เห็นหลายกระทู้พูดถึงการตัดฉากละคร ผมขอพูดบ้าง
คือบางสิ่งบางอย่างมันรุนแรงก็จริง
แต่ฉากละคร ที่รุนแรง ก็ไม่ใช่ว่าจะส่งผลในด้านไม่ดีอย่าง
เดียว
คิดกลับกันฉากละครบางฉากที่รุน
แรงก็สอนให้เรารู้จักกับสถานการณ์
เหตุการณ์นั้นๆว่าเราจะมีวิธีเอาตัว
รอดอย่างไร
เช่นถ้าเรากำลังโดนคนข่มขื่น เราจะเอาตัวรอดอย่างไรให้หลุดพ้นจากการ ข่มขืนบางทีละครก็ไม่ใช่ว่าแต่จะเอา
ให้คนดูแต่ด้านไม่ดีในฉากรุนแรงแต่บางทีก็สื่อให้เห็นการเอาตัวรอดตวิธีต่างๆ ถ้าละครไทยมัวแต่ตัดฉากรุนแรง
มัวแต่โลกสวย แล้วเราจะรู้จักสถาน
การรุนแรงได้อย่างไร
การที่เด็กรู้จักฉากรุนแรงไม่ใช่ว่าจะมี
แต่ผลเสีย ผลดีก็มี คือทำให้เด็กรู้จัก
สถานการอันตราย รู้จักกับโลกภายนอกที่เป็นความจริง ที่ไม่ใช่มีแต่ด้านดีอย่างเดียวเสมอไป
โลกใบนี้ ยังฉากบางอย่างที่รุนแรง
กว่าละครซ้ะอีก
บางทีการรู้จักฉากรุนแรงในละครยัง
ดีกว่าเจอฉากรุนแรงในชีวิตจริงซ้ะ
อีก เพราะถ้าเรารู้จักสิ่งที่รุ่นแรงก่อนโดย
ผ่านเพียงแค่หน้าจอทีวีก็ไม่ได้ส่งผลเสียเสมอไปแต่กลับเป็นผลดีซ้ะอีก
เพราะได้รู้จักก่อน ได้หาวิธีเอาตัวรอด ก่อนที่จะเจอในชีวิตจริง
ลองคิดดูซิครับ ใครเป็นเหมือนผมบ้าง เวลาดูละครเจอฉากตบกัน ยิงกัน โดนจับตัว โดนขมขื่น ทำให้เราเกิด
ความคิดอยากให้ตัวละครที่ถูกเป็น
เหยื่อ ทำอย่างนู้น อย่างนี้ ที่เหยื่อจะได้เอาตัวรอด
เช่น ผู้ร้ายจับนางเอกไปขมขืน คนดูละครเริ่มคิดแล้ว ว่า "ถ้านางเอกมันไม่ร้องแหกปากแต่ให้แกล้งตายไม่หายใจ ผู้ร้ายอาจจะกลัว
ความผิดเลยปล่อยนางเอกที่แกล้ง
ตายไว้ข้างทางก็ได้ป่านนี้มันรอดจากการขมขืนไปนานแล้ว"
เห็นมั้ยฉากในละครเริ่มทำให้คนดู
เกิดกระบวนการคิดวิธีให้เอาตัวรอด
จากโจรข่มขืน
ก็อยากให้คนที่มีอำนาจ
หน้าที่ในการสั่งให้ผู้ผลิตละครหรือ
ช่องทีวี ที่โดนคำสั่งให้ตัดฉาก ให้ลองคิดดูน่ะครับว่าการตัดฉาก
ละครนั้นถ้ามัวแต่จะเอาฉากรุนแรง
ออก ให้นึกถึงในด้านดีของความรุนแรง
ด้วย ไม่ใช่แต่จะนึกว่าฉากละครที่รุนแรงเป็นสิ่งไม่ดี ทุกอย่างย่อมมีด้านและไม่ดี
ควรลองคิดวิเคราะห์หลายๆด้าน ครับ
ละครมีตอนเริ่มที่มีฉากรุนแรง แต่สุดท้ายก็มีผลกรรมตามทันใน
ตอนจบ ละครเสนอได้หลากหลายด้าน ไม่ใช่แค่ด้านเดียว ทุกตัวละครย่อม
มีบทสรุปในตัวละครนั้นในตอนจบ
ทุกอย่างย่อมมีที่มาทีไป
สุดท้ายนี้ก็ขอบอกสั้นๆว่า
"ถ้าเรามัวแต่ปิดหูปิดตา รู้จักแต่โลกที่สวยงาม แล้วเราจะรู้จักโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร"
ฝากทู้นี้ถึง คนออกคำคำสั่งตัดฉากละครด้วยครับ
คือบางสิ่งบางอย่างมันรุนแรงก็จริง
แต่ฉากละคร ที่รุนแรง ก็ไม่ใช่ว่าจะส่งผลในด้านไม่ดีอย่าง
เดียว
คิดกลับกันฉากละครบางฉากที่รุน
แรงก็สอนให้เรารู้จักกับสถานการณ์
เหตุการณ์นั้นๆว่าเราจะมีวิธีเอาตัว
รอดอย่างไร
เช่นถ้าเรากำลังโดนคนข่มขื่น เราจะเอาตัวรอดอย่างไรให้หลุดพ้นจากการ ข่มขืนบางทีละครก็ไม่ใช่ว่าแต่จะเอา
ให้คนดูแต่ด้านไม่ดีในฉากรุนแรงแต่บางทีก็สื่อให้เห็นการเอาตัวรอดตวิธีต่างๆ ถ้าละครไทยมัวแต่ตัดฉากรุนแรง
มัวแต่โลกสวย แล้วเราจะรู้จักสถาน
การรุนแรงได้อย่างไร
การที่เด็กรู้จักฉากรุนแรงไม่ใช่ว่าจะมี
แต่ผลเสีย ผลดีก็มี คือทำให้เด็กรู้จัก
สถานการอันตราย รู้จักกับโลกภายนอกที่เป็นความจริง ที่ไม่ใช่มีแต่ด้านดีอย่างเดียวเสมอไป
โลกใบนี้ ยังฉากบางอย่างที่รุนแรง
กว่าละครซ้ะอีก
บางทีการรู้จักฉากรุนแรงในละครยัง
ดีกว่าเจอฉากรุนแรงในชีวิตจริงซ้ะ
อีก เพราะถ้าเรารู้จักสิ่งที่รุ่นแรงก่อนโดย
ผ่านเพียงแค่หน้าจอทีวีก็ไม่ได้ส่งผลเสียเสมอไปแต่กลับเป็นผลดีซ้ะอีก
เพราะได้รู้จักก่อน ได้หาวิธีเอาตัวรอด ก่อนที่จะเจอในชีวิตจริง
ลองคิดดูซิครับ ใครเป็นเหมือนผมบ้าง เวลาดูละครเจอฉากตบกัน ยิงกัน โดนจับตัว โดนขมขื่น ทำให้เราเกิด
ความคิดอยากให้ตัวละครที่ถูกเป็น
เหยื่อ ทำอย่างนู้น อย่างนี้ ที่เหยื่อจะได้เอาตัวรอด
เช่น ผู้ร้ายจับนางเอกไปขมขืน คนดูละครเริ่มคิดแล้ว ว่า "ถ้านางเอกมันไม่ร้องแหกปากแต่ให้แกล้งตายไม่หายใจ ผู้ร้ายอาจจะกลัว
ความผิดเลยปล่อยนางเอกที่แกล้ง
ตายไว้ข้างทางก็ได้ป่านนี้มันรอดจากการขมขืนไปนานแล้ว"
เห็นมั้ยฉากในละครเริ่มทำให้คนดู
เกิดกระบวนการคิดวิธีให้เอาตัวรอด
จากโจรข่มขืน
ก็อยากให้คนที่มีอำนาจ
หน้าที่ในการสั่งให้ผู้ผลิตละครหรือ
ช่องทีวี ที่โดนคำสั่งให้ตัดฉาก ให้ลองคิดดูน่ะครับว่าการตัดฉาก
ละครนั้นถ้ามัวแต่จะเอาฉากรุนแรง
ออก ให้นึกถึงในด้านดีของความรุนแรง
ด้วย ไม่ใช่แต่จะนึกว่าฉากละครที่รุนแรงเป็นสิ่งไม่ดี ทุกอย่างย่อมมีด้านและไม่ดี
ควรลองคิดวิเคราะห์หลายๆด้าน ครับ
ละครมีตอนเริ่มที่มีฉากรุนแรง แต่สุดท้ายก็มีผลกรรมตามทันใน
ตอนจบ ละครเสนอได้หลากหลายด้าน ไม่ใช่แค่ด้านเดียว ทุกตัวละครย่อม
มีบทสรุปในตัวละครนั้นในตอนจบ
ทุกอย่างย่อมมีที่มาทีไป
สุดท้ายนี้ก็ขอบอกสั้นๆว่า
"ถ้าเรามัวแต่ปิดหูปิดตา รู้จักแต่โลกที่สวยงาม แล้วเราจะรู้จักโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร"