บันทึกชีวิต แง้มนิด ปิดหน่อยของคนชื่อต๋อง-22/49 ต๋องตี้ เกิดมาแกล้ง

แกล้งมิตรสนิทเชื้อ ตอนอยู่ในท้องแม่ เราว่าเราต้องคอยเอาเท้าน้อย ๆถีบกระทุ้งผนังท้องแม่อยู่เนือง ๆ รวมทั้งคอยเอาอุ้งมือน้อย ๆตะกุยจั๊กจี๋ท้องแม่อยู่ทุกวี่วันแน่ ๆ เพราะเรารู้ตัวมานมนานกาเลแล้วว่า " เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้" วู้ดดี้อาจจะเกิดมาคุย ทว่าเรา " เกิดมาแกล้ง" มวลหมู่มนุษย์อย่างแท้จริง สมัยประถมก็ชอบไปดึงเปียฝาแฝดตั่วโส่ยจอมสวย แล้วให้เค้าวิ่งไล่เล่น ๆในห้อง บางวันก็เอาเศษกระดาษหยำ ๆเป็นก้อนแล้วเอาไปยัดใส่กระเป๋านักเรียนของเพื่อน หนักเข้าก็ยัดก้อนหินซะเลย ให้มันลากไหล่ลู่เล่น ๆซะงั้นแหละ ตอนอยู่ประถมปลายก็แกล้งอำเที่ยวจดชื่อเพื่อนที่นั่งคุยกันตอนพัก ตอนเป็นเด็กเทพ ฯ ก็เอากาวลาเท็กซ์ไปทาดินสอปากกากล่องดินสอวงเวียนไม้บรรทัดยางลบของเพื่อนติดกับโต๊ะ แล้วชวนพรรคพวกคอยแอบดูมันตอนเก็บของเข้ากระเป๋าก่อนเลิกเรียน เป็นช็อตนึงที่ฮามาก ๆเลย เพราะตอนแรกมันจะงง ๆว่า เอ๊ ทำไมวันนี้ปากกามันถึงหนึบ ๆกับโต๊ะว้าาาาา ชิ้นที่สองอาจจะไม่ค่อยแน่ใจ พอชิ้นที่สามเท่านั้นแหละ มันเริ่มหันมามองพวกเราที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สุดท้ายก็กลั้นหัวเราะกันไม่อยู่ ปล่อยก๊ากกันออกมาลั่นห้อง มันเองก็ขำ ๆไปกับความช่างคิดช่างแกล้งของเพื่อน ไปด้วย ตอนแกะไม้บรรทัดที่ติดนาบหนึบไปกับโต๊ะเนี่ย เป็นอะไรที่ยากสุด ๆแล้ว ต้องค่อย ๆเอาคัตเตอร์แซะทีละนิด ๆนั่นแหละถึงจะ " พา" มันกลับบ้านได้

ส่วนประเภทเขียนอะไรไปแปะหลังเพื่อนประมาณ ๆว่า " เตะฉันหน่อย" " เชิญเตะฟรี" นั้นเป็นเรื่องที่ผัดกันทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเผลอเป็นเหยื่อเท่านั้นเอง ที่แผลงสุด ๆเห็นจะเป็น " ไฟลนก้น" นี่แหละ ประเภทเพื่อนเผลอก็เอากระดาษบาง ๆม้วน ๆพับปลายแล้วเอาไปแอบเกี่ยวหูกางเกงเหยื่อ ทีนี้ก็จุดไฟตรงชายด้านล่าง แล้วให้ใครชวนมันคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเดียวก็ได้เรื่อง ดุ้งโหยง ๆไปเลย 555 มาเล่าเรื่องแกล้งมิ่งมิตรสนิทเชื้อที่วัดสังเวชมั่งดีกว่า

ขณะที่หลวงพ่อหรือหลวงพี่นี่แหละกำลังสอนชั้นศาสนาอยู่พอเคลิ้ม ๆ จู่ ๆก็ " กริ๊งงงงงงงงงง" ดังซะลั่นห้องไปเลย แล้วสองสาวผู้ตกเป็นเป้าของเราในวันนั้นก็มีอันลุกลี้ลุกลนหูตาตื่น ก้มควานหาที่มาของเสียงในช่องเก็บของใต้โต๊ะเรียนให้ควั่ก ขณะที่ทั้งห้องคริ ๆคิก ๆกันยกใหญ่ สุดท้ายก็ล้วงได้นาฬิกาปลุกที่กำลังแผดเสียงลั่นแสบแก้วหู ด้วยมือไม้ที่สั่นเทาบวกกับอาการฉิเชาะ ( ภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่า ลุกลี้ลุกลน ) ทำให้กว่าเธอจะหาปุ่มกดหยุดได้ก็เล่นเอาทั้งคนทั้งพระลุ้นกันตัวโก่งทีเดียวเชียว งานนี้เราเลยได้ฟังเทศน์กัณฑ์พิเศษจากท่านนักบวชแถมพกไปด้วยในวันนั้น

อีกอย่างที่เราชอบเล่นมาตั้งกะสมัยอยู่เทพศิรินทร์คือ " กระจกจับหน้า" แบบว่าเอากระจกเงามาส่องกับแดดแล้วสะท้อนไปจับหน้าพรรคพวกที่กำลังเรียน ๆกันอยู่ในห้องนี่แหละ โหย เป็นอะไรที่หนุกมากอะ ไม่หนุกก็แต่พวกที่โดนส่องนี่แหละ ที่วัดสังเวชเนี่ย ยิ่งหนุกเป็นสามเท่าเลยเอ้า เพราะเราจะเล็งแต่เป้าเพื่อน ๆผู้หญิง ส่องทางนั้นทีทางนั้นทางโน้นที มาคิด ๆดูทีหลัง เราว่ามันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก ๆเลยนะสำหรับคนที่โดน ทว่าตอนนั้นเป็นกิจกรรมโปรดของเราเชียวล่ะ เล่นจนเพื่อน ๆขู่ว่าจะเลิกคบโน่นแหละถึงได้ยอมเลิกราไป

จู่ ๆวันนึง เพื่อนในห้องที่เป็นสาวหมวยร่างใหญ่สิวเขรอะ ( สุณีย์ที่ตอนนี้เป็นนางสาวพยาบาล เพราะยังไม่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาละมังเนี่ย) ก็ได้รับไปรษณียบัตรลึกลับส่งมาที่โรงเรียน เพ้อรำพันว่าแอบชอบแอบฝันถึงเธออยู่ ลงท้ายชื่อว่าเป็นนักเรียนนายร้อยนิรนาม เจ้าหล่อนก็หลงใหลได้ปลื้มสิครับ เลยเอามาคุยโม้โชว์สำแดงให้เพื่อน ๆผู้หญิงดูกันใหญ่ แรก ๆเรากับแก๊งก๊วนที่รู้กันก็ทำทีเข้าไปเลียบ ๆเคียง ๆแซว ๆอำ ๆเล่น ๆว่า โหยหน้าก๊ะหุ่นแบบนี้มีคนหลงผิดคิดพลาดด้วยเหรอ เธอก็ฉอด ๆว่า นี่ไงหลักฐานไปรษณียบัตร สุดท้าย หลังจากปล่อยให้เธอละเมอเพ้อพกไปได้สองสามวัน พวกเราก็เฉลยให้ฟังว่า เป็นฝีมืออำของพวกเราจอมแสบนี่แหละ งานนี้ เล่นเอาเธอหน้าแตกหมอไม่รับเย็บไปเลย 555

ตอนชั่วโมงแล็บฟิสิกซ์ เราก็ยังอุตส่าห์หาอะไรมาแกล้งเพื่อนจนได้สิน่า กรรมวิธีคือ เอาสายไฟแบบที่มีปากตะเข้เล็ก ๆตรงปลายมาหนีบต่อ ๆกันให้ยาว ๆเข้าไว้ซักสามเมตร แล้วหนีบปลายข้างนึงกับหูกางเกงเพื่อนที่มุมห้องนึง จากนั้นก็ลากสายไปหนีบกับหูกางเกงเพื่อนที่อยู่อีกมุมห้องนึง เสร็จแล้วก็คอยนั่งลุ้นให้มันลุกเดินแยกจากกันตอนเดินออกไปทำแล็บหน้าชั้น หรือตอนเลิกชั่วโมง จังหวะเหมาะ ๆก็จะเห็นมันสองคนชะงักกึ้กด้วยสายไฟที่รั้งตึง บางครั้งก็เล่นเอาหูกางเกงขาดทีเดียวเชียว นึกแล้วยังมันส์ไม่หายเลย อิอิ

ซีรี่ย์การแกล้งคนเนี่ยยังมีต่อเนื่องอีกหลายช่วงชีวิตเชียวแหละ เอาไว้จะมาสาธยายต่ออีกทีแล้วกันเนาะ
โรงเรียนของเราน่าโดด คุณครูขาโหดทุกคน เราว่าใครไม่เคยโดดเรียนเลยซักครั้งในชีวิตเนี่ย มันจืดชืดไปหน่อยมั้ยอะ ส่วนเราเนี่ยมาโดดเรียนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวก็ตอนอยู่ที่ถิ่นบางลำภูนี่แหละ บางวันก็แอบปีนรั้วด้านหลังโรงเรียนออกไปร่อนหาอะไรกินแถว ๆตลาดบางลำภูตอนช่วงพักเที่ยง แล้วก็ปีนกลับเข้ามาเรียนช่วงบ่ายอีกที เราว่าชาวบ้านในซอยด้านหลังโรงเรียนเราคงจะเห็นภาพพวกทะโมนโจนเรียนกันจนชินตาแล้วล่ะ วันไหนโดนจับได้ก็โดนครูฝ่ายปกครองหวดกระหน่ำซัมเมอร์เซลชนิดก้นเป็นริ้วแสบแดงไปหลายวันทีเดียวเชียว


มีอยู่วัน ช่วงนั้นช่องสามเอาเรื่องฤทธิ์มีดสั้น ลี้กิมฮวงกลับมารีรันช่วงบ่ายสอง เรากับเพื่อน ๆผู้ชายอีกสองสามคนล้วนเคยติดงอมแงมกันมาตอนที่ฉายครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน เผอิญวันนั้นเป็นตอนอวสาน พวกเราเลยชักชวนกันว่าน่าจะไปหวนรำลึกความประทับใจเมื่อครั้งที่เห็นมีดบินของพระเอกปลิวกระแทกผนังเด้งไปเด้งมาจนสุดท้ายไปปักคออริตัวร้ายลงด่าวดิ้นกันอีกสักครั้ง ว่าแล้วจึงรีบรี่ปีนรั้วออกไปดูกันที่บ้านไอ้เกียรติที่อยู่แถวนั้น หนุกหนานซาบซึ้งกันจบแล้วก็ยกโขยงปีนรั้วกลับมาเข้าชั้นเรียนชีววิทยาตอน ท้าย ๆชั่วโมง พอเดินเข้าห้องมาปุ๊บ พวกเพื่อน ๆผู้หญิงหัวเราะคิก ๆกันยกใหญ่ เพราะไม่คิดว่าพวกเราจะกล้าโดดไปดูหนังแล้วยังกล้าเดินกลับเข้ามาในห้องอีก แบบว่าแมนกันสุด ๆ กล้าทำต้องกล้ารับผิดสิคร้าาาบบบ จะหนีอาญาไปทำไมมี สุดท้ายก็โดนหวดก้นกันพอหอมปากหอมก้นคนละสามทีก็จบสิ้นกระบวนความซ่าส์แล้วล่ะครับ ท่านผู้ชม แหม แต่ขอพูดหน่อยเหอะ เราว่ามันคุ้มอยู่นา ได้ดูท่านพี่ลี้กิมฮวง สุดยอดฮีโร่ในยุคนั้นของเราซัดมีดบินลี้น้อยไม่เคยพลาดเป้าเป็นครั้งสุดท้ายแบบนั้น อาาา ทุกวันนี้ยังอยากดูอยู่เลย เพื่อน ๆคนไหนมีแผ่นก็ช่วยสงเคราะห์หน่อยแล้วกันนะจ๊ะ

ทว่า ไม่มีซีนโดดครั้งไหนจะมาขโมยซีนนี้ไปได้ " โดดเรียนยกห้องไปเที่ยวงานลอยกระทง" ที่จริงก็เว่อร์ไปนี้ดส์นึงอะ ความจริงแค่นักเรียนผู้ชาย 8 คนจากทั้งหมด 9 คนสมคบกันโดดเรียนชั่วโมงคณิตศาสตร์ช่วงบ่ายไปเที่ยวงานลอยกระทงที่ภูเขาทองเท่านั้นเอง อีกหน่อที่เหลือคือคุณสุธี เข็มราช ( หัวหน้าห้อง ม.ศ.5 ที่ตอนนี้เป็นระดับสารวัตรปราบปรามไปแล้วมั้ง ) พวกเราจะเว้าวอนเชิญชวนบีบคั้นยังไง มันก็ไม่ยอมโดดร่วมกับเราด้วย แหม ใจร้ายจริง ๆเลยนะตัวเอง งานนี้หนุกหนานบานใจสุด ๆไปเลย เพียงแต่ต้องคอยสอดส่องมองหาสัญญาณของสารวัตรนักเรียนให้ดี ๆเท่านั้นเอง ที่แน่ ๆวันรุ่งขึ้น พวกเราทั้งแปดหน่อต้องร่วมลงขันซื้อดอกไม้ธูปเทียนไปกราบขอขมาลาโทษครูคณิตศาสตร์กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวทีเดียวเชียวแหละ ไม่งั้นแกอาจจะน้อยใจถึงขั้นลาออกไปทำกระทงขายก็ได้นะ ใครจะไปฮู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่