บทสรุปของผู้บริโภค กับ คำว่า NPL.

ตามกระทู้ http://pantip.com/topic/33800558  ที่เราได้โพสไปว่าได้ซื้อทรัพย์จากกรมบังคับคดี แล้วติดปัญหาที่ว่าเราต้องหาเงินสดไปนำฉโนด ออก มาจากกรมบังคับคดี  เราเสียเวลาหลายวันแล้วกับเรื่องนี้ เดินทางทั้งที่กรมบังคับคดี ทั้งโทรคุยกับฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร ......ส ผลสรุปคือน้ำตาร่วง ค่ะ บอกได้คำเดียว เราซื้อทรัพย์ จากกรมบังคับคดีถูกต้องทุกอย่าง ไปยื่นกู้กับธนาคารเจ้าของทรัพย์ แต่โดนตีกลับมาว่าทรัพย์ตัวนี้ธนาคารขายหนี้เสียให้กับ bam ไปแล้ว ถ้าเราจะกู้ กู้ได้แต่ถ้าผ่านเราต้องหาเงินสดไปเอาฉโนดออกมาแล้วไปที่กรมที่ดินเพื่อเอาฉโนดไปแลกกับเช็ค ไม่มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ในส่วนนี้ ตั้งแต่เริ่มประมุลจนจบ เราไม่เคยได้ยินหรือมีเอกสารอะไรว่าแบงค์ขายหนี้ไปแล้ว เราเป็นแค่ ตาสีตาสา เห็นว่าบ้านติดธนาคารมีการประมูลเราก็ไปตามนัดทำตามขั้นตอน จนได้มาแต่........เมื่อเราไปยื่นกู้ธนาคารปฏิเสธในการให้เจ้าหน้าที่เดินเรื่องเช็คมาให้เราที่กรมบังคับคดี บอกเราว่าให้เราหาเงินสดไปเอาฉโนดออกมาแล้วเจอกันที่กรมที่ดิน นี่หรือคะธนาคารของรัฐบาลไทย เค้าปฏิบัติกับคนไทยที่ต้องการที่พึ่งแบบนี้หรือเราน้ำตาร่วงที่สินเชื่อเลยค่ะไม่คิดว่าสิ่งที่เราตั้งใจจะให้เป็นสมบัติจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ วางมัดจำไป 50,000 ถ้าหาสินเชื่อไม่ได้โดนยึด แล้วไหนจะส่วนต่างถ้าแบงค์ขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าที่เราซื้ออีก เรื่องหนี้ NPL ผู้บริโภคอย่างเราไม่มีสิทธิ์รู้หรอกนะคะถ้าไม่เช็ค เชิงลึกกับทางแบงค์ เพราะถ้ามองผ่าน ๆ ทรัพย์นี้มันคือของแบงค์ค่ะ เรื่องฉโนดแบงค์ให้เหตุผลว่า โอนให้สถาบันการเงินหลังฉโนดไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ แล้วผู้บริโภคอย่างเราเอาตรงไหนมารู้คะว่าเป็นแบบนี้ เราคือผู้ซื้อรายใหม่ ในเมื่อคุณขายให้ bam ไปหนี้เก่าคุณก็ได้รับไปแล้วเราคือผุ้กู้รายใหม่ คือ ตาสีตาสา ที่ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลยแม้แต่พนักงานของแบงค์ มองเอกสารก็ยังคิดว่าเป็นของธนาคารของคุณเลย ระบบภายในของคุณไม่เปิดเผยแบบนี้ เรียกว่าปกปิดไหมคะ เงิน เกือบ 1,000,000 จะหาที่ไหนได้ภายในไม่กี่วัน จำได้ว่าธนาคารนี้สร้างมาเพื่อช่วยเหลือคนแล้วแบบนี้มันหมายความว่ายังไงคะ บอกคำเดี๋ยวว่าเจ็บค่ะกับสิ่งที่เจอ