ส่วนหนึ่งจากประสบการณ์ตรงนะ อาจเป็นการเล่าแบ่งปันส่วนหนึ่ง และ ฝากถึงน้องๆ ส่วนหนึ่ง
พี่เป็นเกย์แหละ ออกตัวว่าเรียนจบมาเกือบ 10 ปีแล้ว ตอนพี่อายุ 18 ก็เข้าปี 1 ในมหาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ไม่เคยคิดเรื่องเตรียมตัวโดนรับน้อง แต่ส่วนตัวเนื่องจากมาจากสังคมตจว.อยู่แล้ว เรื่องเหนื่อยนี่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แถมเป็นเด็กที่ชอบเข้าค่ายมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ถ้าเราเต็มใจจะร่วมกิจกรรม ส่วนตัวตั้งใจเคยเข้าไปค่ายพิเศษเพื่อฝึกการเป็นพี่ว๊ากด้วยซ้ำ โชคดีที่เจอพี่ที่คณะเค้ามีการรับน้องมาเกือบ 60 ปี วัฒนธรรมการรับน้องค่อนข้างสร้างสรรค์มากๆ ไม่มีคำหยาบ เคารพกฎของมหาลัย สี่ทุ่มต้องเลิกกิจกรรมทั้งหมดไม่มีการเรียกมาตี1ตี2 เน้นครีเอทกิจกรรมสนุกๆ แต่งเพลง ออกแบบท่าเต้น ที่แน่ๆ คือไม่มีการโดนตัวน้องเด็ดขาด ไม่มีการสั่งทำโทษที่ทำให้อาจอันตรายเด็ดขาด จะเน้นฝึกวินัยมากกว่า และที่สำคัญคือ "ความสมัครใจ" น้องคนไหนไม่อยากร่วม คือบังคับไม่ได้ ไม่ตาม ไม่กดดัน
คือสรุปโดยรวม การ "รับน้อง" ของคณะ และมหาลัยที่จบมาโอเคมาก ได้เพื่อนทั้งในและต่างคณะ ได้เพลงรุ่น เพลงมหาลัย ได้ท่าเต้น ร้องเพลงที่มหาลัยใช้บ่อยๆได้ เวลาไปร่วมกิจกรรมรวมทำให้เราไม่เขิน และพร้อมไปกับกิจกรรมตรงนั้น ซึ่งเรามองว่า เออ นี่แหละ "รับน้อง" มีได้ และอยากให้มีต่อไป
แต่ปัญหาที่เจอคือ การรับน้องที่เกย์หรือกะเทย หรือ รับน้องโดยเจ้ๆกะเทย ซึ่งจะ มีทั้งเลเวลมหาลัย เลเวลวิทยาเขต เลเวลคณะ (อันนี้คงขึ้นอยู่กับแต่ละมหาลัยว่าเลเวลไหนจะมีอิทธิพลกว่ากัน) บางมหาลัยอาจไม่มีเลย แต่เชื่อว่าส่วนมากยังมีอยู่ แต่เลเวลของการบังคับต่างกัน
เลเวลมหาลัย: อันนี้แล้วแต่ว่าคณะที่เราเรียนมีเจ้ๆพวกนี้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะโดนคัดตอนรับน้องรวม อาจจะเจอรุ่นพี่คณะอื่นมาคัดตัวบ้าง คือดูแววแหละว่าใครสาวอันนี้โดนจับแยกไปแน่ๆ กับถามว่าใครเป็นบ้าง เช่น ให้ทั้งคณะก้มหน้า แล้วให้ยกมือ (เผื่อบ้างคนแอ๊บ) ในจังหวะนี้ใครโดนคัดไปก็จะโดนแยกไปคุย จดชื่อ อาจะมีการมอบหมายให้พี่ในคณะไปดูแลต่อ หรือว๊ากรวมกับทุกคณะที่โดยคัดมา ส่วนที่มหาลัยเราค่อนข้างใหญ่ก็จะเป็นแบบแรกมากกว่าเพราะยากที่จะรวมทุกคณะมาว๊ากได้ แถมมีหลายวิทยาเขต ดังนั้นก็จะมี Head ของแต่วิทยาเขตกลายๆ ให้ไปดำเนินการต่อ
เลเวลวิทยาเขต: อันนี้น่าจะเทียบเคียงกับเลเวลมหาลัยของหลายๆที่ได้ที่มีวิทยาเขตหลักที่เดียว น้องส่วนหนึ่งได้รับการนัดหมายและส่งต่อมาจากการรับน้องรวม ส่วนอีกส่วนคือพวกที่หลุดรับน้องรวมมาได้หรือไม่ได้เข้ารับน้องรวม ซึ่งพวกเจ้ๆที่วิทยาเขตจะเป็นคนไปคัดมาอีกรอบ หรือสน้องที่โดนคัดมาแล้วให้ไปพาเพื่อนที่เป็นเกย์หรือกะเทยมา ซึ่งต้องบอกก่อนว่าจุดนี้ใครที่ไม่อยากเข้าร่วมก็สามารถทำได้ แต่ ก็จะโดนกดดันทางจิตวิทยา เช่น เดินไปเจอก็จะโดนกะแหนะกะแหนแซวจากเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เข้าแล้วเราไม่รู้จักด้วยซ้ำ เช่น สวยนะ อย่าให้รู้ว่าร่านเงียบ บลาๆๆ หรือ เชิดใส่ (คือพี่เป็นคนนึงที่ไม่เข้าแน่ๆ เลยโดนบ่อยมาก จนงงว่า ตกลงกูสวยจริงๆ ใช่มะ 5555+) แต่ในนาทีนั้นสำหรับเด็ก 18 ยอมรับแหละว่ากดดัน และพวกรุ่นเดียวกันที่เข้าไปรับจะโดนสั่งห้ามไม่ให้มายุ่งกับเรา คือแทนที่เราจะมีเพื่อนกะเทยหรือเกย์จากต่างคณะเยอะๆ จะโดนตรงนี้ตัดไป ซึ่งส่วนตัวโชคดีที่คบได้หมด เลยมีทั้งเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนผู้ชายเยอะอยู่แล้ว และเพื่อนที่เป็นคณะเดียวกันที่เป็นรูมเมทไม่เข้า เลยชิลๆ ไป
Ref. อันนี้ที่น้องๆมหาลัยอื่นเคยโดน คล้ายๆกัน
http://pantip.com/topic/32633828
เลเวลคณะ: อันนี้จะคล้ายๆ เลเวลวิทยาเขต แต่อันนี้สงสารบางคณะที่มีเจ๊เป็น Head และมีเก้งกวางเยอะๆจะโดนกดดันหนักกว่าเรามากกกกกกกกกกกกกก คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าโดนแบบนั้นจะเป็นยังไง สรุป ใครไปเรียนคณะที่กะเทยเยอะ เช่นแนว ศึกษา อักษร จะโดนกดดันหนักว่าคณะที่ไม่ค่อยมีกะเทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่มหาลัยเราไม่เคยได้ยินเรื่องทำร้ายร่างกายนะ แต่ทำรายจิตใจมีแน่ๆ และค่อนข้างหนักสำหรับคนที่ไม่ยอมเข้ากลุ่ม คือโดนกีกกันจนแทบไม่มีเพื่อนเลย หลายคนทนไม่ไหวก็อาจลาออกไป เพราะยอมรับว่าสมัยอายุ 18-19 เพื่อนคือสำคัญสุดอะเนอะ
พอขึ้นปี 2 ก็เริ่มชิลๆละ เพราะเจ๊ๆจะหันไปจัดการน้องปี 1 แทน
ส่วนตัวมีประสบการณ์ไปทำลายพิธีกรรมของพวกเจ๊ๆด้วย เพราะมีคืนนึงที่น้องคณะเราโดนเรียกไปทำพิธีอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมีน้องบางคนไม่อยากไป ฝากเพื่อนมันมากระซิบรุ่นพี่ เพราะพิธี

จัดกันเองไม่ขออนุญาต รุ่นพี่คณะเราก็ไม่มีใครรู้ เราตอนนั้นเป็นกรรมการคณะด้วยเลยพาพวกไปหาอาจารย์และพากันบุกถึงห้องเลยจร้า วงแตก เปิดไปเจอ ปิดไฟจุดธูปจุดเทียนใส่ส้นสูง ทาปากแดง บลาๆ ดูโรคจิตมากอะ แต่ก็พาน้องๆ คณะเราออกมาทั้งหมด เพราะคณะเราไม่มีเจ๊ที่มาทำอะไรแบบนี้ พร้อมกำชับว่าถ้ามีอะไรแบบนี้อีกให้มาบอกอาจารย์รึรุ่นพี่ เพราะคณะไม่อนุญาต หลังจากนั้นพวกเจ๊รุ่นพี่อีกคณะก็แทบไม่มายุ่งกับน้องๆ เราอีก ถือว่าสร้างคุณงานความดีไว้ให้น้องๆ เบาๆ เก๋ๆ
รุ่นพี่คณะที่ไม่เห็นด้วยกับกการรับน้องแบบผิดๆ อยากให้ออกมาปกป้องน้องๆ ของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดเรื่องกับน้องตัวเอง ไม่สนใจ ไหนว่ารักกันนักหนา นี่แหละสิ่งพิสูจน์ว่าเราทำเพื่อคณะของเรา เพื่อน้องของเราจริงๆ
สรุป
พี่ขอฝากถึงน้องๆ ที่"เป็น" และมั่นใจว่ายังไงก็จะไม่เข้าว่าน้องต้องใจแข็งมากพอสมควร มองภาพกว้างๆ ของการเรียนมหาลัย และคบเพื่อนเยอะๆ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแกงค์เกย์ แกงค์กะเทย มองว่าสำหรับเกย์ยังพอโอเคนะ แต่ถ้าน้องเป็นเกย์สาวมากๆ หรือ กะเทยแต่งหญิงจะโดนกดดันหนักมากหากไม่เข้า แต่ให้มั่นใจว่าเรามาเรียน ไม่ได้มาเป็นที่ระบายอารมณ์รุ่นพี่ ถ้ามีปัญหาจริงๆ ก็ให้เรื่องถึงอาจารย์ไปเลย ไม่ต้องกลัวใครหาว่าขี้ฟ้อง เพราะเรายังเป็นเด็ก ไม่มี power พอไปต่อกรกับอำนาจมืดแบบผิดๆ จากรุ่นพี่บางจำพวก พอผ่านปีแรกไปได้ชีวิตจะดีเอง และเมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นว่า

เรื่องเล็กมากๆ ไม่ต้องกลัวจะไม่มี connection เพราะเรายังเรียนอีกหลายปี มีกิจกรรมอีกเยอะให้ทำ
ส่วนน้องที่ตั้งใจจะไปเข้า อันนี้ห้ามไม่ได้ แต่ขอเถอะอย่ากดดันเพื่อนรุ่นเดียวกัน รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ถูกต้องก็อย่าทำ ขอให้เป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละคนละกัน ถ้าโดนสั่งมาก็อยู่เฉยๆไปก็ได้ เพราะสุดท้ายเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่กับเราอีก 4 ปีสำคัญกว่ารุ่นพี่โรคจิต/หลงผิดแน่นอน เชื่อพี่เถอะ
ประสบการณ์เกี่ยวกับรับน้องกะเทย, ฝากถึงน้องๆเกย์กะเทยที่กำลังจะเข้ามหา'ลัย และหวั่นใจกับระบบแบบนี้
พี่เป็นเกย์แหละ ออกตัวว่าเรียนจบมาเกือบ 10 ปีแล้ว ตอนพี่อายุ 18 ก็เข้าปี 1 ในมหาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ไม่เคยคิดเรื่องเตรียมตัวโดนรับน้อง แต่ส่วนตัวเนื่องจากมาจากสังคมตจว.อยู่แล้ว เรื่องเหนื่อยนี่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แถมเป็นเด็กที่ชอบเข้าค่ายมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ถ้าเราเต็มใจจะร่วมกิจกรรม ส่วนตัวตั้งใจเคยเข้าไปค่ายพิเศษเพื่อฝึกการเป็นพี่ว๊ากด้วยซ้ำ โชคดีที่เจอพี่ที่คณะเค้ามีการรับน้องมาเกือบ 60 ปี วัฒนธรรมการรับน้องค่อนข้างสร้างสรรค์มากๆ ไม่มีคำหยาบ เคารพกฎของมหาลัย สี่ทุ่มต้องเลิกกิจกรรมทั้งหมดไม่มีการเรียกมาตี1ตี2 เน้นครีเอทกิจกรรมสนุกๆ แต่งเพลง ออกแบบท่าเต้น ที่แน่ๆ คือไม่มีการโดนตัวน้องเด็ดขาด ไม่มีการสั่งทำโทษที่ทำให้อาจอันตรายเด็ดขาด จะเน้นฝึกวินัยมากกว่า และที่สำคัญคือ "ความสมัครใจ" น้องคนไหนไม่อยากร่วม คือบังคับไม่ได้ ไม่ตาม ไม่กดดัน
คือสรุปโดยรวม การ "รับน้อง" ของคณะ และมหาลัยที่จบมาโอเคมาก ได้เพื่อนทั้งในและต่างคณะ ได้เพลงรุ่น เพลงมหาลัย ได้ท่าเต้น ร้องเพลงที่มหาลัยใช้บ่อยๆได้ เวลาไปร่วมกิจกรรมรวมทำให้เราไม่เขิน และพร้อมไปกับกิจกรรมตรงนั้น ซึ่งเรามองว่า เออ นี่แหละ "รับน้อง" มีได้ และอยากให้มีต่อไป
แต่ปัญหาที่เจอคือ การรับน้องที่เกย์หรือกะเทย หรือ รับน้องโดยเจ้ๆกะเทย ซึ่งจะ มีทั้งเลเวลมหาลัย เลเวลวิทยาเขต เลเวลคณะ (อันนี้คงขึ้นอยู่กับแต่ละมหาลัยว่าเลเวลไหนจะมีอิทธิพลกว่ากัน) บางมหาลัยอาจไม่มีเลย แต่เชื่อว่าส่วนมากยังมีอยู่ แต่เลเวลของการบังคับต่างกัน
เลเวลมหาลัย: อันนี้แล้วแต่ว่าคณะที่เราเรียนมีเจ้ๆพวกนี้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะโดนคัดตอนรับน้องรวม อาจจะเจอรุ่นพี่คณะอื่นมาคัดตัวบ้าง คือดูแววแหละว่าใครสาวอันนี้โดนจับแยกไปแน่ๆ กับถามว่าใครเป็นบ้าง เช่น ให้ทั้งคณะก้มหน้า แล้วให้ยกมือ (เผื่อบ้างคนแอ๊บ) ในจังหวะนี้ใครโดนคัดไปก็จะโดนแยกไปคุย จดชื่อ อาจะมีการมอบหมายให้พี่ในคณะไปดูแลต่อ หรือว๊ากรวมกับทุกคณะที่โดยคัดมา ส่วนที่มหาลัยเราค่อนข้างใหญ่ก็จะเป็นแบบแรกมากกว่าเพราะยากที่จะรวมทุกคณะมาว๊ากได้ แถมมีหลายวิทยาเขต ดังนั้นก็จะมี Head ของแต่วิทยาเขตกลายๆ ให้ไปดำเนินการต่อ
เลเวลวิทยาเขต: อันนี้น่าจะเทียบเคียงกับเลเวลมหาลัยของหลายๆที่ได้ที่มีวิทยาเขตหลักที่เดียว น้องส่วนหนึ่งได้รับการนัดหมายและส่งต่อมาจากการรับน้องรวม ส่วนอีกส่วนคือพวกที่หลุดรับน้องรวมมาได้หรือไม่ได้เข้ารับน้องรวม ซึ่งพวกเจ้ๆที่วิทยาเขตจะเป็นคนไปคัดมาอีกรอบ หรือสน้องที่โดนคัดมาแล้วให้ไปพาเพื่อนที่เป็นเกย์หรือกะเทยมา ซึ่งต้องบอกก่อนว่าจุดนี้ใครที่ไม่อยากเข้าร่วมก็สามารถทำได้ แต่ ก็จะโดนกดดันทางจิตวิทยา เช่น เดินไปเจอก็จะโดนกะแหนะกะแหนแซวจากเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เข้าแล้วเราไม่รู้จักด้วยซ้ำ เช่น สวยนะ อย่าให้รู้ว่าร่านเงียบ บลาๆๆ หรือ เชิดใส่ (คือพี่เป็นคนนึงที่ไม่เข้าแน่ๆ เลยโดนบ่อยมาก จนงงว่า ตกลงกูสวยจริงๆ ใช่มะ 5555+) แต่ในนาทีนั้นสำหรับเด็ก 18 ยอมรับแหละว่ากดดัน และพวกรุ่นเดียวกันที่เข้าไปรับจะโดนสั่งห้ามไม่ให้มายุ่งกับเรา คือแทนที่เราจะมีเพื่อนกะเทยหรือเกย์จากต่างคณะเยอะๆ จะโดนตรงนี้ตัดไป ซึ่งส่วนตัวโชคดีที่คบได้หมด เลยมีทั้งเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนผู้ชายเยอะอยู่แล้ว และเพื่อนที่เป็นคณะเดียวกันที่เป็นรูมเมทไม่เข้า เลยชิลๆ ไป
Ref. อันนี้ที่น้องๆมหาลัยอื่นเคยโดน คล้ายๆกัน
http://pantip.com/topic/32633828
เลเวลคณะ: อันนี้จะคล้ายๆ เลเวลวิทยาเขต แต่อันนี้สงสารบางคณะที่มีเจ๊เป็น Head และมีเก้งกวางเยอะๆจะโดนกดดันหนักกว่าเรามากกกกกกกกกกกกกก คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าโดนแบบนั้นจะเป็นยังไง สรุป ใครไปเรียนคณะที่กะเทยเยอะ เช่นแนว ศึกษา อักษร จะโดนกดดันหนักว่าคณะที่ไม่ค่อยมีกะเทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่มหาลัยเราไม่เคยได้ยินเรื่องทำร้ายร่างกายนะ แต่ทำรายจิตใจมีแน่ๆ และค่อนข้างหนักสำหรับคนที่ไม่ยอมเข้ากลุ่ม คือโดนกีกกันจนแทบไม่มีเพื่อนเลย หลายคนทนไม่ไหวก็อาจลาออกไป เพราะยอมรับว่าสมัยอายุ 18-19 เพื่อนคือสำคัญสุดอะเนอะ
พอขึ้นปี 2 ก็เริ่มชิลๆละ เพราะเจ๊ๆจะหันไปจัดการน้องปี 1 แทน
ส่วนตัวมีประสบการณ์ไปทำลายพิธีกรรมของพวกเจ๊ๆด้วย เพราะมีคืนนึงที่น้องคณะเราโดนเรียกไปทำพิธีอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมีน้องบางคนไม่อยากไป ฝากเพื่อนมันมากระซิบรุ่นพี่ เพราะพิธี
รุ่นพี่คณะที่ไม่เห็นด้วยกับกการรับน้องแบบผิดๆ อยากให้ออกมาปกป้องน้องๆ ของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดเรื่องกับน้องตัวเอง ไม่สนใจ ไหนว่ารักกันนักหนา นี่แหละสิ่งพิสูจน์ว่าเราทำเพื่อคณะของเรา เพื่อน้องของเราจริงๆ
สรุป
พี่ขอฝากถึงน้องๆ ที่"เป็น" และมั่นใจว่ายังไงก็จะไม่เข้าว่าน้องต้องใจแข็งมากพอสมควร มองภาพกว้างๆ ของการเรียนมหาลัย และคบเพื่อนเยอะๆ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแกงค์เกย์ แกงค์กะเทย มองว่าสำหรับเกย์ยังพอโอเคนะ แต่ถ้าน้องเป็นเกย์สาวมากๆ หรือ กะเทยแต่งหญิงจะโดนกดดันหนักมากหากไม่เข้า แต่ให้มั่นใจว่าเรามาเรียน ไม่ได้มาเป็นที่ระบายอารมณ์รุ่นพี่ ถ้ามีปัญหาจริงๆ ก็ให้เรื่องถึงอาจารย์ไปเลย ไม่ต้องกลัวใครหาว่าขี้ฟ้อง เพราะเรายังเป็นเด็ก ไม่มี power พอไปต่อกรกับอำนาจมืดแบบผิดๆ จากรุ่นพี่บางจำพวก พอผ่านปีแรกไปได้ชีวิตจะดีเอง และเมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นว่า
ส่วนน้องที่ตั้งใจจะไปเข้า อันนี้ห้ามไม่ได้ แต่ขอเถอะอย่ากดดันเพื่อนรุ่นเดียวกัน รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ถูกต้องก็อย่าทำ ขอให้เป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละคนละกัน ถ้าโดนสั่งมาก็อยู่เฉยๆไปก็ได้ เพราะสุดท้ายเพื่อนร่วมรุ่นที่อยู่กับเราอีก 4 ปีสำคัญกว่ารุ่นพี่โรคจิต/หลงผิดแน่นอน เชื่อพี่เถอะ