เรื่องนี้ยังไม่มีชื่อ(และยังไม่จบด้วย)

เป็นนิยายที่เพื่อนแต่งค่ะ โดยมีโปรเจคว่าจะเอามาทำหนังสือการ์ตูนด้วย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยังไงถ้าอ่านแล้วสนุกไม่สนุกอย่างไรขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ หัวเราะ

      
          ท้องฟ้าขมุกขมัว คาดว่าอีกไม่นานฝนคงตก บรรยากาศที่ควรจะเป็นคือท้องฟ้าสดใสไม่ใช่หรือ นี่ไม่ใช่งานอภิเษกในฝันของข้าเลย...

            เทียนเล่มเล็กหลายหมื่นเล่มในวิหารอันใหญ่โต ให้ความสว่างเท่าที่จะสามารถ มีแค่ ผู้คนในชุดหรูหรา ดอกไม้ และเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่ทำให้งานนี้ดูเป็นงานอภิเษกขึ้นมา

    มือข้างนึงของข้าอยู่ในอุ้มมือเสด็จพ่อ ท่านจะรับรู้ว่าข้าประหม่า กลัว และตื่นเต้น ส่วนอีกข้างข้าจับกระโปรงสีขาวเนื้อนุ่มที่ยาวจนเกินพอดี

    ข้าก้าวไปตามจังหวะของเพลง เหยียบลงไปบนกลีบกุหลาบที่เด็กน้อยผู้นำขบวนโปรยปรายลงมา

    -เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ-

    จู่ๆข้าก็นึงถึงประโยคนี้ ถ้าข้ารู้ หรือฉลาดกว่านี้ซักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ข้าจะไม่คิดเลยว่ามันอาจเป็นนิมิตรหมายที่ดี

    ข้าตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม? ถอยหลังกลับดีไหม?  ไม่ ข้าไม่มีสิทธิ์คิด แต่ทางเดินระหว่างประตูวิหาร กับแท่นพิธีที่สั้นลงเรื่อยๆช่างบั่นทอนกำลังใจของข้าเหลือเกิน

    ย้อนกลับไปราวๆห้าเดือนก่อน รูปเจ้าหญิงจากหลากหลายอาณาจักร ถูกส่งมาที่นี่ เพื่อทำการคัดเลือกชายาให้รัชทายาทลำดับที่สาม ของ อาณาจักรฟลอเรนซ์ เจ้าชายฮิวโก้ แห่งราชวงศ์ เซอร์เคน

    ตอนแรกข้าค้านหัวชนฝาที่เสด็จแม่จะส่งรูปข้าไป แต่แล้วไงละ มันก็โดนส่งไปตอนข้าไม่รู้ตัวอยู่ดี ข้าโกรธเสด็จแม่มาก และคิดเข้าข้างตัวเองว่า ข้าเป็นแค่เจ้าหญิงปลายแถว ไม่สามารถให้อำนาจ หรือผลประโยชน์ใครได้ พวกเขาจะไม่เลือกข้า

    แต่.. ข้าลืมคิดไป เขาเป็นรัชทายาทลำดับที่สามนี่ ใครจะอยากให้เขามีอำนาจไว้ชิงบัลลังค์ ที่ต้องทำก็คือ ‘กด’ ให้เขาต่ำๆเข้าไว้ ในกรณีนี้ เจ้าหญิงปลายแถวอย่างข้าเหมาะจนไม่มีอะไรจะเปรียบ นี่ยังไม่รวมที่ข้ามีผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้าอมเทา เหมือนตุ๊กตา ดูไร้สมอง และเหมาะจะเป็นหุ่นเชิด

    สัมผัสใหม่ที่มือ ทำให้ข้าตื่นจากความคิด เสด็จพ่อส่งมือของข้าให้เจ้าชายฮิวโก้ เราสบตากัน ดวงตาสีเข้มของเขาว่างเปล่า ยากที่จะรู้ว่าอะไรอยู่ในใจ โดยเฉพาะเมื่อเราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน

    ฝนตกแล้ว ข้าได้ยินเสียงสายฝน มันกระซิบให้ข้าวิ่ง วิ่งหนีไป...

                    ——————————-

    เราเป็นคนเปิดฟลอร์เต้นรำตามธรรมเนียม ข้าเต้นรำเป็น แต่ดูเหมือนจังหวะเพลงของชาวฟลอเรนซ์จะเร็วกว่าชาวไอเซิล

    “ที่ซินเทียจังหวะมันช้ากว่าเหรอ เจ้าหญิงอเล็กซานเดรีย”

    ข้าเงยหน้ามองเจ้าชาย นี้อาจจะเป็นประโยคแรกจากวันทั้งวัน “ใช่… ข้าก้าวผิดจังหวะชัดเจนจนท่านรู้เลยหรือ”

    “เจ้าเปล่าหรอก ข้าเคยอ่านมา เพียงแต่อยากรู้จากปากชาวไอเซิลมากกว่า” เจ้าชายพูดยิ้มๆ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร เลยพยักหน้ารับ และหันไปจดจ่อกับการเต้นรำต่อ

    ข้าลอบสังเกตุใบหน้าของเจ้าชายฮิวโก้ เขาดูดีอย่างที่เจ้าชายควรจะเป็น ผมสีน้ำตาลทองดูยุ่งนิดหน่อย รับกับดวงตาสีเทา และจมูกโด่งได้รูป บางที ถ้ามีความหวัง ข้าหวังว่าตัวเองจะรักเขาในซักวัน เพราะอย่างน้อยข้าคงจะมีความสุขเวลาอยู่ที่นี่...

    เจ้าชายกับข้าสบตากันพอดี นั้นทำให้ข้ากระอักกระอ้วกใจ จึงเสไปมองที่ไหล่เขาแทน และเพลงก็จบลงพอดี ขอบคุณสวรรค์ เจ้าชายพาข้าออกจากลานเต้นรำ

    หลังจากนั้นก็มีคนมาคุยกับข้ามากมาย ทั้งเชื้อพระวงศ์ และขุนนาง ข้าไม่อาจจำพวกเขาได้หมด แต่อย่างน้อยข้าก็เริ่มจำพี่น้องของเจ้าชายฮิวโก้ได้ พระเจ้าหลุยส์ และพระนางแคธเทอรีน มีโอรสธิดาห้าพระองค์ องค์แรกคือ เจ้าชายเฮนรี่ ผู้ซึ่งจะกลายเป็นพระราชาในอนาคต เขามีผมสีดำ ใบหน้ายาวและผอม ทั้งยังตัวสูงมาก เขาเลยดูเหมือนแท่งไม้ผอมๆเดินได้

    “ข้าหวังว่าเจ้าหญิงจะชอบฟลอเรนซ์นะ” หนวดเล็กๆบนริมฝีปากของเขา ขยับตามรอยยิ้มที่ปาก

    “ท่านสมปรารถนาแน่ ข้าชอบฟลอเรนซ์ ทั้งสภาพอากาศ และพืชพรรณที่สวยงาม ข้าชอบทั้งหมด” ข้าไม่ได้พูดเพื่อเอาใจเขา แต่ฟลอเรนซ์เป็นอาณาจักรในฝันดีๆนี่เอง

    “โดยส่วนตัวข้าก็ชอบอาณาจักรของท่านนะ เจ้าหญิง หิมะของท่านงดงาม สถาปัตยกรรมก็น่าทึ่ง” ข้าน้อมรับคำชมของเขา ไม่ได้ต่อบทสนทนา ข้ารู้สึกแปลกๆกับดวงตาหลังกรอบแว่นของเขา มันแวววาวไปด้วยความเจ้าเล่ห์

    ตุบ! มีอะไรบางอย่างมาชนข้า และข้าก็เซจนเกือบไปชนเจ้าชายฮิวโก้ สาเหตุน่าจะเป็นเด็กน้อยที่วิ่งอยู่

    “เฮ้ จอร์จ ข้าว่าเจ้าต้องกลับมาขอโทษนางก่อนนะ” เจ้าชายฮิวโก้ตะโกน พลางกวักมือเรียกเด็กชาย เด็กชายเลยวิ่งกลับมาด้วยท่าทางไม่ค่อยเต็มใจ

    “ข้าขออภัย เจ้าหญิงอเล็กซานเดรีย” หัวสีนำ้ตาลดูยุ่งเหยิง กับดวงตาฉายแววซุกซน ดูน่ารักเป็นที่สุด เจ้าชายน้อยโค้งเบาๆ

    “ตะครุบเหยื่อ! เจ้าแพ้แล้ว!” เด็กหญิงที่วิ่งมาจากไหนไม่รู้ ถลาตัวเข้ามาแปะเจ้าชายจอร์จอย่างแรง

    “อย่าๆ เจ้าขี้โกง ข้ากำลังสนทนากับเจ้าหญิงอยู่” ด้วยคำพูดและท่าทางแก่แดดนั้น ทำให้ข้าและเจ้าชายฮิวโก้ขำ

    “มันไม่มีอยู่ในกฎของเกมราชานักล่า อย่าหาข้ออ้าง” เด็กหญิงเถียงกลับเสียงแข็ง คิ้วน้อยๆผูกกันเป็นปม

    “แฮ่ม” เจ้าชายฮิวโก้กระแอ่ม “ท่านผู้พิพากษา เผื่อท่านจะอยากทักทาย นี่คือเจ้าหญิงอเล็กซานเดรีย” เจ้าชายฮิวโก้ยิ้มขำๆ และผายมือมาทางข้า ข้าจึงถอนสายบัวน้อยๆ ขณะที่ข้าก้มหน้า ข้าแอบขำ

    “โอ้ ตายจริง ข้าขออภัยเจ้าหญิง ข้าคือเจ้าหญิงคริสติน่า หรือท่านจะเรียกข้าว่าคริสซี่ก็ได้ เป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้พบท่าน” เจ้าหญิงน้อยถอนสายบัวอย่างงดงาม ข้าละสงสัยจริงๆว่าใครเป็นคนสอนคำพูดแก่แดดให้พวกเขากัน

    “ข้าก็ยินดีที่ได้พบเจ้า” ข้าย่อตัวลงไปหา และยิ้มให้

    “ท่านหน้าตาน่ารักจัง ข้าเรียกท่านว่าอเล็กซ์ได้มั้ย เราเป็นเพื่อนกันได้มั้ย” คริสซี่เอาสองมือมาแตะหน้าข้า แล้วตบเบาๆสองสามที

    ข้ายื่นมือไปจับแก้มคริสซี่ และดึงเบาๆ “ได้ตามที่ขอทั้งหมดเลย” นางดีใจมาก กระโดดจนตัวลอย ก่อนเริ่มเกมราชานักล่ากับจอร์จอีกครั้ง

    “เผื่อเจ้าจะอยากรู้ พวกเขาเป็นฝาแฝดกัน” เจ้าชายฮิวโก้เอ่ย ขณะข้ามองดูพวกเขาวิ่งไปทั่วห้องเต้นรำ

    “พวกเขาน่ารักมาก ท่านโชคดีที่มีน้อง ข้าเป็นลูกคนเดียว” เขาพยักหน้า

    “ท่านอาจจะเปลี่ยนใจหลังจากอยู่ไปซักพัก” เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังข้า

    “ข้าเจ้าชายวิกเตอร์ รัชทายาทลำดับที่สอง ยินดีที่ได้รู้จัก” เขาโค้งให้ข้า และดึงมือของข้าไปจุมพิต เขามีดวงตาสีทองเป็นประกาย เข้ากับผมสีทองที่จัดเป็นทรงเรียบร้อย จมูกโด่งได้รูป สัดส่วนที่พอดี สาวๆที่ปลื้มเขาคงมีมากอยู่

    “ข้ายินดีที่ได้พบท่านเช่นกัน” ข้ายิ้มน้อยๆ หลังจากนั้นก็ถึงเพลงปิด ซึ่งข้าต้องออกไปเต้นรำกับเจ้าชายฮิวโก้อีกครั้ง งานเลี้ยงถึงคราวเลิกลาแล้ว

                      _________________

    ข้านั่งยืดขาอยู่บนเตียง ส่วงล่างของลำตัวมีผ้าห่มสีขาวหนานุ่มทับอยู่ ข้างๆข้าคือเจ้าชายฮิวโก้ พวกเราถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนตั้งแต่พระราชายันนางกำนัล หลังพระราชากล่าวคำอวยพรเสร็จ พวกเขาก็ทำความเคารพพวกเราอย่างพร้อมเพรียง ม่านที่ผูกกับเสาทั้งสี่ของเตียงถูกปิดลง ความมืดเข้าปกคลุมทันที ดวงตาที่ยังไม่ชินกับความมืด ไร้ประโยชน์ไปชั่วขณะหนึ่ง เลยเหมือนประสาทสัมผัสของหูจะดีขึ้นมาเพื่อทดแทน ข้าได้ยินเสียงผู้คนถยอยออกจากห้อง ทีละคน ทีละคน... จนกระทั่ง มีเสียงปิดประตู

    “ปั้ง!” ห้องทั้งห้องก็เหลือเพียงแค่เสียงไฟประทุเบาๆจากเตาผิง

    ดูเหมือนเป็นเวลานานมากที่ไม่มีใครพูดอะไร มันช่างเงียบงัน และอึดอัด จนในที่สุดเจ้าชายฮิวโก้ก็เอ่ยปาก

    “เกมการเมือง เจ้ารู้จักไหม”

    “งานอภิเษกเราไง เกมการเมือง” ข้าตอบเสียงเรียบ

    “ระวังมันไว้ ทุกไพ่ที่ ‘เรา’ ตัดสินใจเปิด คือคำทำนายชะตาชีวิต” ดวงตาสีเทาของเขาเป็นประกายวูบวาบในความมืด เขาเน้นคำว่าเรา

    “ต่อไปนี้จะมีแต่ ‘เรา’ ใช่ไหม” มันเกือบจะโรแมนติกแล้วเชียว

    “ใช่” เจ้าชายพยักหน้า “หวังว่า กาลเวลาคงช่วยให้ข้ากับเจ้ากลายเป็นเรา”

    “เช่นกัน” ข้าพยักหน้าช้าๆ

    “ข้ารู้ว่าเจ้ากังวล แต่ไม่ต้องห่วงรัชทายาทลำดับที่สามจะมีรัชทายาทหรือไม่ พวกเขาไม่ค่อยสนหรอก แต่เจ้าคงรู้นะ ว่ายังไงเราก็ต้องมีลูกด้วยกันซักวัน เพราะลูกคือเครื่องหมายความสัมพันธ์อันดีงาม”

    ข้ารู้สึกดีที่ตอนนี้มันมืด เพราะข้ารู้สึกร้อนผาวที่ใบหน้า ไม่รู้ว่าสาเหตุนั้นมาจากอาย หรือโกรธกันแน่

    “ราตรีสวัสดิ์” ข้ามุดตัวลงใต้ผ้าห่ม แสร้งหลับตา ข้าเห็นเจ้าชายดูงงๆนิดหน่อยก่อนบอกราตรีสวัสดิ์ข้า หลังจากนั้นข้าก็โลดแล่นไปในความฝันอันแสนหวาน ที่ๆมีทุ่งดอกไม้ และข้ากำลังวิ่งเล่นอย่างอิสระ...

    อนิจจา น่าเสียดายที่มันเป็นแค่ความฝัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่