Poltergeist (1982)
#เล่าสู่กันฟัง
เปลี่ยนมาดูหนังแนวสยองขวัญบ้าง แต่เป็นหนังค่อนข้างเก่าและกำลังจะมีเวอร์ชั่นรีเมคเข้ามาฉายในไทยปีนี้ และด้วยความที่เวอร์ชั่นเก่าได้คะแนนใน IMDB ถึง 7.4 คะแนน ทำให้ผมชิงดูเวอร์ชั่นเก่าก่อนเลย
หนังเล่าถึง ”ครอบครัวฟรีลิ่ง” ซึ่งใช้ชีวิตครอบครัวปกติ เหมือนกับครอบครัวอื่นทั่ว ๆ ไป แต่อยู่มาวันหนึ่ง “แครอลแอน” ลูกสาวคนเล็กของครอบครัว เกิดยินเสียงปริศนาดังมาจากโทรทัศน์ ซึ่งเสียงปริศนานั้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดเรื่องราวชวนขนหัวลุกขึ้นกันครอบครัวนี้
-บท- ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้แอบคล้าย Insidious เบา ๆ แต่เป็น Insidious ที่มีโทรทัศน์เป็นกิมมิคของเรื่อง มีการเดินเรื่องที่น่าติดตามดี แต่ผมไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรกับบทเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหนังผีที่ผมเคยดู ๆ มาก่อนอย่าง Insidious และ The Conjuring ทำให้มันดูคล้าย ๆ กัน ไม่ได้ใหม่อะไร แต่ถ้าผมไม่เคยดู 2 เรื่องนี้มาก่อน อาจจะทำให้ผมอินกับหนังได้มากกว่านี้ ผมชอบฉากที่ลูกสาวกับลูกชายกลัวความมืดและผีอยู่ในห้องนอน ทำให้คิดโน่นคิดนี่ไปต่าง ๆ นา ๆ เห็นอะไรก็จินตนาการเป็นผีไปหมด ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีอะไรเลย คิดไปเองทั้งนั้น ทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนเด็ก ๆ แต่ในส่วนผีหลอกนั้น ผมรู้สึกว่ามันเวอร์วังไปหน่อย เหมือนผีสวมวิญญาณจีน เกรย์จากเอ็กซ์เม็น และสการ์เล็ต วิช จาก ดิ อเวนเจอร์ เอจ ออฟ อัลทรอน เพื่อมาหลอกหลอนครอบครัวนี้โดยเฉพาะ เพราะมีฤทธิ์มีเดชมากเหลือเกิน พลังทำลายล้างเยอะเหลือเกิน แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะผีมีหลายตน ทำให้มีอำนาจทำลายล้างมากมายขนาดนั้น
- นักแสดง – ในส่วนของนักแสดงนั้น ทุกคนแสดงได้ดีมาก สายลูกสาวคนเล็กก็ดูเหมือนเด็กที่ดูโรคจิต ๆ นิดนึง (แต่เธอไม่ได้โรคจิตนะ) ลูกชายแสดงได้น่าประทับใจมาก ตอนกลัวในฉากหน้าทีวี น้ำเสียง หน้าตา ทำให้รู้สึกได้ถึงความกลัวนั้นเลย พี่สาวคนโตก็ดูน่าสงสาร ถึงเธอจะขอออกไปอยู่บ้านเพื่อนก่อน แต่การแสดงในช่วงเวลาที่เธออยู่ในช่วงนั้น ก็เผยศักยภาพการแสดงของเธอออกมาได้มากพอสมควร ส่วนพ่อและแม่นั้นแสดงได้ดีมากเช่นกัน แสดงได้เข้าถึงคนเป็นพ่อเป็นแม่จริง ๆ แต่คนที่ผมชอบมากที่สุดคือ “แทนจิน่า” หมอผีซึ่งมาช่วยปราบผีให้กับครอบครัวฟรีลิ่ง ถึงแม้เธอจะออกมาในช่วงท้าย ๆ แต่คาแรกเตอร์ของเธอดูมีเสน่ห์ ดูน่ารักดี ดูเป็นป้าอ้วนตัวเล็ก ๆ น่ากอด แถมยังมีมุขตลกเบา ๆ แทรกกับตัวละครนี้มาด้วย ถึงแม้บทหนังจะทำให้ผมรู้สึกเฉย ๆ ไปแล้ว แต่ในส่วนของการแสดงของเรื่องนี้ ก็ยังทำให้หนังน่าติดตามได้ประมาณหนึ่งเช่นกัน
- องค์ประกอบหนัง – ผมชอบช่วงที่จอทีวีซ่า แล้วทำให้บริเวณทั้งห้องมีแสงกระพริบเรื่อย ๆ มันทำให้บรรยากาศในหนังดูหลอนได้ดีเลยทีเดียว ส่วนเรื่องติเลยคือ ”ผี” ผมว่าผีหรือวิญญาณในเรื่องนี้ดูเวอร์ ๆ ไปหน่อย พอมีวิญญาณก็ต้องมีแสงวูบวาบ ซึ่งผมว่าพอมันมาอยู่ในฉากแล้วมันดูแปลก ๆ เหมือนนั่งดูหนังแฟนตาซีเบา ๆ ส่วนตัวผีเอง ก็ดูตลก ๆ เหมือนกับผีในการ์ตูน ซึ่งไม่ได้ดูน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย แต่ฉากตกใจก็ยังมีอยู่บ้าง ถือว่าเอามาแทนผีที่ไม่สมจริงได้อยู่บ้าง ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะสเปเชียลเอฟเฟคสมัยนั้นยังไม่เข้าที่เข้าทาง ทำให้พอมาอยู่ในหนังแล้วมันดูเวอร์ ไม่เนียน และแปลก ทำให้รู้สึกขัด ๆ ตอนดูไปมากพอสมควร ส่วนในเรื่องของเสียงสกอร์ประกอบนั้น ทำได้ดี แปลกใหม่สำหรับผมดี เพราะไม่ค่อยได้ยินเพลงสกอร์หนังผีในหนังเก่า ๆ อีกทั้งเพลงสกอร์นั้นเข้ากับบรรยากาศหนังตลอดทั้งเรื่อง
- สรุป – สำหรับคอหนังผีที่ดูหนังผีมากมากมายแล้ว ถ้ามาดูเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ถ้าคนไม่ค่อยได้ดูหนังผี ถ้ามาดูหนังเรื่องนี้อาจจะชอบก็ได้ สำหรับผม ผมรู้สึกเฉย ๆ มากกับเรื่องนี้ พล็อตเรื่องก็ไม่ได้ใหม่มากสำหรับผม ผีก็ไม่ได้น่ากลัวเลย ฉากที่ทำให้กลัวได้ก็เห็นจะเป็นพวกฉากผีผ่างแค่นั้น แต่ยังดีที่การแสดงของนักแสดงยังพอดึงเราเข้าไปในหนังได้บ้าง
ปล. การให้คะแนนและการรีวิวเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล หากทำให้ใครพอใจหรือไม่เห็นด้วย ก็ขออภัย ม ณ ที่นี้ด้วยครับ
(LETTER B REVIEW) Poltergeist ผีหยอกหรือผีหลอก
#เล่าสู่กันฟัง
เปลี่ยนมาดูหนังแนวสยองขวัญบ้าง แต่เป็นหนังค่อนข้างเก่าและกำลังจะมีเวอร์ชั่นรีเมคเข้ามาฉายในไทยปีนี้ และด้วยความที่เวอร์ชั่นเก่าได้คะแนนใน IMDB ถึง 7.4 คะแนน ทำให้ผมชิงดูเวอร์ชั่นเก่าก่อนเลย
หนังเล่าถึง ”ครอบครัวฟรีลิ่ง” ซึ่งใช้ชีวิตครอบครัวปกติ เหมือนกับครอบครัวอื่นทั่ว ๆ ไป แต่อยู่มาวันหนึ่ง “แครอลแอน” ลูกสาวคนเล็กของครอบครัว เกิดยินเสียงปริศนาดังมาจากโทรทัศน์ ซึ่งเสียงปริศนานั้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดเรื่องราวชวนขนหัวลุกขึ้นกันครอบครัวนี้
-บท- ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้แอบคล้าย Insidious เบา ๆ แต่เป็น Insidious ที่มีโทรทัศน์เป็นกิมมิคของเรื่อง มีการเดินเรื่องที่น่าติดตามดี แต่ผมไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรกับบทเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหนังผีที่ผมเคยดู ๆ มาก่อนอย่าง Insidious และ The Conjuring ทำให้มันดูคล้าย ๆ กัน ไม่ได้ใหม่อะไร แต่ถ้าผมไม่เคยดู 2 เรื่องนี้มาก่อน อาจจะทำให้ผมอินกับหนังได้มากกว่านี้ ผมชอบฉากที่ลูกสาวกับลูกชายกลัวความมืดและผีอยู่ในห้องนอน ทำให้คิดโน่นคิดนี่ไปต่าง ๆ นา ๆ เห็นอะไรก็จินตนาการเป็นผีไปหมด ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีอะไรเลย คิดไปเองทั้งนั้น ทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนเด็ก ๆ แต่ในส่วนผีหลอกนั้น ผมรู้สึกว่ามันเวอร์วังไปหน่อย เหมือนผีสวมวิญญาณจีน เกรย์จากเอ็กซ์เม็น และสการ์เล็ต วิช จาก ดิ อเวนเจอร์ เอจ ออฟ อัลทรอน เพื่อมาหลอกหลอนครอบครัวนี้โดยเฉพาะ เพราะมีฤทธิ์มีเดชมากเหลือเกิน พลังทำลายล้างเยอะเหลือเกิน แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะผีมีหลายตน ทำให้มีอำนาจทำลายล้างมากมายขนาดนั้น
- นักแสดง – ในส่วนของนักแสดงนั้น ทุกคนแสดงได้ดีมาก สายลูกสาวคนเล็กก็ดูเหมือนเด็กที่ดูโรคจิต ๆ นิดนึง (แต่เธอไม่ได้โรคจิตนะ) ลูกชายแสดงได้น่าประทับใจมาก ตอนกลัวในฉากหน้าทีวี น้ำเสียง หน้าตา ทำให้รู้สึกได้ถึงความกลัวนั้นเลย พี่สาวคนโตก็ดูน่าสงสาร ถึงเธอจะขอออกไปอยู่บ้านเพื่อนก่อน แต่การแสดงในช่วงเวลาที่เธออยู่ในช่วงนั้น ก็เผยศักยภาพการแสดงของเธอออกมาได้มากพอสมควร ส่วนพ่อและแม่นั้นแสดงได้ดีมากเช่นกัน แสดงได้เข้าถึงคนเป็นพ่อเป็นแม่จริง ๆ แต่คนที่ผมชอบมากที่สุดคือ “แทนจิน่า” หมอผีซึ่งมาช่วยปราบผีให้กับครอบครัวฟรีลิ่ง ถึงแม้เธอจะออกมาในช่วงท้าย ๆ แต่คาแรกเตอร์ของเธอดูมีเสน่ห์ ดูน่ารักดี ดูเป็นป้าอ้วนตัวเล็ก ๆ น่ากอด แถมยังมีมุขตลกเบา ๆ แทรกกับตัวละครนี้มาด้วย ถึงแม้บทหนังจะทำให้ผมรู้สึกเฉย ๆ ไปแล้ว แต่ในส่วนของการแสดงของเรื่องนี้ ก็ยังทำให้หนังน่าติดตามได้ประมาณหนึ่งเช่นกัน
- องค์ประกอบหนัง – ผมชอบช่วงที่จอทีวีซ่า แล้วทำให้บริเวณทั้งห้องมีแสงกระพริบเรื่อย ๆ มันทำให้บรรยากาศในหนังดูหลอนได้ดีเลยทีเดียว ส่วนเรื่องติเลยคือ ”ผี” ผมว่าผีหรือวิญญาณในเรื่องนี้ดูเวอร์ ๆ ไปหน่อย พอมีวิญญาณก็ต้องมีแสงวูบวาบ ซึ่งผมว่าพอมันมาอยู่ในฉากแล้วมันดูแปลก ๆ เหมือนนั่งดูหนังแฟนตาซีเบา ๆ ส่วนตัวผีเอง ก็ดูตลก ๆ เหมือนกับผีในการ์ตูน ซึ่งไม่ได้ดูน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย แต่ฉากตกใจก็ยังมีอยู่บ้าง ถือว่าเอามาแทนผีที่ไม่สมจริงได้อยู่บ้าง ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะสเปเชียลเอฟเฟคสมัยนั้นยังไม่เข้าที่เข้าทาง ทำให้พอมาอยู่ในหนังแล้วมันดูเวอร์ ไม่เนียน และแปลก ทำให้รู้สึกขัด ๆ ตอนดูไปมากพอสมควร ส่วนในเรื่องของเสียงสกอร์ประกอบนั้น ทำได้ดี แปลกใหม่สำหรับผมดี เพราะไม่ค่อยได้ยินเพลงสกอร์หนังผีในหนังเก่า ๆ อีกทั้งเพลงสกอร์นั้นเข้ากับบรรยากาศหนังตลอดทั้งเรื่อง
- สรุป – สำหรับคอหนังผีที่ดูหนังผีมากมากมายแล้ว ถ้ามาดูเรื่องนี้อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ถ้าคนไม่ค่อยได้ดูหนังผี ถ้ามาดูหนังเรื่องนี้อาจจะชอบก็ได้ สำหรับผม ผมรู้สึกเฉย ๆ มากกับเรื่องนี้ พล็อตเรื่องก็ไม่ได้ใหม่มากสำหรับผม ผีก็ไม่ได้น่ากลัวเลย ฉากที่ทำให้กลัวได้ก็เห็นจะเป็นพวกฉากผีผ่างแค่นั้น แต่ยังดีที่การแสดงของนักแสดงยังพอดึงเราเข้าไปในหนังได้บ้าง
ปล. การให้คะแนนและการรีวิวเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล หากทำให้ใครพอใจหรือไม่เห็นด้วย ก็ขออภัย ม ณ ที่นี้ด้วยครับ