ปีนี้นับเป็นปีที่มีสมาร์ทโฟนสเปคจัดเต็มกันมาแทบจะทุกแบรนด์ Geek อย่างผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เริ่มตั้งแต่ทาง Samsung ที่ปล่อย S6 มาก่อนใคร HTC One M9+ ที่ตามมาติดๆ ในขณะเดียวกันทาง LG แบรนด์เกาหลีอีกหนึ่งแบรนด์ก็เปิดตัว LG G4 เรือธงรุ่นใหม่ที่สืบวงตระกูลต่อมาจาก LG G3 และผมก็ได้เครื่องมาใช้งานประมาณ 1 สัปดาห์ ถึงเวลาแล้วที่จะมารีวิวกัน
ลักษณะการรีวิวก็เหมือนอย่างเคยครับ ไม่มีแกะกล่อง แต่จะพูดถึงประสบการณ์ใช้งานล้วนๆ หากสนใจอ่านรีวิวอื่นๆ ผมแนะนำให้อ่านรีวิวจากทาง whatphone นะครับ ละเอียดยิบๆๆ
http://www.whatphone.tv/review/lg-g4-review/
รีวิวการใช้งาน ขอสรุปเป็น 6 ส่วนดังนี้
1. การออกแบบ
จุดแรกที่ถิอว่าโดดเด่นมาตลอดในตระกูล G คือการออกแบบตัวเครื่อง รอบนี้ LG มาโดยยึดโครงร่างคล้ายกับ LG G3 โดยมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นเล็กน้อย ฟีลลิ่งในการถือ ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจาก G3 มากนัก เรียกว่าถ้าดูด้านหน้าผ่านๆ อาจจะไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน แต่ด้วยกระจกหน้าและขอบข้างที่ต่อกันเกือบไม่เห็นขอบ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นกระจกชิ้นใหญ่ที่ค่อนข้างดูดีกว่าเดิม
ตัวเครื่องมีความโค้งเล็กน้อยเพื่อให้สอดรับกับรูปหน้าเวลายกเครื่องคุยกัน ดูๆ ไปจะทำให้นึกถึง Nokia รุ่นกล้วยหอม แต่ไม่ได้โค้งขนาดนั้น ดูจะคล้าย LG G Flex ที่เคยออกมาเมื่อหลายปีก่อนมากกว่า
ด้านหลังมาพร้อม “หนังแท้” ที่หลายๆ คนถึงกับร้องซี๊ดด้วยความหรูหรา ในขณะที่ผมเองค่อนข้างเฉยๆ ออกจะชอบตัวพลาสติกมากกว่านิดๆ เพราะหนังแท้ถึงแม้จะสวย แต่ค่อนข้างดูแลยาก เลอะง่าย และมีโอกาสเป็นรอยสูงมาก เทียบกับตัวเครื่องโลหะของ iPhone 6, HTC One M9+ หรือหลังกระจกของ Samsung Galaxy S6 edge แล้ว อันนี้ดูจะยังไม่หรูหราขนาดนั้น
ด้านหลังยังมีปุ่ม Rear Key ทั้ง 3 ปุ่มครบถ้วน ผมละชอบปุ่มพวกนี้มาก เลยทำให้เทใจไปให้มือถือตระกูล G ตลอด ฮ่าๆ ตัวปุ่มเองดูดีขึ้น กดง่ายขึ้นกว่า G3 สวยงามลงตัว
โดยสรุป การออกแบบ LG G4 ถือว่าอยู่ในมาตรฐานสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ แต่ผมไม่ได้มองว่าหรูหรามากนักเทียบกับคู่แข่งอย่าง S6 หรือ iPhone 6 แล้วก็ไม่ได้รู้สึกโฉบเฉี่ยวขนาด M9+ ออกไปในทาง “สวยกลางๆ” มากกว่าครับ
2. กล้อง
เข้าใจว่าปีนี้เราจะเห็นการแข่งขันเรื่องกล้องที่เหลื่อมล้ำกันชัดเจน แต่กลายเป็นว่าทุกแบรนด์ตามทันกันหมด ความละเอียดกล้องคราวนี้จัดเต็มมาเทียบเท่ากับ Galaxy S6 ที่ 16 ล้านพิกเซล (กล้องหลัง) และ 8 ล้านพิกเซล (กล้องหน้า) เช่นเคยครับ ขอแบ่งประเด็นย่อย เป็นกล้องหลักและกล้องหน้าครับ
2.1 กล้องหลัก (กล้องหลัง)
ยอมรับเลยว่าภาพสวย สวยมาก สีสด สว่างด้วยค่า F ที่ 1.8 โทนสีเน้นไปทางสีเย็น เขียว ฟ้า มากกว่าโทนร้อน ความเร็วโฟกัส และความว่องไวของชัตเตอร์ก็อยู่ในระดับที่ดีมาก โดยรวมเมนูต่างๆ เกี่ยวกับกล้อง ใช้งานง่ายมากเลย
ที่ถูกใจมากๆ คือ Manual Mode ที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ความเร็ว shutter ปรับความไวแสง (ISO) ปรับ White Balance และถ่ายภาพ Raw File ได้ (ได้ข่าวว่าอีกไม่นานรุ่นอื่นๆ อย่าง Galaxy S6 ก็จะได้อัพเดทเป็น 5.1.1 แล้วสามารถถ่ายได้เหมือนกัน)
ลองมาดูภาพในสถานการณ์ต่างๆ กันครับ
2.2 กล้องหน้า
ภาพโดยรวมสวยดีครับ ไม่มีที่ให้ติ แต่ติดนิดนึงที่กล้องหน้าดูจะมีความโค้งของเลนส์เยอะมาก ทำให้คนที่อยู่ริมๆ ภาพจะบิดเบี้ยวไปเยอะ อันนี้สังเกตได้ชัดเจนเลยครับ
ส่วนที่ต้องระวังในการใช้กล้องหน้าคือ Beauty Mode ที่หากปรับจนสุดหลอด ภาพจะออกแนวมัวๆ ฟุ้งๆ แต่ฟุ้งจนเบลอไปเลย
ทาง LG ให้ Candy Feature มาอันหนึ่งคือการเปิดกล้องอย่างเร็ว โดยการกดปุ่มลดเสียง 2 ครั้งโดยไม่เปิดจอ เครื่องจะเปิดกล้องหน้าแล้วถ่ายรูปทันที รู้สึกแปลกๆ หน่อย ว่าเปิดกล้องเร็วก็โอเคแล้ว แต่อันนี้ถ่ายรูปให้เลย ทำให้รูปที่ได้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะไม่ได้เล็ง (แต้ถ้ากดปุ่ม เพิ่มเสียง 2 ครั้ง จะเปิด Note ขึ้นมา สามารถพิมพ์หรือเขียนได้เลย สะดวกมากๆ อันนี้ขอชม)
3. ประสิทธิภาพและการใช้งาน
LG G4 ใช้ Snapdragon 808 เป็นแกนกลางที่เร็วสะใจ แรม 3 กิ๊กทำให้การใช้งานลื่น ไม่มีสะดุดเลย เปิดมาแวบแรกก็พบกับหน้าจอ LG UI 4.0 ที่ดูฟรุ้งฟริ้งสดใส ตามสไตล์ LG เค้าล่ะ แถมมี Theme และแอพมาให้โหลดใน LG SmartWorld อยู่ ธีมที่ให้มามีไม่เยอะ แล้วก็มีธีมของ LG G Watch ปนมาด้วย อาจจะทำให้สับสนได้ ส่วนแอพที่ให้มาดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ครับ
เรื่องความเร็ว ประสิทธิภาพ ขอเทสด้วย AnTuTu Benchmark และ Geekbench นะครับ
การทดสอบด้วยแอพแบบต่างๆ ก็ทำได้ดี ลื่นไหลกว่า M9+ ใกล้เคียงกับ S6 และ iPhone 6 โดยเฉพาะแอพ 3D และวีดีโอ
LG G4 สามารถใช้งาน 2 ซิมได้พร้อมกันโดยเลือกใช้ LTE ได้ซิมใดซิมหนึ่ง อีกซิมจะกลายเป็น 2G ครับ (แต่ผมไม่ได้ลองใส่ 2 ซิมนะครับ เพราะซิมหลักผมเป็น Nano Sim) ตัว Micro SD และ ซิม 2 เปลี่ยนโดยถอดฝาหลังออก ยกเว้นซิมหลักที่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกด้วย ถือจะสามารถเปลี่ยนได้
น่าเสียดายที่ G4 ไม่มีระบบอ่านลายนิ้วมือที่ชาวบ้านเค้ามีกัน น่าจะเป็นจุดด้อยจุดนึงที่ค่อนข้างชัดเจนเลยครับ
4. จอภาพ
จริงๆ เรื่องนี้สังเกตได้ง่ายและชัดเจนที่สุดทันทีที่เปิดเครื่องเลย สีสันจัดจ้านมาก ทาง LG ใช้ชื่อจอรุ่นใหม่ว่า Quantum Display ซึ่งให้สีที่สดใสขึ้น ผมคิดว่านี่เป็นจอ IPS ที่สีสดมาก อาจจะเทียบเท่าจอ OLED เลยด้วยซ้ำ
ความละเอียดจอยุคนี้ต้อง Quad HD ซึ่ง G4 ก็เช่นกัน ความละเอียด 1440 x 2560 pixel ในขนาด 5.5 นิ้ว (538 ppi) คมกริ๊บกว่า M9+ แต่ใกล้เคียงกับ S6 ตามความรู้สึกผมนะ
โดยรวมจอของ G4 สวยงามจริงๆ ก่อนหน้านี้คิดว่าจอ IPS จะไม่สดใสเมื่อเทียบกับ OLED แต่ G4 ก็ให้ความสดใสได้ใกล้เคียงมากๆ
5. แบตเตอรี่
ความจุ 3000 mAh ทาง LG เคลมว่าสามารถ Stand by ได้ถึง 18 วันบนระบบ 3G ยอมรับว่าใช้งานจริงแล้วอึดจริง กลับบ้านยังมีเหลือ 10-15% เป็นอย่างน้อย การชาร์จก็ทำได้ไม่เลว แม้ว่าจะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ไม่ได้ช้าจนทนไม่ได้
แบตเตอรี่ยังสามารถถอดเปลี่ยนได้ แต่ถอดฝาหลังทีไรก็เสียวทุกที แบตเตอรี่เองก็ไม่ได้ขาดแคลน ทำให้ถือว่าเป็นความสะดวกในการเปลี่ยนและซ่อมมากกว่าการเปลี่ยนแบตระหว่างวันนะครับ
6. ความคุ้มค่า
คิดมาพักนึงแล้วครับว่าระบบวัดความคุ้มค่าของผมมันค่อนข้างเอนเอียงอยู่ไม่น้อย แต่ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัว เลยยังขอใช้สมการเดิมต่อไป
ราคาซื้อ - ราคาขายต่อ = Total Value of Ownership
TVO = วัสดุ + คุณสมบัติ + บริการ + ประสบการณ์ใช้งาน + สิทธิประโยชน์ (Privilege) อื่นๆ
ราคาซื้อที่ 20990 บาท ถือว่าไม่สูงเลย การใช้งาน 2 ปี พร้อมพื้นที่ 100 GB ใน Google Drive ฟรี พร้อมราคาขายต่อที่ประมาณ 10,000 บาท ตกเฉลี่ยวันละ 15.3 บาท คุ้มมมมสุดๆ ครับ
สรุปความหวั่นไหวกับ LG G4 ในครั้งนี้
สมาร์ทโฟนสเปคระดับนี้ เร็ว แรง จอสวยงาม สดใส กล้องเทพ เรียกได้ว่าครบเครื่อง จะติดอยู่ตรงเรื่องของการออกแบบที่ไม่ได้สวยโดดเด่นมากนัก วัสดุของเครื่องที่ให้ความรู้สึกพลาสติกอยู่ หนังแท้ที่ให้มาก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกหรูหรามากเท่ากับโลหะและกระจก เรียกว่าฟีลลิ่งยังไม่ได้รู้สึกหรูหรามากนัก แต่กับราคาที่ให้มาที่ 20,990 บาท ก็คุ้มค่ามากๆ ถ้าให้เทียบก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ
ทั้งหมดเป็นความเห็นจากผม ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณพิจารณากันครับ
========================================
ดูกระทู้รีวิวเก่า
[CR]เมื่อคนใช้ iPhone มาจับ S6 ครั้งแรกของผมกับ Samsung >>
http://pantip.com/topic/33570227
[CR]กระทู้ด่วน ของร้อน พรีวิว apple watch >>
http://pantip.com/topic/33585309
[Mana Review: 003] HTC One M9+ เรือธงสุดหล่อจากไต้หวัน >>
http://pantip.com/topic/33673012
*แก้ไขข้อมูลเรื่องการใช้ LTE ในซิมทั้งสองซิมครับ
[CR] [Mana Review 004] LG G4 สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของปี 2015 แต่...
ลักษณะการรีวิวก็เหมือนอย่างเคยครับ ไม่มีแกะกล่อง แต่จะพูดถึงประสบการณ์ใช้งานล้วนๆ หากสนใจอ่านรีวิวอื่นๆ ผมแนะนำให้อ่านรีวิวจากทาง whatphone นะครับ ละเอียดยิบๆๆ http://www.whatphone.tv/review/lg-g4-review/
รีวิวการใช้งาน ขอสรุปเป็น 6 ส่วนดังนี้
1. การออกแบบ
จุดแรกที่ถิอว่าโดดเด่นมาตลอดในตระกูล G คือการออกแบบตัวเครื่อง รอบนี้ LG มาโดยยึดโครงร่างคล้ายกับ LG G3 โดยมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นเล็กน้อย ฟีลลิ่งในการถือ ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจาก G3 มากนัก เรียกว่าถ้าดูด้านหน้าผ่านๆ อาจจะไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน แต่ด้วยกระจกหน้าและขอบข้างที่ต่อกันเกือบไม่เห็นขอบ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นกระจกชิ้นใหญ่ที่ค่อนข้างดูดีกว่าเดิม
ตัวเครื่องมีความโค้งเล็กน้อยเพื่อให้สอดรับกับรูปหน้าเวลายกเครื่องคุยกัน ดูๆ ไปจะทำให้นึกถึง Nokia รุ่นกล้วยหอม แต่ไม่ได้โค้งขนาดนั้น ดูจะคล้าย LG G Flex ที่เคยออกมาเมื่อหลายปีก่อนมากกว่า
ด้านหลังมาพร้อม “หนังแท้” ที่หลายๆ คนถึงกับร้องซี๊ดด้วยความหรูหรา ในขณะที่ผมเองค่อนข้างเฉยๆ ออกจะชอบตัวพลาสติกมากกว่านิดๆ เพราะหนังแท้ถึงแม้จะสวย แต่ค่อนข้างดูแลยาก เลอะง่าย และมีโอกาสเป็นรอยสูงมาก เทียบกับตัวเครื่องโลหะของ iPhone 6, HTC One M9+ หรือหลังกระจกของ Samsung Galaxy S6 edge แล้ว อันนี้ดูจะยังไม่หรูหราขนาดนั้น
ด้านหลังยังมีปุ่ม Rear Key ทั้ง 3 ปุ่มครบถ้วน ผมละชอบปุ่มพวกนี้มาก เลยทำให้เทใจไปให้มือถือตระกูล G ตลอด ฮ่าๆ ตัวปุ่มเองดูดีขึ้น กดง่ายขึ้นกว่า G3 สวยงามลงตัว
โดยสรุป การออกแบบ LG G4 ถือว่าอยู่ในมาตรฐานสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ แต่ผมไม่ได้มองว่าหรูหรามากนักเทียบกับคู่แข่งอย่าง S6 หรือ iPhone 6 แล้วก็ไม่ได้รู้สึกโฉบเฉี่ยวขนาด M9+ ออกไปในทาง “สวยกลางๆ” มากกว่าครับ
2. กล้อง
เข้าใจว่าปีนี้เราจะเห็นการแข่งขันเรื่องกล้องที่เหลื่อมล้ำกันชัดเจน แต่กลายเป็นว่าทุกแบรนด์ตามทันกันหมด ความละเอียดกล้องคราวนี้จัดเต็มมาเทียบเท่ากับ Galaxy S6 ที่ 16 ล้านพิกเซล (กล้องหลัง) และ 8 ล้านพิกเซล (กล้องหน้า) เช่นเคยครับ ขอแบ่งประเด็นย่อย เป็นกล้องหลักและกล้องหน้าครับ
2.1 กล้องหลัก (กล้องหลัง)
ยอมรับเลยว่าภาพสวย สวยมาก สีสด สว่างด้วยค่า F ที่ 1.8 โทนสีเน้นไปทางสีเย็น เขียว ฟ้า มากกว่าโทนร้อน ความเร็วโฟกัส และความว่องไวของชัตเตอร์ก็อยู่ในระดับที่ดีมาก โดยรวมเมนูต่างๆ เกี่ยวกับกล้อง ใช้งานง่ายมากเลย
ที่ถูกใจมากๆ คือ Manual Mode ที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ความเร็ว shutter ปรับความไวแสง (ISO) ปรับ White Balance และถ่ายภาพ Raw File ได้ (ได้ข่าวว่าอีกไม่นานรุ่นอื่นๆ อย่าง Galaxy S6 ก็จะได้อัพเดทเป็น 5.1.1 แล้วสามารถถ่ายได้เหมือนกัน)
ลองมาดูภาพในสถานการณ์ต่างๆ กันครับ
2.2 กล้องหน้า
ภาพโดยรวมสวยดีครับ ไม่มีที่ให้ติ แต่ติดนิดนึงที่กล้องหน้าดูจะมีความโค้งของเลนส์เยอะมาก ทำให้คนที่อยู่ริมๆ ภาพจะบิดเบี้ยวไปเยอะ อันนี้สังเกตได้ชัดเจนเลยครับ
ส่วนที่ต้องระวังในการใช้กล้องหน้าคือ Beauty Mode ที่หากปรับจนสุดหลอด ภาพจะออกแนวมัวๆ ฟุ้งๆ แต่ฟุ้งจนเบลอไปเลย
ทาง LG ให้ Candy Feature มาอันหนึ่งคือการเปิดกล้องอย่างเร็ว โดยการกดปุ่มลดเสียง 2 ครั้งโดยไม่เปิดจอ เครื่องจะเปิดกล้องหน้าแล้วถ่ายรูปทันที รู้สึกแปลกๆ หน่อย ว่าเปิดกล้องเร็วก็โอเคแล้ว แต่อันนี้ถ่ายรูปให้เลย ทำให้รูปที่ได้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะไม่ได้เล็ง (แต้ถ้ากดปุ่ม เพิ่มเสียง 2 ครั้ง จะเปิด Note ขึ้นมา สามารถพิมพ์หรือเขียนได้เลย สะดวกมากๆ อันนี้ขอชม)
3. ประสิทธิภาพและการใช้งาน
LG G4 ใช้ Snapdragon 808 เป็นแกนกลางที่เร็วสะใจ แรม 3 กิ๊กทำให้การใช้งานลื่น ไม่มีสะดุดเลย เปิดมาแวบแรกก็พบกับหน้าจอ LG UI 4.0 ที่ดูฟรุ้งฟริ้งสดใส ตามสไตล์ LG เค้าล่ะ แถมมี Theme และแอพมาให้โหลดใน LG SmartWorld อยู่ ธีมที่ให้มามีไม่เยอะ แล้วก็มีธีมของ LG G Watch ปนมาด้วย อาจจะทำให้สับสนได้ ส่วนแอพที่ให้มาดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ครับ
เรื่องความเร็ว ประสิทธิภาพ ขอเทสด้วย AnTuTu Benchmark และ Geekbench นะครับ
การทดสอบด้วยแอพแบบต่างๆ ก็ทำได้ดี ลื่นไหลกว่า M9+ ใกล้เคียงกับ S6 และ iPhone 6 โดยเฉพาะแอพ 3D และวีดีโอ
LG G4 สามารถใช้งาน 2 ซิมได้พร้อมกันโดยเลือกใช้ LTE ได้ซิมใดซิมหนึ่ง อีกซิมจะกลายเป็น 2G ครับ (แต่ผมไม่ได้ลองใส่ 2 ซิมนะครับ เพราะซิมหลักผมเป็น Nano Sim) ตัว Micro SD และ ซิม 2 เปลี่ยนโดยถอดฝาหลังออก ยกเว้นซิมหลักที่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกด้วย ถือจะสามารถเปลี่ยนได้
น่าเสียดายที่ G4 ไม่มีระบบอ่านลายนิ้วมือที่ชาวบ้านเค้ามีกัน น่าจะเป็นจุดด้อยจุดนึงที่ค่อนข้างชัดเจนเลยครับ
4. จอภาพ
จริงๆ เรื่องนี้สังเกตได้ง่ายและชัดเจนที่สุดทันทีที่เปิดเครื่องเลย สีสันจัดจ้านมาก ทาง LG ใช้ชื่อจอรุ่นใหม่ว่า Quantum Display ซึ่งให้สีที่สดใสขึ้น ผมคิดว่านี่เป็นจอ IPS ที่สีสดมาก อาจจะเทียบเท่าจอ OLED เลยด้วยซ้ำ
ความละเอียดจอยุคนี้ต้อง Quad HD ซึ่ง G4 ก็เช่นกัน ความละเอียด 1440 x 2560 pixel ในขนาด 5.5 นิ้ว (538 ppi) คมกริ๊บกว่า M9+ แต่ใกล้เคียงกับ S6 ตามความรู้สึกผมนะ
โดยรวมจอของ G4 สวยงามจริงๆ ก่อนหน้านี้คิดว่าจอ IPS จะไม่สดใสเมื่อเทียบกับ OLED แต่ G4 ก็ให้ความสดใสได้ใกล้เคียงมากๆ
5. แบตเตอรี่
ความจุ 3000 mAh ทาง LG เคลมว่าสามารถ Stand by ได้ถึง 18 วันบนระบบ 3G ยอมรับว่าใช้งานจริงแล้วอึดจริง กลับบ้านยังมีเหลือ 10-15% เป็นอย่างน้อย การชาร์จก็ทำได้ไม่เลว แม้ว่าจะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ไม่ได้ช้าจนทนไม่ได้
แบตเตอรี่ยังสามารถถอดเปลี่ยนได้ แต่ถอดฝาหลังทีไรก็เสียวทุกที แบตเตอรี่เองก็ไม่ได้ขาดแคลน ทำให้ถือว่าเป็นความสะดวกในการเปลี่ยนและซ่อมมากกว่าการเปลี่ยนแบตระหว่างวันนะครับ
6. ความคุ้มค่า
คิดมาพักนึงแล้วครับว่าระบบวัดความคุ้มค่าของผมมันค่อนข้างเอนเอียงอยู่ไม่น้อย แต่ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัว เลยยังขอใช้สมการเดิมต่อไป
ราคาซื้อ - ราคาขายต่อ = Total Value of Ownership
TVO = วัสดุ + คุณสมบัติ + บริการ + ประสบการณ์ใช้งาน + สิทธิประโยชน์ (Privilege) อื่นๆ
ราคาซื้อที่ 20990 บาท ถือว่าไม่สูงเลย การใช้งาน 2 ปี พร้อมพื้นที่ 100 GB ใน Google Drive ฟรี พร้อมราคาขายต่อที่ประมาณ 10,000 บาท ตกเฉลี่ยวันละ 15.3 บาท คุ้มมมมสุดๆ ครับ
สรุปความหวั่นไหวกับ LG G4 ในครั้งนี้
สมาร์ทโฟนสเปคระดับนี้ เร็ว แรง จอสวยงาม สดใส กล้องเทพ เรียกได้ว่าครบเครื่อง จะติดอยู่ตรงเรื่องของการออกแบบที่ไม่ได้สวยโดดเด่นมากนัก วัสดุของเครื่องที่ให้ความรู้สึกพลาสติกอยู่ หนังแท้ที่ให้มาก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกหรูหรามากเท่ากับโลหะและกระจก เรียกว่าฟีลลิ่งยังไม่ได้รู้สึกหรูหรามากนัก แต่กับราคาที่ให้มาที่ 20,990 บาท ก็คุ้มค่ามากๆ ถ้าให้เทียบก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ
ทั้งหมดเป็นความเห็นจากผม ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณพิจารณากันครับ
========================================
ดูกระทู้รีวิวเก่า
[CR]เมื่อคนใช้ iPhone มาจับ S6 ครั้งแรกของผมกับ Samsung >> http://pantip.com/topic/33570227
[CR]กระทู้ด่วน ของร้อน พรีวิว apple watch >> http://pantip.com/topic/33585309
[Mana Review: 003] HTC One M9+ เรือธงสุดหล่อจากไต้หวัน >> http://pantip.com/topic/33673012
*แก้ไขข้อมูลเรื่องการใช้ LTE ในซิมทั้งสองซิมครับ