ก่อนหน้าที่มุกจะมีลูก ก่อนหน้าที่ลูกจะเข้าเรียน และก่อนหน้าที่ลูกจะเป็นเด็กบ้านเรียน กล้าสาบานเลยว่า “เรือใบ” ไม่เคยเป็นกีฬาที่อยู่ในหัวที่คิดไว้ว่าจะให้ลูกเรียน มันเป็นกีฬาที่อยู่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ ค่ะ
แต่แล้วเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเรียนปฐมธรรมซึ่งบรรจุกีฬาชนิดนี้ลงในหลักสูตรที่เด็กๆ ประถมศึกษาปีที่สี่ทุกคนจะต้องผ่านทั้งระดับ Beginner และ Advance มุกก็ตื่นเต้นและมองว่ามันจะเป็นโอกาสสำคัญของลูกที่ได้เรียนเรือใบ กีฬาที่แค่ฟังก็รู้สึกยากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบังคับเรือ การที่ต้องอดทนกับสภาพอากาศร้อนและแดดเปรี้ยงๆ ไหนจะอารมณ์ของฝนฟ้าที่คาดเดาไม่ได้อีกล่ะ
ส่วนที่ยากที่สุดอาจไม่ใช่แค่การไปเรียน การปรับตัวเข้าสังคมกับเด็กอื่นๆ อีกเกือบหกสิบเจ็ดสิบคน หรือเป็นการที่ต้องอดทนกับกฎระเบียบแบบทหาร (เพราะครูฝึกคือทหารของกองเรือยุทธการฐานทัพเรือสัตหีบ) แต่เป็นการที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเป็นเวลาถึงสองอาทิตย์เต็มๆ ต่างหาก
ชุณฬี่อายุแค่เก้าขวบกว่าในตอนที่เข้าค่ายเรือใบรุ่นพื้นฐาน (Beginner) เมื่อตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา และสิบขวบเต็มในช่วงที่เรียนระดับ Advance เมื่อต้นเมษายนของปีนี้ ในสายตาของมุก ลูกไม่ใช่เด็กเล็กๆ เพราะเขาฝึกฝนความรับผิดชอบและเข้าค่ายต่างจังหวัดมาเกินสิบครั้งก็จริง แต่มุกก็ไม่ได้คิดว่าลูกโตจนไม่ต้องรู้สึกห่วงอีกแล้วเหมือนกัน
การเตรียมตัว
ก่อนถึงวันเปิดค่าย ชุณฬี่กับพี่ๆ และเพื่อนๆ ซึ่งก็ว่ายน้ำเป็นหมดทุกคน ได้เข้าคอร์สติวเข้มข้มกับอาจารย์วรพงศ์ อาจารย์ำที่สอนเด็กปฐมธรรมตั้งแต่ประถมหนึ่งยันประถมหกที่สระว่ายน้ำสิริมงคล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งคอร์สนี้นอกจากจะติวเรื่องว่ายน้ำระยะทางไกลแล้ว ยังสอนทักษะการเอาตัวรอดกลางทะเล และไม่ลืมที่จะท้าทายเด็กๆ ให้เอาชนะใจตัวเองจากความกลัวด้วยการกระโดดจากความสูงห้าเมตร
ใกล้ๆ วันเปิดค่าย มุกยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากเข้าไปใหญ่ แต่คงไม่มากกว่าลูกสาวและเด็กๆ อีกเจ็ดคนที่เหลือที่คงจะตื่นเต้นกว่า ชุณฬี่เริ่มเก็บของ ทำ check-list เองว่าต้องมีอะไรเอาไปบ้าง ลองชุดที่แม่เพิ่งถอยมาให้ใหม่ว่าพอดีหรือเปล่า แต่วันที่เห็นเธอเก็บกระเป๋าทุกอย่างเสร็จแล้วจริงๆ ก็อดใจหายไม่ได้ 16 วัน 15 คืนเลยนะลูกนะ

กระเป๋าของชุณฬี่จริงมีแค่ใบสีเทาและครีมค่ะ อีกสองใบข้างๆ เป็นของเจ้าแสบเล็กจี้ผิงที่เก็บของเสร็จเพราะมีค่ายเขาใหญ่ในช่วงเวลาใกล้ๆ กันเหมือนกันเลยเก็บเอาไว้ก่อน
ตามติดชีวิตเด็กโฮมสกูล ตอน "ค่ายเรือใบ" ให้อะไรมากกว่าแค่ "ใบ" กับ "เรือ"
แต่แล้วเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเรียนปฐมธรรมซึ่งบรรจุกีฬาชนิดนี้ลงในหลักสูตรที่เด็กๆ ประถมศึกษาปีที่สี่ทุกคนจะต้องผ่านทั้งระดับ Beginner และ Advance มุกก็ตื่นเต้นและมองว่ามันจะเป็นโอกาสสำคัญของลูกที่ได้เรียนเรือใบ กีฬาที่แค่ฟังก็รู้สึกยากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบังคับเรือ การที่ต้องอดทนกับสภาพอากาศร้อนและแดดเปรี้ยงๆ ไหนจะอารมณ์ของฝนฟ้าที่คาดเดาไม่ได้อีกล่ะ
ส่วนที่ยากที่สุดอาจไม่ใช่แค่การไปเรียน การปรับตัวเข้าสังคมกับเด็กอื่นๆ อีกเกือบหกสิบเจ็ดสิบคน หรือเป็นการที่ต้องอดทนกับกฎระเบียบแบบทหาร (เพราะครูฝึกคือทหารของกองเรือยุทธการฐานทัพเรือสัตหีบ) แต่เป็นการที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเป็นเวลาถึงสองอาทิตย์เต็มๆ ต่างหาก
ชุณฬี่อายุแค่เก้าขวบกว่าในตอนที่เข้าค่ายเรือใบรุ่นพื้นฐาน (Beginner) เมื่อตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา และสิบขวบเต็มในช่วงที่เรียนระดับ Advance เมื่อต้นเมษายนของปีนี้ ในสายตาของมุก ลูกไม่ใช่เด็กเล็กๆ เพราะเขาฝึกฝนความรับผิดชอบและเข้าค่ายต่างจังหวัดมาเกินสิบครั้งก็จริง แต่มุกก็ไม่ได้คิดว่าลูกโตจนไม่ต้องรู้สึกห่วงอีกแล้วเหมือนกัน
การเตรียมตัว
ก่อนถึงวันเปิดค่าย ชุณฬี่กับพี่ๆ และเพื่อนๆ ซึ่งก็ว่ายน้ำเป็นหมดทุกคน ได้เข้าคอร์สติวเข้มข้มกับอาจารย์วรพงศ์ อาจารย์ำที่สอนเด็กปฐมธรรมตั้งแต่ประถมหนึ่งยันประถมหกที่สระว่ายน้ำสิริมงคล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งคอร์สนี้นอกจากจะติวเรื่องว่ายน้ำระยะทางไกลแล้ว ยังสอนทักษะการเอาตัวรอดกลางทะเล และไม่ลืมที่จะท้าทายเด็กๆ ให้เอาชนะใจตัวเองจากความกลัวด้วยการกระโดดจากความสูงห้าเมตร
ใกล้ๆ วันเปิดค่าย มุกยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากเข้าไปใหญ่ แต่คงไม่มากกว่าลูกสาวและเด็กๆ อีกเจ็ดคนที่เหลือที่คงจะตื่นเต้นกว่า ชุณฬี่เริ่มเก็บของ ทำ check-list เองว่าต้องมีอะไรเอาไปบ้าง ลองชุดที่แม่เพิ่งถอยมาให้ใหม่ว่าพอดีหรือเปล่า แต่วันที่เห็นเธอเก็บกระเป๋าทุกอย่างเสร็จแล้วจริงๆ ก็อดใจหายไม่ได้ 16 วัน 15 คืนเลยนะลูกนะ
กระเป๋าของชุณฬี่จริงมีแค่ใบสีเทาและครีมค่ะ อีกสองใบข้างๆ เป็นของเจ้าแสบเล็กจี้ผิงที่เก็บของเสร็จเพราะมีค่ายเขาใหญ่ในช่วงเวลาใกล้ๆ กันเหมือนกันเลยเก็บเอาไว้ก่อน