อยากจะตะโกนดังๆ อร้ากกกๆ แคร่กๆ แต่คงไม่มีใครเข้าใจ
แต่จะโทษใคร ก็คงต้องโทษตัวเอง ที่มีความอยากเผือกมากเกินไป
จากเคยเจอทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกวันสมัยเรียนมหาลัย พอถึงวัยทำงานก็ต้องแยกย้ายกัน นานๆทีเจอ ด้วยความที่เราทั้งคู่ทำงานกันคนละที่คนละทิศละทาง เรียกได้ว่า 2 เดือนเจอกันทีก็ว่าได้ เจอกันบ้าง ค้างบ้าง 2 3 วัน โอโห้ พูดมาถึงตรงนี้ แรดเลยฉัน 555555 (ปวดหัวปวดตับ นิ้วดีดไปสัมผัสกระหม่อม) อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังวางแพลนจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยค่ะ ชีวิตคู่ที่ใครๆก็เรียกว่า "อีน้องเอ้ยยย อันเนี้ยชีวิ้ดดดดจิ๋ง ... ตี้ผ่านมาหนา เปิ้นฮ้อง น้ำจิ้ม ! อิน้อง!"
เราทั้งคู่เนี่ยเรียกว่า ให้เกียรติกันมากนะ ไม่เคยต้องถามว่าไปไหน ทำไร หายไปไหน คือเหมือนมันทำเป็นนิสัยไปแล้วอ่ะ เธอๆไม่ต้องถาม เดี๋ยวฉันเสนอหน้าเอง 55555 ไม่ใช่อ่ะไรหรอก จะไปไหน ทำไร กลับกี่โมง กับใคร เราบอกกันเสมอโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องอ้าปากถามเลยสักนิด โทรซงโทรศัพท์ เฟสไลน์ รู้รหัสของกัน แต่ไม่เคยเช็คกันหรอก ให้เกียรติไงให้เกียรติ รักกันก็ต้องเชื่อใจกันซี้ ถึงจะไปกันรอด ถูกปร้าาา...
แต่เกียรติที่เคยให้ในส่วนของเรื่องส่วนตัว ขอเอาคืนวันนึงได้ป่ะ ( นั่นไง อินี่ชอบเผือก )
วันนั้นดิฉันก็ไปเจอคุณแฟน เล่นเกมโทรศัพท์ด้วยกัน แล้วแชทคุณแฟนก็เด้งดึ้งๆ ดิฉันก็ส่งให้นางตอบแชท นางก็ให้เราตอบให้ เพราะนางไม่อยากวางเกมที่เล่นโทรศัพท์ดิฉันอยู่ ฉันตอบให้ ตอนเปลี่ยนไปตอบอีกคน ดันตาสีตาสาตาเสือ.ก อยากเผือกนั่นเอง (ไม่น่าเลย) เราเลือกมาสักแชทนึง โป๊ะเช้ะ !!!! ร้องเช้ดเลยจ้า) คุยกันมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวเซาม้าก สรรพนงสรรพนามส่วนตัวด้วย จะว่าใจแคบก็ได้นะ
นี่คือความเผือกครั้งที่ 1
ดิฉันเนี้ยเคยเสียนิสัยชอบเผิอกเรื่องส่วนตัวของคุณแฟนมาทีละสมัยคบแรกๆ อยากจะรู้ว่ากับคนอื่นเธอเป็นไง วางตัวยังไง เปิดดูแชท 3 4 คน ปรากฎว่า ทุก4คนที่ส่อง ใช้สรรพนามส่วนตัวกัน 3 คนจ้า เกิดไฟกรุ่นๆ นี่เมิงมุ้งมิ้งกันจังเลยฟระ T^T แล้วดิฉันเลือกเงียบไม่ถาม ทำตัวปกติ แต่มาถามในพันติ้บเอา ขอพึ่งคำแนะนำผู้คนหลากมากประสบการณ์และไม่เคยเจอรู้จักกัน 55555555 ดิฉันชอบคุยกับคนนอกค่ะ เพราะคิดว่ามองได้หลายมุมดี ดิฉันมันมองเห็นแต่มุมตัวเองไง ถามตอนนั้นมันก็นานมากละประมาณว่า พี่คะแฟนหนูกับเพื่อนสางของเค้ามีสรรพนามเฉพาะแทนกันด้วยอ่ะ เค้ามุ้งมิ้งกันมาเลออออ หนูนี่ใจแคบมากเลยใช่ไหมคะที่รู้สึกไม่พอใจเนี่ย ฟีดแบคกลับมาอย่างเร็วไว ทันใจมากค่ะ "หนูใจแคบมากค่ะ ให้เค้ามีมุมส่วนตัวของเค้าบ้างสิ" เฮือก!!! หลากหลายคำตอบยำรวมกันแล้ว สรุปคือ ดิฉันใจแคบ ก็เลยถือคติว่า ไม่เผือก = สบายใจ 5555555
นี่คือการเผือกครั้งที่ 2 หลังจากเลือกแชทๆนึงที่เราเคยสงสัยคราวก่อนว่าต้องมีซัมติง...
ผ่าง !!!! "มานอนกับเค้าดิ"
นกบินในตาเลยจ้า นี่มันไม่ใช่การเจอครั้งแรก นี่เผือกครั้งที่ 2 ก็เจอประโยคแบบนี้ ช่วงเจอตอนเผือกครั้งแรกเราไม่ได้ใส่ใจตรงประโยคพวกนี้คิดว่าเค้าคุยกันเล่นๆ แต่พอเจอตอนเผือกครั้งที่2 ด้วยตามอายุวัยแล้วด้วยละนะ -*-
เพื่อนสาว : ...... (สรรพนามเฉพาะ)
คุณแฟน : ขาาาา
เพื่อนสาว : ทำไรอ่ะ อยู่ไหนเนี่ย
คุณแฟน : ดูหนัง อยู่... เนี่ย
เพื่อนสาว : จริงง่ะ มาตอนไหนเนี่ย ไม่บอกเลยน้า
คุณแฟน : ยิงติ้ก
เพื่อนสาว : มาหามั่ง
คุณแฟน : ไปแล้วให้นอนด้วยปะละ
เพื่อนสาว : มาดิ
เพื่อนสาว : เหงาจุง
คุณแฟน : มานอนกับเค้ามาา
เพื่อนสาว : ม่ายยย เดี๋ยวแฟนเธอว่า
.... (จริงๆยาวกว่านี้ เอาแค่ยกตัวอย่างก็พอ) ...
ดิฉันทำเป็นไม่มีไรเกิดขึ้น เลิกเผือกแล้วเปลี่ยนโทรศัพท์กันเพื่อแลกกันเล่นเกม มือเล่นเกม ตาจ้องเกม ปากพูดคุยเล่นกับคุณแฟนเรื่องเกม แต่ในหัวมันคุยกันว่า มึ้งงงง เพื่อนกันชวนไปนอนด้วยกันหรอว้าาา ถ้าเป็นคุณๆ จะยังคิดเหมิอนเดิมไหมคะว่า ทั้งคู่เนี่ย แค่คุยกันขำๆ เพราะเขาเป็นเพื่อนกันมาก่อน ที่คุณแฟนกับดิฉันจะเจอกัน และเพื่อนเขาก็ยังโสดสะเด้ย...
เผือกจนได้เรื่อง เมื่อสุดที่รักชวนสาวมานอนด้วย
แต่จะโทษใคร ก็คงต้องโทษตัวเอง ที่มีความอยากเผือกมากเกินไป
จากเคยเจอทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกวันสมัยเรียนมหาลัย พอถึงวัยทำงานก็ต้องแยกย้ายกัน นานๆทีเจอ ด้วยความที่เราทั้งคู่ทำงานกันคนละที่คนละทิศละทาง เรียกได้ว่า 2 เดือนเจอกันทีก็ว่าได้ เจอกันบ้าง ค้างบ้าง 2 3 วัน โอโห้ พูดมาถึงตรงนี้ แรดเลยฉัน 555555 (ปวดหัวปวดตับ นิ้วดีดไปสัมผัสกระหม่อม) อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังวางแพลนจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยค่ะ ชีวิตคู่ที่ใครๆก็เรียกว่า "อีน้องเอ้ยยย อันเนี้ยชีวิ้ดดดดจิ๋ง ... ตี้ผ่านมาหนา เปิ้นฮ้อง น้ำจิ้ม ! อิน้อง!"
เราทั้งคู่เนี่ยเรียกว่า ให้เกียรติกันมากนะ ไม่เคยต้องถามว่าไปไหน ทำไร หายไปไหน คือเหมือนมันทำเป็นนิสัยไปแล้วอ่ะ เธอๆไม่ต้องถาม เดี๋ยวฉันเสนอหน้าเอง 55555 ไม่ใช่อ่ะไรหรอก จะไปไหน ทำไร กลับกี่โมง กับใคร เราบอกกันเสมอโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องอ้าปากถามเลยสักนิด โทรซงโทรศัพท์ เฟสไลน์ รู้รหัสของกัน แต่ไม่เคยเช็คกันหรอก ให้เกียรติไงให้เกียรติ รักกันก็ต้องเชื่อใจกันซี้ ถึงจะไปกันรอด ถูกปร้าาา...
แต่เกียรติที่เคยให้ในส่วนของเรื่องส่วนตัว ขอเอาคืนวันนึงได้ป่ะ ( นั่นไง อินี่ชอบเผือก )
วันนั้นดิฉันก็ไปเจอคุณแฟน เล่นเกมโทรศัพท์ด้วยกัน แล้วแชทคุณแฟนก็เด้งดึ้งๆ ดิฉันก็ส่งให้นางตอบแชท นางก็ให้เราตอบให้ เพราะนางไม่อยากวางเกมที่เล่นโทรศัพท์ดิฉันอยู่ ฉันตอบให้ ตอนเปลี่ยนไปตอบอีกคน ดันตาสีตาสาตาเสือ.ก อยากเผือกนั่นเอง (ไม่น่าเลย) เราเลือกมาสักแชทนึง โป๊ะเช้ะ !!!! ร้องเช้ดเลยจ้า) คุยกันมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวเซาม้าก สรรพนงสรรพนามส่วนตัวด้วย จะว่าใจแคบก็ได้นะ
นี่คือความเผือกครั้งที่ 1
ดิฉันเนี้ยเคยเสียนิสัยชอบเผิอกเรื่องส่วนตัวของคุณแฟนมาทีละสมัยคบแรกๆ อยากจะรู้ว่ากับคนอื่นเธอเป็นไง วางตัวยังไง เปิดดูแชท 3 4 คน ปรากฎว่า ทุก4คนที่ส่อง ใช้สรรพนามส่วนตัวกัน 3 คนจ้า เกิดไฟกรุ่นๆ นี่เมิงมุ้งมิ้งกันจังเลยฟระ T^T แล้วดิฉันเลือกเงียบไม่ถาม ทำตัวปกติ แต่มาถามในพันติ้บเอา ขอพึ่งคำแนะนำผู้คนหลากมากประสบการณ์และไม่เคยเจอรู้จักกัน 55555555 ดิฉันชอบคุยกับคนนอกค่ะ เพราะคิดว่ามองได้หลายมุมดี ดิฉันมันมองเห็นแต่มุมตัวเองไง ถามตอนนั้นมันก็นานมากละประมาณว่า พี่คะแฟนหนูกับเพื่อนสางของเค้ามีสรรพนามเฉพาะแทนกันด้วยอ่ะ เค้ามุ้งมิ้งกันมาเลออออ หนูนี่ใจแคบมากเลยใช่ไหมคะที่รู้สึกไม่พอใจเนี่ย ฟีดแบคกลับมาอย่างเร็วไว ทันใจมากค่ะ "หนูใจแคบมากค่ะ ให้เค้ามีมุมส่วนตัวของเค้าบ้างสิ" เฮือก!!! หลากหลายคำตอบยำรวมกันแล้ว สรุปคือ ดิฉันใจแคบ ก็เลยถือคติว่า ไม่เผือก = สบายใจ 5555555
นี่คือการเผือกครั้งที่ 2 หลังจากเลือกแชทๆนึงที่เราเคยสงสัยคราวก่อนว่าต้องมีซัมติง...
ผ่าง !!!! "มานอนกับเค้าดิ"
นกบินในตาเลยจ้า นี่มันไม่ใช่การเจอครั้งแรก นี่เผือกครั้งที่ 2 ก็เจอประโยคแบบนี้ ช่วงเจอตอนเผือกครั้งแรกเราไม่ได้ใส่ใจตรงประโยคพวกนี้คิดว่าเค้าคุยกันเล่นๆ แต่พอเจอตอนเผือกครั้งที่2 ด้วยตามอายุวัยแล้วด้วยละนะ -*-
เพื่อนสาว : ...... (สรรพนามเฉพาะ)
คุณแฟน : ขาาาา
เพื่อนสาว : ทำไรอ่ะ อยู่ไหนเนี่ย
คุณแฟน : ดูหนัง อยู่... เนี่ย
เพื่อนสาว : จริงง่ะ มาตอนไหนเนี่ย ไม่บอกเลยน้า
คุณแฟน : ยิงติ้ก
เพื่อนสาว : มาหามั่ง
คุณแฟน : ไปแล้วให้นอนด้วยปะละ
เพื่อนสาว : มาดิ
เพื่อนสาว : เหงาจุง
คุณแฟน : มานอนกับเค้ามาา
เพื่อนสาว : ม่ายยย เดี๋ยวแฟนเธอว่า
.... (จริงๆยาวกว่านี้ เอาแค่ยกตัวอย่างก็พอ) ...
ดิฉันทำเป็นไม่มีไรเกิดขึ้น เลิกเผือกแล้วเปลี่ยนโทรศัพท์กันเพื่อแลกกันเล่นเกม มือเล่นเกม ตาจ้องเกม ปากพูดคุยเล่นกับคุณแฟนเรื่องเกม แต่ในหัวมันคุยกันว่า มึ้งงงง เพื่อนกันชวนไปนอนด้วยกันหรอว้าาา ถ้าเป็นคุณๆ จะยังคิดเหมิอนเดิมไหมคะว่า ทั้งคู่เนี่ย แค่คุยกันขำๆ เพราะเขาเป็นเพื่อนกันมาก่อน ที่คุณแฟนกับดิฉันจะเจอกัน และเพื่อนเขาก็ยังโสดสะเด้ย...