พอจบ ม.6 ขึ้นมหาลัยผมสอบติดโควตา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สอบติดมหาวิทยาลัยทักษิณ ติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประมงค์ สรุปคือไม่เอาสักอย่างเลยที่บ้านเลยจะให้เรียนเอกชน พอผมโตแล้วผมเลยรู้ว่าตัวเองชอบอะไรควรเรียนอะไร ผมชอบนิเทศ อยากเรียนนิเทศ ม.กรุงเทพ แต่พอดีพี่ชายคนโต กับพี่สาวจบม.กรุงเทพ เหมือนกันเค้าเลยพูดกับที่บ้านว่าเรียนแล้วไม่ได้อะไรหรอก แฟนพี่ชายก็บอก แต่ผมไม่อยากพูดเหมือนว่าเค้า พี่ชายคนโตตอนเลือกอ่าเลือกเองไม่ใช่ไง ม.กรุงเทพ แล้วไปฝึกงานกับนักข่าวช่อง3 ก็อดทนจนฝึกจบแต่ไม่กลับไปสมัครงานเพราะทนไม่ไหว ในการเป็นลูกน้องคนอื่นก็ไม่มีใครว่าอะไรกลับมาทำงานบ้าน ส่วนพี่สาวพึ่งจบปีนี้ครับพึ่งรับไปจบ4ปีปกติเพราะไม่ได้เรียนซัมเมอร์ เรียนนิเทศเหมือนกันแต่สาขาสื่อสารตรา หรือสื่อสารแบรนด์ ก็พูดกับที่บ้านบอกว่าจบมาไม่ได้อะไรหรอก ผมเลยคิดว่ามหาลัยเอกชนที่ไหนมันจะดีว่ะ นอกจากเอแบค กับ ม.กรุงเทพ รังสิตก็ไม่ให้ งั้นเลยเอแบคแล้วกัน ก็ต้องบอกว่าชอบเอแบคเพราะผมไม่อยากกลับไปเรียนพิษณุโลก พิษณุโลกไม่มีอะไรสังคมมันแคบ มันสู้กรุงเทพไม่ได้ แต่ก็อยากเรียนนิเทศแต่ก็ไม่ได้เรียน “ แต่ทุกคนถามผมเป็น100รอบว่าอยากเรียนไร” ผมบอกว่านิเทศครับ เค้าเลยบอกว่าจะไปทำไร ผมเลยบอกว่าก็ต้องทำงานเกี่ยวกับนิเทศไง พูดไปก็เท่านั้น จริงเค้าอยากให้ผมเรียนบริหารเลยแบบอ่ะๆบริหารก็บริหารพูดในใจ
สรุปผมก็เลยคิดว่าคราวหลังไม่ต้องถามว่าอยากเรียนที่ไหน เพราะทุกคนกดดัน มาเรียนเอแบคมันก็ได้เกรดไม่ดีอะไรไม่ดีมันเครียด ผมอยากจะย้ายมหาลัยก็แบบกลัวจะกลับไปเรียนที่บ้าน ผมเข้าใจเค้าน่ะว่าเรียนบริหารอยากให้มีอะไรติดหัว
ถามว่าเกี่ยวมั้ยมันก็เกี่ยวน่ะครับ แต่ผมก็คิดว่า แต่ละคณะมันเรียนไปคนละทาง ถ้าสมมุติผมเรียนบริหารผมจะเอาไปผ่าตัดได้มั้ยหล่ะก็ไม่ได้ ผมมันคนละสาย ที่ผมอยากเรียนนิเทศคือผมอยากทำงานในวงการบันเทิงไม่ต้องให้ผมเป็นดาราก็ได้ขอแค่ได้ทำเป็นดีเจ เป็นอะไรก็ได้ ที่ผมเลือกเพราะผมรู้อยู่แล้วว่ามันจะมีการขอสัมปทานทีวีดิจิตอล มันจะมีช่องเยอะขึ้นแล้วก็ต้องรับมากขึ้น คนที่เรียนนิเทศบางส่วนก็มีว่าเรียนง่ายจบง่ายดี อีกส่วนก็คืออยากเรียนจริงๆ แล้วมาทำอาชีพ
ทุกวันนี้ผมเรียนซัมเมอร์ปี1ขึ้นปี2ที่เอแบค ผมมันร้องไห้ไม่ออก แต่ใจเราเวลาตั้งใจเรียนที่นี่เกรดออกมไม่ดี ใจผมข้างในมันร้องไห้ตลอดเวลา คนเรามันเค้าใจตัวเองว่าต้องการอะไร แต่ก็ไม่สามารถเลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการได้หรอกครับ ผมรู้สึกมันไม่มีกำลังใจ ผมไม่อยากบอกคนรอบข้างเพราะเค้าไม่เคยเข้าใจความต้องการของเราจริงๆสักครั้ง มีหัวธุรกิจน่ะ แต่ผมให้มาเรียนแล้วให้มาสอบผมทำไม่ได้ ในสิ่งที่ผมเข้าใจแต่สอบไม่ได้ เครียดว่ะ
เรื่องของ วรุฒ
เรื่องเล่าของนักศึกษาคนนึง ผมก็เหนื่อยที่ต้องเป็นแบบนี่
สรุปผมก็เลยคิดว่าคราวหลังไม่ต้องถามว่าอยากเรียนที่ไหน เพราะทุกคนกดดัน มาเรียนเอแบคมันก็ได้เกรดไม่ดีอะไรไม่ดีมันเครียด ผมอยากจะย้ายมหาลัยก็แบบกลัวจะกลับไปเรียนที่บ้าน ผมเข้าใจเค้าน่ะว่าเรียนบริหารอยากให้มีอะไรติดหัว
ถามว่าเกี่ยวมั้ยมันก็เกี่ยวน่ะครับ แต่ผมก็คิดว่า แต่ละคณะมันเรียนไปคนละทาง ถ้าสมมุติผมเรียนบริหารผมจะเอาไปผ่าตัดได้มั้ยหล่ะก็ไม่ได้ ผมมันคนละสาย ที่ผมอยากเรียนนิเทศคือผมอยากทำงานในวงการบันเทิงไม่ต้องให้ผมเป็นดาราก็ได้ขอแค่ได้ทำเป็นดีเจ เป็นอะไรก็ได้ ที่ผมเลือกเพราะผมรู้อยู่แล้วว่ามันจะมีการขอสัมปทานทีวีดิจิตอล มันจะมีช่องเยอะขึ้นแล้วก็ต้องรับมากขึ้น คนที่เรียนนิเทศบางส่วนก็มีว่าเรียนง่ายจบง่ายดี อีกส่วนก็คืออยากเรียนจริงๆ แล้วมาทำอาชีพ
ทุกวันนี้ผมเรียนซัมเมอร์ปี1ขึ้นปี2ที่เอแบค ผมมันร้องไห้ไม่ออก แต่ใจเราเวลาตั้งใจเรียนที่นี่เกรดออกมไม่ดี ใจผมข้างในมันร้องไห้ตลอดเวลา คนเรามันเค้าใจตัวเองว่าต้องการอะไร แต่ก็ไม่สามารถเลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการได้หรอกครับ ผมรู้สึกมันไม่มีกำลังใจ ผมไม่อยากบอกคนรอบข้างเพราะเค้าไม่เคยเข้าใจความต้องการของเราจริงๆสักครั้ง มีหัวธุรกิจน่ะ แต่ผมให้มาเรียนแล้วให้มาสอบผมทำไม่ได้ ในสิ่งที่ผมเข้าใจแต่สอบไม่ได้ เครียดว่ะ
เรื่องของ วรุฒ