อันดับ 3
อาจิณกรรม
คือกรรมที่ทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัย อยู่ในจิตใต้สำนึกตลอดเวลา ทำให้เมื่อใกล้จะตายนึกถึงกรรมในรูปแบบนี้ได้เท่านั้นไม่สามารถนึกถึงกรรมอื่นได้
ส่งผลให้ภพภูมิที่จะได้ไปเกิดเป็นไปตามกรรมนั้นเท่านั้น
หากทำชั่วจนเป็นนิสัย ก็จะระลึกได้แต่สิ่งชั่วๆ ก่อนตาย ไปเกิดในอบายภูมิเท่านั้น เช่น ฆ่าจนเป็นนิสัย ปล้น หยิบฉวย โกงจนเป็นนิสัย เป็นต้น
อันดับ 2
อนันตริยกรรม
ผู้ที่ทำอนันตริยกรรม ไม่มีสิทธิที่จะเข้าถึงสุคติในโลกหน้ามีทางไปเป็นอเวจีมหานรกเท่านั้น และไม่มีทางที่จะนิพพานได้ในปัจจุบันชาติ
อนันตริยกรรมได้แก่
1. ฆ่ามารดา
2. ฆ่าบิดา
3. ฆ่าพระอรหันต์
4. ทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต (ปกติธรรมจะคุ้มครองพระพุทธเจ้าไม่สามารถเกิดบาดแผลได้ แต่ห้อพระโลหิตใต้ผิวหนังได้)
5. ทำสังฆเภท (ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ เช่นตั้งนิกายใหม่ สร้างความเชื่อใหม่ๆ แล้วมีพระสงฆ์ มาร่วมเชื่อด้วย 4 รูปขึ้นไป)
อันดับ 1
นิตยมิจฉาทิฏฐิ
คือความเชื่อผิดๆโดยเฉพาะ 3 ประการนี้ คือ
1. อุทเฉททิฏฐิ (ตายแล้วสูญ)
2. อกิริยทิฎฐิ (กรรมไม่มีผล ทำอะไรก็ไม่ต้องรับกรรม จะปล้น จะฆ่า จะข่มขืน ก็ไม่ต้องชดใช้ ไม่มีบาปไม่มีความผิด)
3. อเหตุกทิฎฐิ (ทุกอย่างเกิดขึ้นเอง โลกเกิดเอง สัตว์เกิดขึ้นเอง ไม่มีเหตุ ไม่มีที่มาให้เกิด)
มิจฉาทิฏฐินี้ เลวร้ายกว่า อนันตริยกรรม เพราะแม้แต่แผ่นดินโลหะแห่งอเวจีที่ทนไฟประลัยกัลป์ได้(ไฟจากปรมณู) ก็ไม่อาจทนรองรับบุคคลเหล่านี้ไว้ได้ คนเหล่านี้จึงมีที่ไปเพียงแค่โลกันตรนรกเท่านั้น
แม้ว่าตกอเวจีมหานรก หากใช้กรรมหมด ก็ยังบรรลุธรรมได้ในอนาคต เช่นพระเทวทัต ก็ยังมีโอกาสได้เป็นปัจเจกพุทธเจ้า
แต่ว่าโลกันตรนั้น ไม่มีแม้แต่แสงสว่างให้รับรู้ ให้กุศลเจริญได้แม้แต่น้อย คนที่ตกโลกันตร หมดสิทธิที่จะบรรลุธรรมโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าผ่านไปเนิ่นนานหลายนับหมื่น แสน ล้าน โกฏิอสงไขย ได้กลับมาเป็นมนุษย์ ก็จะสร้างมิจฉาทิฏฐิด่าว่าปรามาสพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ร่ำไป ให้ต้องลงไปโลกันตรนรกใหม่ วนเวียนอยู่ในอบายแห่งวัฏฏะ ไม่รู้จบสิ้น
จนกว่าจะละความอวดดี ถือตัว เย่อหยิ่ง จองหอง ยอมรับฟังและพิจารณาพระธรรม ละมิจฉาทิฏฐิเหล่านั้นได้
ใครอยากลองทำชั่วดังกล่าวก็ทำได้ครับไม่มีใครห้ามได้ Free Will
-----------------------------------
แก้ไขตาม คห 2 ครับ
ที่ถูกคือ ต้องเป็น
นิตยมิจฉาทิฏฐิครับ
คือเชื่ออย่างนี้โดยไม่ยอมเปลี่ยน แม้ว่าจะมีคนมาบอกกล่าวถึงเหตุผลให้เปลี่ยนก็ไม่ยอมเปลี่ยนความเชื่อ
สุดยอดความชั่วในศาสนาพุทธ
คือกรรมที่ทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัย อยู่ในจิตใต้สำนึกตลอดเวลา ทำให้เมื่อใกล้จะตายนึกถึงกรรมในรูปแบบนี้ได้เท่านั้นไม่สามารถนึกถึงกรรมอื่นได้
ส่งผลให้ภพภูมิที่จะได้ไปเกิดเป็นไปตามกรรมนั้นเท่านั้น
หากทำชั่วจนเป็นนิสัย ก็จะระลึกได้แต่สิ่งชั่วๆ ก่อนตาย ไปเกิดในอบายภูมิเท่านั้น เช่น ฆ่าจนเป็นนิสัย ปล้น หยิบฉวย โกงจนเป็นนิสัย เป็นต้น
อันดับ 2 อนันตริยกรรม
ผู้ที่ทำอนันตริยกรรม ไม่มีสิทธิที่จะเข้าถึงสุคติในโลกหน้ามีทางไปเป็นอเวจีมหานรกเท่านั้น และไม่มีทางที่จะนิพพานได้ในปัจจุบันชาติ
อนันตริยกรรมได้แก่
1. ฆ่ามารดา
2. ฆ่าบิดา
3. ฆ่าพระอรหันต์
4. ทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต (ปกติธรรมจะคุ้มครองพระพุทธเจ้าไม่สามารถเกิดบาดแผลได้ แต่ห้อพระโลหิตใต้ผิวหนังได้)
5. ทำสังฆเภท (ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ เช่นตั้งนิกายใหม่ สร้างความเชื่อใหม่ๆ แล้วมีพระสงฆ์ มาร่วมเชื่อด้วย 4 รูปขึ้นไป)
อันดับ 1 นิตยมิจฉาทิฏฐิ
คือความเชื่อผิดๆโดยเฉพาะ 3 ประการนี้ คือ
1. อุทเฉททิฏฐิ (ตายแล้วสูญ)
2. อกิริยทิฎฐิ (กรรมไม่มีผล ทำอะไรก็ไม่ต้องรับกรรม จะปล้น จะฆ่า จะข่มขืน ก็ไม่ต้องชดใช้ ไม่มีบาปไม่มีความผิด)
3. อเหตุกทิฎฐิ (ทุกอย่างเกิดขึ้นเอง โลกเกิดเอง สัตว์เกิดขึ้นเอง ไม่มีเหตุ ไม่มีที่มาให้เกิด)
มิจฉาทิฏฐินี้ เลวร้ายกว่า อนันตริยกรรม เพราะแม้แต่แผ่นดินโลหะแห่งอเวจีที่ทนไฟประลัยกัลป์ได้(ไฟจากปรมณู) ก็ไม่อาจทนรองรับบุคคลเหล่านี้ไว้ได้ คนเหล่านี้จึงมีที่ไปเพียงแค่โลกันตรนรกเท่านั้น
แม้ว่าตกอเวจีมหานรก หากใช้กรรมหมด ก็ยังบรรลุธรรมได้ในอนาคต เช่นพระเทวทัต ก็ยังมีโอกาสได้เป็นปัจเจกพุทธเจ้า
แต่ว่าโลกันตรนั้น ไม่มีแม้แต่แสงสว่างให้รับรู้ ให้กุศลเจริญได้แม้แต่น้อย คนที่ตกโลกันตร หมดสิทธิที่จะบรรลุธรรมโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าผ่านไปเนิ่นนานหลายนับหมื่น แสน ล้าน โกฏิอสงไขย ได้กลับมาเป็นมนุษย์ ก็จะสร้างมิจฉาทิฏฐิด่าว่าปรามาสพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ร่ำไป ให้ต้องลงไปโลกันตรนรกใหม่ วนเวียนอยู่ในอบายแห่งวัฏฏะ ไม่รู้จบสิ้น
จนกว่าจะละความอวดดี ถือตัว เย่อหยิ่ง จองหอง ยอมรับฟังและพิจารณาพระธรรม ละมิจฉาทิฏฐิเหล่านั้นได้
ใครอยากลองทำชั่วดังกล่าวก็ทำได้ครับไม่มีใครห้ามได้ Free Will
-----------------------------------
แก้ไขตาม คห 2 ครับ
ที่ถูกคือ ต้องเป็นนิตยมิจฉาทิฏฐิครับ
คือเชื่ออย่างนี้โดยไม่ยอมเปลี่ยน แม้ว่าจะมีคนมาบอกกล่าวถึงเหตุผลให้เปลี่ยนก็ไม่ยอมเปลี่ยนความเชื่อ