แผ่นดินของเรา เดอะมิวสิคัล ขอเขียนถึงจากความรู้สึก..จากการได้ไปรับชม (มีสปอย)

(เตือนอีกครั้งว่ามีสปอยเรื่องพอสมควรนะคะ)

อันนี้คงไม่เชิงเป็นการวิจารณ์อ่ะนะ เพราะไม่มีความรู้ทางด้านนี้ เอาเป็นว่าเป็นการบอกเล่าตามความรู้สึกจากการได้ชมละครแล้วกัน
เราไปชมมา 2 รอบ รอบวันที่ 13 กับ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา

เนื่องจากเราไม่เคยดู แผ่นดินของเรา ฉบับละครทีวีมาก่อน จึงไม่มีข้อเปรียบเทียบใดๆ สำหรับเรา เพราะฉะนั้นเราขอเขียนถึงจากที่ได้ชมจากละครเวทีเท่านั้นนะ

เผื่อใครอยากอ่านเรื่องย่อก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นักแสดงนำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


การหยิบบทประพันธ์เรื่องหนึ่งมาสร้างเป็นละครเวที ต้องย่อเนื้อเรื่องจากเนื้อหาที่ยาวมากในหนังสือให้มาอยู่ในการแสดงราวๆ 3 ชั่วโมง โดยที่ยังคงใจความสำคัญของเรื่องไว้ ต้องเล่าเรื่องไห้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวและเข้าใจถึงแก่นของเรื่องให้ได้ อีกทั้งต้องมีความสนุกเพลิดเพลินในการรับชมอีกด้วย คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ด้วยตัวบทประพันธ์เองมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งอยู่แล้ว แฝงด้วยแง่คิดมากมาย และบทฉบับละครเวทีนี้ก็ถือว่าทำมาได้ดีมาก คือดึงประเด็นสำคัญ แก่นของเรื่อง ออกมาเล่าและดำเนินเรื่องให้คนดูเข้าใจได้ดีมากทีเดียว ประกอบกับเพลงประกอบแต่ละเพลงของแต่ละตัวละคร ก็ช่วยเสริมการเล่าเรื่องให้เข้าใจความคิดเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้ดียิ่งขึ้นไปอีก และยิ่งเมื่อถูกถ่ายทอดด้วยการแสดงที่ลึกซึ้งและเข้าถึงตัวละครจากนักแสดงทุกคน ทำให้คนดูอย่างเราประทับใจละครเรื่องนี้มากทีเดียว

แผ่นดินของเรา กล่าวถึงเรื่องราวของความรักของหลากหลายตัวละคร ภัคคินี ธำรง นเรนทร์ อัจฉรา ความรักของผู้เป็นพ่อและแม่ ความรักต่อเกียรติยศ ชื่อเสียง และวงศ์ตระกูล

สำหรับบางคน ความรัก หมายถึง การได้ทำในสิ่งที่ใจตนปรารถนา ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้สมหวังในรัก และเพื่อคนที่ตนรัก โดยไม่ได้คำนึงถึงหลักศีลธรรม หรือนึกถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า แต่ที่แน่ๆ เมื่อเธอเลือกทางเดินแห่งรักนั้นแล้ว เธอก็ยอมรับในผลของการตัดสินใจนั้น ไม่ว่าจะต้องเจอกับเรื่องราวใดๆ ที่อาจจะมีทั้งดี ร้าย หรือเจอกับชีวิตที่ตกต่ำก็ตาม  (และนี่คือความรักของ ภัคคินี)

แต่สำหรับบางคน ความรัก หมายถึง การเสียสละ หมายถึงการให้ เขายอมแม้แต่ ปล่อยให้เธอหลุดจากมือไป เพื่อให้เธอได้ไปอยู่กับคนที่เธอรัก และแม้ว่าจะไม่ได้มาซึ่งการครอบครองคนที่ตนรัก เขาก็ยังคงรักเธออยู่ และพร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเมื่อเธอเดือดร้อน และพร้อมที่จะให้อภัยเธอเสมอเมื่อเธอคนนั้นทำผิดพลาด (และนี่คือความรักของ ธำรง)

เราว่าทั้งสองความรักนี้ มันเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ทั้งคู่นะ ต่างกันแค่การแสดงออกของความรักที่นำมาซึ่งการกระทำที่ต่างกัน เท่านั้น

แผ่นดินของเรา เขาว่ากันว่าเป็น โศกนาฏกรรมความรัก ก็คงจะจริงนะ เราเสียน้ำตาให้กับตัวละครในละครเวทีเรื่องนี้ไปเยอะเลย ทั้งซึ้ง เศร้า น่าสงสาร น่าเห็นใจ และก็มียิ้ม มีหัวเราะบ้างด้วยเหมือนกัน
(หลังละครจบ ได้ยินเสียงคนข้างหลังเราพูดกับเพื่อนของเค้าว่า ไม่บอกก่อนว่าละครมันเศร้าขนาดนี้ ฉันจะได้เตรียมผ้าเช็ดหน้ามาด้วย 555)




เพลง
อยากบอกว่าเพลงเพราะมาก และเมื่อยิ่งถูกขับร้องโดยนักร้องมืออาชีพอย่าง พี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้า ปนัดดา พิจิกา และ พี่ใหม่ เจริญปุระ ก็ยิ่งทำให้เพลงเหล่านั้นเพราะยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากเพราะแล้ว เนื้อเพลงยังบอกเล่าถึงความรู้สึกของตัวละครได้ดีมากด้วย

ที่เราชอบที่สุดคือเพลง #จันทน์กะพ้อร่วง เพลงนี้ถูกหยิบมาร้องโดยสามพี่น้องแห่งจิระเวสน์ (ซึ่งรับบทโดย ใหม่ เจริญปุระ รัดเกล้า และ ปนัดดา) ต่างเวลาต่างวาระกัน แต่มันพอเหมาะพอเจาะพอดีกับช่วงเวลาของชีวิตของทั้งสามคน และทั้งปนัดดา พี่ต๊งเหน่ง พี่ใหม่ ก็ร้องเพลงนี้ได้เพราะมาก และได้อารมณ์สุดๆ (เราน้ำตาไหลกับเพลงนี้ทั้งสามครั้งที่เพลงนี้ขึ้นเลยนะ ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า ทั้งน่าสงสาร)

และเช่นเดียวกันกับเพลงของ ธำรง เพลง #คนที่พ่ายแพ้ ที่ถูกขับร้องขึ้นครั้งแรกในต้นเรื่องเพื่อบอกเล่าถึงความผิดหวังในรักของธำรงมาแล้วครั้งหนึ่ง และเพลงนี้ก็นำมาร้องอีกครั้งหลังจากที่ภัคคินีหนีจากเขาไป เหมือนเป็นการย้ำเตือนความรู้สึกผิดหวังในรักของธำรงอีกครั้ง (มันชั่งเศร้าและน่าสงสารจริงๆ เลยนะ กับชะตาความรักของธำรง)

และอีกครั้งกับเพลง #จันทน์กะพ้อบาน ที่ใช้เปิดเรื่องมาอย่างสดใส ขับร้องโดยสามสาวพี่น้อง ซึ่งแสดงถึงความรักความผูกพันของทั้งสามคนได้ดี จนกระทั่งเกิดเรื่องราวมากมายที่ทำให้ทั้งสามคนเกิดการผิดใจและไม่เข้าใจกัน แต่สุดท้ายแล้ว..ทุกอย่างก็คลี่คลายและทั้งสามกลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม พร้อมเพลง #จันทน์กะพ้อบาน ที่ถูกขับร้องขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในทำนองที่ช้า เศร้า ซึ้ง (ณ เวลานี้ คนดูในโรงละครนิ่ง เงียบ มีแต่เสียงซื๊ดซ๊าด จากทั้งเราและคนรอบๆ ข้าง ซึ่งได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลไปแบบไม่ต้องฝืนมันแล้วล่ะนะ)

ยังมีเพลงอีกหลายเพลง ซึ้งล้วนแล้วแต่เพราะทั้งนั้น
เพลง #น้อยใจยา เพลง #ลาวคำหอม เพลง #ทำด้วยหัวใจ ซึ่งเป็นเพลงที่บ่งบอกถึงความรักของ ภัคคินี ได้ดีที่สุด
เพลง #ไม่รักแต่เวทนา ที่ พิจิการ้อง เพลง #ชิงชัง ที่ปนัดดาร้องในรอบแรก และรอบสองร้องร่วมกับพี่ต๊งเหน่ง อลังการ มีพลังสุดๆ

เพลง น้อยใจยา ร้องโดย ภัคคินี (พี่ใหม่ เจริญปุระ)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ฉาก และ การจัดแสง
ฉากสวยมาก เราชอบหลายฉากเลย ไม่ว่าจะเป็น บ้านจิระเวสน์ ที่ดูยิ่งใหญ่และงดงามสมกับเป็นฉากหลักของเรื่อง ฉากต้นจันทน์กะพ้อ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชีวิตของทุกชีวิตในบ้านจิระเวสน์ ฉากบ้านของธำรงที่หาดทุ่งวัวแล่น ฉากชุมชนที่ปากน้ำโพนครสวรรค์ และก็ฉากโรงแรมที่ใช้หลักแสงและเงามาใช้ ดูเก๋ดีอ่ะ เรื่องฉากเราชอบนะ ไม่มากไม่น้อยไป ซึ่งรวมถึงการจัดแสงด้วย



** ขอขอบคุณรูปจากทุกท่านที่นำมาประกอบในกระทู้นี้ด้วยนะคะ**
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่