ำทะเลไปแล้ว น้ำสระก็ยังดีค่ะ ราคาไม่แพงน่ะค่ะ พันนิดๆ




พอเริ่มค่ำ เราก็เดินไปในเมืองค่ะ ไปหาอาหารค่ำกินกัน เดินวนไปมาจนได้รอบเมืองเลยค่ะ ของกินหาไม่ยากค่ะ แต่เราเดินเลือกไปเรื่อยๆ ได้บรรยากาศแปลกตาไปอีกแบบค่ะ

จบวันที่ 2 เหนื่อยมากค่ะวันนี้ เดินทั้งวันจริงๆ ขอพักเอาแรงซักหน่อย พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพแล้ว....
เช้าวันที่ 3 .... วันนี้เราก็ตื่นกันแต่เช้ามืดค่ะ รีบเดินออกไปนอกโรงแรม มีตลาดเช้าแบบชาวบ้านจริงๆค่ะ ผู้คนกำลังสัญจรไปมา เด็กๆกำลังเดินทางไปโรงเรียน อาหารและของกินในตลาดเป็นแบบชาวบ้านจริงๆ เดินชิมของกินขึ้นชื่อ หมูย่างเมืองตรัง ชิมติ่มซำกับกาแกยามเช้าแบบฉบับคนเมืองตรัง และหาซื้อของพื้นเมืองกลับไปฝากเพื่อน แถมได้ในราคาถูกแบบฉบับชาวบ้านจริงๆค่ะ บอกได้เลยว่า หลงรับเสน่ห์ของคนเมืองคนตรังซะแล้ว...เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมัวแต่ฟินกับบรรยากาศอยู่ค่ะ 555+
เวลาประมาณ 8.30  น. เราก็กลับเข้าที่พักในโรงแรมเพื่อทางบุฟเฟ่อาหารเช้าของโรงแรมกันค่ะ และก็ปล่อยเด็กๆเล่นน้ำสักพัก จึงเตรียมตัวเช็คเอ้าท์กันค่ะ แต่เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกมาก เราจึงเหมาสามล้อหัวกบ คุณลุงใจดีมากๆๆอีกแล้วค่ะ คิดเราในราคา 300 บาท พาเราเที่ยวหลายๆที่ พาแวะซื้อของฝาก และซื้อผ้าพื้นเมือง แวะบ้านท่านชวน  หลีกภัย กันด้วยค่ะ






ก่อนกลับสนามบินคุณลุงพาแวะร้านกาแฟโบราณ ขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ อยู่ติดกับสถานีรถไฟตรัง เราก็นั่งจิบกาแฟพร้อมของขึ้นชื่อของที่ร้าน แล้วก็ไปเดินเล่นกันที่สถานีรถไฟตรังกันค่ะ




ถึงเวลาต้องกลับกับจริงๆแล้วค่ะ .....



หากมีเวลาครอบครัวเราต้องกลับไปเที่ยวซ้ำรอยเดิม ที่จังหวัดตรังนี้แน่นอนค่ะ  
(ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามอ่านน่ะค่ะ ^^)
ชื่อสินค้า:   ตรัง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่