ด้วยวัตถุประสงค์แรก สนามบินสุวรรณภูมิถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนสนามบินนานาชาติดอนเมือง โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างที่ยาวนานมาก อาจเรียกได้ว่าครึ่งศตวรรษก็เป็นได้ เปลี่ยนรัฐบาลไม่รู้กี่สมัยต่อกี่สมัย โดยประชาชนก็ได้แต่หวังและรอคอยว่า จะได้มีโอกาสใช้สนามบินใหม่ที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศได้ แต่เมื่อสนามบินแห่งใหม่เริ่มเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ก็มีปัญหาหลากหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งที่ได้เตรียมการไว้แล้วและไม่ได้เตรียมวิธีการรับมือไว้ เช่น การลำเลียงสายพานกระเป๋าล่าช้า และติดขัดในหลายๆครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของสนามบินที่เริ่มเปิดใช้งานใหม่อยู่แล้ว อย่างเช่น สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของฮ่องกง หรือ chek lap kok international airport. ก็มีปัญหาลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
แต่ปัญหาของสนามบินบ้านเรานั้น ได้รับการแก้ไขที่อาจจะผิดวิธีในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ปัญหาในสนามบินสุวรรณภูมินั้น มีมากมายหลายอย่างเหลือเกิน ให้ร่ายให้ฟังคงยาวเลยครับ อันนี้ผมบอกได้เลยนะครับ ว่าผมรักประเทศไทย และไม่ได้มีอคติกับ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเลยนะครับ แต่เป็นการมาพูดถึงเพื่ออยากให้ปรับปรุงเท่านั้นเองครับ ยกตัวอย่างปัญหาที่เห็นชัดๆกันนะครับ
- เช่น taxi way หรือ ทางที่นำทางให้เครื่องบินเข้าสู่ที่จอดตามเกทต่างๆ มีการทรุดตัวของพื้นผิวอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครได้โดยสารอยู่บนเครื่องบิน อาจจะเป็นตอนขาไป หรือ ขากลับมา ลองสังเกตดูก็ได้ครับ ว่าการวิ่งของเครื่องในการเข้าที่จอด มีความขรุขระเพียงใด ซึ่งเป็นผลต่อเนื่อง ทำให้ การท่าอากาศยานหรือ aot ต้องทำการปิดปรับปรุงเส้นทางวิ่งเข้าจอดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ที่จอดบางส่วนในสนามบิน ไม่อาจใช้ได้ในช่วงเวลาหนึ่งเพราะนักบินไม่สามารถนำเครื่องเข้าจอดได้ หรือบางครั้ง ก็ยังเคยมีเครื่องบินวิ่งแล้ว ตกหลุม ไม่สามารถวิ่งไปต่อได้ บางทีถึงกับต้องเรียกรถดัน หรือ push back มาลากเข้าก็มี รวมไปถึง การทรุดตัวของ runway ที่ได้ยินและเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งไป วิธีการแก้ไข ดูเหมือนจะแค่ ขุดลงไปและปรับปรุงพื้นผิวของตัวพื้นเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการออกแบบใหม่หรือปรับปรุงโครงสร้างเลย อันนี้พูดโดยไม่มีความรู้นะครับ พูดจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น ซึ่งผมมองว่าสิ้นเปลืองมากๆ เพราะซ่อมทั้งปี แต่
เปลี่ยนแค่พื้นที่ในการซ่อมเท่านั้นเอง
- พูดถึงเรื่องต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคย แก้ไขได้เลย และเกิดขึ้นมาโดยตลอด ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดสนามบิน จนปีนี้เพิ่งฉลองครบรอบ 8 ปีไป คือเรื่องหลังคาของสนามบิน ซึ่งถ้าหน้าร้อน ก็ร้อนมากๆ กระจกที่ว่ามีคุณภาพสูง ไม่สามารถกันความร้อนได้เลย อีกทั้งยังไม่สามารถกันเสียงของเครื่องยนต์จากเครื่องบิน อาจจะกันได้แค่บางส่วน แต่เสียงที่ดังผ่านเข้ามา ต้องถือว่าดังมากเลยทีเดียวครับ พอเริ่มเข้าฤดูฝนของทุกปี พนักงานที่ทำงานที่สนามบินนี้จะมีความเคยชินกับภาพที่เห็นอย่างมาก โดยเป็นที่รู้กันและกลายเป็นสัญลักษณ์ไปแล้วคือ ภาพของ ถังน้ำ หลากหลายสี ที่เรียงราย กันนับไม่ถ้วน กับ ป้าย ระวังลื่นสีเหลือง ที่เห็นเด่นชัดได้จากระยะไกล ทำให้เป็นที่รู้กันว่า เข้าฤดูฝนแล้ว เนื่องจากหลังคาของสนามบินนั้น รั่วนั่นเอง รั่วชนิดที่ว่า พนักงานทำความสะอาดทำงานวิ่งหาถังกันไม่ทันเลยก็ว่าได้ และผลกระทบก็คือ มีความเสี่ยงในการที่จะถูกไฟดูด เพราะมีปลั้กไฟ ที่ฝังอยู่ที่พื้น อยู่หลายร้อยจุดเลยทีเดียว และยังส่งผลถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารของสายการบินต่างๆอีกด้วย
เรื่องที่พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีการสร้างหรือแต่งขึ้นมาเองเลย ลองถามพนักงานที่เคยทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ ว่าเป็นจริงหรือเปล่า ตัวผมเองก็ได้แต่หวังว่า สักวันนึง จะมีโอกาสเห็น สนามบินแห่งชาติของเราที่ปลอดภัย และ มีความเป็นมืออาชีพ และเป็นสากลมากกว่านี้ อย่างที่การท่าอากาศยานเองที่หวังว่าจะได้เป็น Top Ten airport of the World ของจริง โดยที่ไม่ได้แบ่งแยกหรือมีวงเล็บต่อท้ายว่า เป็น Top ten ในเรื่องใดๆ
***** อยากให้สนามบินแห่งชาติของเราดีขึ้นจริงๆ ไม่ต้องเด่นหรือโดด กว่าชาวบ้านก็ได้ ขอแค่ให้มีความเป็นมาตรฐานและมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ คงจะดีมากๆเลย วอนอยากให้ช่วยแชร์ต่อ เพราะคงมีอีกหลายปัญหาที่รอการแก้ไข และไม่ได้กล่าวในกระทู้นี้ เพราะอย่างที่บอก ถ้าให้เขียน คงกินเนื้อที่ไปหลายหน้าเป็นแน่ สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้ครับ เชื่อว่า การท่าอากาศยานฯสามารถทำได้ครับผม
ถึงเวลาหรือยังที่ สนามบินสุวรรณภูมิควรปรับปรุงหลังคาที่มีรอยรั่วกว่าหลายร้อยจุด
ด้วยวัตถุประสงค์แรก สนามบินสุวรรณภูมิถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนสนามบินนานาชาติดอนเมือง โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างที่ยาวนานมาก อาจเรียกได้ว่าครึ่งศตวรรษก็เป็นได้ เปลี่ยนรัฐบาลไม่รู้กี่สมัยต่อกี่สมัย โดยประชาชนก็ได้แต่หวังและรอคอยว่า จะได้มีโอกาสใช้สนามบินใหม่ที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศได้ แต่เมื่อสนามบินแห่งใหม่เริ่มเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ก็มีปัญหาหลากหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งที่ได้เตรียมการไว้แล้วและไม่ได้เตรียมวิธีการรับมือไว้ เช่น การลำเลียงสายพานกระเป๋าล่าช้า และติดขัดในหลายๆครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของสนามบินที่เริ่มเปิดใช้งานใหม่อยู่แล้ว อย่างเช่น สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของฮ่องกง หรือ chek lap kok international airport. ก็มีปัญหาลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
แต่ปัญหาของสนามบินบ้านเรานั้น ได้รับการแก้ไขที่อาจจะผิดวิธีในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ปัญหาในสนามบินสุวรรณภูมินั้น มีมากมายหลายอย่างเหลือเกิน ให้ร่ายให้ฟังคงยาวเลยครับ อันนี้ผมบอกได้เลยนะครับ ว่าผมรักประเทศไทย และไม่ได้มีอคติกับ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเลยนะครับ แต่เป็นการมาพูดถึงเพื่ออยากให้ปรับปรุงเท่านั้นเองครับ ยกตัวอย่างปัญหาที่เห็นชัดๆกันนะครับ
- เช่น taxi way หรือ ทางที่นำทางให้เครื่องบินเข้าสู่ที่จอดตามเกทต่างๆ มีการทรุดตัวของพื้นผิวอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครได้โดยสารอยู่บนเครื่องบิน อาจจะเป็นตอนขาไป หรือ ขากลับมา ลองสังเกตดูก็ได้ครับ ว่าการวิ่งของเครื่องในการเข้าที่จอด มีความขรุขระเพียงใด ซึ่งเป็นผลต่อเนื่อง ทำให้ การท่าอากาศยานหรือ aot ต้องทำการปิดปรับปรุงเส้นทางวิ่งเข้าจอดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ที่จอดบางส่วนในสนามบิน ไม่อาจใช้ได้ในช่วงเวลาหนึ่งเพราะนักบินไม่สามารถนำเครื่องเข้าจอดได้ หรือบางครั้ง ก็ยังเคยมีเครื่องบินวิ่งแล้ว ตกหลุม ไม่สามารถวิ่งไปต่อได้ บางทีถึงกับต้องเรียกรถดัน หรือ push back มาลากเข้าก็มี รวมไปถึง การทรุดตัวของ runway ที่ได้ยินและเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งไป วิธีการแก้ไข ดูเหมือนจะแค่ ขุดลงไปและปรับปรุงพื้นผิวของตัวพื้นเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการออกแบบใหม่หรือปรับปรุงโครงสร้างเลย อันนี้พูดโดยไม่มีความรู้นะครับ พูดจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น ซึ่งผมมองว่าสิ้นเปลืองมากๆ เพราะซ่อมทั้งปี แต่
เปลี่ยนแค่พื้นที่ในการซ่อมเท่านั้นเอง
- พูดถึงเรื่องต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคย แก้ไขได้เลย และเกิดขึ้นมาโดยตลอด ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดสนามบิน จนปีนี้เพิ่งฉลองครบรอบ 8 ปีไป คือเรื่องหลังคาของสนามบิน ซึ่งถ้าหน้าร้อน ก็ร้อนมากๆ กระจกที่ว่ามีคุณภาพสูง ไม่สามารถกันความร้อนได้เลย อีกทั้งยังไม่สามารถกันเสียงของเครื่องยนต์จากเครื่องบิน อาจจะกันได้แค่บางส่วน แต่เสียงที่ดังผ่านเข้ามา ต้องถือว่าดังมากเลยทีเดียวครับ พอเริ่มเข้าฤดูฝนของทุกปี พนักงานที่ทำงานที่สนามบินนี้จะมีความเคยชินกับภาพที่เห็นอย่างมาก โดยเป็นที่รู้กันและกลายเป็นสัญลักษณ์ไปแล้วคือ ภาพของ ถังน้ำ หลากหลายสี ที่เรียงราย กันนับไม่ถ้วน กับ ป้าย ระวังลื่นสีเหลือง ที่เห็นเด่นชัดได้จากระยะไกล ทำให้เป็นที่รู้กันว่า เข้าฤดูฝนแล้ว เนื่องจากหลังคาของสนามบินนั้น รั่วนั่นเอง รั่วชนิดที่ว่า พนักงานทำความสะอาดทำงานวิ่งหาถังกันไม่ทันเลยก็ว่าได้ และผลกระทบก็คือ มีความเสี่ยงในการที่จะถูกไฟดูด เพราะมีปลั้กไฟ ที่ฝังอยู่ที่พื้น อยู่หลายร้อยจุดเลยทีเดียว และยังส่งผลถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารของสายการบินต่างๆอีกด้วย
เรื่องที่พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีการสร้างหรือแต่งขึ้นมาเองเลย ลองถามพนักงานที่เคยทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ ว่าเป็นจริงหรือเปล่า ตัวผมเองก็ได้แต่หวังว่า สักวันนึง จะมีโอกาสเห็น สนามบินแห่งชาติของเราที่ปลอดภัย และ มีความเป็นมืออาชีพ และเป็นสากลมากกว่านี้ อย่างที่การท่าอากาศยานเองที่หวังว่าจะได้เป็น Top Ten airport of the World ของจริง โดยที่ไม่ได้แบ่งแยกหรือมีวงเล็บต่อท้ายว่า เป็น Top ten ในเรื่องใดๆ
***** อยากให้สนามบินแห่งชาติของเราดีขึ้นจริงๆ ไม่ต้องเด่นหรือโดด กว่าชาวบ้านก็ได้ ขอแค่ให้มีความเป็นมาตรฐานและมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ คงจะดีมากๆเลย วอนอยากให้ช่วยแชร์ต่อ เพราะคงมีอีกหลายปัญหาที่รอการแก้ไข และไม่ได้กล่าวในกระทู้นี้ เพราะอย่างที่บอก ถ้าให้เขียน คงกินเนื้อที่ไปหลายหน้าเป็นแน่ สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้ครับ เชื่อว่า การท่าอากาศยานฯสามารถทำได้ครับผม